การสวดธรรมจักร

ธรรมจักรสำคัญนะ!

ความสำคัญของบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร บทสวดธรรมจักรสำคัญนะ หลังจากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมใหม่ๆ พระองค์ทรงเลือกว่าจะเอาหมวดธรรมไหนใน 84,000 พระธรรมขันธ์ เพื่อจะมาโปรดปัญจวัคคีย์อุปัฏฐากเก่าตอนสมัยที่พระองค์ทรงบำเพ็ญทุกขกิริยา ซึ่งพระองค์ทรงเลือกบทนี้ ดังนั้น…ธัมมจักกัปปวัตตนสูตรจึงเป็นประดุจหัวขบวนจักร นอกนั้นเป็นโบกี้ คือ…ต้อง 1 ก่อนถึงจะไป 84,000 เพราะฉะนั้น…ใครสวดบทนี้ได้ ได้บุญมากๆๆ เลย เป็นประดุจผู้ที่อยู่ในยุคนั้น นั่งต่อหน้าพระพักตร์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า…หลังจากที่พระองค์ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใหม่ๆ ซึ่งบทสวดธรรมจักร นี้เป็นคำสั่งสอนของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว จึงจะได้คำเหล่านี้มา มันไม่ใช่ง่ายนะ ใครได้สวดให้ดีใจเถิด สวดเถิดประเสริฐนัก ปลื้มเถิดประเสริฐนัก ท่องเถิดประเสริฐนัก แต่ละคำ…เอาประเทศมาตีค่าไม่ได้เลย ไม่ใช่ค่าควรเมือง แต่ละคำคุณค่าเกินเมือง แต่ละประโยคมีคุณค่ามากกว่าเมืองหรือประเทศทั้งหลาย เพราะทรัพย์ทั้งประเทศทำให้หลุดพ้นจากกิเลสไม่ได้ แต่บทสวดนี้ แต่ละคำทำให้หลุดพ้นจากการครอบงำของพญามารได้ ใครสวดบุญเกิด “ทิพยสมบัติ” บนเทวโลกก็เกิดขึ้น มันเป็นบุญติดตัวเรา ซึ่งบุญเป็นบ่อเกิดแห่งสมบัติทั้งหลาย เสียงจะไพเราะ ชาวสวรรค์จะหยุดฟังเลย ชาวสวรรค์จะอนุโมทนาสาธุการ เพราะเป็นปฐมเทศนาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเปล่งเสียงออกมาจากพระโอษฐ์ ใครได้ยินถือว่ามีบุญมาก ใครได้สวดก็ยิ่งมีบุญมาก เนื้อหาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทศน์โปรดปัญจวัคคีย์ไม่ธรรมดานะ ไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นี้องค์เดียวที่เทศน์ทางสายกลาง แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ล้วนเทศน์บทนี้ทั้งสิ้น แต่จะเทศน์โปรดใครนั้นอีกเรื่องหนึ่ง มันไม่ใช่ของพอดีพอร้าย มันมหัศจรรย์นะ เพราะกว่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะแสดงธรรมบทนี้ได้ …

ธรรมจักรสำคัญนะ! Read More »

ใครไม่มาสวดธรรมจักร…แหม่ ! เสียดายจัง

พระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ …สำคัญนะ เป็นแหล่งแห่งความบริสุทธิ์ จิตของผู้ที่ไปสวดธรรมจักร จะบริสุทธิ์ตามไปด้วย เป็นลานธรรม ที่เป็นที่พึ่งทางใจ ทำให้คิดดี พูดดี ทำดี พอหายใจเข้า… เอาความบริสุทธิ์เข้าไป หายใจออก… เอาความไม่บริสุทธิ์ออกมา ใครไม่มาสวดตรงนี้นะ แหม่… เสียดายจัง โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) https://dhamma01.blogspot.com/2017/02/blog-post_3.html

วันนี้คุณสวดธรรมจักรแล้วหรือยัง?

สวดธรรมจักรไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะรวยทั้งทรัพย์ภายใน และทรัพย์ภายนอก ซึ่งเป็นทางมาแห่งบุญของเรา ไม่ใช่ว่าใครจะมาสวดก็ได้นะ ต้องเฉพาะผู้มีบุญ ให้ไปชักชวนกันมาสวดอย่างน้อยสักวันละแสนจบ จะได้ปลื้มไปด้วยกัน ผู้มีบุญ มีบารมีมาก ถึงจะมาสวดบทนี้ได้ ให้ลองคิดดูสิ คน 7,000 กว่าล้านคนทั่วโลก เกิดเป็นชาวพุทธแค่กระจุก แต่มีโอกาสได้มาสวดแค่กระจิ้ดเดียวเท่านั้น ผู้ที่มาจึงเป็นผู้มีบุญมากนะ เป็นผู้ที่ได้กล่าวบท สาธยายธรรมบทแรกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นหนึ่งในไม่กี่คนบนโลก ไปชักชวนกันมาสวดเยอะๆ นะ “สำคัญมาก” !! ทบทวนโอวาท โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) https://dhamma01.blogspot.com/2017/01/blog-post_11.html

