หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่

๓๔. เป็นพระต้องนั่งสมาธิ

เป็นพระต้องนั่งสมาธิ สมาธิกับพระเป็นของคู่กัน เหมือนลมหายใจคู่กับจมูก เหมือนเสียงคู่กับหู สมาธิกับพระก็คู่กัน ขาดจากกันไม่ได้เลย จะทำให้เราเห็นคุณค่าความเป็นพระ การเห็นคุณค่าความเป็นพระ สำคัญมาก มันทำให้อยากอยู่ต่อ อยากบำเพ็ญสมณธรรม อยากเดินตามรอยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนตลอดชีวิต ความรู้สึกเช่นนี้จะเกิดจากการบำเพ็ญสมณธรรมของเรา ถ้าบวชแล้วไม่ได้นั่งสมาธิ ครูไม่ใหญ่เสียดายแทน…เสียดายมาก ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/92 ต้นฉบับ หนังสือ เล่ม 3 ชีวิตสมณะ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

๓๕. นั่งสมาธิแล้วกลัวเป็นบ้า?

นั่งสมาธิแล้วกลัวเป็นบ้า? ปัจจุบันนี้ที่ละเลยเรื่องการปฏิบัติกัน เพราะกลัวว่านั่งแล้วเป็นบ้าบ้าง ที่นั่งแล้วเป็นบ้าไม่ใช่อะไร เพราะคนบ้ามานั่ง หรือประเภทมีเชื้อบ้าอยู่ก่อนแล้ว ตอนที่เชื้อยังไม่กำเริบ ยังไม่สำแดงออกก็ดูปกติ ทีนี้คนไปเห็นตอนที่เขาดีๆ อยู่ แต่พอนั่งสมาธิออกอาการ ก็เลยเหมาว่านั่งสมาธิแล้วเป็นบ้า ที่จริงมีเชื้อมาก่อน เพราะฉะนั้นจึงทำให้หลายคนกลัวการปฏิบัติธรรม หรือบางคนนั่งแล้วใจยังไม่บริสุทธิ์ ยังหยุดไม่สนิท เกิดนิมิตหลอน เห็นภาพโน่นภาพนี่ที่น่ากลัว เป็นภาพที่เก็บสั่งสมไว้ในจิตมาฉายให้เห็น จึงเกิดความกลัว แล้วก็ไปเล่าต่อๆ กันว่า ระวังนะ นั่งแล้วจะเห็นนั่นเห็นนี่ น่ากลัว คนที่ไม่ได้นั่งได้ยินได้ฟังเข้าก็กลัวตามไปด้วย ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้นั่งเลย เกิดกลัวไปเสียแล้ว กลัวจะไปเห็นผีสาง เห็นโน่นเห็นนี่ ถ้าจิตบริสุทธิ์จริงๆ เห็นพวกนี้จะรู้สึกเฉยๆ นะ เพราะเห็นเหมือนเห็นมนุษย์อย่างนี้แหละ แต่ว่ารูปร่างมันพิกลพิการกว่าเล็กน้อยบางประการอย่างมากมาย แต่อารมณ์ที่จะไปเห็นอย่างนี้ มันต้องใสแล้วนิ่ง ไม่มีความกลัวอยู่ แต่อารมณ์ที่ยังมีความกลัวแล้วเห็น แสดงว่าจิตยังไม่บริสุทธิ์ ยังเป็นนิมิตเลื่อนลอย นิมิตเลื่อนลอยยังไม่ใช่ของจริง บางแห่งก็ไปเหมาเอาว่า นิมิตทั้งหมดเลื่อนลอย ไม่ควรยึดติด อย่าไปติดนิมิต อันที่จริง นิมิตจริงก็มี เลื่อนลอยก็มี ก็เหมือนเราลืมตาเห็น คงเคยเห็นของลวงๆ เป็นของจริง มันเหมือนกันอย่างนั้นนะ แต่แทนที่จะเป็นตามนุษย์ …

๓๕. นั่งสมาธิแล้วกลัวเป็นบ้า? Read More »

