หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่

๑๘. คิดอย่างนักสร้างบารมี

บุญที่เราทำนั้นจะติดตัวเราเป็นเงาตามตัวไปทุกภพทุกชาติจนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรม บุญเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตทุกระดับตั้งแต่ปุถุชนจนกระทั่งเป็นพระอริยเจ้า บุญ คือ ที่พึ่ง คือ ทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสุขและความสำเร็จในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ เป็นเทวดาก็ตามต้องอาศัยบุญ หรือแม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงอาศัยบุญบารมีจึงทำให้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ บุญทำมากก็ได้มาก ทำปานกลางก็ได้ปานกลาง ทำน้อยก็ได้น้อยลดหย่อนกันลงมา มีบุญมากอุปสรรคในชีวิตก็น้อย มีบุญน้อยอุปสรรคในชีวิตก็มาก เพราะฉะนั้น เราควรสั่งสมบุญเอาไว้ให้เต็มที่ สิ่งที่เรานำออกด้วยการบริจาคฝากฝังไว้ในพระพุทธศาสนานี้ คือ สิ่งที่เป็นของเราที่จะติดตามเราไปทุกภพทุกชาติอย่างแท้จริง สิ่งใดที่เรายังไม่ได้นำออกด้วยการบริจาคฝากฝังไว้ในพระพุทธศาสนาก็ยังไม่ได้ชื่อว่า เป็นของเราอย่างแท้จริง เราจะได้ครอบครองเหมือนอยู่ชั่วคราวเท่านั้น เพราะการชิงช่วงช่วงชิงนั้นเกิดขึ้นตลอดเวลา ถ้าเราไม่ชิงช่วงมาสร้างบารมีก่อน ก็อาจจะถูกช่วงชิงให้สมบัตินั้นกระจัดกระจาย ถูกใช้ไปในทางอื่นที่ไม่เป็นสาระแก่นสาร เมื่อไม่ใช้สร้างบุญก็ต้องไปใช้ทำอย่างอื่น เพราะเราจะต้องใช้มันตลอดเวลา บัณฑิตนักปราชญ์รู้ว่า เกิดมาในโลกนี้เกิดมาเพื่อสร้างบารมี โลกนี้ไม่ใช่ที่เสวยบุญ ไม่ใช่มาคอยกินบุญเก่า แต่เป็นที่สร้างบารมี สุคติโลกสวรรค์นั่นแหละเป็นที่เสวยผลบุญ เมื่อเราทำบุญก็ต้องรอระยะเวลาให้บุญส่งผลบ้าง บางทีระหว่างที่บุญกำลังจะส่งผลอยู่ วิบากกรรมมันมาตัดรอน คือ มาให้ผลก่อน ก็อย่าได้ท้อใจ อย่าได้น้อยใจว่า ปัจจุบันเราทำบุญไว้ตั้งเยอะ ทุ่มเททำโดยเอาชีวิตจิตใจเป็นเดิมพัน แต่ทำไมบุญถึงยังส่งผลไม่เต็มที่ กลับมีอุปสรรคต่างๆ นานาในชีวิต บุญไม่เห็นช่วยเราเลย อย่าท้อใจ อย่าน้อยใจ และอย่าคิดอย่างนั้น อย่าคิดอย่างผู้ที่ไม่รู้ บุญที่เราทำไม่ได้หายไปไหน กำลังช่วยแก้ไขอยู่ตลอดเวลา แต่วิบากกรรมที่เราทำมาจากชาติในอดีตมันตามมา …

๑๘. คิดอย่างนักสร้างบารมี Read More »

