ธรรมะเพื่อประชาชน

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๘ ( ชีวิตนักบวช )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๘ ( ชีวิตนักบวช ) ชีวิตในวันหนึ่งๆผ่านไปอย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนหยาดน้ำค้างบนปลายยอดหญ้า เมื่อต้องแสงอาทิตย์ในยามเช้า ย่อมเหือดแห้งหายไปโดยฉับพลัน ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อมสลาย คล้ายฟองน้ำ เมื่อเวลาฝนตกหนัก ฝนหนาเม็ดเกิดเป็นฟองน้ำขึ้น แล้วแตกสลายไปในชั่วพริบตาเดียว ช่วงเวลา ของชีวิตเราสั้นนักคล้ายอย่างนั้น จึงไม่ควรประมาท พึงเร่งทำ ความเพียร เพื่อไปให้ถึง จุดหมายปลายทางของชีวิต เช่นเดียวกับ ผู้รู้หรือพระอรหันต์ทั้งหลายในกาลก่อน ครั้งหนึ่งนางอมิตตตาปนาได้กล่าวกับชูชกว่า”คนขลาดยังไม่ทันถึงสนามรบ ไม่ทันได้รบก็ยอมแพ้ ฉันใด ดูก่อนพราหมณ์ ท่านยังไม่ทันได้ไปขอกัณหาชาลีเลย ก็ยอมแพ้ ฉันนั้น ดูก่อนพราหมณ์ ถ้าท่านไม่หาทาส และทาสีมาให้ฉัน ฉันจักไม่อยู่ในเรือนของท่าน เมื่อท่านเห็นฉันแต่งกายในงานมหรสพ ประกอบด้วยนักขัตฤกษ์ รื่นรมย์อยู่กับชายคนอื่น ความทุกข์ก็จักมีแก่ท่าน เมื่อท่านผู้ชราแล้ว พิไรครํ่าครวญอยู่ เพราะไม่เห็นฉัน ร่างกายที่โก่งงอก็จักงอยิ่งขึ้น ผมที่หงอกก็จักหงอกมากขึ้น เพราะฉะนั้น ท่านจงออกเดินทางไปขอโอรสธิดากับพระเวสสันดรเถิด” นี่เป็นถ้อยคำของนางอมิตตตาภรรยาสาวของชูชกผู้ แก่ชรา นางจะเป็นเหตุที่จะมาเติมมหาทานบารมี ของพระเวสสันดรโพธิสัตว์ให้แก่รอบยิ่งๆ ขึ้นไป เมื่อครั้งที่แล้ว หลวงพ่อได้กล่าวถึงตอนที่พระเวสสันดร เดินทางถึงภูเขาคันธมาทน์ หรือเขาวงกต …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๘ ( ชีวิตนักบวช ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๗ ( เสด็จออกบรรพชา )