๓๖. หยุดเป็นตัวสำเร็จ

หยุดเป็นตัวสำเร็จ ถ้าจะช่วยหลวงพ่อให้มีปีติเบิกบาน จงช่วยกันทำให้เข้าถึงสรณะภายในให้ได้ ไม่ถึง..เป็นไม่ยอมกัน ให้รู้จัก “หยุดเป็นตัวสำเร็จ” เป็นอย่างไร ได้ยินได้ฟังมาตั้งนานแล้ว ไปรู้จักกันเสีย จะได้มีรสนิยมเดียวกัน เข้าถึงจุดที่คุยกันได้ ไม่ใช่คุยอยู่รูปเดียว จะได้คุยกันได้ว่า หยุดแล้วดีอย่างไร ยิ่งหยุดยิ่งเร็วเป็นอย่างไร ไปพิสูจน์ให้ได้ เขามีแต่หยุดอยู่กับที่ แต่ยิ่งหยุดยิ่งเร็วมันเป็นอย่างไร หลวงปู่วัดปากน้ำกล่าวว่า “เอาอะไรมาปริยาย” ท่านใช้ภาษาท่าน คือ มันมีความรู้ที่กว้างขวางใหญ่โตขึ้นไปเรื่อยๆ ไล่ไปเรื่อยๆ ท่านถามของท่านไปเรื่อยๆ เราก็หายสงสัยไปทีละเรื่อง เรื่องนี้หายสงสัย ท่านพูดใหม่ สงสัยอีกแล้ว เพราะเรายังเข้าไม่ถึง พอถึงก็หายสงสัยไปตามลำดับ จนกระทั่งเรียนเรื่องจักรวาลวิทยา เรื่องภพภูมิต่างๆ เรียนไปถึงเรื่องนิพพาน ภพสาม โลกันตร์ แล้วก็มาเข้าใจคำว่า “นิพพาน” ตอนที่ละเอียดหยุดได้สนิทสมบูรณ์ หลวงปู่วัดปากน้ำท่านเคยเทศน์เอาไว้ ยังมีอยู่ในเทปอยู่เลย “ไปนิพพานจะไปยากอะไร ตดปึ๋งเดียวก็ถึงแล้ว” ท่านว่าอย่างนั้น แล้วท่านก็หัวเราะ เพราะความละเอียดของท่านถึงจุดตรงนั้น ท่านไปเอาความรู้เหล่านี้มาจากไหน นี่เป็นสิ่งที่น่าคิด แต่เดิมท่านก็ไม่รู้อะไร จะรู้ได้อย่างไร ไปเอามาจากไหน นี่เป็นสิ่งที่น่าศึกษา แต่แล้วท่านก็เปิดเผย ก็หยุดนั่นเอง “หยุดเป็นตัวสำเร็จ” …

๓๖. หยุดเป็นตัวสำเร็จ Read More »

๒๑. มหัศจรรย์ความรู้ภายใน

มหัศจรรย์ความรู้ภายใน ถ้าบวชเป็นพระ ก็จะทำสมาธิได้ง่ายกว่าตอนเป็นคฤหัสถ์ เพราะชีวิตพระมีเครื่องกังวลน้อยกว่า คฤหัสถ์จะมีปัญหาและแรงกดดัน ต้องทำมาหากิน ทำมาค้าขาย ทำมาสร้างบารมี ต้องดูแลทั้งตัวเอง ครอบครัว ดูทั้งบ้าน ทั้งคนในบ้าน นอกบ้าน ในที่ทำงานอีกเยอะแยะ ชีวิตพระมีเวลาว่างมากกว่าที่จะบำเพ็ญสมณธรรม คือ ข้อปฏิบัติสำหรับชีวิตสมณะ ที่จะทำให้กายวาจาใจสะอาด บริสุทธิ์ สงบนิ่ง เยือกเย็น เรียนรู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตภายในที่ถูกปกปิดเป็นความลับมายาวนาน ชีวิตของบรรพชิตเป็นชีวิตที่สูงส่ง เฉพาะผู้มีบุญ มีบารมี ที่ผ่านชีวิตของคฤหัสถ์มามากเพียงพอจนถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องก้าวไปสู่ชีวิตใหม่ที่ยกระดับชีวิตให้สูงขึ้น เรียนรู้ให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ชีวิตของบรรพชิตจะมีเวลาทำหยุดทำนิ่งได้มาก ยิ่งหยุดยิ่งนิ่งก็ยิ่งดิ่งไม่หยุด เข้าไปสู่ภายใน เดี๋ยวก็เห็นกายมนุษย์ละเอียด เห็นกายทิพย์ เห็นกายในกายซ้อนๆ อยู่ เป็นความมหัศจรรย์ที่หลายพันล้านคนในโลกเขาไม่เห็นกัน แต่เราเห็นชีวิตภายใน ชาวโลกส่วนมากเขาจะเห็นกายมนุษย์ละเอียดตอนเขาหลับฝันไป แต่ไม่รู้จักว่า เป็นกายฝัน เหมือนตัวเราเองออกไปทำหน้าที่ฝัน ตื่นขึ้นมาเราก็ยังระลึกได้บ้าง ไม่ได้บ้าง จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่ว่ากายนั้นเวลาตื่นไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ถ้าหากว่า เข้าถึงกายมนุษย์ละเอียดได้ จะมีความรู้สึกปีติสุข ภาคภูมิใจว่า คนอย่างเราเข้าถึงกายมนุษย์ละเอียด ได้ มีชีวิตที่สูงส่งกว่าชีวิตของคฤหัสถ์ไปอีกเท่าตัว อีก ๑๐๐ …

