ธรรมะเพื่อประชาชน

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๗)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๗) ชีวิตของคนเราที่เกิดมา บางครั้งก็ประสบความสำเร็จ บางครั้งก็ต้องประสบกับความทุกข์ ความล้มเหลว อย่างไรก็ตาม ขอเพียงแต่ให้เรามีพลังใจที่เข้มแข็ง กล้าหาญ อดทน พร้อมที่จะเผชิญกับอุปสรรค และปัญหาทั้งหลาย แล้วหมั่นสั่งสมความดีอย่างไม่ย่อท้อ และตรึกระลึกถึงบุญที่ทำไว้อยู่เสมอ บุญนั้นจะช่วยเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ช่วยขจัดปัญหาที่มีอยู่ให้หมดสิ้นไป ดังนั้น อย่าเสียเวลาไปท้อแท้ใจ หรือหมดกำลังใจ แต่ให้มีสติสัมปชัญญะ และรู้จักใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา ยามใดที่เราพบเจอปัญหา ใหัน้อมนำใจกลับมาตั้งไว้ที่ต้นแหล่งแห่งบุญคือ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ทำใจให้หยุดนิ่งอย่างเบาสบาย  เมื่อใจสงบเราจะพบทางออกที่ดีที่สุดได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทานสูตร ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าสัตว์ทั้งหลายพึงรู้ผลแห่งการจำแนกทานเหมือนอย่างที่เรารู้ไซร้ สัตว์ทั้งหลายยังไม่ให้และจะไม่พึงบริโภค อนึ่ง ความตระหนี่อันเป็นมลทินจะไม่พึงครอบงำจิตของสัตว์เหล่านั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะสัตว์ทั้งหลายไม่รู้ผลแห่งการจำแนกทานเหมือนอย่างที่เรารู้ ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงไม่ให้ แล้วบริโภคเสียเอง อนึ่ง ความตระหนี่อันเป็นมลทินจึงยังครอบงำจิตของสัตว์เหล่านั้น” ที่ผ่านมาหลวงพ่อได้นำอัตชีวประวัติโดยพิสดารของมหาเศรษฐีผู้มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่องคือ ท่านเมณฑกเศรษฐี มากล่าวไว้ให้ได้รับทราบติดต่อกันแล้วหลายตอน เพื่อให้ตระหนักถึงอานิสงส์ของการให้ทาน ว่ามีอิทธิพลต่อชีวิตในสังสารวัฏอย่างมาก ท่านเมณฑกเศรษฐีเห็นคุณค่าของการให้ทานยิ่งกว่าชีวิต  นับว่าเป็นบุคคลผู้กล้าที่หาได้ยากในโลก ท่านยอมสละชีวิตเพื่อแลกกับการให้ทาน เพราะฉะนั้น เมื่อท่านทำในสิ่งที่ทำได้โดยยาก ชีวิตของท่านจึงได้ในสิ่งที่คนทั่วไปได้โดยยาก ในครั้งนี้ก็มาถึงตอนสุดท้ายกันแล้ว จากครั้งที่แล้ว …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๗) Read More »

ชฎิลเศรษฐี ผู้มีภูเขาทอง

ชฎิลเศรษฐี ผู้มีภูเขาทอง การปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดทั้งต่อตัวของเราเองและต่อชาวโลก การสร้างสันติสุขที่แท้จริงให้บังเกิดขึ้น จะต้องเริ่มต้นจากตัวของมนุษย์ทุกๆ คน เพราะทุกคนมีธรรมกายอยู่ภายในตัว ไม่ว่าจะเป็นชาติไหน ภาษาไหน หรือจะมีความเชื่ออย่างไร ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์แล้ว สามารถเข้าถึงธรรมกายได้ทั้งนั้น และจะเข้าถึงได้ก็ต่อเมื่อฝึกฝนใจให้หยุดนิ่งอย่างถูกวิธี ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ขอเพียงมีความพอใจ และมีความเพียรอย่างสมํ่าเสมอ ย่อมเข้าถึงได้ทุกคน มีวาระพระบาลีที่มีมาใน ขุททกนิกาย สคาถวรรค ว่า “สาธุ โข มาริส ทานํ    อปฺปกสฺมึปิ สาหุ ทานํ สทฺธายปิ สาหุ ทานํ    ธมฺมลทฺธสฺสปิ สาหุ ทานํ วิเจยฺยทานํปิ สาธุ      อปิจ ปาเณสุปิ สาธุ สํยโม ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้แล แม้เมื่อของที่จะให้มีอยู่น้อย ทานก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ การให้ทานที่ให้แม้ด้วยศรัทธาก็ให้ประโยชน์สำเร็จได้ ทานที่ให้แก่บุคคลผู้มีธรรมอันได้แล้ว ยิ่งเป็นการดี อนึ่ง ทานที่บุคคลเลือกให้ ยิ่งเป็นการดี และความสำรวมแม้ในสัตว์ทั้งหลายยิ่งเป็นการดี” …

