ธรรมะเพื่อประชาชน

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๒ ( ไขปริศนา )

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๒ ( ไขปริศนา )         เราเกิดมาภพชาติหนึ่ง เพื่อแสวงหาสิ่งที่เป็นสาระของชีวิต แสวงหาพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันแท้จริงของสรรพสัตว์ทั้งหลาย นับเป็นการแสวงหาของจริงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง สามารถมีสุขได้ด้วยตัวเอง และเป็นตัวตนที่แท้จริง พระ-รัตนตรัยหรือพระธรรมกาย คือ แก่นของชีวิต เป็นชีวิตในระดับลึกที่อยู่ภายในตัวของเรา ทุกๆ คนมีสิทธิ์เข้าถึงได้ หากฝึกใจให้หยุดนิ่ง ถ้าใจหยุดได้เมื่อไร ก็เข้าถึงได้เมื่อนั้น ไม่จำกัดด้วยกาลเวลา เข้าถึงแล้วชีวิตเราจะสมบูรณ์ มีความสุขและความ มั่นคงปลอดภัยมากขึ้น     พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน มหาสารชาดกว่า     “อุกฺกฏฺเฐ สูรมิจฺฉนฺติ        มนฺตีสุ อกุตูหลํ       ปิยญฺจ อนฺนปานมฺหิ     อตฺเถ ชาเต จ ปณฺฑิตํ       เมื่อสงครามเกิดขึ้น ย่อมต้องการคนกล้าหาญ  เมื่อเกิดมงคลตื่นข่าว ย่อมต้องการคนหนักแน่น …

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๒ ( ไขปริศนา ) Read More »

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๗ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน

เดินตามทางของบัณฑิต ( ๗ )     สิ่งที่เป็นความปรารถนาของทุกๆ คนในการดำรงชีวิตนั้น คือ อยากให้ชีวิตประสบความสำเร็จสมหวัง พบเจอแต่สิ่งที่ดี มี ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ไม่อยากพบเจอสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจ อันจะนำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจ ทั้งแก่ตนเองและครอบครัว ความทะยานอยากทำให้มนุษย์ต้องดิ้นรนขวนขวาย เสาะแสวงหาในสิ่งที่ตนคิดว่า จะเพิ่มเติมส่วนที่บกพร่องของชีวิตให้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ จึงพากันแสวงหาร่ำไป ทั้งๆ ที่ตนเองก็ไม่รู้หนทางแห่งความสุขที่แท้จริงว่า อยู่ที่ตรงไหน จะเข้าถึงได้อย่างไร ทำให้ชีวิตต้องเวียนวนอยู่กับเรื่องการแสวงหาเบญจกามคุณ เกียรติยศชื่อเสียงเงินทอง พระบรมศาสดาทรงค้นพบว่า วิธีการที่จะทำให้เข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้นั้น ต้องเริ่มต้นจากใจที่หยุดนิ่ง เพราะสุขอื่นนอกจากใจหยุดนิ่งไม่มี ใจที่สงบหยุดนิ่งจะเป็นต้นทางแห่งความสุข และความสำเร็จที่แท้จริง มีวาระพระบาลีใน ขุททกนิกาย วิมานวัตถุว่า “อุชฺชงฺคเล ยถา เขตฺเต        พีชํ พหูปิ โรปิตํ     น ผลํ วิปุลํ โหติ        นปิ โตเสติ กสฺสกํ ตเถว ทานํ พหุกํ    …

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๗ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน Read More »

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๓ ( ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์ )