๒๑. มหัศจรรย์ความรู้ภายใน Read More »

๓๗. พระผู้ปราบมาร

พระผู้ปราบมาร ทำใจให้ใสๆ นึกน้อมภาพพระเดชพระคุณหลวงปู่ ที่เราจำได้ นึกน้อมท่านไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อย่างเบาๆ สบายๆ นึกถึงท่านทุกวันตลอดเวลา ให้ใจของเราผูกพันอยู่กับท่านทุกวัน ทุกคืน ก็จะเป็นทางมาแห่งบุญของเรา ไม่ใช่เฉพาะเพียงชาตินี้ แต่เราผูกพันกับท่านมาข้ามชาติ หลายชาติมากมายทีเดียว ในระหว่างที่เราเวียนว่ายตายเกิดมานี้ แต่บางช่วงของชีวิตก็ยาว บางช่วงก็สั้น บางช่วงก็พลัดจากท่านไปบ้างในยามที่เราประมาทในการดำเนินชีวิต แต่ว่าเราก็ได้อยู่ร่วมสร้างบารมีกับท่านในหลายๆ ลักษณะกันมาอย่างนี้ แม้กระทั่งปัจจุบันในชาตินี้ บางคนก็มาถึงท่านเร็ว บางคนก็ช้า คำว่า ถึงท่านนี้ แม้ท่านจะละสังขารไปแล้วก็ตาม การได้ถึงวิชชาของท่าน ก็ถือว่าได้เจอตัวองค์ท่าน บางชาติเราก็เจอกายเนื้อของท่าน ก็สลับกันไปอย่างนี้เป็นช่วงๆ แปลว่า เราเป็นสายธาตุสายธรรมของท่านมาตลอด ชาตินี้จึงได้มาสร้างบารมีกับท่านอีก แม้ว่าเราจะเข้าใจในระดับหนึ่ง หรือบางทีเราก็ไม่เข้าใจลึกซึ้ง แต่เราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ทำไมเราต้องผูกพันกับท่าน ต้องมาสร้างบารมีร่วมกับท่าน ก็เพราะว่าเราได้เคยสร้างกันมา อีกทั้งท่านก็ทุ่มบุญทุ่มบารมีตามเรามา ด้วยเหตุนี้เราก็จะต้องตรึกระลึกนึกถึงท่านให้ได้ตลอดเวลา การระลึกนึกถึงท่านเป็นทางมาแห่งบุญและการเข้าถึงวิชชาธรรมกายของเรา บุญเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตของเรา สุขทั้งในมนุษยโลก และในเทวโลก การที่เราประสบความสุขความสำเร็จในชีวิต ในการสร้างบารมี ในธุรกิจการงานต่างๆ ก็เพราะบุญนี่แหละ บุญที่เนื่องกับพระเดชพระคุณหลวงปู่นั้นไม่ธรรมดา วันใดที่เราเข้าถึงวิชชาธรรมกาย เราจะเห็นบุญได้ด้วยตัวของเราเอง และเราจะซาบซึ้งถึงคำที่หลวงพ่อได้กล่าวไปนี้ ให้ลูกนึกถึงท่าน …

๓๗. พระผู้ปราบมาร Read More »

