หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่

๓๑. แสวงหาธรรมกายดีกว่า

แสวงหาธรรมกายดีกว่า วิชชาธรรมกายสำคัญมากๆ จำเป็นมากๆ สำหรับชีวิตมนุษย์ จำเป็นยิ่งกว่าปริญญาในทางโลกเสียอีก หลวงพ่อได้คุยกับดอกเตอร์หลายๆ ท่าน มักจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ตอนที่ยังไม่ได้ดอกเตอร์ ก็อยากได้ พอได้ดอกเตอร์แล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไร และยังบอกอีกว่า ถ้าหากให้ท่านเลือกระหว่างการได้เข้าถึงธรรมกายหรือถึงวิชชาธรรมกาย แล้วแลกกับดอกเตอร์ ท่านยอมแลกดอกเตอร์ขอให้ได้ธรรมกาย เพราะว่าเข้าถึงธรรมกายแล้วเป็นที่พึ่งแก่เราได้ ได้ข่าวว่า ลูกๆ หลวงพ่อหลายๆ ท่าน ทั้งพระภิกษุ สามเณร กำลังกระหายปริญญากัน จะขอเรียนต่อทางโลกเพื่อให้มีปริญญา เนื่องจากมีความรู้สึกขาดแคลนปริญญา มีความรู้สึกลึกๆ คิดไปเองว่า เป็นพลเมืองชั้นสอง รู้สึกมีปมด้อย มีความรู้สึกเหล่านี้ติดอยู่ในใจ หลวงพ่อว่า เรากำลังจะออกนอกทางกันนะ เพราะวัตถุประสงค์ของหลวงพ่อ อยากให้ลูกทุกรูป อุบาสก อุบาสิกาทุกคน ได้ศึกษาความรู้ที่ยิ่งใหญ่ ที่ไม่มีอะไรเหมือน เป็นความรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วอยากให้รู้ซึ้งถึงคุณค่าของวิชานี้ แล้วภาคภูมิใจในการที่ได้เข้ามาอยู่ร่วมสำนัก อยู่ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน นี่เป็นสิ่งที่หลวงพ่ออยากให้เกิดขึ้น จึงอยากจะย้ำให้ลูกๆ ทุกท่านได้ทราบไว้ว่า ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่หรือเท่าเทียมวิชชาธรรมกายได้เลยแม้แต่นิดเดียว หลวงพ่อขอยืนยัน เพราะฉะนั้น แทนที่เราจะทุ่มตัวไปศึกษาความรู้ในทางโลก เพื่อให้ได้ปริญญาตรีแบบทางโลก หลวงพ่อคิดว่า เราควรจะมุ่งเข้าไปศึกษาวิชชาธรรมกาย ซึ่งอยู่ภายใน ซึ่งเราจะใช้เวลาในชีวิตของเราที่เหลืออย่างจำกัดไม่กี่สิบปีนี้ …

๓๑. แสวงหาธรรมกายดีกว่า Read More »

๑๖. คู่ปรับของวัยหนุ่ม

คู่ปรับของวัยหนุ่ม ลูกทุกรูปยังอยู่ใน “วัยหนุ่ม” เป็นวัยที่แข็งแรง ถ้าเอาชนะความกำหนัดยินดีในกามได้ อะไรก็เรื่องเล็ก เราจะได้เอาพลังอันนี้ มุ่งไปถึงที่สุดแห่งธรรมได้อย่างดีที่สุด ถ้าเราเอาชนะความกำหนัดยินดีในกามได้ อะไรก็ไม่มีความหมายสำหรับเราในทางโลก เราก็จะมุ่งไปถึงที่สุดได้ ในวัยที่มีความพร้อม แต่เขาก็ทำผังสำเร็จมาว่า ในวัยนี้จะมีพลังที่จะสร้างสืบพันธุ์มนุษย์แบบสัตว์โลกทั้งหลายที่จะต้องขยายพืชพันธุ์กันไป เพราะฉะนั้นก็จะมีพันธะของชีวิต “พันธะของชีวิต” นี้เป็นเครื่องผูกหย่อนๆ ที่เรามองไม่เห็น แต่มันเป็นเครื่องผูก ทำให้เป็นเครื่องกังวลใจ ความกังวลใจจะเหนี่ยวรั้งให้เราอยู่กับสิ่งที่หยาบๆ สิ่งที่เป็นทุกข์ สิ่งที่เป็นปัญหา มีแรงกดดันรอบด้าน แต่ถ้าหากเราเอาชนะสิ่งนี้ได้ ไม่ให้สิ่งนี้ครอบงำใจเรา อะไรๆ ในโลกนี้ ก็ไม่มีความหมายสำหรับเรา ตอนนั้นแหละพลังเราจะเหลือเฟือ มุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรมได้ แต่ถ้าหากเรายอมแพ้ ไม่ยอมชนะ คือ ยอมแพ้เสียจนเคยชิน มันก็จะแพ้เขาอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าหากเรายอมชนะสักครั้งหนึ่ง เอาวัยที่แข็งแรงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ทหาร “ทหรํ” (ทะ-หะ-รัง) คือ วัยหนุ่ม เป็นทหารมุ่งค้นหาที่สุดแห่งธรรม ที่สุดของตัวเองได้ นี่คือพลังที่สำคัญมาก พลังที่พญามารกลัวมากๆ กลัวพลังหนุ่ม ที่มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ กลัวพลังหนุ่ม ที่เอาชนะความกำหนัดยินดีในกามได้ “พลังหนุ่ม” เป็นสิ่งที่พญามารกลัวมากๆ เพราะถ้าหากทุ่มใจเป็นหนึ่งได้ นั่งสมาธิไม่ค่อยเมื่อย …

