หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

ถ้าภัตตาคารเขาไม่ได้โชว์ปลาไว้ในตู้ เราไม่เห็นว่ามันยังเป็นๆ อยู่ เราเพียงแต่สั่งเป็นรายการอาหารมารับประทาน จะบาปหรือไม่?

คำถาม: หลวงพ่อครับ ถ้าภัตตาคารเขาไม่ได้โชว์ปลาไว้ในตู้ เราไม่เห็นว่ามันยังเป็นๆ อยู่ เราเพียงแต่สั่งเป็นรายการอาหารมารับประทาน อย่างนี้จะบาปไหมครับ? คำตอบ:   การที่เห็นหรือไม่เห็นนั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สำคัญอยู่ที่ว่าปลาหรือกุ้งนั้นถูกสั่งฆ่าโดยเราหรือเปล่า ในกรณีนี้คุณอาจยืนยันว่าคุณไม่รู้ คุณไม่ได้สั่งฆ่า แต่อุปมาก็เหมือนยาพิษนั่นแหละ คุณไม่รู้คุณไม่เห็นฉลากกว่านี่เป็นยาพิษ แล้วคุณก็กินเข้าไป คุณมีสิทธิ์ตายไหม? มีสิทธิ์ตายนะ         เพราะฉะนั้นกรณีนี้ต้องระวัง คุณไม่รู้คุณไม่เห็น ว่ากุ้งหรือปลาที่คุณสั่งมาเป็นอาหารนั้น มันเป็นหรือมันตายมาก่อน ถ้าปลานั้นกุ้งนั้นมันตายแล้ว คุณก็รอดตัวไป แต่ถ้าเดิมมันยังเป็นๆ อยู่ แล้วมันต้องตายเพราะคำสั่งรายการอาหารของคุณ โดยที่คุณไม่รู้ ก็เหมือนยาพิษที่คุณกินเข้าไป โดยที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นยาพิษ คุณก็มีสิทธิ์ตาย         เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเห็นหรือไม่เห็น จะรู้หรือไม่รู้ ถ้าปลานั้นสัตว์นั้นต้องตายเพราะคำสั่งของคุณละก็ บาปทั้งนั้นแหละ         ยิ่งรายการอาหารประเภทที่เรารู้วิธีปรุงอยู่ว่า ต้องฆ่าเดี๋ยวนั้นปรุงเดียวนั้นละก็คุณเอ๋ย อย่ามาพูดเสียให้เมื่อยปากเลยว่าไม่ได้สั่งฆ่า! โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

พระอ่านหนังสือพิมพ์ได้หรือไม่

คำถาม: ถ้าเป็นพระ อ่านหนังสือพิมพ์ได้หรือเปล่าคะ ? คำตอบ:   จริง ๆ แล้ว ในพระวินัยก็ไม่มีห้ามเอาไว้ แต่แน่ละหนังสือบางประเภท เช่น หนังสือโป๊ หนังสือเปลือย อย่าว่าแต่อ่านเลย ชำเลืองก็ไม่ควรจะชำเลืองดูมัน         ส่วนหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวสารบ้านเมืองที่ควรรู้ จำเป็นต้องรู้สำหรับเป็นข้อมูลไปเทศน์สอนชาวบ้าน ก็อ่านเถอะ ไม่ได้ผิด แต่ว่าในช่วงที่กำลังเข้าธุดงค์ ต้องการความสงบใจอย่างมาก ก็ไม่ควรอ่านอย่างยิ่ง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ดูทีวีอย่างไรไม่ให้เกิดโทษ

คำถาม:   หนูอายุ ๑๙ ปี ตั้งใจจะรักษาศีล ๘ หนูตั้งใจปฏิบัติไม่ให้ศีลด่างพร้อยเลย แต่ว่ามักจะขาดอยู่หนึ่งข้อ คือข้อที่ ๗ หนูชอบดูทีวี อันที่จริงไม่ดูก็ได้ แต่ว่ามันได้ยินเสียงก็เลยคิดว่าไหน ๆ ฟังเสียงแล้วก็เลยดูซะเลย หนูเข้าใจว่าทุกบ้านต้องมีเสียงทีวี อย่างนี้คนอยู่บ้านคงรักษาศีล ๘ ไม่ได้ใช่ไหมคะ ? คำตอบ:   ก็อดใจอย่าไปดูมันซิลูกเอ๊ย…..ให้มันเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาซะบ้าง ฝากข้อคิดว่า ทีวีเป็นสื่อมวลชนที่ดีอย่างหนึ่ง ทำให้เรารู้ข่าวคราวทั่วโลกได้เร็ว แต่ก็ควรระวังด้วย เพราะของที่มีคุณอนันต์ก็มีโทษ มหันต์ อยากจะบอกว่าทีวีนั้น ถ้าจะให้ได้ประโยชน์ ไม่มีโทษละก็ พอหมดข่าวก็ปิดเลยดีที่สุด         ทีวี หลาย ๆ ช่องกว่าจะจบข่าวก็ประมาณ ๓ ทุ่ม ทางที่ดีพอหมดข่าวก็ควรปิดทีวีได้แล้ว พวกหนังพวกละครอย่าไปดูมันเลย เอาเวลามานั่งสมาธิดีกว่า อีกอย่างหนึ่งอยากจะเตือนไว้ เห็นคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน ทำเหมือนกำลังฆ่าลูก ฆ่าอย่างไร? คือ โทรทัศน์นี่ความจริงตัวเองก็อยากดู ลูกก็อยากดู เพราะฉะนั้นไล่ให้ลูกนอน มันก็ไม่นอน ทีวีอยู่ในห้องนอน …