ชฎิลเศรษฐี ผู้มีภูเขาทอง Read More »

ปุณณเศรษฐี ผู้ไถนาเป็นทอง

ปุณณเศรษฐี ผู้ไถนาเป็นทอง พระรัตนตรัย คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ สามสิ่งนี้เท่านั้นที่เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดของเรา ผู้ใดก็ตามระลึกถึงรัตนะทั้งสาม หากยามมีทุกข์ก็สามารถบำบัดทุกข์ เมื่อมีสุขแล้วก็เพิ่มเติมความสุขได้ เพราะพระรัตนตรัยเป็นแหล่งรวมแห่งความสุข ความบันเทิง ความเบิกบานใจ ซึ่งมีอยู่ภายในตัวของเราทุกๆ คน หากทุกคนในโลกเข้าถึงสรณะอันสูงสุดนี้ได้ ความทุกข์ทั้งหลายจะดับหมด เพราะได้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ที่ท่านเรียกว่า เอกันตบรมสุข คือเป็นสุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือปนเลย การจะเข้าถึงรัตนะทั้งสามนี้ได้ ต้องทำใจให้หยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เท่านั้น มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า “ตสฺมา วิเนยฺย มจฺเฉรํ    ทชฺชา ทานํ มลาภิภู ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ      ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ บุคคลควรกำจัดความตระหนี่อันเป็นสนิมในใจ ให้ทานเถิด เพราะบุญทั้งหลาย ย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า” การให้เป็นอริยะประเพณีที่ผู้รู้ทรงสรรเสริญ แม้เราจะรู้ว่าการให้ทานเป็นสิ่งที่ดี แต่การทำทานที่จะให้ได้ผลมาก เป็นมหาทานบารมีนั้น ผู้ให้จะต้องรู้จักวิธีการให้ทานที่ถูกต้อง และทำถูกเนื้อนาบุญด้วย การทำทานที่จะให้ได้ผลมาก ใจของเราจะต้องใสสะอาดบริสุทธิ์ …

ปุณณเศรษฐี ผู้ไถนาเป็นทอง Read More »

รูปนันทาเถรี

รูปนันทาเถรี ธรรมดาของสรรพสัตว์ และสรรพสิ่งทั้งหลาย ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อม แม้แต่ชีวิตของเราก็เสื่อมไปตามลำดับ จากวัยทารกไปสู่วัยเด็ก วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว วัยกลางคน วัยแก่ชรา นั่นเป็นความเสื่อมที่เรามองเห็นได้ เราถูกความเสื่อมครอบงำแล้วนำไปสู่ความตาย คือในที่สุดทุกชีวิตต้องเสื่อมสลายไปสู่ความตายหมด เพราะฉะนั้นเราไม่ควรประมาทในการดำเนินชีวิต ควรมองให้เห็นโทษของความเสื่อมนั้น จะได้คลายจากความยึดมั่นถือมั่นในโลกทั้งปวง แล้วแสวงหาหนทางแห่งความหลุดพ้นมุ่งสู่พระนิพพานกันทุกคน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อรรถกถาขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ว่า “อฏฺฐินํ นครํ กตํ          มํสโลหิตเลปนํ ยตฺถ ชรา จ มจฺจุ จ          มาโน มกฺโข จ โอหิโต สรีระอันกรรมทำให้เป็นนครแห่งกระดูกทั้งหลาย ฉาบด้วยเนื้อและโลหิต เป็นที่ตั้งลงแห่งชรา มรณะ มานะ และการลบหลู่คุณท่าน” ร่างกายของมนุษย์นั้น ถ้าเราใช้ปัญญาที่บริสุทธิ์พิจารณาให้ดีจะเห็นว่า เป็นสิ่งที่ประกอบขึ้นมาด้วยธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ จะหยาบหรือประณีต ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะใจของผู้เป็นเจ้าของ ถ้ามีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์ดีงาม …

รูปนันทาเถรี Read More »

