หนังสือ คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ 1

อ่านหนังสือ คำตอบคุณครูไม่ใหญ่เล่ม ๑ ที่นี่

ใครคือผู้ค้นพบทางสายกลาง

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ใครเป็นคนค้นพบว่า การวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย จะนำความสงบสุขมาสู่มนุษยชาติ ทำไมศูนย์กลางกายจึงมีความสำคัญขนาดนั้น หลวงพ่อ : พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงค้นพบทางสายกลาง ด้วยพระองค์เอง และก็สืบทอดต่อ ๆ กันมา แต่ก็มาเลือนหาย ในภายหลัง จนกระทั่ง ๘๐ กว่าปีที่ผ่านมา พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร ท่านได้สละชีวิต แล้วค้นพบวิธีที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้บรรลุธรรมที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ นี้กลับคืนมาใหม่ มาสอนตัวท่าน และสอนผู้อื่น จนกระทั่ง ถ่ายทอดมาถึงพวกเราในปัจจุบันนี้ ศูนย์กลางกายมีความสำคัญมาก เพราะเป็นศูนย์กลาง ยกตัวอย่าง การบริหารการทำงานทุกอย่างล้วนมีศูนย์กลางคอย จัดการระบบระเบียบต่าง ๆ ทั้งนั้น เช่น สมมติเราวางของบนโต๊ะ วางของหมิ่น ๆ ก็ไม่มั่นคง ถ้าวางกลางโต๊ะ มันก็มั่นคง ทุกอย่าง สำคัญที่ตรงกลางทั้งนั้น ทีนี้เราอยากจะรู้ว่า สำคัญขนาดนั้นจริง หรือ เราลองหยุดนิ่งเข้าไปตรงนั้น …

ใครคือผู้ค้นพบทางสายกลาง Read More »

การรักษาศีลทำให้สมาธิก้าวหน้าไหม

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : สมาธิทำให้ใจผ่องใส แต่ถ้าหากไม่รักษาศีล ๕ ควบคู่ไปด้วย จะมีผลแค่ไหนอย่างไรกับความก้าวหน้าของสมาธิ หลวงพ่อ : ศีล ๕ กับสมาธิเป็นสิ่งเกื้อกูลกัน ศีลเป็นพื้นฐานของ สมาธิ ศีลจะรักษาความเป็นปกติของใจที่ดีงาม ที่ประกอบไปด้วย ดวงปัญญา ความบริสุทธิ์ ความสุขภายในเอาไว้ ศีล คือ ปกติของมนุษย์ ถ้าใจเป็นปกติ มีความสุข ความ บริสุทธิ์ภายใน จะไม่คิดร้ายใคร จะไม่ทำร้ายคน สัตว์ หรือสิ่งมีชีวิต จะ ไม่ฆ่า ไม่เบียดเบียน จะไม่ลักทรัพย์สินของใคร จะไม่ไปทำให้ครอบครัวเขาแตกร้าว จะพูดแต่คำจริง มีประโยชน์ ถ้อยคำไพเราะ จะไม่พูดเพ้อเจ้อ จะไม่ดื่มน้ำเมา จะไม่เสพสิ่งเสพติด เพราะนั่นคือการทำลายสุขภาพกายใจของเรา และผู้ที่อยู่ รอบข้างทั้งคนสัตว์สิ่งของด้วย นี่เป็นเรื่องปกติของใจ เป็นเรื่อง ปกติของผู้ที่มีความบริสุทธิ์ มีความสุขภายใน มีความรู้ที่สมบูรณ์ มีความเข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต การรักษาศีล ๕ ก็คือการรักษาความเป็นปกติของใจ …

การรักษาศีลทำให้สมาธิก้าวหน้าไหม Read More »