ถ้าจำอะไรไม่ได้ ก็ให้จำ…คำว่า “พระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ สำคัญมาก”

“ตอนนี้สวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ” ไปถึง1,570,000 จบแล้ว เดี๋ยวก็จะถึง 4 ล้านแล้ว ??พรรษานี้ วันเวลาผ่านไป เร็วมาก…ก็ต้องไปชวนกัน มาสวดเยอะๆ ตรงนั้น สว่างมากเลย สว่างทั้ง กลางวันและกลางคืนเวลามาสวดก็ต้อง ทำให้ ถูกหลักวิชชา ให้ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพ ให้มีความสุข มีความบริสุทธิ์ มีความปลื้ม จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้มาสวดกัน เพิ่มขึ้น ให้มีความสุขเพิ่มขึ้น มีความบริสุทธิ์ เพิ่มขึ้น มีความปลื้มเพิ่มขึ้น บุญเพิ่มขึ้น สวดมนต์จนเห็นธรรม ถ้าจบนี้ยังไม่ปลื้ม…ก็สวด ต่อไป สวดจนกว่าจะปลื้ม ยิ่งสวด…ยิ่งปลื้ม ถ้าจำอะไรไม่ได้ ก็ให้จำ…คำว่า “พระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ สำคัญมาก” ทบทวนโอวาท โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) https://kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=13062

สวดมนต์จนเห็นธรรม

” ชื่นใจจังเลยจ้ะ สวดกันทุกวันกันไปเลย เวลาสวดนี่นะ อย่าลืมเอาใจอยู่ในกลาง แล้วก็ประหนึ่งว่าเราเข้าเฝ้าอยู่ต่อหน้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ แล้วสวดกะคะเนว่า เราเปล่งเสียงออกมาแล้ว เราได้ยินด้วยหูของเรา ไม่ดังเกินไป ไม่ค่อยเกินไป สวดพอดีๆที่ใจเราเบิกบาน แช่มชื่น สวดอย่างนี้เเหละที่เขาเรียก สวดมนต์จนเห็นธรรม ไม่ช้าจะเข้าถึงธรรมกัน สิ่งที่เป็นมลทินต่างๆจะค่อยๆถูกกลั่นแก้ไป ใจเราจะสะอาดบริสุทธิ์ บุญก็เกิดขึ้นแก่ตัวเรา ใจก็เป็นมงคล ปากก็เป็นมงคล หูเราก็เป็นมงคล ทั้งเนื้อทั้งตัวเราเป็นสิริมงคลหมดเลย ” โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร

ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เป็นปฐมเทศนาที่พระพุทธองค์ตรัสสอนปัญจวัคคีย์ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน กล่าวถึง ทางสุดโต่ง ๒ ทาง ที่ไม่เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพาน และวิธีปฏิบัติที่นำเราให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน อันเป็นทางหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งหลาย เป็นหนทางที่นำไปสู่อายตนนิพพาน ทางสุดโต่ง ๒ ทางนั้น คือ ๑ กามสุขัลลิกานุโยค คือ ประกอบตนให้พัวพันด้วยกามคุณทั้งหลาย ๒ อัตตกิลมถานุโยค คือ การประกอบตนให้ได้รับความลำบาก ทางสุดโต่งทั้ง ๒ ทางนี้ไม่ทำให้หลุดพ้นจากข้าศึกคือกิเลสไปได้ ไม่ใช่หนทางดับทุกข์ ส่วนข้อปฏิบัติอันเป็นทางพ้นทุกข์นั้น พระพุทธองค์ให้ถือปฏิบัติคือ ทางสายกลางที่พระองค์ได้ตรัสรู้แล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำความเห็นให้เป็นปกติ ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบระงับ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความรู้พร้อม และเป็นไปเพื่อพระนิพพาน การที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสอนอย่างนี้ เนื่องจากว่าชีวิตของมนุษย์ทุกๆ คน ที่เกิดมาในโลกนี้ ต่างก็มีความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น แล้วต่างก็มีความปรารถนาที่จะแสวงหาหนทางพ้นทุกข์ ให้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ซึ่งในสมัยก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้ ก็มีวิธีการแสวงหาความดับทุกข์อยู่ ๒ วิธี คือ พวกหนึ่งก็ตึงเกินไป อีกพวกหนึ่งก็หย่อนเกินไป พวกที่ตึงเกินไปมีความเห็นว่า ต้องทรมานตนเองทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อให้ผู้มีอำนาจสูงสุดซึ่งสมมุติเรียกกันว่าพระผู้เป็นเจ้า เกิดความสงสารเห็นใจ จะได้ช่วยให้พ้นทุกข์ เพราะเข้าใจว่าการทำอย่างนี้จะดับกิเลสได้ …

ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร Read More »