๒๒. หัวใจนักสร้างบารมี

หัวใจนักสร้างบารมี นักสร้างบารมีควรมีหัวใจของผู้ให้ ตั้งแต่ให้ความรัก ความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้อภัยต่อบุคคลที่พลาดพลั้งล่วงเกินเรา ให้ทรัพย์สินเงินทอง ให้ข้าวปลาอาหาร หรือให้โอกาสแก่ผู้ด้อยโอกาส อย่างนี้ใจของเราจะเกิดความผาสุก ความผาสุกที่บังเกิดขึ้นนี้ มีคุณค่ามากมายมหาศาลยิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทอง เพราะว่าเป็นต้นทางให้เราไปสู่อายตนนิพพาน ความผาสุกเท่านั้น ที่จะทำให้ใจเราหยุดนิ่งอยู่ในกลางตัวของเรา พอถูกส่วนเข้า เดี๋ยวดวงใสของปฐมมรรคก็จะบังเกิดขึ้นชัดใสแจ่ม แล้วจะเข้าถึงกายภายในไปตามลำดับจนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกายที่ละเอียดยิ่งๆ ขึ้นไป ซึ่งทั้งดวงธรรม ทั้งกายภายใน และพระธรรมกาย ล้วนมีอยู่ในตัวของพวกเราทั้งหลาย ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราปรุงแต่งขึ้น มีมาแต่ดั้งเดิมแล้ว เป็นผังสำเร็จมานาน เพราะฉะนั้นความผาสุกนี้จึงเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เมื่อใจผาสุก เราก็จะเข้าถึงพระรัตนตรัยภายในได้ เข้าถึงสรณะอันเป็นที่พึ่งที่ระลึกอย่างแท้จริงของมนุษย์ทั้งหลาย หากเกิดมาแล้วไม่เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน ชาตินี้ เราเกิดมาเสียเปล่าไปหนึ่งชาติ ดังนั้นเราจะต้องเข้าถึงให้ได้ ถ้าเข้าถึงแล้วชีวิตก็จะปลอดภัย แม้ละโลกไปแล้วยังนำเรา ไปสู่สุคติภูมิ ปิดประตูอบายได้ ภัยในสังสารวัฏไม่อาจทำ อันตรายผู้ที่เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในได้ เมื่อเข้าถึงพระธรรมกายภายในแล้ว ความสุขก็จะเกิดขึ้นทันทีที่เข้าถึง เป็นความสุขที่พูดไม่ออก บอกไม่ถูก สุขจากการมีทรัพย์ สุขจากการได้ใช้จ่ายทรัพย์ หรือสุขจากการไม่เป็นหนี้ เทียบไม่ได้เลยกับความสุขแม้เพียงนิดเดียวที่เข้าถึงพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นความสุขที่เป็นอิสระ กว้างขวาง ไม่มีขอบเขต ไม่มีประมาณ กายเบา ใจเบา มีความปีติ เบิกบานใจ …

๒๒. หัวใจนักสร้างบารมี Read More »

๓๘. จริง ต้องได้

“จริง” ต้องได้ ออกพรรษาแล้ว มีเวลาถึง ๘ เดือน มากกว่าอยู่ในพรรษาเสียอีก เราก็จะต้องทำความเพียรกันต่อไป อย่าทำความเพียรเฉพาะภายในพรรษาเท่านั้น ภายในพรรษาก็ถือว่าเรามาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน มีความอบอุ่นใจ ได้ประพฤติธรรมร่วมกัน ออกพรรษาแล้ว บางท่านอาจจะแยกย้ายกันไปตามที่ต่างๆ ก็ให้ใช้วันเวลานอกพรรษานั้นบำเพ็ญสมณธรรมเช่นเดียวกัน ให้ภารกิจกับจิตใจไปด้วยกัน ทำควบคู่กันไปอย่างนี้ บารมีก็เกิดขึ้นกับเราทุกวันทุกคืน หลวงพ่อหวังว่า ลูกทุกรูปจะได้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย มีความปรารถนามาก ไม่เคยหลุดจากใจเลย ตั้งแต่บวชมาจนถึงวันนี้ ความตั้งใจเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ที่อยากจะให้ลูกทุกรูปทุกคน ทั้งพระ ทั้งเณร รวมถึงอุบาสก อุบาสิกาได้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย ความปรารถนาของหลวงพ่อจะสมหวังนั้น ลูกทุกรูปทุกคนต้องร่วมมือกัน ต้องปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิภาวนากันไปทุกวันทุกคืน ทำกันไปเรื่อยให้สม่ำเสมอ สักวันหนึ่งเมื่อบารมีของเราเต็มเปี่ยม จิตใจเราสะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส เราต้องเข้าถึงอย่างแน่นอน หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านพูดคำที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง ญาณทัสสนะของท่านแม่นยำ ท่านยืนยันเสมอว่า ทุกคนมีดวงธรรมอยู่ภายในตัว ดวงธรรมที่ทำให้เป็น กายมนุษย์ ใส บริสุทธิ์ โตเท่ากับฟองไข่แดงของไก่ ถ้าไม่มี ดวงธรรมดวงนี้ มาเกิดเป็นมนุษย์ไม่ได้ และดวงธรรมดวง นี้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ …

๓๘. จริง ต้องได้ Read More »

๒๓. ใบไม้ในป่าประดู่ลาย

ใบไม้ในป่าประดู่ลาย การศึกษาวิชชาธรรมกายนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้ง จิตต้องบริสุทธิ์และไม่มีอะไรเหนี่ยวรั้ง ไม่เกาะเกี่ยวกับเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ จึงจะไปรู้เรื่องราวสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะเรื่องราวเหล่านี้มันเหลือวิสัย และยากต่อการเข้าใจด้วยวิธีการให้เหตุผลแบบธรรมดา จะไปหาหลักฐานอ้างอิง หรือจะใช้ความนึกคิดด้นเดาไม่ได้ แล้วก็เป็นสิ่งที่นอกเหนือจากนักการศึกษาพระพุทธศาสนาหรือปราชญ์ทางพุทธศาสนาได้ศึกษาค้นคว้ามา เหมือนใบไม้ในป่าประดู่ลาย สมัยหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกอบใบประดู่ลายมากำมือหนึ่ง ถามพระภิกษุว่า “ใบไม้ในกำมือกับใบไม้บนต้นประดู่ส่วนไหนมีมากกว่ากัน” ภิกษุก็ตอบว่า “ใบไม้บนต้นประดู่มีมากกว่าใบไม้ในกำมือ” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “สัพพัญญุตญาณของเรานั้นรู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอด ในสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งปวงโดยไม่มีขอบเขตจำกัด แต่สิ่งที่เรานำมาสอนเธอนั้นเพียงนิดเดียว เพื่อเป็นทางหลุด พ้นจากกิเลสอาสวะ จากภพทั้ง ๓ จากกฎแห่งกรรม เพื่อ ทำพระนิพพานให้แจ้งเท่านั้น” วิชชาธรรมกายเหมือนใบไม้ในป่าใหญ่ ซึ่งนักปราชญ์และนักวิชาการในทางพุทธศาสนาในระดับโลกนั้น ไม่ได้ให้โอกาสกับตัวเองในการศึกษาธรรมปฏิบัติให้ลึกซึ้งขึ้นไปก็ยากต่อการจะที่เข้าใจสิ่งนี้ได้ เพราะฉะนั้นคำว่า “วิชชาธรรมกาย” จึงรู้กันอยู่ในขอบเขตจำกัด สำหรับผู้ที่ได้ศึกษาวิชชาธรรมกายในโรงงานทำวิชชาเท่านั้น นอกนั้นก็รู้แต่เพียงว่า ธรรมกาย คือ พระรัตนตรัยภายใน เป็นที่พึ่งที่ระลึก ไปนรกก็ได้ ไปสวรรค์ก็ได้ ในที่สุดไปนิพพานก็ได้ ไปนรกสวรรค์ไปจับมือถือแขนสัตว์นรกหรือชาวสวรรค์ได้ พูดจาโต้ตอบกันได้ ญาติ บิดามารดา ปู่ย่าตายายไปตกนรก พระธรรมกายไปช่วยได้ ด้วยอานุภาพของพระธรรมกายที่ไม่มีประมาณ นี่คือสิ่งที่ทุกคนที่อยู่นอกโรงงานทำวิชชาเข้าใจได้เพียงแค่นี้เท่านี้ จะรู้ซึ้งไปกว่านี้ ก็รู้กันอยู่ในขอบเขตจำกัดจริงๆ …

๒๓. ใบไม้ในป่าประดู่ลาย Read More »

๓๙. คิดถึงตลอดเวลาสิ

คิดถึงตลอดเวลาสิ ตอนนี้เรากำลังฝึกหยุดนิ่ง อย่าท้อ ถ้ารักวิชชาธรรมกาย ต้องไม่ท้อ ไม่กลัวอุปสรรค ต้องหมั่นสังเกตว่า ทำอย่างไรถึงจะถูกต้อง ต้องมีความเพียร ถ้าเรามีฉันทะ รักวิชชาธรรมกายเหมือนชายหนุ่มรักหญิงสาว เรารักพระ รักท่าน เดี๋ยวท่านก็รักเรา คนรักกันมันก็มีขั้นมีตอน ค่อยเป็นค่อยไป ตาต่อตา ตาสบตา ติดต่อพูดคุยทีละเล็กทีละน้อย กว่าจะร่วมหอลงโรงได้ พระภายในก็เช่นเดียวกัน ถ้าเราผูกสมัครรักใคร่ หมั่นไปเยี่ยมไปเยียน ไปดู สร้างความคุ้นเคยบ่อยๆ ใหม่ๆ ท่านก็ดูเราว่า เราแน่จริงหรือเปล่า มาผลุบๆ โผล่ๆ เดี๋ยวเห็น เดี๋ยวหาย เดี๋ยวมา เดี๋ยวไป เอาจริงหรือเปล่า ถ้ารักท่านจริง เราก็จะคิดถึงท่านตลอด คนรักกัน กินข้าวยังคิดถึงกันเลย ไปไหนก็คิดถึงตลอด คิดถึงพระก็เหมือนกัน ถ้าเรารักท่าน เราก็คิดไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เห็นท่านตลอด เดี๋ยวก็จะชัดขึ้น ถ้ารักมากขึ้น เดี๋ยวก็ชัดขึ้นๆ จนกระทั่งชัดแจ๋ว เรากับท่านเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นบุคคลคนเดียวกัน เหมือนสามีภรรยาอย่างนั้น ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ …

๓๙. คิดถึงตลอดเวลาสิ Read More »

๒๔. รู้ได้ด้วยธรรมกาย

รู้ได้ด้วยธรรมกาย พอถึงกายธรรมแล้ว วิชชาก็จะเกิด วิชชา ๓ บุพเพนิวาสานุสติญาณ จุตูปปาตญาณ และอาสวักขยญาณ เกิดตรงธรรมกาย เพราะเห็นได้รอบตัวด้วยธรรมจักขุ รู้ได้ด้วยญาณทัสสนะ ปัญญาบริสุทธิ์เกิดตรงนี้แหละ เข้าถึงกายธรรมได้แล้วปิดประตูอบายภูมิ ไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิ เกิดในเทวโลก เลือกชั้นเกิดได้ จะไปอยู่ตรงไหนก็เลือกได้ เราเกิดมาเพื่อแสวงหาความรู้อันบริสุทธิ์ ที่ทำให้หลุดพ้นจากการบังคับบัญชาของพญามาร เกิดมามีจุดหมายเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง จะแจ่มแจ้งได้ก็ต้องถึงธรรมกายถ้าไม่ได้ธรรมกายละก็ นิพพานไม่แจ้ง เพราะนิพพานกับธรรมกายจะดึงดูดเข้าหากัน ตั้งแต่นิพพานในกายธรรม จนกระทั่งนิพพานที่หลุดพ้นออกจากภพสามไปแล้ว ชัด ใส แจ่มทีเดียว ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๕ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/92 ต้นฉบับ หนังสือ เล่ม 3 ชีวิตสมณะ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

๔๐. จงสนุกกับมัน

จงสนุกกับมัน ทุกครั้งที่เริ่มหลับตา จงสนุกกับมัน ต้องเบิกบาน ไม่ว่าจะมีปรากฏการณ์อะไรเกิดขึ้นภายใน ตักตวงความสุขที่ได้จากประสบการณ์ภายในทุกขั้นตอนของการนั่งปฏิบัติธรรม ตักตวงความสุขนะ อย่าไปตักตวงความทุกข์ กลุ้มแล้วกลุ้มอีก กลุ้มเช้ากลุ้มสายบ่ายเย็น อย่างนั้นไม่เอานะ ตักตวงให้ดี ทุกประสบการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ชนิดไหน ดีทั้งนั้น แล้วจะเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต ในอนาคตเราจะต้องไปทำหน้าที่กัลยาณมิตร เราจำเป็นจะต้องเจอประสบการณ์ทุกแบบ เพราะฉะนั้นทุกประสบการณ์คือเครื่องหล่อหลอมชีวิตจิตใจของกัลยาณมิตร เมื่อเราเจอประสบการณ์ทุกแบบ ต่อไปเราจะไปแนะนำใครก็ตามในโลก เขาจะต้องเจอประสบการณ์คล้ายๆ กับเรา เหมือนกับเราไม่มีอะไรผิดเพี้ยนเลย เราเจอประสบการณ์อย่างไร เขาเจออย่างนั้น เราสอนตัวเราอย่างไร เราก็ไปสอนเขาอย่างนั้น เราสมหวังอย่างไร เขาก็สมหวังอย่างนั้น ไม่ยากเลยนะ เพราะฉะนั้น อย่ากลุ้มใจนะ อย่าคิดว่า มาคราวนี้เราไม่สมหวัง ผิดหวัง ทุกประสบการณ์มีประโยชน์ทั้งนั้น เหมือนเราได้เคยเคี้ยวพริกป่น พริกไทย พริกขี้หนู หรือพริกชี้ฟ้า หรือพริกอะไรก็แล้วแต่ มันก็เป็นประสบการณ์ทั้งนั้น ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/92 ต้นฉบับ หนังสือ …

๔๐. จงสนุกกับมัน Read More »

