ธรรมะเพื่อประชาชน

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒ ( สืบหาบัณฑิต )

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒ ( สืบหาบัณฑิต )     การที่เรากระทำสิ่งใดลงไปก็ตาม สิ่งนั้นสามารถส่งผลเชื่อมโยงถึงกันได้ ยิ่งปัจจุบัน เราอยู่ในยุคโลกาภิวัฒน์ ที่ข้อมูลข่าวสารถึงกันหมด หากเรากระทำสิ่งที่ไม่ดี ย่อมจะเกิดผลกระทบเสียหายต่อคนรอบข้างและคนทั้งโลก เหมือนไม้ขีดไฟก้านเดียวสามารถลุกลามเผาป่าเผาเมืองได้ แต่หากเรากระทำความดีแม้เพียงเล็กน้อย และแม้จะกระทำกันเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ก็สามารถขยายผลแห่งความดีไปทั่วโลกและจักรวาลได้ ความดีที่เกิดจากการฝึกฝนใจให้บริสุทธิ์หยุดนิ่งนี้ เป็นกระแสความดีที่มีผลต่อสัตวโลก ช่วยทำให้บรรยากาศของโลกเกิดกระแสแห่งความบริสุทธิ์ ขจัดสิ่งที่เป็นมลทินทั้งหลายให้หมดสิ้นไป เพื่อให้โลกมีสันติสุขที่แท้จริง มีวาระพระบาลีใน ขุททกนิกาย ชาดก ความว่า     “คนโง่ถึงจะมีกำลัง ก็หายังประโยชน์ให้สำเร็จไม่ แม้จะได้ทรัพย์มา ด้วยกรรมอันหยาบช้า นายนิรยบาลทั้งหลาย ย่อมฉุดคร่าเอาคนโง่ ผู้ไม่ฉลาด ครํ่าครวญอยู่ ไปสู่นรกอันร้ายกาจ คนมีปัญญาเท่านั้นประเสริฐกว่า คนโง่ถึงมียศก็หาประเสริฐไม่”     ผู้รู้ได้กล่าวอุปมาไว้ว่า มีปัญญาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน เพราะปัญญาเป็นอริยทรัพย์อันประเสริฐ ช่วยให้เราสามารถแสวงหาสมบัติทั้งภายนอกภายใน ทั้งสมบัติโลกิยะและโลกุตตระ ส่วนผู้ไร้ปัญญาแม้มีทรัพย์สมบัติมากมาย เมื่อไม่รู้จักใช้หรือดูแลรักษา วันหนึ่งสมบัตินั้นก็อาจแปรเปลี่ยนหรือหมดลงได้  ดังนั้น ปัญญาจึงเป็นทรัพย์อันประเสริฐ ผู้มีปัญญาสามารถยกฐานะจากคนธรรมดาหรือยาจกเป็นมหาเศรษฐีได้ ปัญญาจะสร้างชื่อเสียง ทำให้เป็นที่ยอมรับนับถือของชนทุกระดับชั้น เหมือนอย่างเรื่องของมโหสถบัณฑิตที่จะได้ติดตามศึกษาต่อไป     …

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒ ( สืบหาบัณฑิต ) Read More »

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๓ ( ฉายแววปราชญ์ )

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๓ ( ฉายแววปราชญ์ )        ทุกคนล้วนเกิดมามีเป้าหมาย เพื่อแสวงหาความสุขความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น ในจิตใต้สำนึกของทุกๆ คน ล้วนปรารถนาจะพบกับความสุขที่แท้จริง แต่เพราะความไม่รู้ หรืออวิชชาเข้ามาครอบงำจิตใจ ถูกความโลภ ความโกรธ ความหลงบังคับบัญชา จึงทำให้ไม่อาจพบในสิ่งที่ตนเองต้องการได้ เราต้องอาศัยปัญญาอันบริสุทธิ์มาขจัดความไม่รู้ โดยการนำใจกลับมาไว้ ณ ฐานที่ตั้งดั้งเดิม ทำใจของเราให้หยุดนิ่ง ให้สะอาดบริสุทธิ์ จนกระทั่งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผู้รู้ คือ พระธรรมกายภายใน เราย่อมจะได้พบความจริง และความสุขที่สมบูรณ์ของชีวิต มีวาระธรรมภาษิตใน พุทธชัยมงคลคาถา ความว่า     “ธรรมดาดวงจันทร์ในคืนวันเพ็ญปราศจากมลทิน โคจรไปในอากาศ ย่อมสว่างกว่าหมู่ดาวบนท้องฟ้า ด้วยกำลังแห่งรัศมี ฉันใด พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อทรงอุบัติ ย่อมรุ่งโรจน์กว่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ฉันนั้น ความอัศจรรย์แห่งพระสัทธรรมที่พระองค์ทรงแสดง จะลบล้างความเห็นผิด และความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ไม่เป็นสาระของผู้ไม่รู้”     การอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นับเป็นมหาโชคมหาลาภของสรรพสัตว์ทั้งหลาย พระองค์ทรงขจัดความทุกข์ของมนุษย์ เหมือนดวงจันทร์ที่ขจัดความมืดมิดในรัตติกาล และยังความสว่างไสวให้เกิดขึ้นบนท้องนภา การได้ตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐ ทำให้พระองค์เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เหนือมนุษย์ทั้งหลาย เป็นเทพที่ยิ่งกว่าเทพ …