พุทธชิโนรส (๒) – พระราหุลเถระ

พุทธชิโนรส (๒) บุญคือ ทุกสิ่งของชีวิต เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จ ตั้งแต่ปุถุชนไปจนถึงพระอริยเจ้า บุญเปรียบเสมือนกระแสไฟฟ้าที่สามารถทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทำงานได้ พระนิพพานซึ่งเปรียบเสมือนโรงผลิตกระแสไฟฟ้าที่คอยจ่ายกระแสบุญมาที่ศูนย์กลางกายของมนุษย์ หากมนุษย์คนใดทำใจหยุดใจนิ่งที่ศูนย์กลางกายได้ ก็จะไปเชื่อมกระแสบุญกับพระนิพพาน เมื่อบุญในตัวเกิด บุญนี้จะไปดึงดูดสมบัติอันเลิศในเมืองมนุษย์ ให้เราได้ใช้สร้างบารมี ปรารถนาสิ่งใดจะสมความปรารถนา ทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ยิ่งถ้าเราเข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน ใจจะชุ่มอยู่ในอู่แห่งทะเลบุญ จะดึงดูดสมบัติมาทั้งหยาบและละเอียด ทำให้เราได้สมปรารถนาในทุกสิ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน คาถาธรรมบท ว่า “ทิโส ทิสํ ยนฺตํ กยิรา   เวรี วา ปน เวรินํ มิจฺฉาปณิหิตํ จิตฺตํ      ปาปิโย นํ ตโต กเร จิตซึ่งบุคคลตั้งไว้ผิด พึงทำบุคคลนั้น ให้เลวทรามยิ่งกว่าความพินาศเสียหาย ที่โจรเห็นโจร หรือคนจองเวรเห็นคนจองเวรทำแก่กันนั้นเสียอีก” การเดินทางไกลในสังสารวัฏ เราจำเป็นที่จะต้องตั้งเป้าหมายให้ถูกต้องและชัดเจน เพราะเป้าหมายที่ผิดพลาดหมายถึง การสูญเสียเวลาและโอกาสในสร้างบารมี โจรหรือบุคคลผู้ไม่ปรารถนาดีต่อกัน จะประสงค์ร้ายหรือทำร้ายกัน อย่างมากก็แค่ให้ถึงแก่ชีวิตในภพชาติปัจจุบันนี้เท่านั้น แต่เป้าหมายที่บุคคลตั้งไว้ผิด ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายข้ามภพข้ามชาติ …

พุทธชิโนรส (๒) – พระราหุลเถระ Read More »

กิสาโคตมีเถรี

กิสาโคตมีเถรี เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เพื่อแสวงหาสิ่งที่จะทำให้ใจเราสะอาดบริสุทธิ์ที่สุด บริสุทธิ์จนกระทั่งพบกับตัวตนที่แท้จริง ที่มั่นคงที่สุด และมีความสุขที่สุด พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าพระรัตนตรัยเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด ซึ่งอยู่ในตัวของเรา ในระดับที่ละเอียดลุ่มลึกเข้าไปเป็นลำดับ เป็นธรรมที่สงบ ละเอียด ประณีต เป็นธรรมะลึกซึ้ง เราจะนึกคิดหรือคาดคะเนเอาว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึง หากเมื่อใดที่เราสามารถปรับใจที่หยาบให้ละเอียดลุ่มลึกไปตามลำดับ เข้าถึงแหล่งของสติ แหล่งของปัญญา เมื่อนั้นเราย่อมรู้เห็นธรรมทั้งหลายไปตามความเป็นจริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า “ตํ ปุตฺตปสุสมฺมตฺตํ     พฺยาสตฺตมนสํ นรํ สุตฺตํ คามํ มโหโฆว     มจฺจุ อาทาย คจฺฉติ มฤตยูย่อมพาเอานรชน ผู้มัวเมาในลูก และสัตว์เลี้ยง ผู้มีใจข้องอยู่ในอารมณ์ต่างๆ ไป เหมือนห้วงน้ำใหญ่ พัดพาเอาชาวบ้านที่หลับใหลไปฉะนั้น” หากเราพิจารณาให้ดี จะเห็นว่า สรรพสิ่งทั้งปวงที่มีอยู่ในโลกนี้ จะเป็นสิ่งที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม ล้วนมีความไม่เที่ยง แปรปรวนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อม แล้วสูญสลายไปในที่สุด ความเสื่อมเกิดขึ้นตลอดเวลา สืบเนื่องติดต่อกันจนเราสังเกตไม่ออก จะเป็นความงดงามของร่างกายก็เสื่อม สติปัญญาก็เสื่อม ความแจ่มใสของดวงตาก็เสื่อม …

กิสาโคตมีเถรี Read More »