เวสสันดชาดก ตอนที่ ๗ ( เสด็จออกบรรพชา ) กาลเวลากลืนกินสรรพสัตว์ เปลี่ยนแปลงสรรพสิ่ง สรรพชีวิตที่เกิดมาแล้ว ล้วนบ่ายหน้าไปสู่ความแก่ ความเจ็บ และความตาย ผู้คนมากมายได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ค่า เหตุเพราะไม่รู้จุดหมายปลายทาง ของชีวิตว่า เกิดมาจากไหน มาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต เมื่อไม่รู้ความจริงของชีวิต จึงเวียนวน ข้องเกี่ยวอยู่กับเบญจกามคุณทั้ง ๕ อันเป็นเหยื่อล่อของพญามาร ทำให้ข้องอยู่ในภพทั้ง ๓ คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ เวียนตายเวียนเกิดอย่างนี้มานับภพนับชาติไม่ถ้วน การทำสมาธิเจริญภาวนา หมั่นฝึกฝนใจให้สะอาดบริสุทธิ์หยุดนิ่ง เป็นประจำสมํ่าเสมอ เป็นวิธีการเดียวเท่านั้นที่จะนำพานาวาชีวิตของเรา ให้หลุดพ้นจากวังวนแห่งสังสารวัฏอันยาวไกลนี้ ก้าวไปสู่พระนิพพานแดนอันเกษมที่เป็นเอกันตบรมสุข พระเวสสันดรโพธิสัตว์ได้กล่าวอำลา เพื่อออกบวชเป็นบรรพชิตว่า ข้าแต่เสด็จแม่ ขอพระองค์ทรงอนุญาตการบวชแก่หม่อมฉันเถิด หม่อมฉันบริจาคทานในวังของตน ยังถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้เบียดเบียนทั้งตนเองและคนอื่น หม่อมฉันจะออกไปจากแคว้นของตน โดยประสงค์ของชาวสีพี หม่อมฉันจะเสวยทุกข์นั้นในป่า ที่เกลื่อนด้วยพาลมฤค มีแรด และเสือเหลืองอยู่อาศัย แล้วหม่อมฉันจักบำเพ็ญบุญทั้งหลาย *ครั้งที่แล้ว ได้กล่าวถึงตอนที่พระเวสสันดร ได้ถวาย สัตตสตกมหาทาน พร้อมทั้งสิ่งของอย่างอื่นมากมาย …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๗ ( เสด็จออกบรรพชา ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๙ ( ชูชกขอโอรสธิดา )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๙ ( ชูชกขอโอรสธิดา ) ธรรมดาของสรรพสัตว์ และสรรพสิ่งทั้งหลาย มีความเสื่อมไปตามกาลเวลา ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่เคยหยุดยั้ง ได้นำความแก่ ความเจ็บ และความตายมาสู่ตัวเราตลอดเวลา เวลาไม่เคยหยุดในการทำหน้าที่ของมัน ทุกชีวิตถูกความเสื่อมครอบงำทุกอนุวินาที และกำลังก้าวไปสู่ความเสื่อมสลาย เพราะฉะนั้นเราไม่ควรประมาทในการดำเนินชีวิต ควรมองให้เห็นโทษภัยของความเสื่อมนั้น จะได้คลายจากความยึดมั่น ถือมั่นในคน สัตว์ สิ่งของ ไม่มัวเอาใจไปข้องเกี่ยว หรือวางใจไว้กับสิ่งภายนอก ซึ่งไม่ใช่ที่พึ่งที่ระลึกอย่างแท้จริง ควรแสวงหา ที่พึ่งภายใน คือ พระรัตนตรัย ซึ่งเป็นที่พึ่งสูงสุดอันเกษมของสรรพสัตว์ทั้งหลาย มีธรรมภาษิตใน ปฐมภิกขุสูตร ว่า บุคคลไม่อาจให้สิ่ง ๓ อย่างเต็มได้ คือ ไฟเต็มด้วยเชื้อ มหาสมุทรเต็มด้วยน้ำ คนมีความอยากมากเต็มด้วยปัจจัย ที่ยกพระบาลีนี้ขึ้นมากล่าวอ้างเป็นอุเทศ เพราะว่ากำลังจะกล่าวถึงพราหมณ์ชูชกผู้ไม่อิ่มด้วยความอยากในเบญจกามคุณ จึงต้องออกเดินทางไปขอพระโอรสพระธิดาของพระเวสสันดรมาเป็นทาสรับใช้ โดยไม่คำนึงถึงฐานะของตัวเอง พราหมณ์ชูชกนั้นมีความหลงใหลในนางอมิตตตาเป็นกำลัง เมื่อภรรยาร้องขอสิ่งใดก็จัดการหามาให้ กระทั่งให้ไปขอข้าทาสจากพระเวสสันดรซึ่งอยู่ไกลมาก อีกทั้งหนทางก็ลำบาก ยังสู้อุตส่าห์ถ่อสังขารไปจนถึงเขาวงกตในที่สุด *เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อชูชกเดินทางเข้าไปในนครเชตุดร ได้ไต่ถามประชาชนที่มาประชุมกันตามสถานที่ต่างๆ ว่า พระเวสสันดรผู้รักในการบริจาคทานเป็นชีวิตจิตใจ …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๙ ( ชูชกขอโอรสธิดา ) Read More »