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๓ ( ฉายแววปราชญ์ ) Read More »

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๔ ( ยักษ์จําแลง )

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๔ ( ยักษ์จําแลง )     มนุษย์ทุกชาติทุกภาษา ล้วนปรารถนาให้โลกมีสันติสุขที่แท้จริง แต่ไม่มีใครรู้ว่า ทำอย่างไรจึงจะพบกับสันติสุขที่แท้จริง จนกระทั่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบว่า วิธีการที่จะทำให้โลกเกิดสันติสุขที่แท้จริงนั้น จะต้องให้มนุษย์ทุกคนในโลกได้เข้าถึงสันติสุขภายในก่อน คือ พระรัตนตรัยซึ่งมีอยู่แล้วภายในตัวของมนุษย์ทุกๆ คน เพราะพระรัตนตรัย หรือพระธรรมกายเป็นแหล่งกำเนิดแห่งความสุข แหล่งของสติของปัญญา เมื่อเข้าถึงได้แล้ว มนุษย์จะมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งความคิด คำพูด และการกระทำที่ดีขึ้น บริสุทธิ์ขึ้น จะมีความเมตตากรุณาเกิดขึ้น รู้จักแบ่งปัน และให้อภัยซึ่งกันและกัน เมื่อนั้นสันติสุขที่แท้จริงย่อมจะบังเกิดขึ้นในโลก มีวาระธรรมภาษิตใน สิริมันทชาดก ความว่า     “คนโง่หาปัญญามิได้ ย่อมกล่าวมุสา เพราะเหตุแห่งบุคคลอื่น หรือแม้แห่งตน คนโง่นั้นย่อมถูกนินทาในท่ามกลางบริษัท แม้ภายหลังเขาก็ต้องไปทุคติ ข้าพระพุทธเจ้าเห็นข้อความนี้แล้ว จึงกราบทูลว่า คนมีปัญญาเท่านั้นประเสริฐ คนโง่ถึงมียศจะประเสริฐอะไร”     นี่เป็นถ้อยคำของมโหสถบัณฑิต ผู้ที่นอกจากจะมีปัญญาเฉลียวฉลาดแล้ว ยังชื่นชมคนที่มีปัญญาว่า ประเสริฐกว่าคนมีทรัพย์แต่ไร้ปัญญา โดยเฉพาะปัญญาที่สามารถสั่งสอนตนให้หลุดพ้นจากการทำบาปอกุศลทั้งปวง แม้บุคคลนั้นจะเกิดในสถานะใด ก็ได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิต คนมีปัญญา นอกจากจะสอนตัวเองได้แล้ว ยังสอนผู้อื่น …