61.สันติภาพโลกไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน

สันติภาพที่แท้จริงของโลกจะเกิดขึ้นได้ มีวิธีเดียวเท่านั้น คือให้เข้าถึงสันติสุขภายใน เข้าถึงพระธรรมกาย ซึ่งเป็นทุกสิ่ง เป็นแหล่งกำเนิดแห่งความสุข แหล่งกำเนิดแห่งความบริสุทธิ์ แหล่งกำเนิดของสติ ของปัญญา ของความรู้แจ้งในชีวิต เป็นที่สุดแห่งการแสวงหา เป็นที่ดับความสงสัย เป็นที่พึ่งที่ระลึกของบุคคลที่เข้าถึงได้ จะเป็นผู้เบิกบานเป็นนิจ สว่างไสวเป็นนิจ เหมือนดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ที่ไม่ตกเลย เพราะฉะนั้น สันติภาพโลกสามารถเป็นจริงได้ ไม่ใช่เพ้อฝัน ถ้าหากว่าทุกคนเข้าถึงพระธรรมกายได้ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 3 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

48.ใครมีบุญมากบุญน้อยวัดกันที่ไหน

ลูกเณรมีบุญนะ ตอนหลวงพ่ออายุขนาดนี้ ไม่มีโอกาสได้รู้จักธรรมกายเลย เสียดายจัง ถ้าตายแล้ว อยากจะเกิดมาเป็นแบบนี้ แต่ลูกเณรไม่รู้ตัวว่า…มีบุญมาก การมีบุญมาก บุญน้อย เขาวัดกันว่า ใครจะได้ยินได้ฟังหนทางแห่งการตรัสรู้ธรรม ที่จะทำให้ชีวิตของเราเป็นชีวิตที่สมบูรณ์ พ้นจากความทุกข์ เข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้ เขาวัดกันตรงนี้ ส่วนทรัพย์ภายนอกเป็นเครื่องประกอบเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ตรงนี้สำคัญกว่า ถ้าให้หลวงพ่อเลือกชีวิตได้นะ จะเลือกชีวิตอย่างลูกเณร เวลามองดูลูกเณร นึกถึงตัวเอง มีความรู้สึกว่า เหมือนเพิ่งบวชมาได้ไม่กี่วัน ทั้ง ๆ ที่บวชมาได้ตั้ง 23 พรรษาแล้วนะ ลืมไปเลย 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 3 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

49.กฎของการเข้าถึงธรรม

ใจละเอียดเท่านั้น จึงจะไปถึงสิ่งที่ละเอียดได้ ถ้าใจไม่ละเอียด…มันเข้าไม่ถึง เพราะฉะนั้น วันทั้งวันในระบบความคิด คำพูด และการกระทำของเรา ต้องวนเวียนกับสิ่งที่ละเอียด ถ้าเราคิดเรื่องละเอียด พูดเรื่องละเอียด แล้วก็วนเวียนอยู่กับสิ่งที่ละเอียด ใจจะละเอียดตาม นึกถึงองค์พระ นึกถึงดวง นึกถึงธรรมะ นึกถึงบุญ ซึ่งเป็นสิ่งที่ละเอียดบริสุทธิ์ สะอาดเกลี้ยงเกลา นึกบ่อย ๆ ใจของเราก็จะพลอยเป็น อย่างนั้นแหละ บริสุทธิ์ สะอาด เกลี้ยงเกลาเหมือนกันกับวัตถุสิ่งของที่เราจะนึก จะคิด จะพูด หรือจะทำนี่คือกฎของการเข้าถึงธรรมที่ลูกทุกคนจะต้องจำเอาไว้ ถ้าเราอยากเข้าถึงได้เร็ว แม้จะไม่มีทางลัดก็ต้อง คิด สิ่งที่ละเอียด สิ่งที่สะอาด สิ่งที่บริสุทธิ์ พูด ก็ต้องละเอียด สะอาด บริสุทธิ์ ทำ ก็ละเอียด สะอาด บริสุทธิ์ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ 3 ทางนี้แหละ บ่อย ๆ เนือง ๆ ที่ภาษาบาลีเขาใช้คำว่า “ภาวิตาพหุลีกตา” บ่อย ๆ …

49.กฎของการเข้าถึงธรรม Read More »