คุณธรรมสากลหรือศีลธรรมโลกคืออะไร

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า “คุณธรรมสากล” หรือ “ศีลธรรมโลก” ไหม ถ้ามี สิ่งนั้นคืออะไร หลวงพ่อ : คุณธรรมสากล ซึ่งเป็นศีลธรรมประจำโลกง่าย ๆ คือ ๑ เว้นจากการฆ่า ไม่ฆ่ามนุษย์ ไม่ฆ่าสัตว์ นอกจากเว้นแล้ว ยังต้องให้ชีวิตเป็นทานด้วย ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์หรือ สรรพสัตว์ทั้งหลายให้มีอายุยืนยาวต่อไป ๒ เว้นจากการลักทรัพย์ หรือเอาทรัพย์มาจากบุคคลอื่นที่ เขาไม่ให้ โดยทางมิชอบทางใดทางหนึ่ง ที่ไม่ถูกไม่ควร ๓ เว้นจากการผิดลูกเขา ผิดสามีเขา ผิดภรรยาเขา หรือ บุตรธิดาที่ยังอยู่ในความดูแลของบิดามารดา เราอย่าไปล่วงละเมิด หรือยินดีในเรื่องเพศที่นอกสมรส ให้ละเว้น ๔ เว้นจากคำพูดที่ไม่จริง เว้นจากการพูดโกหก พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ หรือพูดให้เขาทะเลาะกัน ๕ เว้นจากการสูบเสพสิ่งมึนเมา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือ เสพสิ่งเสพติดต่าง ๆ เป็นต้น ข้อปฏิบัติง่าย ๆ …

คุณธรรมสากลหรือศีลธรรมโลกคืออะไร Read More »

ทุกศาสนาไปสู่จุดหมายเดียวกันหรือไม่

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ศาสนาหรือความเชื่ออื่น นำไปสู่จุดหมายปลายทางที่เดียวกันหรือไม่ หลวงพ่อ : ในเมื่อความรู้แตกต่างกัน ดังนั้นการไปสู่จุดหมาย ปลายทางจึงไม่เหมือนกัน เราเรียนซ่อมจักรยาน เราก็ได้วิธีซ่อมจักรยาน เรียนสร้าง รถยนต์ เราก็ได้รถยนต์ เรียนสร้างเรือเดินสมุทร เราก็ได้เรือเดิน สมุทร เราเรียนเรื่องสร้างยานอวกาศ เราก็ได้ยานอวกาศ มันจะไป เหมือนกันได้อย่างไร เพราะความรู้มันคนละอย่างกัน ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

คนธรรมดาไปพระนิพพานได้หรือไม่

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ปุถุชนจะเข้าถึงพระนิพพานได้หรือไม่ หลวงพ่อ : ปุถุชนเท่านั้นจึงจะเข้าถึงพระนิพพาน เพราะเริ่มต้น ต้องเป็นปุถุชนก่อน แล้วค่อยศึกษาเรียนรู้ แล้วก็พัฒนาตัวเองไป เรื่อย ๆ จนกระทั่งจิตบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ทุกข์ก็ถูกดับลงไป ไฟกองใหญ่ ๆ ดับมอดไป ๆ จนกระทั่งดับสนิทเลย แล้วเกิด ความสุขเย็นสบาย เราจะเห็นได้ว่า ทุกคนมีหัวใจที่เร่าร้อนทั้งสิ้น แต่ความ เร่าร้อนถูกดับไป โดยไปดับที่ต้นเหตุที่ทำให้ใจเร่าร้อน เพราะฉะนั้น ปุถุชนจะเข้าถึงพระนิพพานได้ แต่ต้องให้รู้ว่า จุดเริ่มต้นไปสู่พระนิพพานอยู่ตรงไหน ผู้รู้ทั้งหลายที่ไปสู่จุดนี้ได้ ท่านเริ่มต้นนำใจมาหยุดที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ อย่างสบาย โดย ไม่คิดอะไรเลย ทำเฉย ๆ แค่นี้เท่านั้น ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 …

คนธรรมดาไปพระนิพพานได้หรือไม่ Read More »