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๓ ( ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์ )         มนุษย์ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต ทำให้ใช้เวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน ด้วยการมุ่งแต่ทำมาหากิน ศึกษาเล่าเรียน วุ่นวายอยู่กับครอบครัว เพลิดเพลินสนุกสนานไปวันหนึ่งๆ และถึงแม้มีเป้าหมาย ก็มุ่งเพียงให้ได้ลาภ ยศ สรรเสริญ อันเป็นเป้าหมายในชาตินี้เท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจในเป้าหมายที่เป็นชาติหน้า และเป้าหมายหลัก คือ มรรคผลนิพพาน อีกทั้งเมื่อไม่ได้ฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขาดกัลยาณมิตรคอยแนะนำ ชีวิตจึงเวียนวนอยู่ในกระแสโลก กระแสแห่งความทุกข์ระทม ต่อเมื่อได้ฟังพระสัทธรรม จึงจะเข้าใจชีวิตไปตามความเป็นจริง และมุ่งแสวงหาสาระอันแท้จริง เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด คือ พระนิพพาน มีธรรมภาษิตใน ขุททกนิกาย มโหสถชาดกว่า         ” แม่น้ำน้อยใหญ่ทั้งหลายย่อมหลั่งไหลไปสู่ทะเลใหญ่ ทะเลนั้นมีกำลังมากตลอดกาล ทะเลใหญ่นั้นแม้มีคลื่นกระทบฝั่ง ก็ไม่ล่วงฝั่งไปได้ ฉันใด กิจการที่คนเขลาประสงค์ ไม่ล่วงคนฉลาดไปได้ คนไม่ฉลาดย่อมไม่ล่วงคนมีปัญญาไปได้ในกาลไหนๆ ฉันนั้น ”         นี่เป็นถ้อยคำของบัณฑิตนักปราชญ์ ที่สรรเสริญปัญญาว่าเป็นยอดกว่าทรัพย์สินเงินทอง หรือของมีค่าใดๆ …

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๓ ( ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์ ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๖ ( เชิญพระเวสสันดรกลับพระนคร )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๖ ( เชิญพระเวสสันดรกลับพระนคร ) เรามีเวลาสร้างบารมีอยู่ในโลกนี้อย่างจำกัด เดี๋ยวก็วันเดี๋ยวก็คืน กาลเวลาได้นำความแก่ ความเจ็บ และความตายมาสู่ตัวเราทุกขณะ ไม่เคยหยุดพักแม้แต่อนุวินาทีเดียว จึงไม่ควรที่จะประมาทในการดำเนินชีวิต บัณฑิตทั้งหลายจะรีบสั่งสมบุญ เพื่อเป็นเหตุให้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ซึ่งความสุขที่เกิดจากใจหยุดนิ่ง ต้องลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง เพราะเป็นของเฉพาะตน หากเราตั้งใจลงมือปฏิบัติในวันนี้ ย่อมจะได้ความสุขในปัจจุบัน หรือแม้วันนี้เรายังเข้าไม่ถึงธรรม ก็จะเป็นอุปนิสัยติดตัวเราไป ให้ได้เข้าถึงพระธรรมกายในวันข้างหน้า ดังนั้น การปฏิบัติธรรมจึงเป็นกรณียกิจสำหรับพวกเราทุกๆ คน สุเมธดาบสโพธิสัตว์ได้อธิษฐานจิต เกี่ยวกับทานบารมีไว้ว่า “ดูก่อนสุเมธดาบสจำเดิมแต่นี้ไป ท่านพึงบำเพ็ญทานบารมีข้อแรกให้เต็ม หม้อน้ำที่ควํ่าแล้ว ย่อมคายน้ำออกไม่เหลือ ไม่นำกลับเข้าไปอีกฉันใด แม้ท่านเมื่อไม่เหลียวแล ทรัพย์ ยศ บุตร ภรรยา หรืออวัยวะน้อยใหญ่ ให้สิ่งที่เขาต้องการอยากได้ ทั้งหมด แก่ผู้ขอที่มาถึง กระทำมิให้มีส่วนเหลืออยู่จัักได้นั่งที่โคนต้นโพธิ์ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” หลังจากที่ได้เรียนรู้เรื่องพระเวสสันดรติดต่อกันมาหลายวัน เราคงจะได้ความรู้ และความเข้าใจถึงความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ ของพระบรมโพธิสัตว์ของเราว่า ต้องสร้างบารมีอย่างยิ่งยวด เกี่ยวกับทานบารมีอย่างไรบ้าง ส่วนสิ่งที่พระองค์ทรงทุ่มเทลงไปด้วยใจที่มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวนั้น จะส่งผลอันไพศาลต่อพระองค์ท่านเองอย่างไรบ้าง เราก็ได้มาถึงตอนอวสานของเรื่องพระเวสสันดร ซึ่งตอนที่แล้ว ถึงตอนที่พระชาลีราชกุมารได้อ้อนวอนให้พระเจ้าสัญชัย …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๖ ( เชิญพระเวสสันดรกลับพระนคร ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑ ( ปฐมเหตุ )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑ ( ปฐมเหตุ ) สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่มีอยู่ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม ตัวของเรา บุคคลอื่น หรือสรรพสัตว์ทั้งหลายก็ตาม ต่างอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง คือ ความไม่เที่ยง แปรปรวนเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อมทุกอนุวินาทีและ สูญสลายไปในที่สุด เพราะฉะนั้นเราควรแสวงหาสิ่งเที่ยงแท้ แน่นอน ที่จะนำความสุขและความบริสุทธิ์ที่แท้จริงมาให้เรา ด้วยการปฏิบัติธรรมในหนทางสายกลาง ทางเอกสายเดียว ที่เรียกว่า เอกายนมรรค ที่มุ่งตรงสู่พระนิพพาน *มีธรรมภาษิตใน เวสสันตรชาดก ว่า เราได้ให้ทานภายนอก ทานนั้นหายังเราให้ยินดีไม่ เราใคร่จะให้ทานภายใน แม้ถ้าใครๆ พึงขอหทัยของเรา เราจะพึงให้ผ่าอุระประเทศนำหทัยออก แล้วมอบให้แก่บุคคลนั้น ถ้าเขาขอจักษุทั้งสองของเรา เราก็จะควักจักษุมอบให้ ถ้าเขาขอเนื้อในสรีระ เราจะเชือดเนื้อจากสรีระทั้งสิ้นให้ ถ้าแม้ใครๆ พึงขอโลหิตของเรา เราก็จะพึงถือเอาโลหิตให้ หรือว่าใครๆ พึงบอกเราว่า ท่านจงเป็นทาสของข้าพเจ้า เราก็ยินดียอมตัวเป็นทาสแห่งผู้นั้น นี่เป็นถ้อยคำของนักสร้างบารมี ที่กลั่นออกมาจากใจของพระเวสสันดรโพธิสัตว์ผู้สร้างมหาทานบารมีที่ทำให้หัวใจของมนุษย์ และเทวาทั้งหลายต้องหวั่นไหว เพราะท่านได้ทำในสิ่งที่คนทั่วไปทำได้ยากยิ่ง ให้ในสิ่งที่ให้ได้ยากยิ่ง ด้วยท่านรู้ว่าสิ่งที่บังเกิดขึ้นได้ยากยิ่งกว่านั้นยังมีอยู่ คือ การได้บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ดังนั้นเพียงแค่ท่านคำนึงถึงทานที่ได้ ที่เป็นไปในภายในเท่านั้น …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑ ( ปฐมเหตุ ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๒ ( พระนางผุสดีขอพร ๑๐ ประการ )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๒ ( พระนางผุสดีขอพร ๑๐ ประการ ) การสร้างบารมีเป็นงานที่แท้จริงของมวลมนุษยชาติ ส่วนงานอย่างอื่น เช่น การทำมาหากิน เป็นต้น เป็นเรื่องรองที่จะสนับสนุนการสร้างบารมีของเราให้สะดวกราบรื่น เราเกิดมาก็เพื่อสร้างบารมี ดำเนินตามรอยบาทพระบรมศาสดา มุ่งแสวง หาสาระอันแท้จริงของชีวิต มุ่งหลุดพ้นจากการครอบงำของกิเลสอาสวะของพญามาร เพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง คือ ที่สุดแห่งธรรม การทำใจให้หยุดนิ่งเป็นวิธีเดียวที่จะเอาชนะกิเลสอาสวะได้ และยังเป็นทางมาแห่งมหากุศล หากเรานำใจ มาหยุดนิ่ง ให้ใจใส ใจสะอาดบริสุทธิ์ บุญกุศลย่อมจะบังเกิดขึ้นอย่างจะนับประมาณมิได้ และจะเป็นเหตุให้ได้บรรลุเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตในที่สุด “มีธรรมภาษิตใน เวสสันตรชาดก ว่า “ข้าพระพุทธเจ้าได้ทำการบูชาพระองค์ด้วยจุณแห่งแก่นจันทน์นี้ ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าได้เป็นมารดาของพระพุทธเจ้าผู้เช่นพระองค์ในอนาคตกาล”” การอธิษฐานเป็นหนึ่งในบารมีสิบทัศ ที่พระบรมโพธิสัตว์ ทั้งหลายให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก การอธิษฐานเป็นประดุจหางเสือเรือ ที่คอยคัดท้ายนาวาชีวิตของเราให้ก้าวไปสู่จุดหมายปลายทาง ได้อย่างปลอดภัย ฉะนั้นทุกครั้งที่ทำความดี ต้องหมั่นอธิษฐานทุกๆ ครั้ง เป็นการตั้งผังแห่งความสำเร็จ ให้เกิดขึ้นกับชีวิต เมื่อถึงคราวบุญส่งผล เราย่อมจะสำเร็จสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ การที่จะให้แรงอธิษฐานนั้นส่งผลสำเร็จ ต้องสั่งสมบุญไว้ให้มากๆ เหมือนภาษิตที่ได้ยกขึ้นมากล่าวข้างต้น เป็นคำอธิษฐานที่พระมารดาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ได้เคยทำบุญกับพระวิปัสสีพุทธเจ้า