๒๕. วิตามินพระ

วิตามินพระ เมื่อบวชแล้วต้องตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมตลอดชีวิต ต้องดูแลตัวเองให้ดี เพื่อที่จะไปดูแลผู้อื่นได้ แล้วก็ให้ศึกษาทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ เทศนา และวิชชาธรรมกาย ให้แตกฉาน ถ้าบวชแล้วไม่บำเพ็ญสมณธรรม ไม่เจริญศีล สมาธิ ปัญญา หรือพูดง่ายๆ ว่า ไม่นั่งสมาธิ บวชมาก็อย่างนั้นๆ ไม่ได้อะไร เพราะบวชแล้วก็ยังไม่รู้ว่า ความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร หรือวิตามินของความเป็นพระมันมีรสอร่อย รสโอชาอย่างไร เราจะไม่มีวันรู้จักเลย ถ้าไม่บำเพ็ญสมณธรรม ถ้าไม่ทำสมาธิ แค่อ่านจากตำรับตำรามันทราบ แต่มันไม่ซึ้ง คือทราบว่า มันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่ซึ้ง เพราะอ่านไปก็ยังสงสัยอยู่ เอ๊ะ! ใช่หรือเปล่า เอ๊ะ! มีจริงไหม พอเอ๊ะ! ทีไร มันแปล๊บเข้าไปในใจทุกครั้ง เพราะมันยังไม่ค่อยมั่นใจ ถ้าเราไม่มั่นใจแล้ว เวลาญาติโยมถาม นรกสวรรค์มีจริงไหม บาปบุญคุณโทษมีไหม มันก็ไม่ค่อยจะมั่นใจ ตอบแบบคลุมๆ เครือๆ ตอบแบบกำกวม มันก็น่าจะมีนะอะไรอย่างนี้ โยมได้ฟังแล้วก็ เอ้อ บุญก็น่าจะทำนะ แล้วก็ไม่ทำ แต่ถ้าบอกมีจริง อ่ะ …

๒๕. วิตามินพระ Read More »

๒๖. เป็นพระ ต้องเห็นพระ

เป็นพระ ต้องเห็นพระ หลวงพ่ออยากให้ลูกทุกรูปมีใจที่เป็นนักบวชที่สมบูรณ์ มีเป้าหมาย มีปณิธาน มีอุดมการณ์ ให้อยู่ในใจของเรา อย่าสักแต่ว่าบวชๆ กันไปอย่างนั้น บวชแล้วต้องมีเป้าหมาย โดยเฉพาะในใจลึกๆ จะต้องตั้งใจที่จะศึกษาวิชชาธรรมกาย อย่าทิ้งสิ่งนี้ ความตั้งใจนี้ต้องให้มีนะ คิดอย่างนี้ทุกๆ วัน แล้วก็หมั่นฝึกฝนอบรมใจของเราไป ฝึกใจให้หยุดนิ่ง ฝึกทุกวัน อย่าได้เว้นเลยแม้แต่เพียงวันเดียว เมื่อใจของเรามีดวงเดียว สิ่งที่จะเข้ามาในใจของเราก็เข้าได้ทีละอย่าง เราจะนำสิ่งอะไรที่มีคุณค่ามากที่สุดมาไว้ในใจเรา เราก็ต้องนึกดูว่า ควรจะเป็นสิ่งใดที่เหมาะที่สุด ก็คือพระรัตนตรัยนี่แหละ องค์พระ ดวงแก้ว หลวงปู่วัดปากน้ำ ๓ อย่างสลับกันไปอย่างนี้ ให้อยู่ในใจเรา เมื่อเข้าถึงพระธรรมกายแล้ว จะได้ศึกษาวิชชาธรรมกายได้ เป็นพระ เป็นเณร แล้วไม่เห็นองค์พระ เข้าถึงพระธรรมกายไม่ได้ เป็นไปก็แค่นั้น หลวงปู่วัดปากน้ำท่านบอกว่า “เสียข้าวสุก” คือ ฉันข้าวไปก็เปลืองไปเปล่าๆ เพราะฉะนั้น เป็นพระ เป็นเณร ต้องมีพระปรากฏอยู่ในใจ ต้องเข้าถึงให้ได้ ตอกย้ำทุกๆ วัน พยายามให้เข้าถึงให้ได้ จะนั่ง นอน ยืน เดิน …

๒๖. เป็นพระ ต้องเห็นพระ Read More »