กลัวว่าจะต้องมาเป็นคนพุทธ

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ฉันไม่ได้นับถือพุทธศาสนา เมื่อฉันนั่งสมาธิไปจนค้นพบความจริงที่ซ่อนอยู่ ฉันจะกลายเป็นพุทธเลยไหมคะ หลวงพ่อ : โปรดอย่ากลัว อย่าคิดว่าจะต้องเป็นพุทธหรือไม่เป็น พุทธ แต่จะกลายเป็นว่า เราค้นพบความจริงแท้ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน ซึ่งไม่เกี่ยวกับศาสนาหรือความเชื่อใด ๆ เพราะความจริงแท้มีอยู่ ภายในอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น คำว่า “พุทธะ” แปลว่า ผู้รู้แจ้งที่เกิดจากการเห็นแจ่มแจ้ง ด้วยตัวเอง เป็นความรู้ที่เราเห็นแจ่มแจ้งด้วยตัวของเราเอง เช่น เราเห็นดวงสว่างมีอยู่ในตัวของเรา เราเห็นจริง ๆ ใคร จะมายืนยันว่า ไม่เห็น เราก็ไม่ยอมรับ เพราะเราเห็น เห็นแล้วเรามี ความสุข และใจเราสูงส่งด้วย อย่างนี้เขาเรียกว่า “ผู้รู้” แล้วก็เรียกว่า “ผู้ตื่น” ด้วย คือ ตื่นจากชีวิตโลกมายา ที่เหมือนที่คนนอนหลับ แล้ว แล้วก็เป็น “ผู้เบิกบาน” ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เขาเรียกว่า พุทธะ ใครที่เป็นอย่างนี้ เขาเรียกอย่างนี้ทั้งนั้น …

กลัวว่าจะต้องมาเป็นคนพุทธ Read More »

กลัวถูกจูงจมูก

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ฉันไม่อยากจะเป็นผู้ตามที่ถูกจูงจมูก แต่ฉันอยากจะเอาคำสอนของศาสนาพุทธมาใช้ จะทำอย่างไร หลวงพ่อ : เราไม่ได้ถูกใครจูงจมูก แล้วก็ไม่มีใครมาจับจมูกเราจูงนะ การที่เราอยากนำคำสอนที่ดีของทุกความเชื่อ เช่น ศาสนา พุทธมาใช้ ก็แค่เราให้โอกาสตัวเรามาศึกษาเรียนรู้เพิ่มขึ้น จนพิสูจน์ ได้ว่า สิ่งที่เรียนรู้นี้มีเหตุมีผล มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อตนเองและ ผู้อื่นจริง ถ้าพิสูจน์ได้จริง มีประโยชน์จริง ดีจริง เราก็เอาไปใช้ได้ อย่างนี้ไม่ได้เรียกว่า เราถูกจูงจมูก ก็เหมือนกับเราไปเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยอย่างนั้น แหละ เพราะสิ่งนี้เป็นความรู้สากลที่ทุกคนสามารถศึกษาเรียนรู้ได้ เหมือนทุกคนแหงนไปดูพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ หรือดูดวงตะวัน ซึ่งเป็นของสากลอย่างนั้น การที่เราศึกษาคำสอนของทุก ๆ ความเชื่อ เป็นสิ่งที่ดี ไม่ได้ทำให้เราสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง แต่เป็นการให้โอกาส ตัวเราเองได้มาศึกษาเรียนรู้เพิ่มขึ้น แล้วเราจะได้ไปทบทวนสิ่งที่เรา ได้ศึกษาเรียนรู้ว่า สิ่งอะไรที่เรานำมาใช้แล้วเกิดประโยชน์สุขต่อ ตัวเรา ต่อผู้อื่น เราก็เอาอย่างนั้น ไม่ได้หมายความว่าเราถูกจูงจมูก เรายังไม่สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง แต่เราจะยิ่งเป็นตัวของตัวเอง มากขึ้น แต่ไม่ใช่ดื้อนะ คือ รู้เรื่องเหตุผล เรื่องความเป็นจริงของ ชีวิต …

กลัวถูกจูงจมูก Read More »

ผมไม่อยากให้เพื่อน ๆ มองว่าผมเป็นคนแปลก ๆ

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ผมรู้นะว่า ผมเปลี่ยนไปในทางที่ดี แต่ผมไม่อยากจะให้เพื่อน ๆ มองว่าผมแปลก ๆ หลวงพ่อ : เราก็ต้องแตกต่างจากเพื่อนบ้าง แต่เป็นการแปลกดี แปลกไปในทางที่ดี ซึ่งตัวอย่างดี ๆ อย่างนี้ชาวโลกขาดแคลน เพื่อนยังขาดแคลนความรู้ตรงนี้ เพราะฉะนั้นเราอาจจะ แตกต่างจากเพื่อนไปบ้างในทางที่ดีขึ้น ซึ่งความแตกต่างนี้จะทำให้ เพื่อนดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง มีความสุข มีชีวิตชีวา เหมือนอย่างที่เรา เป็น เราเป็นอย่างไร เขาก็จะเป็นอย่างนั้น ส่วนการเข้าไปร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ถ้าเป็นกิจกรรมที่ดี มีประโยชน์ เราก็เข้าร่วมได้ปกติ อย่างมีชีวิตชีวา ไม่ใช่เฉื่อยชา ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