๑๖. คู่ปรับของวัยหนุ่ม Read More »

๑. เราเกิดมาทำไม

เราเกิดมาทำไม การเกิดมาเป็นมนุษย์ในแต่ละครั้ง มาเพื่อสร้างบารมีเท่านั้นจริงๆ เราลองทบทวนชีวิตที่ผ่านมา ถ้าเราไม่ได้มาสร้างบารมีในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ หรือในทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น เราจะเห็นว่า ชีวิตของเราก็ไม่ต่างจากชีวิตนกชีวิตกาที่ตื่นเช้าขึ้นมาก็ออกไปทำมาหากิน กลับมาบ้าน ใช้ชีวิตสนุกสนานเพลิดเพลินกันไปวันๆ หนึ่ง และคอยคลี่คลายปัญหาและแรงกดดันที่เราได้รับมาในแต่ละวัน แล้วก็จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีสาระแก่นสาร ยิ่งถ้าไม่ได้รู้จักเรื่องบุญ ไม่เข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตก็มีสิทธิ์ไปอบายภูมิได้ เพราะฉะนั้น ที่เราเกิดมาและมีบุญวาสนาได้เกิดในร่มเงาของพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย เราจึงเข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต และวัตถุประสงค์ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ว่า เราเกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมีไปสู่ที่สุดแห่งธรรม เราจึงใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า มีคุณประโยชน์อย่างยิ่ง วันนี้เราจึงมีชีวิตแตกต่างจากมนุษย์ทั่วๆ ไปอีกหลายพันล้านคนในโลก ที่เขายังไม่รู้อะไรเลย เราจึงเป็นผู้ที่มีโชคดี มีบุญลาภเป็นอย่างยิ่ง ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/92 ต้นฉบับ หนังสือ เล่ม 3 ชีวิตสมณะ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