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๑ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๑ )         การสร้างบารมีเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องสร้างกันทุกๆ วัน โดยไม่ให้มีการว่างเว้น ตั้งแต่ทานบารมี ศีลบารมีเรื่อยไป จนกระทั่งถึงอุเบกขาบารมี เราเกิดมาเป็นมนุษย์ก็เพื่อการนี้ การที่มีกายมนุษย์นับว่า เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างบารมี ยิ่งเราเป็นสัมมาทิฏฐิ เข้าใจเรื่องบาปบุญคุณโทษ ยิ่งสร้างบุญบารมีได้เต็มที่ เพราะเรารู้ถึงอานิสงส์ที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น เราควรทุ่มเท สร้างความดีอย่างไม่หยุดยั้ง จะได้ชื่อว่า เกิดมาใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ได้สร้างบารมีซึ่งเป็นงานที่แท้จริง สิ่งที่เราควรทำควบคู่ไปกับภารกิจประจำวัน คือ หมั่นทำใจหยุดใจนิ่งไปพร้อมๆ กัน เพื่อจะได้เข้าถึงที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง คือ พระรัตนตรัยภายใน     มีวาระพระบาลีในสุธาโภชนชาดกว่า อปฺปมฺหา อปฺปกํ ทชฺชา    อนุมชฺฌโต มชฺฌกํ พหุมฺหา พหุกํ ทชฺชา         อทานํ นูปปชฺชติ บุคคลควรแบ่งของน้อยให้ตามน้อย ควรแบ่งของปานกลางให้ตามปานกลาง ควรแบ่งของมากให้ตามมาก การไม่ให้ย่อมไม่ควร     มนุษย์ทุกคนดำรงอยู่ได้ด้วยการให้ ชีวิตของเราตั้งแต่ถือกำเนิดมาจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย ต้องเกี่ยวพันกับการเป็นผู้ให้และผู้รับ เริ่มต้นเราได้ชีวิตจากการให้ของบิดามารดา เมื่อเติบโตขึ้นก็ได้รับการเลี้ยงดู …

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๑ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๐ ( ชูชกกล่าวขอโอรสธิดา )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๐ ( ชูชกกล่าวขอโอรสธิดา ) พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นหลักของพระพุทธศาสนา ผู้เข้าถึงพระรัตนตรัยจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา พระบรมศาสดาได้เข้าถึงพระรัตนตรัยและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายธรรมอร หัตได้ตรัสรู้เป็นพระหันอรตสัมมาสัมพุทธเจ้า หมดสิ้นกิเลสอาสวะ มีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆ จึงเป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ ผู้มีจิตเลื่อมใส ในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ ผลบุญอันเลิศย่อมบังเกิดขึ้นกับบุคคลนั้น และบุญนั้นยังตามส่งผลข้ามภพข้ามชาติไป จนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม การทำสมาธิภาวนาด้วยการเจริญพุทธานุสติ มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์จึงมีอานิสงส์ใหญ่ สมควรที่พวกเราทั้งหลายจะต้องฝึกให้เป็นอุปนิสัย บุญใหญ่ย่อมจะบังเกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอน มีถ้อยคำที่ชูชกได้กล่าวขอพระโอรส และพระธิดากับพระเวสสันดรว่า ห้วงน้ำซึ่งเต็มเปี่ยมตลอดเวลาย่อมไม่เหือดแห้ง ฉันใด พระองค์ก็เป็นผู้มีพระหฤทัยเต็มเปี่ยมด้วยศรัทธาฉันนั้น ข้าพระองค์มาเพื่อทูลขอพระโอรสพระธิดากับพระองค์ ขอพระองค์โปรดพระราชทานพระโอรส และพระธิดาแก่ข้าพระองค์ผู้ทูลขอเถิด เราทุกคนต่างรู้กันดีว่า การมีอุปนิสัยบัณฑิตนักปราชญ์ เป็นการพัฒนาคุณธรรมให้สูงขึ้น เป็นบันไดก้าวสู่สวรรค์ การมีอุปนิสัยเพื่อให้บรรลุมรรคผลนิพพานอันสูงส่งกว่าสวรรค์นั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง บุคคลนั้นต้องเป็นอภิมหาปราชญ์ มีใจสูงส่งกว่าบุคคลธรรมดามากนัก พระบรมโพธิสัตว์เจ้าของเรา ท่านกล้าที่จะสละได้แม้กระทั่งบุตรธิดา ซึ่งไม่มีใครในโลกทำได้ แม้เพียงแค่ความคิดยังไม่กล้าคิดกันเลย ท่านเป็นผู้กล้าให้ กล้าคิด กล้าพูด และกล้าทำความดี โดยไม่กลัวปัญหา และอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น ท่านพิชิตความตระหนี่ในตัวได้ แม้ท่านจะไม่ได้เกิดในยุคสมัยที่มนุษย์ยินดีในการบริจาค หรือในยุคที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเหมือนพวกเรา แต่พระองค์กลับทุ่มเทสร้างบารมี เพื่อจะได้เป็นแบบอย่างแก่ชาวโลก นำพามนุษยชาติ …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๐ ( ชูชกกล่าวขอโอรสธิดา ) Read More »