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๔ ( ยักษ์จําแลง ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๖ ( เดินทางสู่เขาวงกต )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๖ เดินทางสู่เขาวงกต การเจริญสมาธิภาวนาเป็นทางลัดที่สุด ที่จะทำให้กายวาจา ใจ ของเราบริสุทธิ์ ถ้ากาย วาจา ใจ ของเรามีความบริสุทธิ์มาก บุญกุศลก็เกิดขึ้นมาก ถ้ามีความบริสุทธิ์น้อย บุญกุศลก็ลดหย่อนลงไป ความบริสุทธิ์เป็นบ่อเกิดแห่งความสุข เป็นสิ่งที่สั่งสมได้ การเจริญภาวนาทุกวันเป็นการเพิ่มเติมความบริสุทธิ์ขึ้นทุกวัน จะทำให้เราเข้าถึงความสุขที่แท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา และกำลังแสวงหากันอยู่ ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญกับการเจริญภาวนา เพื่อให้ชีวิตของเราเข้าถึงความสุขและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง พระเวสสันดรโพธิสัตว์ได้กล่าวธรรมภาษิตสอนพระนางมัทรีไว้ว่า ดูก่อนพระนางมัทรี พัสดุอันใดอันหนึ่งที่ฉันให้เธอ ทั้งทรัพย์อันประกอบด้วยสิริ เงิน ทอง มุกดา ไพฑูรย์ที่มีอยู่มาก และสิ่งใดที่เธอนำมาแต่พระชนกของเธอ เธอจงเก็บสิ่งนั้นไว้ทั้งหมด เธอจงบริจาคทานในท่านผู้มีศีลทั้งหลายตามควร เพราะที่พึ่งของสัตว์ทั้งปวงอย่างอื่นยิ่งกว่าบุญกุศลย่อมไม่มี ชาวโลกส่วนใหญ่ปรารถนาจะเป็นผู้รับมากกว่าผู้ให้ การเป็นผู้ให้นั้นยากกว่าการเป็นผู้รับ โดยเฉพาะให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ให้เพื่อยังความสุข และความสำเร็จของบุคคลอื่น ให้เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียวนั้น นับเป็นสิ่งที่หาได้ยากในโลก ทว่าพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลาย ต่างดำรงตนบนพื้นฐานของความเป็นผู้ให้ตลอดมา โดยทั่วไปคนส่วนมากมักมีความตระหนี่เหนียวแน่นอยู่ในใจ เหมือนยางเหนียวที่ติดเสื้อผ้าหรือวัตถุต่างๆ ยากจะขัดให้หลุดออกได้ง่ายๆ เกิดจากตัวกิเลสคือตัณหาที่ฝังติดแน่นอยู่ในกมลสันดาน น้อยคนนักที่จะหาทางขจัดความตระหนี่ให้หลุดร่อนออกไปจากใจได้ ตรงกันข้ามกับพระโพธิสัตว์ผู้ที่สามารถขจัดออกจากใจได้ทุกภพทุกชาติ บางครั้งความเป็นผู้มีใจกว้างขวางของท่าน กลับเป็นเหตุให้คนส่วนใหญ่ซึ่งยังมีความตระหนี่อยู่มากเดือดเนื้อร้อนใจแทน เหมือนดังเรื่องของพระเวสสันดร โดยเฉพาะในช่วงที่ท่านกำลังประสบมรสุมชีวิต เพราะทรงบริจาคมงคลหัตถีแก่พราหมณ์ไป …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๖ ( เดินทางสู่เขาวงกต ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๗ ( เสด็จออกบรรพชา )