๑๗. มาตุคาม

มาตุคาม ในพรรษานี้เราตั้งใจอะไรไว้ เราก็ต้องมานึกทบทวนกันให้ดี ที่สำคัญก็คือ ความเป็นพระที่แท้จริง กับเป้าหมายของพระ พระแท้ คือ ผู้ที่ประพฤติถูกต้องตามธรรมวินัย เราจะต้องสำรวจตรวจตราดูว่า ความเป็นพระของเรายังสมบูรณ์ดีอยู่ไหม ทั้งความคิด คำพูด และการกระทำของเราสมบูรณ์ไหม ยังมีสิ่งที่เราจะต้องปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เป็นพระสมบูรณ์ขึ้นอีกกี่อย่าง บางทีเรามุ่งเรื่องงานมากเกินไปจนลืมเรื่องความเป็นพระของเรา พรรษานี้หลวงพ่ออยากจะเน้นให้ลูกๆ ทุกรูปหวนกลับคืนมาสู่ธรรมวินัยที่สมบูรณ์ขึ้น > สิ่งอะไรที่เป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ ต่อการกุศล เราก็รู้อยู่ แต่บางทีเราก็ชะล่าใจ จนกระทั่งเข้าไปคลุกคลีใกล้ชิด ไม่มีระยะห่างระหว่างเรากับคฤหัสถ์ ซึ่งอันตรายมาก บางครั้งเราเพลี่ยงพล้ำกระทำให้จิตเราไม่บริสุทธิ์ คำพูดและการกระทำไม่บริสุทธิ์ นึกเมื่อไรก็ไม่สบายใจ เพราะฉะนั้นปีนี้ พรรษานี้ ต้องเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษ เกี่ยวกับการคลุกคลีกับสิ่งที่เป็นข้าศึกกับพรหมจรรย์ เราจะไปโทษมาตุคามหรือเพศตรงข้ามไม่ได้ มันต้องโทษที่ตัวเรา รักษาใจได้แค่ไหน วางตัวได้เหมาะสมแค่ไหน อยู่ในฐานะพระที่อยู่บนหิ้งบูชา หรือว่าเสมอเหมือนกับคฤหัสถ์ มันต้องดูตรงนี้ โดยเฉพาะพระอาจารย์ที่ต้องออกไปทำหน้าที่ต่างจังหวัดไกลๆ ก็ต้องระมัดระวังให้ดี คุ้มครองตัวเองให้ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในยวดยานพาหนะ ในอาคารบ้านเรือน หรือที่ไหนก็แล้วแต่ ระมัดระวังตรงนี้ให้ดี อย่าอยู่กันตามลำพัง เดี๋ยวพญามารจะได้ช่องสอดละเอียดเข้ามา สอนให้เราคิดอย่างนี้ พูดอย่างนี้ ทำอย่างนี้ แล้วจะทำให้เราเสียใจในภายหลัง จะไม่สบายใจในการอยู่ร่วมกับหมู่คณะที่เขาบริสุทธิ์กัน เพราะฉะนั้นต้องมีช่องว่างนะลูกนะ …

๑๗. มาตุคาม Read More »

๒. ชีวิตอันทรงคุณค่า

ชีวิตอันทรงคุณค่า ชีวิตของนักรบกองทัพธรรม ผู้ได้อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนา เป็นชีวิตที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ยิ่งกว่าชีวิตของจอมจักรพรรดิ หรือยิ่งกว่าชีวิตใดๆ ในโลก เพราะเป็นชีวิตที่มีเกียรติสูงสุด ไม่ใช่มีเกียรติเฉพาะในเมืองมนุษย์นี้เท่านั้น แต่มีเกียรติสูงสุดในสัมปรายภพ ในเทวโลก เพราะว่านักรบกองทัพธรรมเป็นผู้ทำงานที่ยิ่งใหญ่และหนักที่สุด นั่นคือ งานสร้างสันติสุขอันไพบูลย์ให้บังเกิดขึ้นแก่มวลมนุษยชาติ การที่พวกเราได้ก้าวเข้ามาสู่เส้นทางธรรม ตั้งใจมาเป็นนักรบกองทัพธรรม ถือว่าเป็นความตั้งใจที่ดีมากๆ และดีที่สุดแล้ว เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะภารกิจนี้คืองานที่แท้จริงของเรา เราเกิดมาพร้อมกับหน้าที่ที่จะต้องทำกันต่อไป ไม่มีถอยหลังกลับ ฉะนั้นให้รู้สึกเป็นเกียรติ มีปีติ และภาคภูมิใจที่ได้รับหน้าที่นี้ หน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ เราต้องทำกันไปเป็นทีมจึงจะสำเร็จ ตราบใดที่เรายังไปไม่ถึงจุดหมาย คือ ที่สุดแห่งธรรม เราก็จะต้องร่วมมือกันต่อไป สานใจกันให้เป็นหนึ่ง ทุ่มเทชีวิตจิตใจสร้างบารมีกันให้เต็มที่ บารมีของเราก็จะได้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ บำเพ็ญบารมีให้มากที่สุดเท่าที่เรายังมีเวลาของชีวิตเหลืออยู่ในโลกนี้ การดำรงชีวิตอย่างนี้ ถือว่าเป็นชีวิตที่มีคุณค่าสมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มาพบพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย คุณค่าของชีวิตอยู่ตรงที่ ใครได้ทุ่มเทสร้างบารมีมากกว่ากัน ได้ปรับปรุงแก้ไขฝึกฝนอบรมตนเองจนกระทั่งสามารถเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวได้ แล้วก็ทำหน้าที่เป็นผู้ให้แสงสว่างแก่โลก เป็นผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร นำพาเพื่อนมนุษย์ให้เข้าไปถึงจุดแห่งความสมปรารถนา ให้เขาได้เข้าถึงความสุขที่แท้จริงที่เกิดจากการเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว ได้รู้จักเป้าหมายชีวิตที่แท้จริง แล้วมีกำลังใจที่จะก้าวเดินต่อไปสู่เป้าหมายนั้นได้ตลอดรอดฝั่ง โดยไม่หวาดหวั่นต่ออุปสรรคใดๆ กระทั่งมีชัยชนะ ถึงจุดหมายปลายทาง ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๕ …