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๒ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน

 เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๒ )                เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เพื่อแสวงหาสิ่งที่ทำให้เราบริสุทธิ์ที่สุด บริสุทธิ์จนกระทั่งพบกับตัวตนที่แท้จริง ที่มั่นคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง และมีความสุขอย่างแท้จริง พระผู้มีพระภาคเจ้า และพระอรหันตเจ้าทั้งหลายต่างพบว่า พระรัตนตรัยเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด และมีอยู่แล้วในตัวของมนุษย์ทุกคน เป็นธรรมที่สงบ ละเอียด ประณีต ซึ่งไม่อาจจะนึกคิดหรือคาดคะเนได้ แต่เป็นสิ่งที่จะต้องปฏิบัติให้เข้าถึงเอง โดยการปรับใจให้ละเอียด ให้หยุดนิ่งไปตามลำดับ จนกระทั่งเข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน เมื่อนั้นเราจะรู้เห็นทุกสิ่งไปตามความเป็นจริง มีวาระพระบาลีใน มัจฉรีสูตรว่า   มจฺเฉรา จ ปมาทา จ         เอวํ ทานํ น ทียติ ปุญฺญมา กงฺขมาเนน         เทยฺยํ โหติ วิชานตา ยสฺเสว ภีโต น ททาติ       ตเทวาททโต ภยํ ชิฆจฺฉา จ ปิปาสา จ         ยสฺส …

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๒ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๑ ( บริจาคกัณหาชาลี )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๑ ( บริจาคกัณหาชาลี ) มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาแล้วต่างต้องตาย แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นเลิศกว่าใครในภพสาม ยังต้องทอดทิ้งพระวรกายดับขันธปรินิพพานไป ดังนั้นเราต้อง หมั่นนึกถึงความตายเสมอ จะได้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต และเร่งขวนขวายสร้างความดีในทุกรูปแบบ สิ่งใดที่ไม่เป็นสาระควรปลดปล่อยวาง ให้ใจหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่นในคน สัตว์ สิ่งของ อันเป็นสิ่งไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา มุ่งแสวงหาสิ่งที่เป็นนิจจัง เป็นสุขัง เป็นอัตตา คือ พระรัตนตรัยภายในตัวของเรา ให้พิจารณาปล่อยวางอย่างหนึ่ง เพื่อมุ่งเข้าหาอีกอย่างหนึ่ง ที่เป็นสาระแก่นสารที่แท้จริงกันทุกคน พระเวสสันดรได้กล่าวสุนทรวาจาไว้ว่า “ดูก่อนพ่อชาลีลูกรัก พ่อจงมาเพิ่มพูนบารมีของพ่อให้เต็ม จงช่วยโสรจสรงหทัยของพ่อให้เย็นชุ่มฉ่ำ ลูกรักขอลูกจงทำตามคำของพ่อ ขอลูกทั้งสองจงเป็นดังยานนาวาของพ่อไม่หวั่นไหวต่อสาครคือภพ เมื่อพ่อข้ามฝั่งคือชาติแล้ว จักยังมนุษย์ และเทวดาทั้งหลายให้ข้ามพ้นด้วย” ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ หวังจะสร้างบารมีให้แก่รอบเพื่อการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ทำกันง่ายๆ ต้องอาศัยกำลังใจที่สูงส่งจริงๆ ไม่ใช่ทำเล่นๆ ชาติไหนมีอารมณ์ก็สร้างบารมี ชาติไหนไม่พร้อมก็ไม่สร้าง อย่างนี้ไม่ถูกต้องนัก นักสร้างบารมีผู้เป็นนิยตโพธิสัตว์ที่แท้จริงนั้น ท่านจะสั่งสมบุญทุกวัน ทุกเวลานาที ทุกที่ และทุกภพทุกชาติ คือ เกิดมาสร้างบารมีอย่างเดียวเท่านั้น อย่างอื่นถือว่าเป็นเรื่องรอง เมื่อพูดถึงเฉพาะทานบารมี …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๑ ( บริจาคกัณหาชาลี ) Read More »