50.1 ชั่วโมง ขอ 1 นาที

มีคำถามผ่านผู้ประสานงานมาว่า เนื่องจากเป็นคนมีความรับผิดชอบ เวลาทำงานก็จะจริงจัง เอาใจใส่งาน ใจก็เลยหมกมุ่นอยู่กับงาน มักจะเกิดความเครียด อย่างนี้จะเป็นความหมองไหม อย่างนี้ก็จัดว่าเป็นความหมองนะ แต่เป็นความหมองที่เรามองไม่ค่อยเห็น มันก็ไม่ใช่ดี ไม่ใช่ชั่ว แต่จะไปมีผลตอนใกล้ละโลกนั่นแหละ หมกมุ่นกับงานอะไร ภาพงานนั้นจะมา และที่เกิดความเครียด ก็เพราะมันคิดไม่ออก ไม่รู้จะเอายังไง ดวงปัญญาไม่สว่าง เพราะฉะนั้น จึงให้ทำการบ้านข้อนี้ 1 นาที 1 ชั่วโมง1 เอามาช่วยตรงนี้ 1 ชั่วโมง ขอแค่ 1 นาที ซึ่งไม่ได้เสียเวลามาก ดีกว่าเรามานั่งคิดวนไปวนมา เอ๊ะ จะเอายังไง เอากับใคร เอาที่ไหน เอาเวลาใด แล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ปัญหาที่เกิดขึ้น บางอย่างแก้ได้ บางอย่างก็แก้ไม่ได้ บางอย่างแก้ตอนนั้นได้ บางอย่างต้องใช้เวลาแก้ แต่บางอย่างใช้เวลาแก้ก็แก้ไม่ได้ เราก็ต้องคำนึงถึงความจริงของชีวิต ความจริงของงานนั้นด้วย สมมติเราหัวโน เอายาหม่องทาได้ คันเราก็เกาได้ สามารถแก้ปัญหาตอนนั้นได้เลย ถ้าแขนขาดก็ต้องใช้เวลา ต้องมีอุปกรณ์ มีแขนเทียมมาต่อ แต่ถ้าคอขาด อย่างนี้แก้ไม่ได้ …

50.1 ชั่วโมง ขอ 1 นาที Read More »

51.การปฏิบัติธรรมต้องใจเย็น ๆ

การปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงธรรมนั้น เราจะเร่งรีบ เร่งร้อนไม่ได้ เหมือนต้นไม้ เหมือนร่างกายของเรา มันจะค่อย ๆ เจริญเติบโตไปตามลำดับ ทางจิตใจ เมื่อเราทำสมาธิทุกวัน ปฏิบัติธรรมทุกวัน ฝึกใจหยุด ใจนิ่ง ให้มีชั่วโมงหยุด ชั่วโมงนิ่ง ชั่วโมงกลางให้มาก ๆ เหมือนนักบินมีชั่วโมงบินอย่างนั้น เมื่อเราปฏิบัติธรรมทุกวัน สมาธิก็จะค่อย ๆ ถูกสะสมไปทีละเล็กทีละน้อย ใจของเราที่หยาบก็จะค่อย ๆ ถูกขัดเกลาให้ละเอียดไปทีละเล็กทีละน้อย สิ่งที่เป็นมลทินของใจที่ไม่บริสุทธิ์ก็จะถูกขัดเกลาไปทีละเล็กทีละน้อยเช่นเดียวกัน ในที่สุดใจก็บริสุทธิ์ขึ้น ละเอียดขึ้น แล้วสักวันหนึ่งเราจะสมหวัง 6 มิถุนายน พ.ศ. 2536 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 3 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