๒. ชีวิตอันทรงคุณค่า Read More »

๑๘. บวชแล้วอย่าสึก

บวชแล้วอย่าสึก บวชแล้วอย่าสึก สโลแกนที่ว่า “สึกแต่หนุ่ม” นั้นลบทิ้งไปเสีย ต้องเขียนใหม่ว่า “บวชแต่หนุ่ม” เพราะร่างกายยังแข็งแรง จะได้ลุยงานพระศาสนากันได้เต็มที่ บวชแล้วอย่าสึก เดี๋ยวก็วัน เดี๋ยวก็คืน เดี๋ยวก็หมดเวลาแล้ว ดูพระเทวทัตขนาดทำชั่วขนาดนั้น ยังไม่ยอมสึก โดนธรณีสูบไปครึ่งตัว ยังไม่ยอมสึก ขนาดธรณีสูบถึงคอ ก็ยังไม่ยอมสึก ไปอยู่ในอบายภูมิ อยู่ในอเวจีมหานรก แม้ปัจจุบันนี้ เขายังเรียก “พระเทวทัต” อยู่เลย พระเทวทัตยังไม่ยอมสึก แล้วเราจะสึกทำไม เราพระดีๆ พระแท้อย่างนี้ สึกไปทำไม? ต้องบวชกันต่อไป ลุยสร้างบารมีกันไปจนกว่าทั่วโลกจะเข้าถึงธรรม อย่างนี้จึงจะถูกหลักวิชชานะลูกนะ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/92 ต้นฉบับ หนังสือ เล่ม 3 ชีวิตสมณะ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

๓. วัตถุประสงค์การเกิดเป็นมนุษย์

วัตถุประสงค์การเกิดเป็นมนุษย์ ชีวิตในสังสารวัฏนี่ อตร. อันตราย เราเป็นพระเป็นเณร เราเห็นภัยในวัฏสงสาร แต่ว่าน้อยคนในโลกนี้ที่จะเห็นภัยในวัฏสงสาร ท่านผู้รู้ท่านเห็น เมื่อท่านเห็น ท่านถึงได้สอนว่า มาเกิดเป็นมนุษย์แล้วต้องมาสร้างบารมีนะ ที่สำคัญที่สุดคือ ทำพระนิพพานให้แจ้ง นี่เป็นหลักเลย ถ้าหากว่าไม่หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะไปสู่นิพพานแล้วละก็..อันตราย ถ้าจะอยู่ในวัฏสงสาร ภัยมันเยอะ สารพัดภัย ภัยจากสัตว์ร้าย ของร้าย คนร้าย ภัยธรรมชาติ ภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ ภัยจากกิเลสบังคับ ภัยในอบาย เยอะแยะไปหมดเลย มีทางเดียวที่จะรอดได้คือ ต้องขจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้น ไปนิพพานนั่นแหละ จะได้หลุดพ้นจากที่เขาบังคับเพราะฉะนั้นการทำพระนิพพานให้แจ้งจึงเป็นวัตถุประสงค์ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ของทุกคนในโลก จะรู้หรือไม่รู้ก็แล้วแต่ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม แต่ทุกคนเกิดมาเพื่อการนี้ นอกนั้นเป็นวัตถุประสงค์รองลงมา คือ การสร้างบารมี ซึ่งก็คือการทำความดี ต้องละชั่ว ทำดี ทำใจให้ใส นี่เป็นหลัก ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ จับหลักตรงนี้ให้ได้ ฉะนั้น เรามีทางเลือกอยู่ทางเดียวที่จะเป็นทางรอด คือ ต้องฝึกใจให้หยุดนิ่ง ให้เข้าถึงพระธรรมกายในตัวให้ได้ ชีวิตจึงจะปลอดภัย ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ พระธรรมเทศนา โดย …

๓. วัตถุประสงค์การเกิดเป็นมนุษย์ Read More »