แล้วอธิษฐานขอให้ได้เป็นพุทธมารดาในอนาคตกาล *เรื่องมีอยู่ว่า …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๒ ( พระนางผุสดีขอพร ๑๐ ประการ ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๓ ( กำเนิดพระเวสสันดร )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๓ ( กำเนิดพระเวสสันดร ) “ธรรมกาย” เป็นกายแห่งการตรัสรู้ธรรม เป็นหลักของพระพุทธศาสนาและของโลก ถ้าเราได้เข้าถึง เราจะเป็นพุทธศาสนิกชนที่สมบูรณ์ทั้งภายนอกและภายใน จะรู้ซึ้งในคุณของ พระรัตนตรัยว่า เป็นสรณะที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดของมวลมนุษยชาติ จะหายสงสัยในอานุภาพอัน ไม่มีประมาณของพระรัตนตรัย อีกทั้งจะเปลี่ยนจากผู้ไม่รู้ มาเป็นผู้รู้แจ้ง ทำให้เข้าใจโลกและชีวิต ได้อย่างถูกต้อง สามารถดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุข สร้างบารมีเพื่อมุ่งไปสู่อายตนนิพพาน ดังนั้นเราจึงควรที่จะปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายกันทุกๆ คน “มีธรรมภาษิตที่พระเวสสันดรได้กล่าวไว้เป็นอมตวาจาว่า “เมื่อใด เรายังเป็นทารก มีอายุ ๘ ขวบ แต่เกิดมา เมื่อนั้น เรานั่งอยู่ในปราสาท คิดจะบริจาคทานว่า เราจะพึงให้หทัย ดวงตา เนื้อ เลือด และร่างกาย เมื่อใครมาขอเรา เราก็ยินดีมอบให้ เมื่อเราคิดถึงการบริจาคทานอันเป็น ความจริง หทัยก็ไม่หวั่นไหว ตั้งมั่นอยู่ในกาลนั้น แผ่นดินซึ่งมีเขาสิเนรุ และหมู่ไม้เป็นเครื่องประดับ ก็หวั่นไหว”” ครั้งที่แล้วได้เล่าถึงปฐมเหตุของการที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงเล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดกว่า เกิดจากการที่พระองค์ ทรงทำลายทิฏฐิมานะของเหล่าประยูรญาติ ด้วยการแสดงปาฏิหาริย์ ให้เจ้าศากยราชตระกูลได้เห็นด้วยตาเนื้อ …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๓ ( กำเนิดพระเวสสันดร ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๔ ( พระราชทานช้างมงคล )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๔ ( พระราชทานช้างมงคล ) บุญเป็นธาตุสำเร็จ เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จทุกอย่าง เปรียบประดุจแก้วสารพัดนึกที่บันดาลให้เรา ได้สมปรารถนาในทุกเรื่อง การที่ความสุขและความสำเร็จจะบังเกิดขึ้นได้นั้น ต้องเริ่มจากการสั่งสมบุญให้แก่ตัวเราเองก่อน บุญเป็นสิ่งที่ต้องทำ ใครทำคนนั้นได้ ถ้าไม่ทำบุญ จะแสวงหาความสุขอย่างไรก็ไม่พบ ดังนั้นหากอยากเข้าถึงความสุขและความเต็มเปี่ยมของชีวิต ต้องเริ่มที่การสั่งสมบุญ ด้วยการบำเพ็ญทานให้ต่อเนื่อง รักษาศีลให้บริสุทธิ์ และหมั่นนั่งสมาธิเจริญภาวนาอย่างสมํ่าเสมอ สักวันหนึ่ง ความสุข ความสำเร็จสมหวัง ย่อมจะบังเกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอน มีธรรมภาษิตที่พระเวสสันดรโพธิสัตว์ได้กล่าวไว้เป็น อาสภิวาจาว่า “ดวงหทัยหรือจักษุ เราก็ให้ได้ จะป่วยกล่าวไปไยกับทรัพย์ นอกกายของเรา คือ เงิน ทอง มุกดา ไพฑูรย์ หรือแก้วมณี ในเมื่อยาจกมาแล้ว เราได้เห็นแล้ว พึงให้พาหาทั้งซ้ายขวาก็ได้ เราไม่พึงหวั่นไหว เพราะใจของเรายินดีในการบริจาค ชาวสีพีจงขับไล่หรือฆ่าเราเสียก็ตาม พวกเขาจะตัดเราเป็น ๗ ท่อนก็ตามเถิด เราจักไม่งดเว้นจากการบริจาคทานเป็นอันขาด” นี่คือใจของพระโพธิสัตว์เจ้าของเรา เมื่อท่านตั้งความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ทันทีที่คิดจะบริจาคทานอะไร ไม่ว่าจะเป็นสมบัติภายนอกหรือภายในก็ตาม ท่านก็ให้ได้ทุกอย่าง ความรู้สึกหวงแหนหรือห่วงกังวล ไม่มีอยู่ในจิตใจอันบริสุทธิ์ของท่านเลย อีกทั้งเมื่อคิดจะให้ทานแล้ว …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๔ ( พระราชทานช้างมงคล ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๕ ( สัตตสตกมหาทาน )