เวสสันดชาดก ตอนที่ ๗ ( เสด็จออกบรรพชา ) กาลเวลากลืนกินสรรพสัตว์ เปลี่ยนแปลงสรรพสิ่ง สรรพชีวิตที่เกิดมาแล้ว ล้วนบ่ายหน้าไปสู่ความแก่ ความเจ็บ และความตาย ผู้คนมากมายได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ค่า เหตุเพราะไม่รู้จุดหมายปลายทาง ของชีวิตว่า เกิดมาจากไหน มาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต เมื่อไม่รู้ความจริงของชีวิต จึงเวียนวน ข้องเกี่ยวอยู่กับเบญจกามคุณทั้ง ๕ อันเป็นเหยื่อล่อของพญามาร ทำให้ข้องอยู่ในภพทั้ง ๓ คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ เวียนตายเวียนเกิดอย่างนี้มานับภพนับชาติไม่ถ้วน การทำสมาธิเจริญภาวนา หมั่นฝึกฝนใจให้สะอาดบริสุทธิ์หยุดนิ่ง เป็นประจำสมํ่าเสมอ เป็นวิธีการเดียวเท่านั้นที่จะนำพานาวาชีวิตของเรา ให้หลุดพ้นจากวังวนแห่งสังสารวัฏอันยาวไกลนี้ ก้าวไปสู่พระนิพพานแดนอันเกษมที่เป็นเอกันตบรมสุข พระเวสสันดรโพธิสัตว์ได้กล่าวอำลา เพื่อออกบวชเป็นบรรพชิตว่า ข้าแต่เสด็จแม่ ขอพระองค์ทรงอนุญาตการบวชแก่หม่อมฉันเถิด หม่อมฉันบริจาคทานในวังของตน ยังถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้เบียดเบียนทั้งตนเองและคนอื่น หม่อมฉันจะออกไปจากแคว้นของตน โดยประสงค์ของชาวสีพี หม่อมฉันจะเสวยทุกข์นั้นในป่า ที่เกลื่อนด้วยพาลมฤค มีแรด และเสือเหลืองอยู่อาศัย แล้วหม่อมฉันจักบำเพ็ญบุญทั้งหลาย *ครั้งที่แล้ว ได้กล่าวถึงตอนที่พระเวสสันดร ได้ถวาย สัตตสตกมหาทาน พร้อมทั้งสิ่งของอย่างอื่นมากมาย …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๗ ( เสด็จออกบรรพชา ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๘ ( ชีวิตนักบวช )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๘ ( ชีวิตนักบวช ) ชีวิตในวันหนึ่งๆผ่านไปอย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนหยาดน้ำค้างบนปลายยอดหญ้า เมื่อต้องแสงอาทิตย์ในยามเช้า ย่อมเหือดแห้งหายไปโดยฉับพลัน ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อมสลาย คล้ายฟองน้ำ เมื่อเวลาฝนตกหนัก ฝนหนาเม็ดเกิดเป็นฟองน้ำขึ้น แล้วแตกสลายไปในชั่วพริบตาเดียว ช่วงเวลา ของชีวิตเราสั้นนักคล้ายอย่างนั้น จึงไม่ควรประมาท พึงเร่งทำ ความเพียร เพื่อไปให้ถึง จุดหมายปลายทางของชีวิต เช่นเดียวกับ ผู้รู้หรือพระอรหันต์ทั้งหลายในกาลก่อน ครั้งหนึ่งนางอมิตตตาปนาได้กล่าวกับชูชกว่า”คนขลาดยังไม่ทันถึงสนามรบ ไม่ทันได้รบก็ยอมแพ้ ฉันใด ดูก่อนพราหมณ์ ท่านยังไม่ทันได้ไปขอกัณหาชาลีเลย ก็ยอมแพ้ ฉันนั้น ดูก่อนพราหมณ์ ถ้าท่านไม่หาทาส และทาสีมาให้ฉัน ฉันจักไม่อยู่ในเรือนของท่าน เมื่อท่านเห็นฉันแต่งกายในงานมหรสพ ประกอบด้วยนักขัตฤกษ์ รื่นรมย์อยู่กับชายคนอื่น ความทุกข์ก็จักมีแก่ท่าน เมื่อท่านผู้ชราแล้ว พิไรครํ่าครวญอยู่ เพราะไม่เห็นฉัน ร่างกายที่โก่งงอก็จักงอยิ่งขึ้น ผมที่หงอกก็จักหงอกมากขึ้น เพราะฉะนั้น ท่านจงออกเดินทางไปขอโอรสธิดากับพระเวสสันดรเถิด” นี่เป็นถ้อยคำของนางอมิตตตาภรรยาสาวของชูชกผู้ แก่ชรา นางจะเป็นเหตุที่จะมาเติมมหาทานบารมี ของพระเวสสันดรโพธิสัตว์ให้แก่รอบยิ่งๆ ขึ้นไป เมื่อครั้งที่แล้ว หลวงพ่อได้กล่าวถึงตอนที่พระเวสสันดร เดินทางถึงภูเขาคันธมาทน์ หรือเขาวงกต …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๘ ( ชีวิตนักบวช ) Read More »

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๑ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๑ )         การสร้างบารมีเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องสร้างกันทุกๆ วัน โดยไม่ให้มีการว่างเว้น ตั้งแต่ทานบารมี ศีลบารมีเรื่อยไป จนกระทั่งถึงอุเบกขาบารมี เราเกิดมาเป็นมนุษย์ก็เพื่อการนี้ การที่มีกายมนุษย์นับว่า เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างบารมี ยิ่งเราเป็นสัมมาทิฏฐิ เข้าใจเรื่องบาปบุญคุณโทษ ยิ่งสร้างบุญบารมีได้เต็มที่ เพราะเรารู้ถึงอานิสงส์ที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น เราควรทุ่มเท สร้างความดีอย่างไม่หยุดยั้ง จะได้ชื่อว่า เกิดมาใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ได้สร้างบารมีซึ่งเป็นงานที่แท้จริง สิ่งที่เราควรทำควบคู่ไปกับภารกิจประจำวัน คือ หมั่นทำใจหยุดใจนิ่งไปพร้อมๆ กัน เพื่อจะได้เข้าถึงที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง คือ พระรัตนตรัยภายใน     มีวาระพระบาลีในสุธาโภชนชาดกว่า อปฺปมฺหา อปฺปกํ ทชฺชา    อนุมชฺฌโต มชฺฌกํ พหุมฺหา พหุกํ ทชฺชา         อทานํ นูปปชฺชติ บุคคลควรแบ่งของน้อยให้ตามน้อย ควรแบ่งของปานกลางให้ตามปานกลาง ควรแบ่งของมากให้ตามมาก การไม่ให้ย่อมไม่ควร     มนุษย์ทุกคนดำรงอยู่ได้ด้วยการให้ ชีวิตของเราตั้งแต่ถือกำเนิดมาจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย ต้องเกี่ยวพันกับการเป็นผู้ให้และผู้รับ เริ่มต้นเราได้ชีวิตจากการให้ของบิดามารดา เมื่อเติบโตขึ้นก็ได้รับการเลี้ยงดู …