๑๙. เดินตามรอยพระพุทธองค์

เดินตามรอยพระพุทธองค์ เราเกิดมาเป็นมนุษย์ มีเวลาอยู่ในโลกนี้จำกัด จำกัดในการสร้างบารมี ในการสร้างความดี เราได้ยินได้ฟังว่า อายุเฉลี่ยของมนุษย์ในยุคนี้ ๗๕ ปี ก็อย่าเพิ่งไปคิดว่า เราเหลือเวลาอีกตั้งนานหลายสิบปี กว่าจะไปถึงอายุขนาดนั้น นั่นเราคิดไปเองนะว่า เราจะมีอายุยืนไปถึงตรงนั้นหรือยิ่งกว่านั้น แต่ความเป็นจริงเรามีวิบากกรรมเหมือนเป็นระเบิดเวลาที่ติดตามตัวเราเหมือนเงาตามตัวตลอดเวลา ซึ่งคอยจังหวะโอกาสที่จะได้ช่องระเบิดตูมตามตลอดเวลา บางทีทำให้เราต้องเสียทรัพย์สินบ้าง อวัยวะบ้าง หรือบางทีทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ก่อนถึงอายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์ ๗๕ ปี ก็มี บางคนตายตั้งแต่ปฐมวัยบ้าง วัยรุ่นบ้าง วัยหนุ่ม วัยสาว วัยกลางคน วัยชรา ตายได้ทุกวัยเลย เพราะฉะนั้นอย่าคิดเอาเองว่า อายุของเราจะไปถึงตรงนั้น คิดอย่างนั้นเขาเรียกว่า เรากำลังชะล่าใจ กำลังประมาทในชีวิต เราต้องคิดแบบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ความตายมีอยู่ทุกขณะจิต ทุกขณะลมหายใจเข้าออก ลมเข้าแล้วไม่ออกก็ตาย ลมออกแล้วไม่เข้าก็ตาย หรือไม่เข้าไม่ออกก็ตายอีกเหมือนกัน ตายได้ตลอดเวลา ต้องคิดอย่างนี้ เมื่อเรามีชีวิตอยู่แค่ช่วงลมหายใจเข้าออก เราควรจะใช้เวลาช่วงสั้นๆ นี้อย่างไร จึงจะมีคุณค่ามากที่สุด จะไปแสวงหาทรัพย์ ลาภ ยศ สรรเสริญ ตำแหน่ง อำนาจ วาสนา หรือว่าจะมาแสวงหาพระรัตนตรัย …

๑๙. เดินตามรอยพระพุทธองค์ Read More »

๔. วัตถุประสงค์และอานิสงส์การบวช

วัตถุประสงค์และอานิสงส์การบวช วัตถุประสงค์ของการบวชมีเพียงประการเดียว คือ ทำพระนิพพานให้แจ้ง ไม่ว่าจะบวชสั้นหรือบวชยาวก็ตาม แม้บวชเพียงวันเดียว วัตถุประสงค์ก็มีอย่างเดียวเท่านั้นคือ ทำพระนิพพานให้แจ้ง การบวชเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้งและตั้งใจทำอย่างนั้นจริงๆ จึงจะได้ชื่อว่า เป็นเนื้อนาบุญ เป็นอายุพระศาสนา ถูกวัตถุประสงค์ของการบวช บวชอย่างนี้จึงจะมีอานิสงส์มากถึง ๖๔ กัป คือ ปิดประตูอบาย ไม่ต้องไปมหานรกถึง ๖๔ กัป จะเกิดกี่ครั้งก็แล้วแต่ ปิดประตูอบาย ไม่ไปมหานรกสำหรับตัวเอง โยมพ่อโยมแม่ก็ได้ครึ่งหนึ่ง ๓๒ กัป ผู้มาอนุโมทนาลดหย่อนลงไปตามส่วน แต่ถ้าหลายๆ องค์ก็เอามาคูณกันไปเรื่อยๆ แล้วแต่ว่า ใครปลื้มมาก ปลื้มน้อย นี่ก็เป็นวัตถุประสงค์และอานิสงส์โดยย่อของการบวช ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/92 ต้นฉบับ หนังสือ เล่ม 3 ชีวิตสมณะ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