52.อย่าเอาสังขารไปถล่มทลาย

กายมนุษย์มีความสำคัญมาก เราจึงต้องสงวนเวลาเอาไว้ สงวนสังขารเอาไว้ อย่าเอาไปถล่มทลาย ปกติร่างกายก็มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียนอยู่แล้ว เพราะสังขารเป็นรังแห่งโรค เพราะฉะนั้นโรคอื่นอย่าไปแส่หาเข้ามา ที่มันมาจากสุราเมรัย ยาเสพติด ยาบ้า ยาม้า เที่ยวกลางคืน หมกมุ่นการพนัน อะไรต่าง ๆ เหล่านั้น จนลืมเวลาที่จะเอาไปทำกิจอย่างอื่น อย่าเอาสังขารไปถล่มทลาย เอามาศึกษาความรู้ภายใน ซึ่งจะทำให้เราพ้นจากความทุกข์ความทรมาน เข้าถึงความสุข เป็นความสุขที่แตกต่างจากที่เราเคยเจอ แล้วก็กว้างขวางกว่าหลายล้านเท่า มันเทียบกันไม่ได้เลย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงผ่านมาหมดแล้ว ถึงได้สรุปว่า นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ สุขอื่นนอกจากหยุดกับนิ่งไม่มี ลองหยุดนะลูกนะ แล้วจะรู้ว่าสุขอื่นนอกจากหยุดนิ่งไม่มี 16 กันยายน พ.ศ. 2545 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 3 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

53.บริหารเวลาให้เป็น

สงวนเวลาให้ดี บริหารเวลาให้เป็น ช่วงไหนทำมาหากิน ช่วงไหนบริหารขันธ์ ช่วงไหนพักผ่อน ช่วงไหนออกกำลังกาย แต่ช่วงที่จะเอาไปเสียเวลา ไปกินเหล้าเมายา เที่ยวบาร์ เที่ยวผับ เล่นการพนัน อบายมุขอะไรต่าง ๆ เหล่านั้น มันเสียเวลานะลูกนะ เสียเวลาของชีวิตที่เราเกิดมาไม่ใช่เพื่อการนั้น เพราะสิ่งเหล่านั้นมันมีแต่ความหายนะครอบงำเราอยู่ ไม่ได้มีความสุขอะไรเลย มีแต่ความเพลิน เสียเวลา เสียเงิน เสียทอง เสียอารมณ์ เสียสุขภาพ เสียทุกสิ่งทุกอย่างเลย คุณภาพจิตก็เสียไป163 ที่สำคัญ คือ เวลา ซึ่งเงินตราซื้อไม่ได้ มันจะเสียไป เราจะต้องสงวนเวลาไว้สร้างบารมี ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาให้เข้าถึงพระธรรมกาย จะได้พบความสุขที่แท้จริง จะได้มีที่พึ่งภายใน จะได้รู้ความจริงของชีวิต และเราจะได้ศึกษาความรู้ในพระพุทธศาสนา มีสิ่งที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย ที่เรายังสงสัยอยู่เกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นรกสวรรค์มีจริงไหม ชาติที่แล้วที่ผ่านมากับชาติหน้าที่ยังมาไม่ถึง ยังมีสิ่งที่จะต้องศึกษาอีกเยอะ จะใช้ทั้งชีวิตนี้ก็ยังศึกษากันไม่หมด แล้วทำไมเราจะต้องเสียเวลาหมกมุ่นมัวเมากับสิ่งเหล่านั้น ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เพราะฉะนั้น จะทำมาหากินก็ทำไปเถอะ นั่นจำเป็นที่จะให้ได้ปัจจัยสี่มาเลี้ยงชีวิต พักผ่อนนอนหลับเราก็ต้องพัก จะได้มีเรี่ยวแรงทำมาหากิน รับประทานอาหาร …

53.บริหารเวลาให้เป็น Read More »

54.อย่ารอให้แก่ก่อน…แล้วค่อยเข้าวัด

เลิกคิดไปเลยว่า ให้แก่ ๆ เสียก่อนแล้วค่อยเข้าวัด ค่อยมาศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ค่อยมาปฏิบัติธรรม คิดอย่างนี้ประมาท เพราะเราจะมีชีวิตถึงแก่ชราหรือเปล่าก็ไม่รู้ อีกอย่างความแก่ความชรา ไปถามคนแก่ดูเถอะ ไม่ชอบเลย เพราะว่าสังขารมันเสื่อม ความคิด คำพูด การกระทำกาย วาจา ใจ เสื่อมหมด ปฏิบัติธรรมะก็ง่วง เดี๋ยวปวด เดี๋ยวเมื่อย เดี๋ยวก็หลับ เดี๋ยวก็เผลอฟุ้ง เพราะฉะนั้น อย่าไปคิดนะ อย่าไปเชื่อคำสอนของพญามารที่สอนอยู่ในใจเรา มันมาสิงอยู่ในใจ แล้วสอนให้เราคิดอย่างนี้ว่า เอาเวลาเป็นหนุ่มเป็นสาวไปหาประสบการณ์ของชีวิตทางโลกให้ช่ำเสียก่อน พอช้ำแล้วค่อยมาแสวงหาธรรมะ อย่านะลูกนะ 16 กันยายน พ.ศ. 2545 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 3 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