เวสสันดรชาดก ตอน ที่ ๕ ( สัตตสตกมหาทาน ) ความเมตตาปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมโลก และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยความบริสุทธิ์ใจนั้น เป็นสิ่งที่มวลมนุษยชาติควรมีไว้เป็นคุณธรรมประจำใจ โลกใบนี้คือบ้านหลังใหญ่ที่ ทุกคนต่างอาศัย ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ เพื่อการดำรงชีวิตอยู่ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกัน มีผืนแผ่นดิน ทะเล สายน้ำ ลำธาร ภูเขา ป่าไม้ แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวเดียวกัน อีกทั้งเราต่างเป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกัน เพราะฉะนั้นจึงควรอยู่รวมกันด้วยใจที่เปี่ยมด้วยกรุณา มีความปรารถนาดีต่อกัน อยากให้ทุกคนหลุดพ้นจากความทุกข์ เข้าถึงความสุขอันเป็นอมตะ คือ พระนิพพาน พระนางผุสดีราชเทวีได้กล่าวสุนทรวาจาไว้ว่า เหตุไฉนชาวนครสีพีจึงจะให้ขับไล่เวสสันดรลูกรักผู้ไม่มีโทษ ผู้แม้พระราชาต่างแดนทั้งหลายก็เคารพบูชา มีเกียรติยศ เหตุไฉนชาวสีพีจึงให้ขับไล่ลูกเวสสันดรผู้ไม่มีความผิด ผู้เลี้ยงดูบิดามารดา ประพฤติถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ในราชสกุล ผู้เกื้อกูลแก่พระเจ้าแผ่นดิน แก่เทพเจ้า แก่พระ-ประยูรญาติ แก่พระสหาย และเกื้อกูลทั่วแว่นแคว้น ครั้งที่แล้ว ถึงตอนที่พระเวสสันดรโพธิสัตว์ ถูกขับไล่ออกนอกเมือง ให้เสด็จไปอยู่เขาวงกตในป่าหิมพานต์ …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๕ ( สัตตสตกมหาทาน ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๖ ( เดินทางสู่เขาวงกต )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๖ เดินทางสู่เขาวงกต การเจริญสมาธิภาวนาเป็นทางลัดที่สุด ที่จะทำให้กายวาจา ใจ ของเราบริสุทธิ์ ถ้ากาย วาจา ใจ ของเรามีความบริสุทธิ์มาก บุญกุศลก็เกิดขึ้นมาก ถ้ามีความบริสุทธิ์น้อย บุญกุศลก็ลดหย่อนลงไป ความบริสุทธิ์เป็นบ่อเกิดแห่งความสุข เป็นสิ่งที่สั่งสมได้ การเจริญภาวนาทุกวันเป็นการเพิ่มเติมความบริสุทธิ์ขึ้นทุกวัน จะทำให้เราเข้าถึงความสุขที่แท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา และกำลังแสวงหากันอยู่ ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญกับการเจริญภาวนา เพื่อให้ชีวิตของเราเข้าถึงความสุขและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง พระเวสสันดรโพธิสัตว์ได้กล่าวธรรมภาษิตสอนพระนางมัทรีไว้ว่า ดูก่อนพระนางมัทรี พัสดุอันใดอันหนึ่งที่ฉันให้เธอ ทั้งทรัพย์อันประกอบด้วยสิริ เงิน ทอง มุกดา ไพฑูรย์ที่มีอยู่มาก และสิ่งใดที่เธอนำมาแต่พระชนกของเธอ เธอจงเก็บสิ่งนั้นไว้ทั้งหมด เธอจงบริจาคทานในท่านผู้มีศีลทั้งหลายตามควร เพราะที่พึ่งของสัตว์ทั้งปวงอย่างอื่นยิ่งกว่าบุญกุศลย่อมไม่มี ชาวโลกส่วนใหญ่ปรารถนาจะเป็นผู้รับมากกว่าผู้ให้ การเป็นผู้ให้นั้นยากกว่าการเป็นผู้รับ โดยเฉพาะให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ให้เพื่อยังความสุข และความสำเร็จของบุคคลอื่น ให้เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียวนั้น