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๓ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๓ )         คำสอนของพระพุทธศาสนาเป็นอมตธรรมอันลํ้าค่ายิ่ง เป็นสิ่งที่สามารถนำพามนุษย์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายผู้ปฏิบัติตามให้ไปสู่ความบริสุทธิ์หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะได้อย่างแท้จริง ขึ้นอยู่กับว่าจะทุ่มเทแรงกายแรงใจ ศึกษาคำสอน และลงมือปฏิบัติมากน้อยเพียงไร กว่าพระพุทธศาสนาจะบังเกิดขึ้นมาในโลกได้ เป็นสิ่งที่ยากแสนยาก จะต้องมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้น และกว่าพระองค์จะได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมา-สัมพุทธเจ้า ท่านจะต้องทุ่มเทสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ยอมอดทนทุกอย่างเพื่อสร้างบารมีให้แก่รอบ ฉะนั้น การบังเกิดขึ้นของพระพุทธองค์จึงเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขเกื้อกูลแก่ สรรพสัตว์ เมื่อเราทำตามพุทธโอวาท ชีวิตย่อมจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน  พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ภีตสูตรว่า “วาจํ มนญฺจ ปณิธาย สมฺมา กาเยน ปาปานิ อกุพฺพมาโน   พหุนฺนปานํ ฆรมาวสนฺโต    สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทญฺญู เอเตสุ ธมฺเมสุ ฐิโต จตูสุ ธมฺเม ฐิโต ปรโลกํ น ภาเย   บุคคลตั้งวาจาและใจไว้โดยชอบ มิได้ทำบาปด้วยกาย อยู่ครอบครองเรือน ที่มีข้าว …

เดินตามทางของบัณฑิต ตอนที่ ( ๓ ) – พระภิกษุผู้รักการให้ทาน Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๒ ชนะสัจจกนิครนถ์)

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๒ ชนะสัจจกนิครนถ์) คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว เป็นสิ่งที่มีค่าเอนกอนันต์ ทุกถ้อยคำที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำสั่งสอน ชี้แนะหนทางสว่าง หากได้นำไปประพฤติปฏิบัติอย่างจริงจังแล้ว จะส่งผลให้เรามีความสุขความสำเร็จได้ในปัจจุบัน เราจะดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัยทั้งยังส่งผลต่อไปอีก คือ ให้เราได้สมบูรณ์พร้อมทั้งมนุษย์สมบัติ ทิพยสมบัติและนิพพานสมบัติ ชีวิตเราจะก้าวไปสู่ความเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ได้บรรลุมรรคผลนิพพานเพราะได้ฟังและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ดังนั้น การฟังธรรมและหมั่นฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง จึงเป็นทางมาแห่งรัตนะอันประเสริฐ คือ พระรัตนตรัยนั่นเอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในวุฏฐิสูตรว่า “วิชฺชา อุปฺปตตํ เสฏฺฐา อวิชฺชา นิปตตํ วรา สงฺโฆ ปวชมานานํ พุทฺโธ ปวทตํ วโร บรรดาสิ่งที่งอกขึ้น ความรู้เป็นสิ่งที่ประเสริฐ บรรดาสิ่งที่ตกไป อวิชชาเป็นเลิศ บรรดาสัตว์ที่เดินด้วยเท้า พระสงฆ์เป็นผู้ประเสริฐสุด บรรดาชนผู้แถลงคารม พระพุทธเจ้าเป็นผู้ประเสริฐสุด” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ทรงเป็นเลิศกว่ามนุษย์และเทวดา เป็นผู้มีวาทศิลป์ หรือเป็นนักโต้วาที เพราะพระองค์ทรงโต้วาทะ และแก้ไขปัญหาของผู้แสดงตนว่าเป็นนักปราชญ์ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ เพราะทรงแทงตลอดในทุกๆ ปัญหา …

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๒ ชนะสัจจกนิครนถ์) Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๓ ชนะสัจจกนิครนถ์)