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๑ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๙ ( ชูชกขอโอรสธิดา )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๙ ( ชูชกขอโอรสธิดา ) ธรรมดาของสรรพสัตว์ และสรรพสิ่งทั้งหลาย มีความเสื่อมไปตามกาลเวลา ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่เคยหยุดยั้ง ได้นำความแก่ ความเจ็บ และความตายมาสู่ตัวเราตลอดเวลา เวลาไม่เคยหยุดในการทำหน้าที่ของมัน ทุกชีวิตถูกความเสื่อมครอบงำทุกอนุวินาที และกำลังก้าวไปสู่ความเสื่อมสลาย เพราะฉะนั้นเราไม่ควรประมาทในการดำเนินชีวิต ควรมองให้เห็นโทษภัยของความเสื่อมนั้น จะได้คลายจากความยึดมั่น ถือมั่นในคน สัตว์ สิ่งของ ไม่มัวเอาใจไปข้องเกี่ยว หรือวางใจไว้กับสิ่งภายนอก ซึ่งไม่ใช่ที่พึ่งที่ระลึกอย่างแท้จริง ควรแสวงหา ที่พึ่งภายใน คือ พระรัตนตรัย ซึ่งเป็นที่พึ่งสูงสุดอันเกษมของสรรพสัตว์ทั้งหลาย มีธรรมภาษิตใน ปฐมภิกขุสูตร ว่า บุคคลไม่อาจให้สิ่ง ๓ อย่างเต็มได้ คือ ไฟเต็มด้วยเชื้อ มหาสมุทรเต็มด้วยน้ำ คนมีความอยากมากเต็มด้วยปัจจัย ที่ยกพระบาลีนี้ขึ้นมากล่าวอ้างเป็นอุเทศ เพราะว่ากำลังจะกล่าวถึงพราหมณ์ชูชกผู้ไม่อิ่มด้วยความอยากในเบญจกามคุณ จึงต้องออกเดินทางไปขอพระโอรสพระธิดาของพระเวสสันดรมาเป็นทาสรับใช้ โดยไม่คำนึงถึงฐานะของตัวเอง พราหมณ์ชูชกนั้นมีความหลงใหลในนางอมิตตตาเป็นกำลัง เมื่อภรรยาร้องขอสิ่งใดก็จัดการหามาให้ กระทั่งให้ไปขอข้าทาสจากพระเวสสันดรซึ่งอยู่ไกลมาก อีกทั้งหนทางก็ลำบาก ยังสู้อุตส่าห์ถ่อสังขารไปจนถึงเขาวงกตในที่สุด *เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อชูชกเดินทางเข้าไปในนครเชตุดร ได้ไต่ถามประชาชนที่มาประชุมกันตามสถานที่ต่างๆ ว่า พระเวสสันดรผู้รักในการบริจาคทานเป็นชีวิตจิตใจ …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๙ ( ชูชกขอโอรสธิดา ) Read More »

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๒ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน

 เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๒ )                เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เพื่อแสวงหาสิ่งที่ทำให้เราบริสุทธิ์ที่สุด บริสุทธิ์จนกระทั่งพบกับตัวตนที่แท้จริง ที่มั่นคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง และมีความสุขอย่างแท้จริง พระผู้มีพระภาคเจ้า และพระอรหันตเจ้าทั้งหลายต่างพบว่า พระรัตนตรัยเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด และมีอยู่แล้วในตัวของมนุษย์ทุกคน เป็นธรรมที่สงบ ละเอียด ประณีต ซึ่งไม่อาจจะนึกคิดหรือคาดคะเนได้ แต่เป็นสิ่งที่จะต้องปฏิบัติให้เข้าถึงเอง โดยการปรับใจให้ละเอียด ให้หยุดนิ่งไปตามลำดับ จนกระทั่งเข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน เมื่อนั้นเราจะรู้เห็นทุกสิ่งไปตามความเป็นจริง มีวาระพระบาลีใน มัจฉรีสูตรว่า   มจฺเฉรา จ ปมาทา จ         เอวํ ทานํ น ทียติ ปุญฺญมา กงฺขมาเนน         เทยฺยํ โหติ วิชานตา ยสฺเสว ภีโต น ททาติ       ตเทวาททโต ภยํ ชิฆจฺฉา จ ปิปาสา จ         ยสฺส …