๒๐. ทำไมต้องฝึกใจให้หยุดนิ่ง

ทำไมต้องฝึกใจให้หยุดนิ่ง เราฝึกใจให้หยุดนิ่ง เพื่อความสุขทั้งในปัจจุบัน และเป็นความปลอดภัยในชีวิต ในสังสารวัฏ เมื่อใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ สติก็เกิดขึ้น เมื่อสั่งสมมากเข้าก็เป็นมหาสติ สติมีที่ใด ปัญญาก็เกิดขึ้นที่ตรงนั้น เมื่อสั่งสมมากเข้าก็เป็นมหาปัญญา มหาปัญญาบังเกิดขึ้นก็จะทำให้เราดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด จะมีความสุข ปีติ และภาคภูมิใจอยู่ตลอดเวลา บุญก็จะบังเกิดขึ้นควบคู่กับภารกิจในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะครองเรือน ทำมาหากิน เรียนหนังสือ หรือจะไปทำอะไรก็แล้วแต่ จะทำให้มโนปณิธานของเราที่ตั้งมั่นดีแล้วมั่นคงยิ่งขึ้น พระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านเป็นสุขด้วยตัวของตัวเองด้วยใจหยุดนิ่งอย่างนี้แหละ ท่านจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ เพราะใจหยุดแล้ว ไปอยู่ป่า อยู่เขา ห้วย หนอง คลอง บึง ที่ไหนๆ ก็อยู่ได้ การฝึกใจให้หยุดนิ่งสำคัญ ทุกคนต้องให้ความสำคัญกับตรงนี้ให้มากๆ เพราะยังมีสิ่งที่เราจะต้องศึกษาเรียนรู้อีกเยอะ ที่นอกเหนือจากความรู้ปกติที่เราได้อ่าน ได้ยิน ได้ฟัง หรือได้ตรึกนึกคิด เป็นความรู้ที่สิ่งเหล่านี้ไปไม่ถึง ความคิดจินตนาการไปไม่ถึง ที่สำคัญเป็นเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต เกิดประโยชน์ด้วย และถูกวัตถุประสงค์ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ด้วย ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) …

๒๐. ทำไมต้องฝึกใจให้หยุดนิ่ง Read More »

๕. การขอขมาลาบวช

การขอขมาลาบวช การขอขมาก่อนอุปสมบทเป็นสิ่งจำเป็น เพราะชีวิตในสังสารวัฏ เราต่างเคยเกิดเป็นอะไรต่ออะไรกันมาเยอะแยะ เป็นโน่น เป็นนี่ เป็นนั่น คือ มีความเกี่ยวพันกันไปหมด แต่ไม่น่าเชื่อว่า เราลืมไปหมด เพราะมันมีบางสิ่งมาบดบัง ไม่ให้เรารู้ คือ “อวิชชา” มันมาบดบัง มันหุ้มมันเคลือบในใจเรา หุ้มไปหมดเลย ปิดหู ปิดตา ปิดความรู้ข้างนอก ข้างใน จนไม่รู้เลยว่า เคยมีความเกี่ยวข้องกันในสังสารวัฏนี้ เมื่อพระกับมารยังปะทะกันอยู่ บุญกับบาป มืดกับสว่าง กุศลกับอกุศลกรรม มันปะทะกันอยู่นี้ในทุกชาติที่เกิดมา โอกาสที่อกุศลเข้าสิงจิตมีอยู่ตลอดเวลา เมื่อเราเผลอสติ เมื่อใจเราไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก็ขาดดวงปัญญา พอขาดดวงปัญญา ปัญหาก็เกิดขึ้น แล้วก็เป็นวิบากกรรมติดมา ดังนั้น ก่อนที่จะอุปสมบท การกล่าวขอขมาลาบวชจึงเป็นสิ่งจำเป็น สำคัญอย่างยิ่ง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ดี แล้วก็ไม่ใช่เฉพาะทำตามธรรมเนียมเท่านั้น แต่ว่าเป็นความตั้งใจจริงด้วย เพราะฉะนั้นที่เคยมีการล่วงเกินกันบ้าง ในข้อผิดพลาดของเราและเพื่อนมนุษย์ ก็จะได้ล่มสลายหายไป แปลว่า เราก็ใจใส ผู้ที่เตรียมตัวจะบวชก็ใจใส ต่างก็ใจใสด้วยกันทั้งคู่ บุญกุศลก็จะเกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ …

๕. การขอขมาลาบวช Read More »