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๓ ชนะสัจจกนิครนถ์) พื้นฐานชีวิตของมนุษย์ทุกคน ล้วนมีความทุกข์กันทั้งนั้น ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งถึงบัดนี้ เราต้องพบกับความทุกข์ และส่วนใหญ่ยังไม่เคยพบความสุขที่แท้จริง เจอแต่สภาพที่ความทุกข์ลดลงไปบ้างเป็นครั้งคราว คือ อยู่ในสภาพที่พอทนได้ แต่เราก็หลงเข้าใจว่านั่นคือความสุข แต่แท้ที่จริง เป็นแค่ความทุกข์ที่ลดลงเท่านั้น แล้วก็มัวหลงเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ไม่เป็นแก่นสาร เพื่อให้ลืมความทุกข์กันไปชั่วขณะเท่านั้น ความสุขที่แท้จริงนั้นมีอยู่ และอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม คืออยู่ภายในตัวของเราทุกๆ คน อยู่ที่ใจของเรานี่เอง ถ้าอยากพบกับความสุขต้องหยุดใจของเราให้ดี มีวาระพระบาลีที่ท่านกล่าวไว้ใน พาเวรุชาดกว่า “ยาว นุปฺปชฺชตี พุทฺโธ ธมฺมราชา ปภงฺกโร ตาว อญฺเญ อปูเชสุ ปุถู สมณพฺราหฺมเณ ฯ ยทา จ สรสมฺปนฺโน พุทฺโธ ธมฺมํ อเทสยิ อถ ลาโภ จ สกฺกาโร ติตฺถิยานํ อหายถาติ ฯ พระพุทธเจ้าผู้เป็นพระธรรมราชา ผู้ส่องแสงสว่างไสว ยังไม่เสด็จอุบัติขึ้น …

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๓ ชนะสัจจกนิครนถ์) Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า(ตอนที่ ๔ ชนะสัจจกนิครนถ์)

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๔ ชนะสัจจกนิครนถ์) ความเห็นถูกจะเป็นต้นทางของความคิดถูก ซึ่งจะทำให้ความคิดก็เริ่มมีระบบระเบียบแบบแผนที่ดี มีความคิดในทางสร้างสรรค์ คิดที่จะพ้นทุกข์และให้พบสุขที่แท้จริง กระทั่งมีความคิดที่สมบูรณ์ที่จะมุ่งตรงไปสู่อายตนนิพพาน ซึ่งจะแตกต่างจากความคิดเดิมๆ ที่คิดอยากจะเป็นใหญ่ อยากจะครองโลก ครองสมบัติ ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วก็เบียดเบียนกัน แก่งแย่งชิงดีกัน ต่อเมื่อหยุดใจไว้ตรงกลางกายฐานที่ ๗ได้แล้ว ความคิดเห็นจึงจะถูกต้องสมบูรณ์ เพราะเกิดปัญญาบริสุทธิ์คิดที่จะออกจากทุกข์ สิ่งใดที่เป็นเครื่องร้อยรัดเป็นพันธนาการของชีวิตก็จะปลดปล่อยวาง และมุ่งตรงต่อหนทางพระนิพพาน มุ่งไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง การเจริญสมาธิภาวนาด้วยการทำใจหยุดนิ่งเป็นประจำสมํ่าเสมอ จะทำให้ปัญญาสมบูรณ์ มีความคิด คำพูดและการกระทำที่สมบูรณ์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในอังคุตตรนิกาย เอกนิบาตว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความปรากฏขึ้นแห่งบุคคลเอก เป็นความปรากฏแห่งจักษุใหญ่ แห่งแสงสว่างใหญ่ แห่งโอภาสใหญ่ แห่งอนุตตริยะ เป็นการกระทำให้แจ้งซึ่งปฏิสัมภิทา ๔ เป็นการแทงตลอดธาตุธรรม เป็นการกระทำให้แจ้งซึ่งผล คือวิชชาและวิมุตติ เป็นการทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตผล บุคคลเอกผู้นั้น คือพระตถาคต-อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า“ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เริ่มต้นคือเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้เป็นมนุษย์ธรรมดา และเคยใช้ชีวิตครองเรือนดังชาวโลกทั่วไป แต่ที่เราเคารพนับถือพระองค์ ยึดท่านเป็นบรมครู และเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดนั้น …

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า(ตอนที่ ๔ ชนะสัจจกนิครนถ์) Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๕ ชนะสัจจกนิครนถ์)

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๕ ชนะสัจจกนิครนถ์) การฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง เป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตของเราทุกคน เพราะชีวิตของผู้มีใจหยุดดีแล้ว เป็นชีวิตที่ประเสริฐ มีพลัง มีความบริสุทธิ์ มีอานุภาพที่จะทำความดี เอาชนะความชั่ว ขจัดความไม่บริสุทธิ์ ทำให้เราได้เข้าถึงธรรมที่มุ่งตรงไปสู่จุดหมายปลายทางคือพระนิพพาน เพราะฉะนั้นใจหยุดนิ่ง จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เราเกิดมาชาตินี้ จะต้องฝึกใจให้หยุดนิ่งให้ได้ หยุดใจได้สมบูรณ์ บุคคลนั้นย่อมได้ชื่อว่า เป็นผู้สมปรารถนาในชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มาสร้างบารมีอย่างแท้จริง มีวาระพระบาลีที่ท่านกล่าวไว้ใน เอกบุคคล ว่า “เอกปุคฺคโล ภิกฺขเว โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อทุติโย อสหาโย อปฺปฏิโม อปฺปฏิสโม อปฺปฏิภาโค อปฺปฏิปุคฺคโล อสโม อสมสโม ทิปทานํ อคฺโค กตโม เอกปุคฺคโล ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ บุคคลเอก เมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้นแบบไม่เป็นที่สองรองใคร ไม่มีใครเช่นกับพระองค์ ไม่มีใครเปรียบ ไม่มีส่วนเปรียบ ไม่มีใครเสมอด้วยพระพุทธเจ้า ผู้เป็นเลิศกว่าชนทั้งหลาย …