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๒ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๐ ( ชูชกกล่าวขอโอรสธิดา )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๐ ( ชูชกกล่าวขอโอรสธิดา ) พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นหลักของพระพุทธศาสนา ผู้เข้าถึงพระรัตนตรัยจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา พระบรมศาสดาได้เข้าถึงพระรัตนตรัยและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายธรรมอร หัตได้ตรัสรู้เป็นพระหันอรตสัมมาสัมพุทธเจ้า หมดสิ้นกิเลสอาสวะ มีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆ จึงเป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ ผู้มีจิตเลื่อมใส ในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ ผลบุญอันเลิศย่อมบังเกิดขึ้นกับบุคคลนั้น และบุญนั้นยังตามส่งผลข้ามภพข้ามชาติไป จนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม การทำสมาธิภาวนาด้วยการเจริญพุทธานุสติ มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์จึงมีอานิสงส์ใหญ่ สมควรที่พวกเราทั้งหลายจะต้องฝึกให้เป็นอุปนิสัย บุญใหญ่ย่อมจะบังเกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอน มีถ้อยคำที่ชูชกได้กล่าวขอพระโอรส และพระธิดากับพระเวสสันดรว่า ห้วงน้ำซึ่งเต็มเปี่ยมตลอดเวลาย่อมไม่เหือดแห้ง ฉันใด พระองค์ก็เป็นผู้มีพระหฤทัยเต็มเปี่ยมด้วยศรัทธาฉันนั้น ข้าพระองค์มาเพื่อทูลขอพระโอรสพระธิดากับพระองค์ ขอพระองค์โปรดพระราชทานพระโอรส และพระธิดาแก่ข้าพระองค์ผู้ทูลขอเถิด เราทุกคนต่างรู้กันดีว่า การมีอุปนิสัยบัณฑิตนักปราชญ์ เป็นการพัฒนาคุณธรรมให้สูงขึ้น เป็นบันไดก้าวสู่สวรรค์ การมีอุปนิสัยเพื่อให้บรรลุมรรคผลนิพพานอันสูงส่งกว่าสวรรค์นั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง บุคคลนั้นต้องเป็นอภิมหาปราชญ์ มีใจสูงส่งกว่าบุคคลธรรมดามากนัก พระบรมโพธิสัตว์เจ้าของเรา ท่านกล้าที่จะสละได้แม้กระทั่งบุตรธิดา ซึ่งไม่มีใครในโลกทำได้ แม้เพียงแค่ความคิดยังไม่กล้าคิดกันเลย ท่านเป็นผู้กล้าให้ กล้าคิด กล้าพูด และกล้าทำความดี โดยไม่กลัวปัญหา และอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น ท่านพิชิตความตระหนี่ในตัวได้ แม้ท่านจะไม่ได้เกิดในยุคสมัยที่มนุษย์ยินดีในการบริจาค หรือในยุคที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเหมือนพวกเรา แต่พระองค์กลับทุ่มเทสร้างบารมี เพื่อจะได้เป็นแบบอย่างแก่ชาวโลก นำพามนุษยชาติ …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๐ ( ชูชกกล่าวขอโอรสธิดา ) Read More »

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๓ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๓ )         คำสอนของพระพุทธศาสนาเป็นอมตธรรมอันลํ้าค่ายิ่ง เป็นสิ่งที่สามารถนำพามนุษย์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายผู้ปฏิบัติตามให้ไปสู่ความบริสุทธิ์หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะได้อย่างแท้จริง ขึ้นอยู่กับว่าจะทุ่มเทแรงกายแรงใจ ศึกษาคำสอน และลงมือปฏิบัติมากน้อยเพียงไร กว่าพระพุทธศาสนาจะบังเกิดขึ้นมาในโลกได้ เป็นสิ่งที่ยากแสนยาก จะต้องมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้น และกว่าพระองค์จะได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมา-สัมพุทธเจ้า ท่านจะต้องทุ่มเทสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ยอมอดทนทุกอย่างเพื่อสร้างบารมีให้แก่รอบ ฉะนั้น การบังเกิดขึ้นของพระพุทธองค์จึงเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขเกื้อกูลแก่ สรรพสัตว์ เมื่อเราทำตามพุทธโอวาท ชีวิตย่อมจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน  พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ภีตสูตรว่า “วาจํ มนญฺจ ปณิธาย สมฺมา กาเยน ปาปานิ อกุพฺพมาโน   พหุนฺนปานํ ฆรมาวสนฺโต    สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทญฺญู เอเตสุ ธมฺเมสุ ฐิโต จตูสุ ธมฺเม ฐิโต ปรโลกํ น ภาเย   บุคคลตั้งวาจาและใจไว้โดยชอบ มิได้ทำบาปด้วยกาย อยู่ครอบครองเรือน ที่มีข้าว …