55.อยากเห็นองค์กรต้นแบบ

ให้ปฏิบัติธรรมควบคู่กับภารกิจไปด้วย เพราะ..ถ้ารอให้ภารกิจเสร็จ แล้วค่อยมาปฏิบัติธรรม เราอาจจะ “ซี้” (ตาย) ก่อน เหมือนเวลาเรากินก๋วยเตี๋ยวก็ต้องหายใจไปด้วย ไม่ใช่กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ แล้วค่อยมาหายใจ ถ้าเรารองานหยาบเสร็จ เดี๋ยวเราจะซี้ก่อนที่จะ ได้ปฏิบัติธรรมกัน เพราะที่เราเข้ามาสู่องค์กร เพื่อจะมาปฏิบัติธรรม หาพระรัตนตรัยภายในตัว เพื่อศึกษาวิชชาธรรมกาย เราจึงมาอยู่ตรงนี้ ปีนี้หลวงพ่อ 72 แล้ว เราทุกคนต้องหวนกลับไปทบทวนมโนปณิธานดั้งเดิม ก่อนเข้ามาสู่องค์กรว่า ไม่ใช่เราไม่มีทางไป เราจะไปใช้ชีวิตทางโลกก็สามารถทำได้ แต่เราเลือกมาทางนี้ ซึ่งตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ถ้าอายุมากขึ้น ความแข็งแรงจะลดลง จะมารอให้งานหยาบเสร็จ แล้วค่อยทำงานละเอียด มันไม่ได้ เราต้องทำควบคู่กันไป ในจังหวะที่ยังแข็งแรงอยู่ ถ้าหากองค์กรเราใจหยุดได้ ใจสบายได้ มีความสุขจากการปฏิบัติธรรม การกระทบกระทั่งสูญพันธุ์เลย จะทำภารกิจกันอย่างมีความสุข สนุกสนาน บุญบันเทิง “ข้างนอกเคลื่อนไหว แต่ข้างในหยุดนิ่ง” ได้อย่างสมบูรณ์ จึงต้องมีโครงการติวธรรมะที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะให้เราทุกคนเข้าถึงธรรมได้อย่างง่าย ๆ หลวงพ่อจะได้สมหวังเสียที พอทุกคนในองค์กรมีความสุขจากผลของการปฏิบัติธรรม ก็จะมีความยิ้มแย้มเบิกบาน ถ้าใครเห็นหมู่คณะเรา ก็จะเกิดคำถามว่า ทำไมสมาชิกในองค์กร ถึงดูเบิกบานเหมือนชาวสวรรค์ …

55.อยากเห็นองค์กรต้นแบบ Read More »