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๕ ชนะสัจจกนิครนถ์) Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๖ ชนะสัจจกนิครนถ์)

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๖ ชนะสัจจกนิครนถ์ ) ความสุขหรือความทุกข์ที่ทุกคนได้รับในปัจจุบันชาติ ล้วนเป็นผลมาจากกรรมที่ได้ทำไว้ในอดีตชาติ ผู้ที่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ดี มีเพียงพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ และผู้มีรู้มีญาณเท่านั้น เพราะท่านเหล่านั้นเป็นผู้มีใจหยุดนิ่งได้อย่างสมบูรณ์ สามารถระลึกชาติได้ มีอนาคตังสญาณ รู้ไปถึงอนาคตได้ และกฏแห่งกรรมเป็นกฏสากล สิ่งใดที่เราทำไว้ ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล ไม่ได้สูญหายไปไหน ต้องส่งผลอย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว การนั่งสมาธิเจริญภาวนา เป็นกรรมฝ่ายกุศลที่จะส่งผลให้เราพ้นทุกข์ พ้นจากอาสวกิเลสและเข้าถึงที่พึ่งภายใน คือ พระรัตนตรัย สัจจกนิครนถ์ได้ชมเชยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งปรากฏใน มหาสัจจกสูตร ว่า “พระโคดมผู้เจริญ ข้าพเจ้าเป็นผู้ปรารภโต้ตอบวาทะกับท่านปูรณะกัสสป ท่านมักขลิโคสาล ท่านอชิตเกสกัมพล ท่านปกุธะกัจจายนะ ท่านสัญชัยเวลัฏฐบุตร ท่านนิครนถ์นาฏบุตร แม้ท่านเหล่านั้นปรารภโต้ตอบวาทะกับข้าพเจ้า ก็เอาเรื่องอื่นมาพูดกลบเกลื่อนเสีย และชักนำให้พูดนอกเรื่อง ทั้งทำความขัดเคืองขุ่นมัวให้ปรากฏ ส่วนพระโคดมผู้เจริญอันข้าพเจ้ามาสนทนากระทบกระทั่ง ทั้งไต่ถามด้วยถ้อยคำที่ปรุงแต่งอย่างนี้ ก็มีผิวพรรณสดใส ทั้งมีสีหน้าเปล่งปลั่ง เพราะพระองค์เปี่ยมด้วยมหากรุณา เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า” นี้เป็นถ้อยคำของนักปราชญ์ผู้ถือตัว ผู้เป็นอาจารย์ของพระราชามหากษัตริย์ แต่ต้องยอมรับในพุทธปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยใจที่เลื่อมใสจริงๆ เพราะตนเองเคยดั้นด้นไปสอบถามเจ้าลัทธิต่างๆ พบแต่ความว่างเปล่า มีคำสอนที่หาสาระไม่ได้ ครั้นได้โต้วาทะกับพระพุทธเจ้า รู้ทันทีว่าไม่มีใครจะเสมอเหมือนพระพุทธองค์ …

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๖ ชนะสัจจกนิครนถ์) Read More »

ผู้ชนะสิบทิศ จักรพรรดิราชติโลกวิชัย ตอนที่ ๑ ( จอมจักรพรรดิราช )