๖. เกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง

เกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง ถ้าเราจับหลักของชีวิตได้ว่า อะไรคือเป้าหมายชีวิต การดำรงชีวิตก็จะถูกต้อง หลักของชีวิตจะต้องศึกษาจากท่านผู้รู้ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะพระองค์ทรงผ่านชีวิตมาทุกระดับแล้ว และได้บทสรุปของชีวิตว่า เราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง และพระองค์ก็ทรงทำให้แจ้งแล้วด้วยพระองค์เองมีพระมหากรุณาทรงแนะนำสั่งสอนทั้งมนุษย์และเทวา และมีผู้ประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ได้บรรลุมรรคผลนิพพานกันเยอะแยะ เกิดมาแล้วต้องจับหลักตรงนี้ให้ได้ อย่าไปจับหลักของผู้ไม่รู้นะ ของผู้ไม่รู้มันก็สะเปะสะปะเรื่อยเปื่อยกันไป บางคนบอกตายแล้วสูญ บางคนบอกตายแล้วไปอยู่บนสวรรค์บาปกรรมมีมากน้อยเท่าไรทำไปเถิด อย่างนี้ก็ลุยกันสะบั้นหั่นแหลกเลย บางพวกก็บอกว่า ต้องกินต้องดื่มคือหลักของชีวิต ขืนเชื่ออย่างนี้ ได้ไปดื่มในอบาย ๖,๐๐๐ กว่าล้านๆ ปีมนุษย์ มันหลากหลาย อันตรายนะลูกนะ เกิดมาแล้วต้องจับหลักของชีวิตให้ถูกตามที่ผู้รู้ท่านได้สั่งสอน แต่การที่ใครจะมาได้ยินได้ฟังธรรมของท่านผู้รู้ที่สมบูรณ์อย่างนี้ ก็ไม่ใช่ง่าย ต้องสั่งสมบุญบารมีมามาก ทำทุกๆ บุญ แล้วก็อธิษฐาน นิพพานะปัจจะโย โหตุ คือ ตั้งความปรารถนาที่จะพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง หรือเกิดอยู่ในร่มเงาศาสนาของท่าน เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง ตอนนี้เราเกิดอยู่ในร่มเงาศาสนาของท่าน อยู่ในคำสอนของท่าน ถือว่าเป็นผู้มีบุญมากๆ เมื่อเรารู้แล้วว่า เกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง หรืออย่างน้อยก็เกิดมาสร้างบารมี ก็เหลือแต่เราต้องลงมือทำเท่านั้น ทำบารมี ๑๐ ทัศ ให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ทั้งทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมะ ปัญญา …

๖. เกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง Read More »

๗. ชีวิตสมณะผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร

ชีวิตสมณะ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เพื่อความไม่ประมาทในการใช้กายมนุษย์หยาบ ก็ต้องทำให้ถูกวัตถุประสงค์ของชีวิต ตามที่พระอริยเจ้า บัณฑิต นักปราชญ์ เขาดำเนินชีวิตกัน มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นต้นบุญต้นแบบในการดำเนินชีวิตของสรรพสัตว์ทั้งหลายในสังสารวัฏ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว ผ่านชีวิตของการเวียนว่ายตายเกิดมามากพอแล้ว ฝึกฝนอบรมตนพัฒนากายวาจาใจมาตลอด ไม่ว่าจะเกิดเป็นชนชั้นล่าง ชั้นกลาง หรือชั้นสูง แล้วก็สรุปสูตรชีวิตว่า เพศบรรพชิตประเสริฐที่สุด มีโอกาสมากกว่าในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง สามารถดับทุกข์ได้ พ้นทุกข์ได้ เพราะไม่มีเครื่องพันธนาการของชีวิตมากเท่ากับชีวิตของคฤหัสถ์ มีเครื่องพันธนาการชีวิตเพียงเล็กน้อย แค่บริขาร ๘ ที่จะคอยดูแลกายและใจ มีเป้าหมาย คือ ทำพระนิพพานให้แจ้ง ชีวิตสมณะจึงเหมือนนกน้อยมีแต่ปีกและหางที่โผบินไปในอากาศ คือ เป็นอิสระจากเครื่องพันธนาการของชีวิตไม่เหมือนชีวิตคฤหัสถ์ มีเวลาที่เหลือมาทำความเพียร ฝึกใจให้หยุดให้นิ่งอย่างเดียว เพราะ “หยุดเป็นตัวสำเร็จ” ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/92 ต้นฉบับ หนังสือ เล่ม 3 ชีวิตสมณะ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร กลับสู่ สารบัญ …