พุทธชิโนรส (๓) – พระราหุลเถระ

พุทธชิโนรส (๓) เวลาเป็นสิ่งที่เราควรหวงแหนไว้ เพราะเรามีเวลาที่จะอยู่บนโลกนี้อย่างจำกัด การเสียเวลาของชีวิตจึงเป็นการสูญเสียสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่ง เวลาที่เราเสียไปแล้วจะเอาทรัพย์นับพันล้านมาแลกกลับคืนมาก็ไม่ได้ และเมื่อเวลาผ่านไปก็ได้นำความแก่ ความเจ็บ และความตายมาให้ นั่นหมายถึงโอกาสและเวลาในการสร้างบารมีของเราเหลือน้อยลงแล้ว ดังนั้น เวลาจึงหมายถึงชีวิต หมดเวลาคือหมดชีวิต เราเองไม่รู้ว่าเราจะเหลือเวลาอีกเท่าไร มากหรือน้อยขนาดไหน เพราะความตายนั้นไม่มีนิมิตหมาย ดังนั้น เมื่อเรารู้อย่างนี้ จึงควรใช้เวลาที่ยังเหลืออยู่น้อยนี้ ในการแสวงหาหนทางพระนิพพาน ด้วยการทำใจให้บริสุทธิ์หยุดนิ่ง ให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในให้ได้ เราจะได้ชื่อว่าเกิดมาใช้เวลาได้คุ้มค่าอย่างแท้จริง มีวาระพระบาลีที่ตรัสไว้ใน จิตตวรรค คาถาธรรมบท ว่า “น ตํ มาตา ปิตา กยิรา    อญฺเญ วา จ ญาตกา สมฺมาปณิหิตํ จิตฺตํ        เสยฺยโส นํ ตโต กเรฯ มารดาบิดาหรือว่าหมู่ญาติทั้งหลาย ไม่พึงทำเหตุนั้นให้ได้ แต่จิตที่บุคคลตั้งไว้ชอบ พึงทำบุคคลนั้นให้ประเสริฐกว่าเหตุนั้น” มารดาบิดาหรือหมู่ญาติ ให้การเลี้ยงดูบุตรธิดา ให้การศึกษา ให้ทรัพย์สมบัติ เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตในปัจจุบันชาติได้อย่างสบาย แต่ไม่มีมารดาบิดาคนใดในยุคปัจจุบันนี้ …

พุทธชิโนรส (๓) – พระราหุลเถระ Read More »

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (บรรลุธรรม)

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (บรรลุธรรม) ตถาคต คือ ธรรมกาย ตถาคตเป็นชื่อของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การที่เราระลึกถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้สมบูรณ์พร้อมด้วยวิชชาและจรณะ จะทำให้ใจเราผูกพันกับพระพุทธองค์ ใจจะบริสุทธิ์ผ่องใส ถ้าเรานึกถึงท่านตลอดเวลา ดวงจิตจะถูกปรับปรุงให้บริสุทธิ์ขึ้น ยิ่งสะอาดบริสุทธิ์ใจยิ่งมีอานุภาพ ความบริสุทธิ์เป็นทางมาแห่งมหากุศล จะบริสุทธิ์ได้ใจต้องหยุดนิ่ง เพราะฉะนั้น การทำภาวนาจึงเป็นการชำระใจให้สะอาดบริสุทธิ์ที่ดีที่สุด พระสัมมาสัมสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน สามัญญผลสูตร ว่า “ผู้ใดยึดเอาพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะ ผู้นั้นเห็นอริยสัจ ๔ ด้วยปัญญาอันชอบ สรณะของผู้นั้นเป็นสรณะอันเกษม เป็นสรณะอันสูงสุด บุคคลอาศัยสรณะนี้แล้ว ย่อมหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้” ที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดของมวลมนุษยชาติ ไม่มีสิ่งอื่นใดที่จะประเสริฐยิ่งไปกว่าพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ๓ อย่างนี้เท่านั้นที่เราพึ่งแล้วสามารถพ้นจากทุกข์ได้ ถ้าเราหมั่นระลึกถึงท่านอยู่เสมอ ใจเราจะสะอาดบริสุทธิ์เพิ่มขึ้น จะเป็นเหตุให้ใจเราละเอียดอ่อน และเข้าถึงพระรัตนตรัย และเมื่อเราปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์อย่างถูกต้อง เราจะรู้เห็นไปตามความเป็นจริงที่เรียกว่า อริยสัจ เห็นด้วยปัญญาอันชอบ ซึ่งเป็นปัญญาที่นำไปสู่ความหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง พระพุทธหรือพุทธรัตนะมีลักษณะเป็นกายแก้ว สมบูรณ์ด้วยลักษณะมหาบุรุษทุกประการ ประทับนั่งขัดสมาธิคู้บังลังก์อยู่ในกลางตัวของเราทุกคน เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวของมนุษย์ทุกคน พระธรรมหรือธรรมรัตนะเป็นดวงธรรมใสสว่างอยู่กลางพุทธรัตนะ พระสงฆ์หรือสังฆรัตนะเป็นกายธรรมที่ละเอียดซ้อนอยู่ในกลางธรรมรัตนะ  รัตนะทั้ง …