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๓ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๑ ( บริจาคกัณหาชาลี )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๑ ( บริจาคกัณหาชาลี ) มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาแล้วต่างต้องตาย แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นเลิศกว่าใครในภพสาม ยังต้องทอดทิ้งพระวรกายดับขันธปรินิพพานไป ดังนั้นเราต้อง หมั่นนึกถึงความตายเสมอ จะได้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต และเร่งขวนขวายสร้างความดีในทุกรูปแบบ สิ่งใดที่ไม่เป็นสาระควรปลดปล่อยวาง ให้ใจหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่นในคน สัตว์ สิ่งของ อันเป็นสิ่งไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา มุ่งแสวงหาสิ่งที่เป็นนิจจัง เป็นสุขัง เป็นอัตตา คือ พระรัตนตรัยภายในตัวของเรา ให้พิจารณาปล่อยวางอย่างหนึ่ง เพื่อมุ่งเข้าหาอีกอย่างหนึ่ง ที่เป็นสาระแก่นสารที่แท้จริงกันทุกคน พระเวสสันดรได้กล่าวสุนทรวาจาไว้ว่า “ดูก่อนพ่อชาลีลูกรัก พ่อจงมาเพิ่มพูนบารมีของพ่อให้เต็ม จงช่วยโสรจสรงหทัยของพ่อให้เย็นชุ่มฉ่ำ ลูกรักขอลูกจงทำตามคำของพ่อ ขอลูกทั้งสองจงเป็นดังยานนาวาของพ่อไม่หวั่นไหวต่อสาครคือภพ เมื่อพ่อข้ามฝั่งคือชาติแล้ว จักยังมนุษย์ และเทวดาทั้งหลายให้ข้ามพ้นด้วย” ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ หวังจะสร้างบารมีให้แก่รอบเพื่อการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ทำกันง่ายๆ ต้องอาศัยกำลังใจที่สูงส่งจริงๆ ไม่ใช่ทำเล่นๆ ชาติไหนมีอารมณ์ก็สร้างบารมี ชาติไหนไม่พร้อมก็ไม่สร้าง อย่างนี้ไม่ถูกต้องนัก นักสร้างบารมีผู้เป็นนิยตโพธิสัตว์ที่แท้จริงนั้น ท่านจะสั่งสมบุญทุกวัน ทุกเวลานาที ทุกที่ และทุกภพทุกชาติ คือ เกิดมาสร้างบารมีอย่างเดียวเท่านั้น อย่างอื่นถือว่าเป็นเรื่องรอง เมื่อพูดถึงเฉพาะทานบารมี …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๑ ( บริจาคกัณหาชาลี ) Read More »

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๔ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๔ )         การปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดทั้งต่อตัวของเราเองและต่อโลก การสร้างสันติสุขที่แท้จริงให้บังเกิดขึ้นในโลก เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เพราะมนุษย์ทุกคนมีธรรมกายอยู่ในตัว ไม่ว่าจะเป็นชาติไหน ภาษาไหนหรือจะมีความเชื่อแตกต่างกันอย่างไร ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์แล้ว ทุกคนสามารถเข้าถึงธรรมกายได้ทั้งนั้น จะเข้าถึงได้ ด้วยการฝึกใจให้หยุดนิ่งอย่างถูกวิธีและถูกส่วน ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ หากเรามีความปรารถนาที่จะเข้าถึงธรรม และก็ลงมือปฏิบัติด้วยความสมัครใจ ทำให้ถูกวิธี มีความเพียรสมํ่าเสมอ ย่อมจะเข้าถึงได้ทุกคน พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ใน อาทิตตชาดกว่า         “เอวมาทิปิโต โลโก ชราย มรเณน จ          นีหเรเถว ทาเนน ทินฺนํ โหติ สุนีภตํ โลกนี้ถูกไฟชราและมรณะเผาผลาญอยู่ เหมือนเรือนที่ถูกไฟไหม้ บุคคลพึงรีบขนทรัพย์สมบัติออก ด้วยการบริจาคทาน ทรัพย์ที่บริจาคแล้ว ชื่อว่าขนออกไปดีแล้ว”         การให้ทานเป็นความดีที่นำความสุขความชุ่มเย็นมาให้ เหมือนสายฝนที่โปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าให้ความชุ่มฉํ่าเย็นแก่สรรพสัตว์ และสรรพสิ่งทั้งหลาย การให้เป็นประโยชน์ทั้งแก่ผู้ให้และผู้รับ ทำให้เกิดความสุข ความมีน้ำใจไมตรีต่อกัน มีความเคารพเอื้อเฟื้อ ไม่เบียดเบียนกัน เราสามารถให้ทานได้หลายรูปแบบ เช่น การให้วัตถุสิ่งของ ข้าว น้ำ …