รู้สึกไม่ภาคภูมิใจในตนเอง

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ฉันชอบมองแต่ข้อเสียของตัวเอง ซึ่งมันไม่สร้างสรรค์เลย ทำอย่างไรเราจึงจะรักตัวเองให้ได้ มากกว่านี้ หลวงพ่อ : ก็ให้มองไปตามความเป็นจริง ความเป็นจริงของตัวเรา มีทั้งข้อดี ข้อด้อย อันไหนที่เป็นข้อเสีย เราก็แก้ไข อันไหนข้อดีเรา ก็ทำเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้น ก็แค่นี้เอง เราจะเห็นว่า เราแตกต่างไปจากเดิมไปในทางที่ดีขึ้นอย่าง มากมาย ซึ่งนี่แหละคือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้เรา ผู้ที่ได้ยิน ชื่อเสียงเราอยากจะเอาอย่างเรา สันติภาพโลกกำลังเริ่มต้นจากเรา เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

สมาธิแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้อย่างไร

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ศาสตราจารย์ท่านหนึ่ง สอนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ท่านไม่เข้าใจว่า สมาธิจะช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้อย่างไร ฉันอธิบายว่า ใจที่นิ่งสงบ จะทำให้เกิดการกระทำที่ปราศจากความรุนแรง แต่ท่านก็ยังไม่พอใจในคำตอบ ฉันควรจะอธิบายท่านอย่างไรคะ หลวงพ่อ : ต้องแนะนำให้ท่านมาลองทำสมาธิดู บอกท่านอย่ามัว แต่คุยอยู่เลย คือบางอย่างให้เหตุผลธรรมดาได้ แต่บางอย่างต้อง ลงมือปฏิบัติ คือต้องให้ท่านมีประสบการณ์ภายในด้วยตัวเองจึง จะเข้าใจว่าสมาธิเป็นอย่างไร จะช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ อย่างไร เหตุที่คนขัดแย้งกัน เนื่องจากใจไม่เป็นสุข ใจไม่ค่อยนิ่ง มันวุ่นวาย เร่าร้อน ไม่เยือกเย็น เพราะความเร่าร้อนของใจเป็นเหตุ เพราะฉะนั้นวิธีเดียวคือ ต้องให้ท่านศาตราจารย์มาฝึกสมาธิจน กระทั่งมีประสบการณ์ภายในด้วยตัวเอง จึงจะเข้าใจ ความรู้นี้เป็นความรู้ในระดับที่เหนือความคิดธรรมดาของ มนุษย์ เพราะความคิดของมนุษย์มีข้อจำกัด เหตุผลธรรมดาจะไป อธิบายตรงนี้ไม่ได้ ต้องมีประสบการณ์ภายในอย่างเดียวเท่านั้น ความรู้ที่เกิดจากการอ่าน การฟัง หรือการขบคิดก็ดี ไม่สามารถเข้าใจตรงนี้ได้ เพราะฉะนั้นเรียนท่านอย่างนี้ เพราะถ้า คุยกับท่านล้านปีก็ไม่รู้เรื่อง ให้ท่านลงมือปฏิบัติอย่างเดียว และ บอกท่านว่า ท่านทำได้ ๔ มีนาคม …

สมาธิแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้อย่างไร Read More »