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (บรรลุธรรม) Read More »

พุทธชิโนรส (๔) – พระราหุลเถระ

พุทธชิโนรส (๔) ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นอนุสาวรีย์แห่งความเพียรพยายาม ต้องทุ่มเทพลังกายพลังใจมุ่งไปสู่จุดหมายปลายทาง ทุกสิ่งทุกอย่างจะสำเร็จได้ด้วยความเพียร มิใช่วาสนาโชคชะตา เนื้อกวางจะเข้าปากราชสีห์ซึ่งกำลังหลับอยู่ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นบุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร ดังนั้นเราต้องเร่งประพฤติปฏิบัติธรรมกันให้เต็มที่ แข่งกับเวลาที่เหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ ถ้าเราไม่ประมาทในการปฏิบัติธรรม ไม่ผัดวันประกันพรุ่งอีกต่อไป ความเพียรที่คิดว่าจะทำในวันพรุ่งนี้ให้เร่งรีบทำเสียตั้งแต่วันนี้ ส่วนความเพียรที่คิดว่าจะทำในวันนี้ ก็ให้ทำเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพราะเราไม่รู้ว่าชั่วโมงต่อไปจะมีสำหรับเราหรือไม่ วินาทีนี้เท่านั้นที่เรายังมีลมหายใจอยู่ ฉะนั้น ให้พวกเราทุกคนหมั่นทำใจให้หยุดให้นิ่ง ทำใจให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่ภายใน ให้ตั้งใจมั่นว่าเราจะทำความเพียรกัน จนกว่าเราจะเข้าถึงพระธรรมกายภายในให้ได้ มีเถรวาทะที่พระราหุลเถระกล่าวไว้ใน มัชฌิมนิกาย ว่า “พระตถาคตผู้มีพระปัญญาเฉลียวฉลาด ทรงสมบูรณ์ด้วยศีล ทรงรักษาเราเหมือนนกต้อยตีวิด พึงรักษาไข่ เหมือนเนื้อจามรีรักษาขนหางสูงสุดฉะนั้น” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต พระองค์ผ่านชีวิตมาทุกระดับชั้น ตั้งแต่ต่ำสุดจนกระทั่งสูงสุด สุดท้ายทรงสรุปว่าชีวิตสมณะเป็นชีวิตที่ดีที่สุด พระนิพพานเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุด เมื่อพระองค์จะทรงมอบสมบัติให้แก่ราหุลกุมาร ซึ่งเป็นดุจแก้วตาดวงใจที่พระองค์ทรงรัก และห่วงใย เหมือนดังจามรีที่รักษาขนหางยิ่งกว่าชีวิตของตน เมื่อจะมอบสิ่งใดให้ สิ่งนั้นจะต้องเป็นสิ่งที่พระองค์พิจารณาแล้วว่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุดประเสริฐที่สุด ดังนั้น จึงมอบหนทางอันประเสริฐที่สุดคือ การให้บวชเป็นสมณะ และมอบสมบัติอันลํ้าค่าที่สุดคือ นิพพานสมบัติ อันประเสริฐกว่าสมบัติใดๆ ในภพทั้งสาม * เมื่อครั้งก่อนได้กล่าวถึงตอนที่ราหุลกุมารประสูติ พร้อมกันกับเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช …

พุทธชิโนรส (๔) – พระราหุลเถระ Read More »

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (ยอดกัลยาณมิตร)