๗. ชีวิตสมณะผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร Read More »

๘. คิดพูดทำแบบพระ

คิดพูดทำแบบพระ ตอนนี้เราเป็นพระ ให้คิดแบบพระ พูดแบบพระ และทำแบบพระ ทำแค่ ๓ อย่างนี้เท่านั้น ไม่ต้องเยอะ คิดพูดทำแบบพระที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนเอาไว้ให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย เพราะฉะนั้นอย่าให้ใจเราออกนอกเส้นทาง หรือไปคิดเรื่องที่ไม่เป็นสาระแก่นสาร ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน หรือทำภารกิจอะไรก็ตาม จะกิน จะดื่ม จะทำ จะพูด จะคิด หยุดนิ่ง ลิ้มรส เหยียดแขน คู้แขน กลับหน้า กลับหลัง หรือจะทำอะไรก็แล้วแต่ ให้มีเพื่อน อย่าทำตามลำพัง คือ ต้องมีพระอยู่ในตัวเป็นเพื่อนคู่ใจอยู่ตลอดเวลา ถ้าทำอย่างนี้แล้ว เดี๋ยวความรู้สึกว่า เป็นพระ จะเป็นไปเอง โดยที่เราไม่ต้องไปเคร่งครัดหรือสำรวมระวังอะไร เพราะความรู้สึกของเราอยู่กับพระ แล้วคุณสมบัติของพระก็จะถ่ายทอดมาเป็นคุณสมบัติของเรา ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๙ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/92 ต้นฉบับ หนังสือ เล่ม 3 ชีวิตสมณะ …

๘. คิดพูดทำแบบพระ Read More »

๙. อย่าขาดกิจวัตรกิจกรรม

อย่าขาดกิจวัตรกิจกรรม แม้ว่าเราจะมีภารกิจมากมายเพียงใดก็ตาม แต่กิจวัตรกิจกรรมเราก็ต้องทำควบคู่กันไป เราต้องพยายามบริหารเวลาของชีวิตให้ได้ จัดสรรเวลาสำหรับกิจวัตรและกิจกรรมให้ลงตัวให้ได้ ใครมีหน้าที่อะไรที่หมู่คณะมอบหมาย เราก็ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ กิจวัตรของเรา สวดมนต์ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น และนั่งภาวนา เราก็ยังต้องทำอยู่ และต้องทำตลอดชีวิต การสวดมนต์ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น และนั่งภาวนา จะช่วยกลั่นธาตุธรรมของเราให้สะอาด ให้บริสุทธิ์ ให้เรา เข้าถึงจุดแห่งการหยุดนิ่งได้เร็วเข้า เพราะภารกิจของเรา มีมาก จะทำให้อารมณ์หยาบ กายหยาบ วาจาหยาบ และใจหยาบ ถ้าหากเราใช้เวลาช่วงเช้าช่วงกลางคืนสวดมนต์ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น และปฏิบัติธรรม กายวาจาใจของเราจะสะอาดบริสุทธิ์เพิ่มขึ้น จะหยุดนิ่งได้ง่าย และสิ่งที่เราคิดว่ายาก ก็จะเป็นของง่ายสำหรับเรา นั่นคือเราจะได้บรรลุธรรมกาย และเข้าถึงวิชชา เพราะฉะนั้นอย่าขาดกันนะ ดูตัวอย่างหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านเล่าให้ฟังด้วยความปีติ และเล่าให้ฟังบ่อยๆ แล้วก็มีบันทึกไว้อยู่ในเทปด้วยว่า ผู้เทศน์นี้บวชได้วันหนึ่ง รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งปฏิบัติธรรมไม่เคยขาดเลยแม้แต่วันเดียว จนกระทั่งบัดนี้ บัดนี้ทั้งเรียนทั้งสอนด้วย คือศึกษาวิชชาธรรมกายเข้าไปภายใน แล้วก็สอนด้วย นั่นหมายถึงว่า กิจวัตรกิจกรรมของท่านไม่เคยขาดเลย หลวงพ่อก็หวังว่า ลูกชายหญิงทุกคนคงจะทำสิ่งนี้ให้ต่อเนื่องกันไป จะได้เป็นบารมีของเราด้วย และผลในปัจจุบันนี้ก็จะทำให้ธาตุธรรมของเราสะอาด บริสุทธิ์ เข้าถึงจุดแห่งการหยุดนิ่งได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด …

๙. อย่าขาดกิจวัตรกิจกรรม Read More »