๒๓. ทบทวนตัวเองเรามาบวชเพื่ออะไร

ทบทวนตัวเอง เรามาบวชเพื่ออะไร “เรามาบวช เรามีความปรารถนาอะไร” ลูกทุกรูปต้องย้อนกลับไปทบทวนในวันแรกที่เราได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนา วันนั้นเรามีความตั้งใจอะไร ถึงได้สละทิ้งทุกอย่าง เครื่องกังวลทั้งปวง ตั้งแต่ความสนุกสนานเพลิดเพลินทางโลก การทำมาหากิน ครอบครัว และหมู่ญาติของเรา เราสละทุกสิ่งทุกอย่างมาบวช โดยมองเห็นว่า สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ที่พึ่งที่ระลึกของเรา ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ชีวิตของเราสมบูรณ์ พ้นจากความทุกข์ทรมาน ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เรารู้แจ้งเห็นแจ้งในชีวิต เพราะฉะนั้นเราจึงได้ตัดสินใจบวช วันนั้น ในท่ามกลางผู้มีบุญทั้งหลาย ท่ามกลางคณะสงฆ์ในพระอุโบสถ เฉพาะพระพักตร์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราตั้งใจว่า “บวชคราวนี้ เราต้องการแสวงหาหนทางพระนิพพาน หรือทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน” นั่นคือสิ่งที่เราได้ตั้งใจในวันนั้น เพราะฉะนั้นเราก็ควรจะทำความปรารถนาของเราให้สมหวัง ในที่นี้หลายๆ รูปบวชมาหลายพรรษาแล้ว ก็จะต้องมาทบทวนว่า ความปรารถนาของเราสมหวังแล้วหรือยัง ถ้ายัง ก็จะต้องตั้งใจทำความเพียรของเราต่อไปตามพุทธวิธี เดินตามศีล สมาธิ ปัญญากันเรื่อยไป สำหรับผู้บวชใหม่ ยังไม่มีภารกิจเครื่องกังวลในการคณะสงฆ์ ไม่มีเครื่องกังวลเรื่องการบริหารหมู่คณะ หรือภารกิจที่หมู่คณะมอบหมายให้ เป็นผู้ที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการแสวงหาหนทางพระนิพพาน สำหรับผู้ที่มีภารกิจมาก ก็ต้องบริหารเวลาให้เป็น จัดสรรเวลาให้ลงตัว ให้มีเวลาว่างสำหรับแสวงหาหนทางพระนิพพานของตนเองให้ได้ อย่างน้อยวันละ ๒ ชั่วโมงก็ยังดี ส่วนเวลาอื่นที่เรามีภารกิจประจำวัน ก็พยายามฝึกฝนทำควบคู่กับภารกิจนั้นไป เพราะภารกิจกับจิตใจต้องไปด้วยกัน ใครทำ ๒ …

๒๓. ทบทวนตัวเองเรามาบวชเพื่ออะไร Read More »

๒๘. ต้องบวชอย่างมีเป้าหมาย

ต้องบวชอย่างมีเป้าหมาย บวชมาแล้วต้องมีวัตถุประสงค์เดียวเป็นหลัก คือ ทำพระนิพพานให้แจ้ง นอกนั้นเป็นเรื่องปลีกย่อยลงมา นี่เป็นของเก่าดั้งเดิม บวชมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง การบวชต้องมีวัตถุประสงค์อย่างนี้เท่านั้น ถ้าไม่มีเป้าหมายอย่างนี้บวชเป็นพระยากนะลูกนะ ๓๒ พรรษาที่ผ่านไปของหลวงพ่อ รู้สึกประเดี๋ยวเดียว ยังมีความรู้สึกว่า งานที่แท้จริงยังไม่ได้เริ่มต้นเลย ทั้งๆ ที่ทำมาเรื่อยๆ ไม่ขาดเลย แม้แต่วันเดียว มากบ้าง น้อยบ้าง นั่งบ้าง นอนบ้าง ยืนบ้าง เดินบ้าง ก็ทำมาตลอด บวชแล้วต้องมีเป้าหมาย เมื่อมีเป้าหมายแล้ว ข้อวัตรปฏิบัติจะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ เพราะรักที่จะไปถึงตรงนั้น อยากจะเข้าถึงพระรัตนตรัย เข้าถึงพระธรรมกาย อยากไปศึกษาวิชชาธรรมกาย ความกระตือรือร้นจะเกิดขึ้นเอง และสอนตัวเองได้ เมื่อเรามีเป้าหมาย จะรักการปฏิบัติธรรม พอปฏิบัติธรรม มันมีความสุข ถ้าไม่มีความสุขมันนั่งนานๆ ไม่ได้หรอก แต่ความสุขที่เกิดจากธรรมปฏิบัติ ไม่ใช่จู่ๆ เกิดขึ้น ก็ต้องเริ่มต้นจากความไม่สุขไม่ทุกข์เสียก่อน ต้องฝึกฝน ต้องพากเพียร ต้องอดทน ต้องทำสม่ำเสมอ และหมั่นสังเกตดูว่า เราทำอย่างไรถึงจะวางใจได้ถูกต้อง ถูกวิธีการ แล้วความสุขจากการปฏิบัติถึงจะเกิดขึ้น เป็นกำลังใจสำหรับวันต่อวัน มาอยู่วัดพระธรรมกายแล้ว อย่าให้มีแต่ชื่อวัดพระธรรมกายเท่านั้น …

๒๘. ต้องบวชอย่างมีเป้าหมาย Read More »