56.นรกสวรรค์มีจริง…พิสูจน์ได้

มีเรื่องราวหลาย ๆ อย่างที่บันทึกเอาไว้ในพระไตรปิฎก แต่ก็ยังเป็นข้อสงสัย เช่น เรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องนรกสวรรค์ว่า มีจริงไหม แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงยืนยันว่า…มีจริง พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) บอกว่า ถึงธรรมกายแล้ว ไปนรกก็ได้ ไปสวรรค์ก็ได้ ไปนิพพานก็ได้ แค่ไปนรกสวรรค์ เราก็ยากต่อการเชื่อ แต่ในสมัยท่าน หรือผู้ที่เข้าถึงพระธรรมกาย เขาทำได้เป็นปกติ เป็นเรื่องธรรมดา แล้วยังไปนิพพานได้ด้วย ตรงนี้แหละที่เป็นข้อถกเถียงกัน มีนานาทัศนะ บ้างว่านิพพานสูญหมด บ้างก็ว่าสูญแต่เฉพาะกิเลสเท่านั้น แต่กายรองรับบรมสุขยังอยู่ แล้วภพที่รองรับก็มี เมื่อได้ยินได้ฟังอย่างนี้ เราก็วางใจเป็นกลาง ๆ ไม่ใช่ให้ “เชื่อ” หรือ“ไม่เชื่อ” แต่ให้เฉย ๆ แล้วมาพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติ หยุดนิ่งเข้าไว้ทำตามหลักวิชชา เดี๋ยวเราก็พิสูจน์ได้ ไม่ต้องมานั่งถกเถียงกัน ถ้าไปได้ มันก็พิสูจน์คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีในพระไตรปิฎกได้ พอพิสูจน์ได้ ก็หายสงสัย พอหายสงสัย ก็เกิดความเลื่อมใส ทำให้มีศรัทธา อยากปฏิบัติธรรม ก็จะทำความเห็นให้ตรงต่อเป้าหมายของชีวิต คือ ไปนิพพาน จะหายสงสัย …

56.นรกสวรรค์มีจริง…พิสูจน์ได้ Read More »

41.สร้างบารมีอย่างไม่มีข้อแม้ ข้ออ้าง เงื่อนไข

เรื่องการสร้างบารมี เราต้องทำให้ครบทุกอย่าง เวลาเราอยู่ในโลกนี้…มีน้อย ที่มีน้อย เพราะเราไม่รู้ว่า วันพรุ่งนี้จะมีเราอยู่หรือไม่ เพราะฉะนั้น วันนี้ต้องสั่งสมบุญให้มากๆ กิจอะไรที่ยังไม่ได้ทำที่เป็นความดี ก็ต้องรีบทำให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์ เวลาใกล้จะละโลก บุญก็จะมารวมประชุมกันอย่างหนาแน่น ทำให้เราได้เข้าถึงองค์พระ แล้วก็เห็นหนทางที่จะไป จะมีชาวสวรรค์มาอัญเชิญเรา เราจะตายก่อนตาย คือ ถอดกายไปก่อน ขณะกายเนื้อยังนุ่มนิ่มอยู่ แต่ข้างในถอดไปแล้ว เรียกว่า ตายก่อนตาย มีความสุข สบาย เราจะไม่หวาดหวั่นในมรณภัย ซึ่งใคร ๆ ก็หวาดหวั่น วิตก เพราะไม่รู้ว่า ตายแล้วไปไหน ความไม่รู้ ทำให้กลัว ถ้าเกิดนรกมีจริง ก็กลัวไปตกนรก นี่กลัวอย่างนี้ เพราะฉะนั้น สั่งสมบุญเอาไว้ให้เยอะ ๆ นะลูกนะ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม …

41.สร้างบารมีอย่างไม่มีข้อแม้ ข้ออ้าง เงื่อนไข Read More »