พร้อมที่จะเรียนรู้ด้วยใจที่ว่างเปล่า

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : เราจะเตรียมตัวอย่างไร ให้พร้อมสำ หรับการเรียนรู้ความจริงของชีวิต ที่แตกต่างไปจากความเชื่อของตัวเองในปัจจุบัน หลวงพ่อ : ให้ทำตัวเราเหมือนนักวิทยาศาสตร์ที่พร้อมจะเรียนรู้ สิ่งต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล หรือเหมือนเราเป็นนักศึกษาที่เรียนอยู่ใน มหาวิทยาลัย ชั่วโมงนี้เราเรียนวิทยาศาสตร์ อีกชั่วโมงเราเรียนวิชา อื่น เราก็เรียนได้ ไม่เห็นจะขัดแย้งอะไร นี่ก็เช่นเดียวกัน ชั่วโมงนี้ เราจะเรียนรู้เรื่องราวความจริงของชีวิต เราก็ให้เวลาในการศึกษา เรียนรู้ ส่วนเรียนรู้แล้ว เราจะเชื่อหรือไม่เชื่อ หรือเราจะเอาไปใช้ หรือไม่ใช้ก็แล้วแต่เรา การเตรียมตัว คือ ต้องทำตัวเราเหมือนแก้วน้ำที่ว่างเปล่า ที่เราเทน้ำทิ้งออกหมดแล้ว พร้อมที่จะเติมน้ำใหม่เข้ามา คือ ทำใจ เราเป็นกลาง ๆ เป็นสากล ให้ใจเกลี้ยง ๆ ให้ว่างเปล่า สบาย ๆ พร้อม ที่จะเรียนรู้ความแตกต่าง หรือทำใจเหมือนโลกใบนี้ที่รองรับมวลมนุษยชาติทุกเชื้อชาติ ศาสนาและเผ่าพันธุ์ ที่รองรับได้ทั้งคนสัตว์สิ่งของที่แตกต่างกัน โดยแผ่นดินไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ทำความรู้สึกเราให้ว่างเปล่าเหมือน แผ่นดิน แล้วเราก็จะเรียนรู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตที่แตกต่าง ไปจากความเชื่อของตัวเอง …

พร้อมที่จะเรียนรู้ด้วยใจที่ว่างเปล่า Read More »

สมาธิแก้ปัญหาความขัดแย้ง

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : สมาธิจะสามารถแก้ปัญหา ความขัดแย้งได้อย่างไร หลวงพ่อ : ก่อนอื่นเราต้องมาศึกษาดูว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เพราะว่าใจแต่ละคนนั้นไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ไม่ได้อยู่ใน ตำแหน่งแห่งความผาสุก ความรักและปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ เมื่อใจไม่อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน จึงคิดไม่เหมือนกัน พูดไม่เหมือนกันและทำไม่เหมือนกัน แต่ถ้าหากใจมาอยู่ในตำแหน่ง เดียวกัน ก็จะคิดเหมือนกัน พูดเหมือนกัน และทำเหมือนกัน โดยไม่มีการขัดแย้งกันเลย และตำแหน่งนั้นอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ซึ่งจะเข้าถึงได้ด้วยวิธีเดียว คือ การทำสมาธิ ตำแหน่งตรงนั้นจะละลายความรู้สึกขัดแย้งให้หมดไป แล้ว จะเกิดภูมิปัญญาสร้างสรรค์ สูงส่ง ที่ทำให้เราเข้าใจ และรู้วิธีการ ที่จะหาทางออกได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดความสุข สดชื่น เบิกบาน และความสำเร็จในชีวิต ในภารกิจ ในทุกสิ่งทุกอย่างได้ ทุกคนจะต้องนำใจกลับมาสู่ตำแหน่งที่ถูกต้อง คือ ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งเดียวของชีวิต ที่ทำให้เราคิดถูกต้อง พูดถูกต้อง และทำถูกต้อง ผลออกมาคือ สิ่งที่ถูกต้องและดีงามก็จะบังเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ ๑๘ กุมภาพันธ์ …

สมาธิแก้ปัญหาความขัดแย้ง Read More »

ปล่อยไปอย่างที่ใจอยากจะเป็น

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : เมื่อฉันนั่งสมาธิไปถึงจุดหนึ่งแล้ว ฉันกลัวที่จะให้ใจเข้าไปลึกมากไปกว่านั้น ฉันควรจะทำอย่างไร หลวงพ่อ : สิ่งที่จะต้องทำคือ อย่ากลัว เรามาถูกทางแล้ว ให้ทำเฉย ๆ อย่างเดิม เพราะยิ่งลึกเข้าไปเท่าไร จะยิ่งทำให้ใจบริสุทธิ์เพิ่มขึ้น มีความสุขเพิ่มขึ้น มีความรู้เพิ่มขึ้น มีความรักสากลคือรักสรรพสัตว์ ทั้งหลายเพิ่มขึ้น เป็นต้น เพราะฉะนั้น จงปล่อยไปเรื่อย ๆ อย่างที่ใจอยากจะ เป็น ถ้าใจอยากจะเข้าไปข้างใน เราก็ทำเฉย ๆ ให้เป็นเรื่องของ ประสบการณ์ภายในที่จะดำเนินต่อไป อย่าไปยับยั้ง อย่าไปปิดกั้น อย่าไปฝืนประสบการณ์ภายใน ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา คำตอบคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม ๑ https://www.dhamma01.com/book/48 ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