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (ยอดกัลยาณมิตร) เส้นทางยาวไกลในสังสารวัฏ เป็นเส้นทางที่จะต้องสั่งสมบุญบารมีให้มากๆ เพราะบุญกุศลไม่ใช่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจะมองข้าม หรือประมาทคิดว่า จะทำเมื่อไรก็ได้ หรือไม่ทำก็ได้ เพราะกว่าที่เราจะไปถึงเป็นหมายที่แท้จริงของชีวิตคือ ปราบอาสวกิเลสให้หมดสิ้นได้นั้น ไม่ใช่เรื่องพอดีพอร้าย  หากเรายังเป็นผู้ที่ประมาทอยู่ ไม่เร่งสั่งสมบุญ และทำความเพียรด้วยการทำใจหยุดนิ่งควบคู่กันไป เส้นทางนั้นก็ยิ่งจะยาวไกลออกไป ดังนั้น การสั่งสมบุญควบคู่ไปกับการหมั่นประพฤติปฏิบัติธรรม จึงเป็นภารกิจหลักที่เราต้องหมั่นทำเป็นประจำสม่ำเสมอ มีวาระแห่งสุภาษิตปรากฏอยู่ใน ขุททกนิกาย ชาดก ความว่า “ผู้ใดถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะแล้ว เห็นอริยสัจ ๔ ด้วยปัญญาอันชอบ คือ ทุกข์ และตัณหาอันเป็นแดนเกิดขึ้นแห่งทุกข์ ความก้าวล่วงทุกข์ และมรรคมีองค์ ๘ อันไปจากข้าศึก ให้ถึงพระนิพพานเป็นที่เข้าไประงับทุกข์ นี้แลเป็นสรณะอันเกษม นี้เป็นสรณะอันอุดม บุคคลอาศัยสิ่งนี้แล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้” ผู้ใดก็ตามที่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ชีวิตของบุคคลนั้นย่อมเป็นอยู่อย่างมีความสุข ในอดีตกาลมีพระอริยสาวกมากมาย ที่ท่านเข้าถึงพระรัตนตรัย แล้วต้องการที่จะให้เพื่อนร่วมโลกได้เข้าถึงจุดแห่งบรมสุขที่ท่านเข้าถึง หลวงพ่อจะขอกล่าวถึงบุคคลสำคัญของโลกที่มีหัวใจยอดกัลยาณมิตรคือ นอกจากจะสร้างบุญด้วยตนเองแล้ว ยังชักชวนให้เพื่อนพ้องได้มาสู่เส้นทางธรรมที่ถูกต้อง * บุคคลท่านนี้ ท่านเป็นมหาเศรษฐี เป็นผู้ที่ประชาชน …

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (ยอดกัลยาณมิตร) Read More »

พุทธชิโนรส (๕) – พระราหุลเถระ

พุทธชิโนรส (๕) การที่เราศึกษาเล่าเรียนเพียงเพื่อใช้แสวงหาทรัพย์ในการหล่อเลี้ยงสังขารร่างกายให้มีชีวิตรอดต่อไปได้นั้น แม้มีชีวิตรอดจริงแต่ยังไม่ปลอดภัย แต่ความรู้ทางธรรมเราไม่รู้ไม่ได้ ถ้าไม่รู้ชีวิตไม่ปลอดภัย ทั้งภัยในอบายภูมิ และภัยในสังสารวัฏ เหมือนอาหารถ้าเราไม่รับประทานก็ตาย ความรู้ทางธรรมถ้าไม่ศึกษาก็ตายเช่นกันคือ ตายจากกุศลความดี เหินห่างจากหนทางพระนิพพาน บางทีอาจต้องไปรับทุกข์ทรมานในอบายภูมิสิ้นกาลนาน เพราะฉะนั้น การศึกษาทางธรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ จะรู้แจ้งเห็นจริงได้ต้องอาศัยพระธรรมกายภายใน เมื่อเราเข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน ได้ศึกษาวิชชาธรรมกาย เราจะรู้เรื่องราวของโลก และชีวิตที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา สิ่งที่เป็นความลับจะถูกเปิดเผยออกมา ไม่มีสิ่งใดที่เป็นความลับสำหรับผู้รู้แจ้งภายใน มีวาระพระบาลีที่ตรัสไว้ ในคาถาธรรมบท ว่า “มุหุตฺตมปิ เจ วิญฺญู    ปณฺฑิตํ ปยิรุปาสติ ขิปฺปํ ธมฺมํ วิชานาติ    ชิวฺหา สูปรสํ ยถา ถ้าวิญญูชนเข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตแม้เพียงครู่เดียว เขาย่อมรู้แจ้งธรรมได้ฉับพลัน เหมือนลิ้นที่รู้รสแกงฉะนั้น” การคบหากัลยาณมิตรผู้เป็นบัณฑิตนักปราชญ์ เหมือนการค้นพบขุมมหาสมบัติ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่เราจะได้สิ่งที่มีคุณค่ามหาศาล ดังนั้นความใฝ่รู้ใฝ่ศึกษา จึงเป็นสิ่งที่ดีที่พวกเราทุกคนควรจะมีไว้ เพราะความใฝ่รู้ธรรมะนั้น จะนำพาชีวิตของเราให้พ้นภัย หมั่นเข้าหากัลยาณมิตรผู้ชี้ทางสว่าง รับฟังคำแนะนำตักเตือนจากท่าน เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ว่าง่ายสอนง่าย เมื่อนั้นสิ่งที่ดีๆ ทั้งบุญกุศลคุณธรรมความดีทั้งหลาย จะหลั่งไหลมาสู่ตัวเรา เราจะเป็นคนที่สูงค่าเหมือนกับพระราหุลเถระที่ท่านได้ทำเป็นแบบอย่างไว้ …