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๔ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๒ ( กัณหาชาลีถูกทรมาน )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๒ ( กัณหาชาลีถูกทรมาน ) ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่ละเอียดลึกซึ้ง ยากต่อการเข้าถึง แต่ก็ไม่เกินความสามารถของผู้มีบุญทั้งหลาย ที่มีจิตน้อมไปในคำสอนอันบริสุทธิ์ของพระองค์ บัดนี้แม้พระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปกว่า ๒,๕๐๐ ปีแล้ว แต่พระธรรมคำสอนของพระองค์ ยังคงนำสันติสุขมาสู่มวลมนุษยชาติอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตราบเท่าที่ยังมีผู้ประพฤติปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธองค์ ผู้ที่ปฏิบัติธรรมนี้ จะยังได้ชื่อ ว่า เป็นผู้บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นบรมครูอย่างยิ่งยวด ไม่ว่า พระองค์จะเสด็จดับขันธ์ไปแล้วก็ตาม ดังนั้นให้พวกเราทุกคน ตั้งใจทำหยุดทำนิ่งให้ได้ตลอดเวลา ให้เข้าถึงพระธรรมกาย เราจะได้ชื่อว่า บูชาพระพุทธองค์อย่างแท้จริง และยังเป็นการปฏิบัติบูชาอันสูงสุดด้วย พระเวสสันดรโพธิสัตว์ทรงกล่าวสอนตนเองว่า พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ไม่ทรงบริจาคมหาบริจาค ๕ ประการ คือ บริจาคทรัพย์ บริจาคอวัยวะ บริจาคชีวิต บริจาคบุตร บริจาคภรรยา หาเป็นพระพุทธเจ้าได้ไม่ ก็ตัวเราก็เข้าอยู่ในจำพวกพระโพธิสัตว์เหล่านั้น แม้เราไม่บริจาคบุตร และชายา ก็ไม่อาจจะเป็นพระพุทธเจ้าได้เช่นกัน นี่เป็นแนวความคิด และวิธีการที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นพระพุทธเจ้าที่พระบรมโพธิสัตว์เจ้าทุกๆ พระองค์ ท่านประพฤติปฏิบัติตามกันมาเป็นอริยวงศ์ ต้องกล้าที่จะเอาชนะความตระหนี่เหล่านี้ให้ได้ ชาวโลกส่วนใหญ่นั้น มักจะหวงแหน หึงหวง อีกทั้งตระหนี่ในบุคคลและวัตถุสิ่งของ ๕ ประการนี้ …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๒ ( กัณหาชาลีถูกทรมาน ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๓ ( บริจาคพระนางมัทรี )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๓ ( บริจาคพระนางมัทรี ) ชีวิตของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยูˆเวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๓ ( บริจาคพระนางมัทรี ) ชีวิตของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยูˆตลอดเวลา เปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อม และนำไปสู่ความตาย เราจึงไม่ควร ประมาทในการดำเนินชีวิต ควรมองให้เห็นโทษของความเสื่อม จะได้คลายความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวงในโลก เราเกิดมาเพียงแค่อาศัยสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกนี้ ไว้ใช้สร้างบารมี ใช้เป็นอุปกรณ์ในการทำทาน รักษาศีลให้บริสุทธิ์ และทำสมาธิ(Meditation)เจริญภาวนาได้อย่างสะดวก อย่าไปคิดเป็นจริงเป็นจังอะไร เมื่อปล่อยวางจากสิ่งที่ไม่เป็นจริงแล้ว ใจของเราจะได้มุ่งสู่สิ่งที่เป็นจริงของชีวิต ที่เรียกว่า อริยสัจ มีใจมุ่งตรงต่อหนทาง พระนิพพาน เราจะได้เข้าถึงความสุขที่แท้จริงกันทุกคน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน เวสสันดรชาดก ว่า เราตถาคตเมื่อสละชาลีโอรส กัณหาชินาธิดา และ มัทรีเทวี ผู้เคารพต่อภัสดา มิได้คิดเสียดายเลย เพราะเหตุแห่งพระโพธิญาณเท่านั้น ลูกทั้งสองเป็นที่เกลียดชังของเราก็หามิได้ มัทรีเทวีไม่เป็นที่รักของเราก็หามิได้พระสัพพัญญุตญาณเป็นที่รักของเรายิ่งกว่า เพราะฉะนั้นเราจึงได้ให้บุตรธิดา และเทวีผู้เป็นที่รักเสีย เมื่อพระเวสสันดรโพธิสัตว์ทรงบริจาคปิยบุตรมหา ทานแล้ว หมู่เทวดาที่อยู่บริเวณป่าหิมพานต์ ต่างปรึกษากันว่า ถ้าพระนางมัทรีเสด็จมาสู่อาศรมสถานแต่วัน แล้วไม่เห็นพระโอรสธิดาในอาศรม และหากรู้ว่าพระเวสสันดรได้บริจาคแก่พราหมณ์ ชูชกไปแล้ว …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๓ ( บริจาคพระนางมัทรี ) Read More »