แก้แค้นด้วยสมาธิ

เยาวชนจากโครงการ Peace Revolution : ทำไมจึงเป็นเรื่องง่าย สำหรับหลาย ๆ คน ที่ใช้การแก้แค้นแทนการให้อภัย หลวงพ่อ : ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ ๑. ภูมิต้านทานของใจเขาอ่อนแอ พลังแห่งความดีจึง ไม่ได้ช่อง ความรู้สึกโกรธ ความผูกโกรธ ความพยาบาทจึงได้ช่อง เป็นแหล่งกำเนิดของความคิดที่ไม่ถูกต้อง คือ คิดที่จะทำร้ายเขา โดยเข้าใจผิดคิดว่าการแก้แค้นหรือทำร้ายเขานั้น จะทำให้สบายใจ แต่ความจริงแล้วไม่มีความสบายใจเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ๒. เพราะขาดความรู้ที่สมบูรณ์ในเรื่องราวความเป็นจริง ของชีวิตว่า ทำไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปในชีวิตของเขา ทั้งชีวิต ที่อยู่ในโลกมนุษย์นี้และชีวิตหลังจากตายแล้ว ๓. เขาไม่รู้วิธีที่จะทำให้ใจบริสุทธิ์ ผ่องใส จนทำให้ใจ มีภูมิต้านทานที่สามารถเอาชนะความรู้สึกไม่ดีได้ ซึ่งสมาธิเป็น ทางออก คือ ถ้าใจสงบนิ่งแล้วกลับเข้าไปสู่ภายใน ใจตั้งมั่นตรงนั้น ใจจะมีภูมิต้านทาน ความสุขจะเข้ามาแทนที่อยู่ในใจ การแก้แค้นที่ถูกหลักวิชชา คือ ต้องคลี่คลาย ต้องแก้ความ โกรธที่ผูกไว้กับใจให้คลายออกมา ใจจะได้คลายจากความโกรธ แล้วความสุขความสบายใจก็จะเกิดขึ้นในตอนนั้น เมื่อเราสบายใจ ใจอยู่เหนือความรู้สึกที่จะแก้แค้น แล้วสัก วันหนึ่งผู้ที่ทำร้ายเรา ก็จะเกิดความสำนึกผิดขึ้นมาเอง …

แก้แค้นด้วยสมาธิ Read More »

บุญคืออะไร ให้ผลอย่างไร

“บุญ” คือ พลังแห่งความดี พลังแห่งความบริสุทธิ์ที่เรา กระทำด้วยกาย วาจา ใจ ทางมาแห่งบุญมี ทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น บุญแต่ละอย่าง มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ให้ผลไม่เหมือนกัน ทานทำให้รวย รักษาศีล ทำให้สวย ให้หล่อ ภาวนาทำให้ฉลาด เราจะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วให้ได้ผลครอบจักรวาลทั้งหมด ไม่ได้ ต้องทำให้ครบทุกอย่าง เหมือนรับประทานอาหารก็ต้องทานให้ครบทั้ง ๕ หมู่ ร่างกายจึง เจริญเติบโต แข็งแรง เมื่อเราจะมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม ซึ่งต้องอาศัยบารมีมาก เรา ก็ต้องสั่งสมบุญให้มาก ๆ ละบาปอกุศล แล้วก็ทำใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส เราจะละบาปอย่างเดียว แล้วไม่สั่งสมบุญกุศลไม่ได้ ชาวโลกมักจะคิดเอาเองว่า เราไม่ได้ทำความชั่วอะไร ไม่ได้เบียดเบียนใคร ไม่ได้รบกวนใครอย่างนี้ก็ดีแล้ว ทั้งที่บางทีเขา ยังไม่รู้เลยว่า อะไรคือชั่ว ความจริงแล้วยังอยู่ในระดับละชั่ว แต่ยัง ไม่ได้ทำความดี การทำความดีมันต้องทำเพิ่มเติมให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ทั้งทาน ศีล ภาวนา …

บุญคืออะไร ให้ผลอย่างไร Read More »