พุทธชิโนรส (๕) – พระราหุลเถระ Read More »

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (ทรัพย์หมด แต่ไม่หมดศรัทธา)

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (ทรัพย์หมด แต่ไม่หมดศรัทธา) ช่วงเวลาที่มีคุณค่าคือ เวลาที่เราจะได้เพิ่มเติมความสุขความสำเร็จให้แก่ชีวิต ด้วยธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นสัจธรรมที่นำมาซึ่งความสุข และหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งมวล ทุกวันนี้มนุษย์กำลังสับสน ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต เมื่อไม่ได้ฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชีวิตจึงต้องเวียนวนอยู่ในกระแสแห่งความทุกข์ระทม เหมือนถูกตรึงด้วยเครื่องพันธนาการ ยากจะสลัดออกได้ ต่อเมื่อได้ฟังพระสัทธรรม จึงจะเข้าใจความเป็นจริงของชีวิต และสามารถสร้างคุณค่าให้แก่ชีวิตได้อย่างแท้จริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ภูริปัญหาชาดก ว่า “น ปณฺฑิตา อตฺตสุขสฺส เหตุ ปาปานิ กมฺมานิ สมาจรนฺติ ทุกฺเขน ผุฏฺฐา ขลิตาปิ สนฺตา ฉนฺทา จ โทสา น ชหนฺติ ธมฺมํ บัณฑิตทั้งหลายย่อมไม่ประพฤติกรรมอันเป็นบาป เพราะเหตุแห่งความสุขของตน ถูกทุกข์กระทบแล้ว แม้จะพลาดพลั้งลงไป ก็สงบอยู่ได้ไม่ละทิ้งธรรม เพราะความรัก และความชัง” การสร้างบารมีเป็นหน้าที่หลักของเราในการเกิดมาแต่ละภพแต่ละชาติ และในระหว่างการสร้างบารมี บางครั้งเราอาจประสบความยากลำบากและอุปสรรคต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะหนทางแห่งการสร้างบารมีมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ อุปสรรคที่เกิดขึ้นจะหล่อหลอมให้เรามีจิตใจที่เข้มแข็ง และเป็นเครื่องทดสอบกำลังใจว่า เรามีหัวใจของยอดนักสร้างบารมีเต็มเปี่ยมแค่ไหน สำหรับผู้มีอุดมการณ์ที่มั่นคง …

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (ทรัพย์หมด แต่ไม่หมดศรัทธา) Read More »

พุทธชิโนรส (๖) – พระราหุลเถระ

พุทธชิโนรส (๖) ภายใต้กระแสโลกในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขันเพื่อจะเอาชนะ บางคนต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ชัยชนะภายนอกยังไม่ได้ชื่อว่าเป็นชัยชนะที่แท้จริง เพราะผู้ชนะย่อมก่อเวร จากคู่แข่งเปลี่ยนมาเป็นคู่แค้น เป็นชัยชนะที่ไม่ยั่งยืน วันหนึ่งก็ต้องกลับพ่ายแพ้ ไม่มีใครที่เป็นผู้ชนะตลอดกาล แต่สำหรับนักสร้างบารมีแล้ว เราต้องเร่งสร้างบารมีแข่งกับวันเวลาของชีวิตที่เหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ นี่คือคู่แข่งที่แท้จริงของเรา แม้เวลาจะเหลือน้อยลง แต่บุญบารมีของเราต้องให้เพิ่มขึ้นทับทวี ทั้งทาน ศีล ภาวนา สิ่งเดียวเท่านั้นที่เราจะต้องเอาชนะคือ กิเลสอาสวะภายใน ยามใดที่เรากำจัดกิเลสอาสวะได้หมดสิ้น เมื่อนั้นเราจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง เป็นชัยชนะที่มีแต่ความสุขล้วนๆ เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีวันกลับมาแพ้อีก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน สุภสูตร ทีฆนิกาย ว่า “ดูก่อนมารผู้กระทำซึ่งที่สุด ตัวท่านเป็นผู้ที่เรากำจัดเสียแล้ว ชนเหล่าใดสำรวมดีแล้ว ด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ ชนเหล่านั้น ย่อมไม่ตกอยู่ในอำนาจของมาร ชนเหล่านั้น ไม่เดินตามหลังมาร” การสำรวมกาย วาจา ใจ เป็นการสั่งสมความบริสุทธิ์ตั้งแต่กายภายนอก เข้าไปสู่จิตใจภายใน ความบริสุทธิ์อย่างเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถกำจัดกิเลสอาสวะเอาชนะพญามารได้ เมื่อความบริสุทธิ์เต็มเปี่ยม ความสะดุ้งกลัวต่อพญามารจะหมดสิ้นไป แต่กลับเป็นฝ่ายมารที่สะดุ้งกลัวต่อบุคคลผู้มีกาย วาจา ใจ บริสุทธิ์บริบูรณ์เต็มเปี่ยม ดังนั้น ความบริสุทธิ์กาย …