ผู้ชนะสิบทิศ ตอนที่ ๑ ( จอมจักรพรรดิราช ) การปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนา คือ การทำใจหยุดใจนิ่ง กลั่นใจของเราให้บริสุทธิ์ผ่องใส เพราะใจที่บริสุทธิ์ผ่องใสจะเป็นใจที่ละเอียด นุ่มนวลควรแก่การงาน ที่เราจะนำใจของเราดำเนินเข้าสู่เส้นทางสายกลาง เพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เมื่อได้เข้าถึงพระรัตนตรัยแล้ว ความสุขที่เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ เป็นเอกันตบรมสุขย่อมจะบังเกิดขึ้นในชีวิต จะทำให้ชีวิตปลอดภัย ทั้งภัยในปัจจุบันนี้และภัยในสังสารวัฏ มีวาระแห่งภาษิตใน ตรณิยเถราปทาน ความว่า พืชแม้น้อย แต่หว่านลงในนาดี เมื่อฝนตกอยู่โดยชอบ ผลผลิตย่อมทำชาวนาให้ยินดี แม้ฉันใด พุทธเขตที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้นี้ ก็ฉันนั้น เมื่อกระแสธาร แห่งบุญเพิ่มขึ้นโดยชอบ ผลนั้นจักทำเราให้ยินดี การสร้างบุญบารมีที่ถูกเนื้อนาบุญ เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด เพราะจะทำให้เราได้ประสบกับอานิสงส์ยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณ สุดยอดแห่งเนื้อนาบุญ คือ การได้สร้างบุญกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมัยที่พระองค์ยังสร้างบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านได้สร้างบุญไว้ในพุทธเขตแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้พระองค์จะเกิดมามีฐานะที่ยิ่งใหญ่เป็นถึงจอมจักรพรรดิราช ท่านก็ไม่ประมาทในการสร้างบุญ *ดังเช่นในสมัยที่พระองค์บังเกิดเป็นจอมจักรพรรดิราชติโลกวิชัย และเรื่องนี้มีสาเหตุที่ทำให้ พระพุทธองค์ตรัสถึงดังนี้ วันหนึ่ง พระอานนท์ได้ทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันวิหารว่า ” ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระสัพพัญญูพุทธเจ้ามีอยู่ พระสัพพัญญูพุทธเจ้าเหล่านั้นเป็นนักปราชญ์ได้เพราะเหตุอะไร ” พระบรมศาสดาตรัสตอบว่า …

ผู้ชนะสิบทิศ จักรพรรดิราชติโลกวิชัย ตอนที่ ๑ ( จอมจักรพรรดิราช ) Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๗ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๑ ชนะนันโทปนันทนาคราช)

ชัยชนะครั้งที่ ๗ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๑ ชนะนันโทปนันทนาคราช) ความทุกข์เป็นสิ่งที่มาพร้อมกับการเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกชีวิตต่างปรารถนาความสุข แสวงหาความหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ทั้งที่หนทางแห่งความหลุดพ้นที่แท้จริงอยู่ตรงไหน จะเข้าถึงได้อย่างไรนั้นยังไม่มีผู้ใดรู้ ต่อเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ทรงชี้แจงแสดงธรรมให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้เห็นแจ้งในหนทางแห่งความดี ด้วยการให้ทาน รักษาศีลและเจริญภาวนา เป็นต้น สรรพชีวิตจึงรู้วิธีที่จะเข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้ ดังนั้น การที่เราสั่งสมบุญด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา นับว่าเราได้ทำถูกต้องตามคำสอนของพระบรมศาสดา สมควรที่จะทำให้ยิ่งๆ ขึ้นไป อย่าได้ประมาท ให้ทำด้วยความสุข ทำด้วยความเบิกบานใจและให้มีปีติในบุญทุกครั้งที่ได้ทำไปเสมอ ในชัยมังคลกถาบทที่ ๗ พระโบราณาจารย์ได้รจนาไว้ว่า “นนฺโทปนนฺทภุชคํ วิพุธํ มหิทฺธึปุตฺเตน เถรภุชเคน ทมาปยนฺโตอิทฺธูปเทสวิธินา ชิตวา มุนินฺโทตนฺเตชสา ภวตุ เต ชยมงฺคลานิ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจอมมุนี ทรงโปรดให้พระโมคคัลลานเถระพุทธชิโนรส ไปปราบนันโทปนันทนาคราช ผู้มีความรู้ผิด มีฤทธิ์มาก ด้วยวิธีให้แสดงฤทธิ์ ทรมาน ให้สิ้นฤทธิ์ ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงเกิดมีแก่ท่าน” ครูบาอาจารย์ทั้งหลายในโลกนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่พิมพ์ของชาติ หรือผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าลัทธิ …

ชัยชนะครั้งที่ ๗ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๑ ชนะนันโทปนันทนาคราช) Read More »