วิธีสร้างสรรค์สังคมให้อยู่ร่วมกันได้อย่างร่มเย็นเป็นสุข

คำถาม: วิธีสร้างสรรค์สังคมให้อยู่ร่วมกันได้อย่างร่มเย็นเป็นสุข คำตอบ:       สมเด็จพระบรมศาสดาทรงให้หลักที่พระพุทธศาสนาจะอยู่ได้มั่นคงเอาไว้ และหลักนี้ก็เป็นเรื่องที่จะต้องเอามาใช้ในการสร้างสรรค์สังคมให้ประเทศชาติบ้านเมืองของเราร่มเย็นเป็นสุขด้วยแต่ก่อนจะสร้างสรรค์สังคม เราต้องเข้าใจหลักการสำคัญก่อนว่า ใจของคนเป็นอย่างไร สังคมก็เป็นอย่างนั้น ใจขุ่นมัว สังคมก็ขุ่นมัว ใจใสสะอาด สังคมก็ร่มเย็น      พิษร้ายของความสกปรกขุ่นมัว มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าเมื่อน้ำขุ่นมัว ไม่ใส บุคคลย่อมไม่แลเห็นหอยกาบ หอยโข่ง ก้อนกรวด ก้อนทราย ฝูงปลา ฉันใดเมื่อจิตใจของคนเราขุ่นมัว บุคคลก็ย่อมไม่เห็นประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น ฉันนั้น      อานุภาพของความใสสะอาดก็มีกล่าวไว้เช่นกัน ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า เมื่อน้ำ  ไม่ขุ่นมัว ใสบริสุทธิ์ บุคคลย่อมแลเห็นหอยกาบ หอยโข่ง ก้อนกรวด ก้อนทราย และฝูงปลาฉันใด เมื่อจิตใจไม่ขุ่นมัว บุคคลก็ย่อมเห็นประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านชัดเจน ฉันนั้น      ถ้าแต่ละคนในบ้านในเมืองใจใส ก็จะเห็นประโยชน์ของตัวเอง เห็นประโยชน์ของหมู่คณะเห็นประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ว่ากี่ฝ่ายก็จะเห็นตรงกันว่า ประเทศชาติบ้านเมืองจะก้าวหน้า วัดวาอาราม พระศาสนาจะก้าวหน้า จะต้องทำอย่างไรบ้าง      พอใจใสแล้วจะเห็นตรงกัน เหมือนกับในยามเที่ยงวันที่ดวงอาทิตย์สว่างไสวอยู่กลางท้องฟ้าอะไรต่อมิอะไรก็จะปรากฏชัดเจนเห็นตรงกัน ถ้าใจของคนเราใสแล้ว ดี-ชั่ว ผิด-ถูก …

วิธีสร้างสรรค์สังคมให้อยู่ร่วมกันได้อย่างร่มเย็นเป็นสุข Read More »

✍ ทำไมถึงเรียกว่า ธรรมจักร ❓

คำว่าธรรมจักร คำว่า จักร แปลว่า วงล้อ หรือ เราคงเคยเห็นเลื่อย เขาเรียกว่าเลื่อยวงเดือนบ้าง คือเป็นเลื่อยกลมๆ แล้วก็มีฟันเป็นซี่ๆ ที่เขาใช้เลื่อยไม้ เลื่อยวัตถุได้ นั่นก็ถือว่าเป็นจักรชนิดหนึ่ง เมื่อคำว่า จักร บวกเข้ากับ ธรรมะ กลายเป็นธรรมจักร แปลว่า วงล้อธรรม ธัมมจักรกัปปวัตตนสูตร จึงเป็นพระสูตรที่ว่าด้วยการหมุนวงล้อของพระธรรม เมื่อหมุนวงล้อของพระธรรม ซึ่งคมกริบเหมือนอย่างกับจักร ก็จะสามารถตัดกิเลสให้ขาดไปจากใจของมนุษย์ได้ ของเทวดาได้ เหมือนกับจักรที่เราเอาไปเลื่อยเหล็กก็ได้ เลื่อยไม้ก็ได้ จะตัดอะไรต่ออะไรก็ได้อย่างใจ เพราะฉะนั้นจึงเรียกว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร หมายถึง การปราบกิเลสให้หมดไปจากใจ ซึ่งต้องทำการปราบเป็นรอบ ๆ เหมือนกับเครื่องจักรมันหมุนเป็นรอบ ๆ หมุนไปรอบหนึ่ง ก็กินเนื้อวัตถุที่ต้องการจะตัดลึกเข้าไปทีละรอบ ๆ จนขาดออกจากกัน พระธรรมจักรนี้ก็เหมือนกัน ก็จะตัดกิเลสลึกเข้าไปเป็นรอบ ๆ ๆ อีกเหมือนกัน ตรงนี้เอง เป็นเรื่องที่เราจะต้องทำความเข้าใจให้ดีว่า ธรรมะ แม้เราตั้งใจเอาชีวิตเป็นเดิมพันปฏิบัติ แต่ว่าเวลาออกฤทธิ์ ไม่ได้ฮวบฮาบเหมือนอย่างกับเราคิด เพราะว่ากิเลสนั้นมันแทรกอยู่ในใจ ก็เลยจำเป็นต้องกัดกร่อนกิเลสเข้าไปเรื่อย ๆ …

✍ ทำไมถึงเรียกว่า ธรรมจักร ❓ Read More »