พุทธชิโนรส (๖) – พระราหุลเถระ Read More »

สุมนสามเณร

สุมนสามเณร ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่มีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับชีวิตของเรา เพราะจะได้ประพฤติปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นสัจธรรมนำพาชีวิตให้เข้าถึงความสุข หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งมวล ปัจจุบันมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต เมื่อไม่ได้ฟังธรรมของพระพุทธองค์ ชีวิตจึงต้องเวียนวนอยู่ในกระแสแห่งความทุกข์ เหมือนถูกตรึงด้วยเครื่องร้อยรัดพันธนาการ แต่เมื่อได้ฟังพระสัทธรรม จะเข้าใจความเป็นจริงของชีวิต แล้วมุ่งแสวงหาสาระอันแท้จริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดคือ พระนิพพาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า “ยมฺหิ สจฺจญฺจ ธมฺโม จ    อหึสา สญฺสุมนสามเณร ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่มีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับชีวิตของเรา เพราะจะได้ประพฤติปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นสัจธรรมนำพาชีวิตให้เข้าถึงความสุข หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งมวล ปัจจุบันมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต เมื่อไม่ได้ฟังธรรมของพระพุทธองค์ ชีวิตจึงต้องเวียนวนอยู่ในกระแสแห่งความทุกข์ เหมือนถูกตรึงด้วยเครื่องร้อยรัดพันธนาการ แต่เมื่อได้ฟังพระสัทธรรม จะเข้าใจความเป็นจริงของชีวิต แล้วมุ่งแสวงหาสาระอันแท้จริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดคือ พระนิพพาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า “ยมฺหิ สจฺจญฺจ ธมฺโม จ    อหึสา สญฺญโม ทโม ส เว วนฺตมโล ธีโร    …

สุมนสามเณร Read More »

สามเณรนิโครธ (๑)

สามเณรนิโครธ (๑) พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรมครูของเรา ทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว มีความบริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสอาสวะทั้งปวง ได้เข้าถึงฝั่งแห่งพระนิพพาน อันเป็นแดนเกษมจากโยคะ ที่ความทุกข์ใดๆ เข้าไปไม่ถึง จึงมีแต่ความสงบเย็น เป็นสุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือปนเลย เป็นเอกันตบรมสุข แต่กว่าที่พระองค์จะบรรลุเป้าหมายสูงสุดนี้ได้ ก็ต้องสั่งสมบารมีกันมายาวนานนับภพนับชาติไม่ถ้วน พวกเราซึ่งเป็นชาวพุทธก็ต้องเจริญรอยตามพระองค์ ตั้งใจสั่งสมความดีให้เต็มที่ หมั่นเจริญสมาธิภาวนากันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน ปัพพชิตวิเหฐกชาดก ว่า “โย ทิสฺวา ภิกฺขุ จรณูปปนฺนํ ปุรกฺขิตฺวา ปญฺชลิโก นมสฺสติ ทิฏฺเฐว ธมฺเม ลภเต ปสํสํ สคฺคญฺจ โส ยาติ สรีรเภทา ผู้ใดเห็นภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยจรณะ ให้ท่านยืนอยู่เบื้องหน้า ประคองอัญชลีนมัสการแล้ว ผู้นั้นจะได้รับการสรรเสริญในปัจจุบัน เมื่อละโลกนี้ไปแล้ว ย่อมไปสู่สุคติสวรรค์” ความสุขในโลกนี้มีอยู่ ๒ ประเภทใหญ่ๆ คือ ความสุขที่ต้องอาศัยวัตถุ เรียกว่าอามิสสุข เป็นความสุขที่เกิดจากตาได้เห็นรูปสวยๆ หูได้ยินเสียงเพราะๆ ได้รับประทานอาหารอร่อยๆ ได้สัมผัสที่นุ่มนวล …

สามเณรนิโครธ (๑) Read More »