นับเป็นสิ่งที่หาได้ยากในโลก ทว่าพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลาย ต่างดำรงตนบนพื้นฐานของความเป็นผู้ให้ตลอดมา โดยทั่วไปคนส่วนมากมักมีความตระหนี่เหนียวแน่นอยู่ในใจ เหมือนยางเหนียวที่ติดเสื้อผ้าหรือวัตถุต่างๆ ยากจะขัดให้หลุดออกได้ง่ายๆ เกิดจากตัวกิเลสคือตัณหาที่ฝังติดแน่นอยู่ในกมลสันดาน น้อยคนนักที่จะหาทางขจัดความตระหนี่ให้หลุดร่อนออกไปจากใจได้ ตรงกันข้ามกับพระโพธิสัตว์ผู้ที่สามารถขจัดออกจากใจได้ทุกภพทุกชาติ บางครั้งความเป็นผู้มีใจกว้างขวางของท่าน กลับเป็นเหตุให้คนส่วนใหญ่ซึ่งยังมีความตระหนี่อยู่มากเดือดเนื้อร้อนใจแทน เหมือนดังเรื่องของพระเวสสันดร โดยเฉพาะในช่วงที่ท่านกำลังประสบมรสุมชีวิต เพราะทรงบริจาคมงคลหัตถีแก่พราหมณ์ไป …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๖ ( เดินทางสู่เขาวงกต ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๘ ( ชีวิตนักบวช )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๘ ( ชีวิตนักบวช ) ชีวิตในวันหนึ่งๆผ่านไปอย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนหยาดน้ำค้างบนปลายยอดหญ้า เมื่อต้องแสงอาทิตย์ในยามเช้า ย่อมเหือดแห้งหายไปโดยฉับพลัน ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อมสลาย คล้ายฟองน้ำ เมื่อเวลาฝนตกหนัก ฝนหนาเม็ดเกิดเป็นฟองน้ำขึ้น แล้วแตกสลายไปในชั่วพริบตาเดียว ช่วงเวลา ของชีวิตเราสั้นนักคล้ายอย่างนั้น จึงไม่ควรประมาท พึงเร่งทำ ความเพียร เพื่อไปให้ถึง จุดหมายปลายทางของชีวิต เช่นเดียวกับ ผู้รู้หรือพระอรหันต์ทั้งหลายในกาลก่อน ครั้งหนึ่งนางอมิตตตาปนาได้กล่าวกับชูชกว่า”คนขลาดยังไม่ทันถึงสนามรบ ไม่ทันได้รบก็ยอมแพ้ ฉันใด ดูก่อนพราหมณ์ ท่านยังไม่ทันได้ไปขอกัณหาชาลีเลย ก็ยอมแพ้ ฉันนั้น ดูก่อนพราหมณ์ ถ้าท่านไม่หาทาส และทาสีมาให้ฉัน ฉันจักไม่อยู่ในเรือนของท่าน เมื่อท่านเห็นฉันแต่งกายในงานมหรสพ ประกอบด้วยนักขัตฤกษ์ รื่นรมย์อยู่กับชายคนอื่น ความทุกข์ก็จักมีแก่ท่าน เมื่อท่านผู้ชราแล้ว พิไรครํ่าครวญอยู่ เพราะไม่เห็นฉัน ร่างกายที่โก่งงอก็จักงอยิ่งขึ้น ผมที่หงอกก็จักหงอกมากขึ้น เพราะฉะนั้น ท่านจงออกเดินทางไปขอโอรสธิดากับพระเวสสันดรเถิด” นี่เป็นถ้อยคำของนางอมิตตตาภรรยาสาวของชูชกผู้ แก่ชรา นางจะเป็นเหตุที่จะมาเติมมหาทานบารมี ของพระเวสสันดรโพธิสัตว์ให้แก่รอบยิ่งๆ ขึ้นไป เมื่อครั้งที่แล้ว หลวงพ่อได้กล่าวถึงตอนที่พระเวสสันดร เดินทางถึงภูเขาคันธมาทน์ หรือเขาวงกต …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๘ ( ชีวิตนักบวช ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๗ ( เสด็จออกบรรพชา )

เวสสันดชาดก ตอนที่ ๗ ( เสด็จออกบรรพชา ) กาลเวลากลืนกินสรรพสัตว์ เปลี่ยนแปลงสรรพสิ่ง สรรพชีวิตที่เกิดมาแล้ว ล้วนบ่ายหน้าไปสู่ความแก่ ความเจ็บ และความตาย ผู้คนมากมายได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ค่า เหตุเพราะไม่รู้จุดหมายปลายทาง ของชีวิตว่า เกิดมาจากไหน มาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต เมื่อไม่รู้ความจริงของชีวิต จึงเวียนวน ข้องเกี่ยวอยู่กับเบญจกามคุณทั้ง ๕ อันเป็นเหยื่อล่อของพญามาร ทำให้ข้องอยู่ในภพทั้ง ๓ คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ เวียนตายเวียนเกิดอย่างนี้มานับภพนับชาติไม่ถ้วน การทำสมาธิเจริญภาวนา หมั่นฝึกฝนใจให้สะอาดบริสุทธิ์หยุดนิ่ง เป็นประจำสมํ่าเสมอ เป็นวิธีการเดียวเท่านั้นที่จะนำพานาวาชีวิตของเรา ให้หลุดพ้นจากวังวนแห่งสังสารวัฏอันยาวไกลนี้ ก้าวไปสู่พระนิพพานแดนอันเกษมที่เป็นเอกันตบรมสุข พระเวสสันดรโพธิสัตว์ได้กล่าวอำลา เพื่อออกบวชเป็นบรรพชิตว่า ข้าแต่เสด็จแม่ ขอพระองค์ทรงอนุญาตการบวชแก่หม่อมฉันเถิด หม่อมฉันบริจาคทานในวังของตน ยังถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้เบียดเบียนทั้งตนเองและคนอื่น หม่อมฉันจะออกไปจากแคว้นของตน โดยประสงค์ของชาวสีพี หม่อมฉันจะเสวยทุกข์นั้นในป่า ที่เกลื่อนด้วยพาลมฤค มีแรด และเสือเหลืองอยู่อาศัย แล้วหม่อมฉันจักบำเพ็ญบุญทั้งหลาย *ครั้งที่แล้ว ได้กล่าวถึงตอนที่พระเวสสันดร ได้ถวาย สัตตสตกมหาทาน พร้อมทั้งสิ่งของอย่างอื่นมากมาย …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๗ ( เสด็จออกบรรพชา ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๙ ( ชูชกขอโอรสธิดา )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๙ ( ชูชกขอโอรสธิดา ) ธรรมดาของสรรพสัตว์ และสรรพสิ่งทั้งหลาย มีความเสื่อมไปตามกาลเวลา ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่เคยหยุดยั้ง ได้นำความแก่ ความเจ็บ และความตายมาสู่ตัวเราตลอดเวลา เวลาไม่เคยหยุดในการทำหน้าที่ของมัน ทุกชีวิตถูกความเสื่อมครอบงำทุกอนุวินาที และกำลังก้าวไปสู่ความเสื่อมสลาย เพราะฉะนั้นเราไม่ควรประมาทในการดำเนินชีวิต ควรมองให้เห็นโทษภัยของความเสื่อมนั้น จะได้คลายจากความยึดมั่น ถือมั่นในคน สัตว์ สิ่งของ ไม่มัวเอาใจไปข้องเกี่ยว หรือวางใจไว้กับสิ่งภายนอก ซึ่งไม่ใช่ที่พึ่งที่ระลึกอย่างแท้จริง ควรแสวงหา ที่พึ่งภายใน คือ พระรัตนตรัย ซึ่งเป็นที่พึ่งสูงสุดอันเกษมของสรรพสัตว์ทั้งหลาย มีธรรมภาษิตใน ปฐมภิกขุสูตร ว่า บุคคลไม่อาจให้สิ่ง ๓ อย่างเต็มได้ คือ ไฟเต็มด้วยเชื้อ มหาสมุทรเต็มด้วยน้ำ คนมีความอยากมากเต็มด้วยปัจจัย ที่ยกพระบาลีนี้ขึ้นมากล่าวอ้างเป็นอุเทศ เพราะว่ากำลังจะกล่าวถึงพราหมณ์ชูชกผู้ไม่อิ่มด้วยความอยากในเบญจกามคุณ จึงต้องออกเดินทางไปขอพระโอรสพระธิดาของพระเวสสันดรมาเป็นทาสรับใช้ โดยไม่คำนึงถึงฐานะของตัวเอง พราหมณ์ชูชกนั้นมีความหลงใหลในนางอมิตตตาเป็นกำลัง เมื่อภรรยาร้องขอสิ่งใดก็จัดการหามาให้ กระทั่งให้ไปขอข้าทาสจากพระเวสสันดรซึ่งอยู่ไกลมาก อีกทั้งหนทางก็ลำบาก ยังสู้อุตส่าห์ถ่อสังขารไปจนถึงเขาวงกตในที่สุด *เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อชูชกเดินทางเข้าไปในนครเชตุดร ได้ไต่ถามประชาชนที่มาประชุมกันตามสถานที่ต่างๆ ว่า พระเวสสันดรผู้รักในการบริจาคทานเป็นชีวิตจิตใจ …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๙ ( ชูชกขอโอรสธิดา ) Read More »

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๑ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๑ )         การสร้างบารมีเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องสร้างกันทุกๆ วัน โดยไม่ให้มีการว่างเว้น ตั้งแต่ทานบารมี ศีลบารมีเรื่อยไป จนกระทั่งถึงอุเบกขาบารมี เราเกิดมาเป็นมนุษย์ก็เพื่อการนี้ การที่มีกายมนุษย์นับว่า เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างบารมี ยิ่งเราเป็นสัมมาทิฏฐิ เข้าใจเรื่องบาปบุญคุณโทษ ยิ่งสร้างบุญบารมีได้เต็มที่ เพราะเรารู้ถึงอานิสงส์ที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น เราควรทุ่มเท สร้างความดีอย่างไม่หยุดยั้ง จะได้ชื่อว่า เกิดมาใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ได้สร้างบารมีซึ่งเป็นงานที่แท้จริง