57.อานุภาพการเจริญพุทธานุสติ

การเจริญพุทธานุสติ คือ การระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ มีอานิสงส์ใหญ่ จะปิดประตูอบายภูมิ ทำให้ไม่ต้องไปเกิดในนรก ไม่ต้องไปเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน แม้ในปัจจุบัน ถ้าเข้าถึงได้ หรือเพียงแต่นึกได้ตลอดเวลา ก็ทำให้เรามีความสุข สดชื่น เบิกบานทันทีที่ระลึกถึง เมื่อระลึกจนเป็นชีวิตจิตใจ ทุกลมหายใจเข้าออก จนกระทั่งท่านมาปรากฏอยู่ในกลางใจเรา เห็นองค์พระได้ใสแจ่มตลอดเวลาแล้ว ย่อมมีอานุภาพยิ่งใหญ่ ไม่มีประมาณ ใจเราจะผ่องใสเกลี้ยงเกลาตลอดเวลา กระแสกรรมที่ทำมาในอดีตจะตามไม่ทัน แม้ยังไม่หมดก็ตาม เหมือนเราขี่จรวดหรือนั่งเครื่องบิน แต่วิบากกรรมนั้นขี่จักรยานหรือเดินด้วยเท้า เพราะเมื่อจิตผ่องใส ไม่เศร้าหมอง ก็มีสุคติเป็นที่ไป หลังจากละโลกไปแล้ว เราจะมีกายใหม่เป็นกายทิพย์ที่สวยงาม มีรัศมีสว่างไสว มีสมบัติอันเป็นทิพย์ มีวิมานและบริวารเกิดขึ้นมากมาย กระแสบุญแห่งการระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิใช่สิ่งเล็กน้อย จะส่งต่อเนื่องกันไปเรื่อย ๆ เหมือนระลอกคลื่นที่ส่งต่อกันไปลูกแล้วลูกเล่า เราจะไปเป็นสหายแห่งเทวดาเป็นเวลายาวนาน และเมื่อถึงคราวที่ต้องมาเกิดในมนุษย์ ก็จะเกิดในตระกูลที่ดี มีโภคทรัพย์สมบัติเพียบพร้อม รอคอยให้เราได้ใช้สร้างบารมี และนำเราเข้าไปถึงกระแสธรรมได้ในที่สุด ดังนั้น ให้ตั้งใจเจริญพุทธานุสติ นึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ โดยนึกถึงพระแก้วขาวใสบริสุทธิ์เป็นสิ่งแทนองค์ท่าน ทำใจให้ใสเยือกเย็น นิ่ง หยุดให้ถูกส่วน ประสานใจของเรากับพระผู้มีพระภาคเจ้าให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ให้ในใจเรามีแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดเวลา แล้วไม่นานสิ่งอัศจรรย์ก็จะเกิดขึ้นกับตัวของเรา 2 …

57.อานุภาพการเจริญพุทธานุสติ Read More »

42.คุณค่าของชีวิตอยู่ที่ไหน

คุณค่าของชีวิตอยู่ตรงที่ ใครทุ่มเทสร้างบารมีได้มากกว่ากัน ได้ปรับปรุงแก้ไขฝึกฝนอบรมตนเอง จนกระทั่งสามารถเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวได้ ได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตร เป็นผู้ให้แสงสว่างแก่โลก นำพาเพื่อนมนุษย์ให้เข้าไปถึงจุดแห่งความสมปรารถนา ให้เขาได้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ที่เกิดจากการได้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว ได้รู้จักเป้าหมายชีวิตที่แท้จริง แล้วก็มีกำลังใจที่จะก้าวเดินต่อไปสู่เป้าหมายนั้นได้ตลอดรอดฝั่งโดยไม่หวาดหวั่นต่ออุปสรรคใด ๆ กระทั่งมีชัยชนะ ถึงจุดหมายปลายทาง 9 มิถุนายน พ.ศ. 2545 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 3 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

58.การแผ่เมตตาทำให้ใจเป็นสุข

การแผ่เมตตาทำให้ใจเราเป็นสุข แผ่กระแสแห่งความปรารถนาดีของเรา ไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ไม่มีประมาณ ให้สรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่เย็นเป็นสุข พ้นจากทุกข์โศกโรคภัยพิบัติต่าง ๆ ใครที่เคยทำให้เราขุ่นข้องหมองใจ ขุ่นมัว เราก็ให้อภัยเขา ไม่โกรธตอบ ไม่ผูกโกรธ ไม่ผูกพยาบาท การผูกโกรธ ผูกพยาบาท เป็นเหตุให้ใจเราเศร้าหมอง ขุ่นมัว เป็นทุกข์ หลับก็ไม่เป็นสุข ตื่นก็ไม่เป็นสุข เหมือนคนป่วยอย่างนั้น 11 มีนาคม พ.ศ. 2531 พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/44 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 3 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่