สิ่งที่เราควรทำควบคู่ไปกับภารกิจประจำวัน คือ หมั่นทำใจหยุดใจนิ่งไปพร้อมๆ กัน เพื่อจะได้เข้าถึงที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง คือ พระรัตนตรัยภายใน     มีวาระพระบาลีในสุธาโภชนชาดกว่า อปฺปมฺหา อปฺปกํ ทชฺชา    อนุมชฺฌโต มชฺฌกํ พหุมฺหา พหุกํ ทชฺชา         อทานํ นูปปชฺชติ บุคคลควรแบ่งของน้อยให้ตามน้อย ควรแบ่งของปานกลางให้ตามปานกลาง ควรแบ่งของมากให้ตามมาก การไม่ให้ย่อมไม่ควร     มนุษย์ทุกคนดำรงอยู่ได้ด้วยการให้ ชีวิตของเราตั้งแต่ถือกำเนิดมาจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย ต้องเกี่ยวพันกับการเป็นผู้ให้และผู้รับ เริ่มต้นเราได้ชีวิตจากการให้ของบิดามารดา เมื่อเติบโตขึ้นก็ได้รับการเลี้ยงดู …

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๑ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๐ ( ชูชกกล่าวขอโอรสธิดา )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๐ ( ชูชกกล่าวขอโอรสธิดา ) พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นหลักของพระพุทธศาสนา ผู้เข้าถึงพระรัตนตรัยจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา พระบรมศาสดาได้เข้าถึงพระรัตนตรัยและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายธรรมอร หัตได้ตรัสรู้เป็นพระหันอรตสัมมาสัมพุทธเจ้า หมดสิ้นกิเลสอาสวะ มีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆ จึงเป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ ผู้มีจิตเลื่อมใส ในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ ผลบุญอันเลิศย่อมบังเกิดขึ้นกับบุคคลนั้น และบุญนั้นยังตามส่งผลข้ามภพข้ามชาติไป จนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม การทำสมาธิภาวนาด้วยการเจริญพุทธานุสติ มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์จึงมีอานิสงส์ใหญ่ สมควรที่พวกเราทั้งหลายจะต้องฝึกให้เป็นอุปนิสัย บุญใหญ่ย่อมจะบังเกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอน มีถ้อยคำที่ชูชกได้กล่าวขอพระโอรส และพระธิดากับพระเวสสันดรว่า ห้วงน้ำซึ่งเต็มเปี่ยมตลอดเวลาย่อมไม่เหือดแห้ง ฉันใด พระองค์ก็เป็นผู้มีพระหฤทัยเต็มเปี่ยมด้วยศรัทธาฉันนั้น ข้าพระองค์มาเพื่อทูลขอพระโอรสพระธิดากับพระองค์ ขอพระองค์โปรดพระราชทานพระโอรส และพระธิดาแก่ข้าพระองค์ผู้ทูลขอเถิด เราทุกคนต่างรู้กันดีว่า การมีอุปนิสัยบัณฑิตนักปราชญ์ เป็นการพัฒนาคุณธรรมให้สูงขึ้น เป็นบันไดก้าวสู่สวรรค์ การมีอุปนิสัยเพื่อให้บรรลุมรรคผลนิพพานอันสูงส่งกว่าสวรรค์นั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง บุคคลนั้นต้องเป็นอภิมหาปราชญ์ มีใจสูงส่งกว่าบุคคลธรรมดามากนัก พระบรมโพธิสัตว์เจ้าของเรา ท่านกล้าที่จะสละได้แม้กระทั่งบุตรธิดา ซึ่งไม่มีใครในโลกทำได้ แม้เพียงแค่ความคิดยังไม่กล้าคิดกันเลย ท่านเป็นผู้กล้าให้ กล้าคิด กล้าพูด และกล้าทำความดี โดยไม่กลัวปัญหา และอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น ท่านพิชิตความตระหนี่ในตัวได้ แม้ท่านจะไม่ได้เกิดในยุคสมัยที่มนุษย์ยินดีในการบริจาค หรือในยุคที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเหมือนพวกเรา แต่พระองค์กลับทุ่มเทสร้างบารมี เพื่อจะได้เป็นแบบอย่างแก่ชาวโลก นำพามนุษยชาติ …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๐ ( ชูชกกล่าวขอโอรสธิดา ) Read More »