ดูทีวีอย่างไรไม่ให้เกิดโทษ Read More »

ภิกษุณีกับแม่ชีมีความแตกต่างกันอย่างไร

คำถาม: ขอความกรุณา หลวงพ่อช่วยไขข้อข้องใจในเรื่องภิกษุณี กับชีในปัจจุบันด้วยครับว่าต่างกันอย่างไร? คำตอบ:   ภิกษุณีมีศีล ๓๑๑ ข้อ แต่ชีมีศีล ๘ ข้อ ภิกษุณีนั้นหมดไปนานแล้ว ชีก็ส่วนชี ภิกษุณีก็ส่วนภิกษุณี เป็นคนละประเภทกัน แม่ชีนั้นเทียบได้แค่อุบาสิกาเท่านั้นเอง เพราะถือศีล ๘ ยกขึ้นไปเทียบกับภิกษุณีไม่ได้เลย         เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๒๙ มีนักบวชหญิงมาจากไต้หวัน เขาบอกว่าเขาเป็นภิกษุณีของเขายังมีอยู่ ส่วนทางหินยานหรือเถวรวาทของพวกเรา ภิกษุณีหมดไปตั้งแต่เมื่อพระพุทธศาสนาแผ่จากอินเดียมาปักหลักที่ลังกาแล้ว แต่ว่าภิกษุณีของทางมหายานจะมีศีลมีวินัยถูกต้องครบที่ทรงบัญญัติไว้ในสมัยพุทธกาลเพียงใดนั้นเราไม่ทราบ เพราะขาดการติดต่อกัน แต่เมื่อเขามา ทางเราก็ต้อนรับเขา        พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ก็ขอเล่าไว้เป็นเกร็ดความรู้สักนิด พระภิกษุในฝ่ายมหายาน โดยเฉพาะในประเทศเกาหลี ไต้หวัน เขามีสิ่งที่เขาภูมิใจอยู่สิ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราไม่มีแล้ว สิ่งนั้นคือการสืบสายถึงอุปัชฌาย์ น่าสรรเสริญที่เขาสามารถรักษาขนบธรรมเนียมเอาไว้ได้ คือเวลาจะบวชกับอุปัชฌาย์ เพียงองค์ ๒ องค์ เท่านั้น ส่วนมากเขาบวชแล้วไม่มีการสึกกัน        เวลามีคนมาขอบวชพระกับอุปัชฌาย์องค์ไหนก็ตาม พระอุปัชฌาย์ จะต้องบอกลูกศิษย์ก่อนว่า “คุณจำไว้นะ อุปัชฌาย์ของฉันชื่อนั้น อุปัชฌาย์ ของอุปัชฌาย์ชื่อนั้น ๆ” ไล่ชื่อกันไปถึงโน่น พระอานนท์พระมหากัสสปะ …

ภิกษุณีกับแม่ชีมีความแตกต่างกันอย่างไร Read More »

ตัดต้นไม้ที่มีรุกขเทวดาอยู่บาปไหม

คำถาม: ตัดต้นไม้ที่มีรุกขเทวดาอยู่ บาปไหมครับ ? คำตอบ:  ถามก่อนว่าเราตัดต้นไม้ถือว่าเป็นปาณาติบาตไหม ? ไม่เป็นนะ เราตัดต้นไม้ เราไม่ได้ฆ่าใครก็ไม่บาป แต่ถ้าต้นไม้นั้นมีรุกขเทวดาอยู่ เราทำลายที่อยู่อาศัยของเขา บางทีเขาก็เล่นงานเราเหมือนกัน แต่ถ้าเรามีบุญอยู่ในตัว เขาก็เล่นงานเราไม่ได้         ในพระวินัยของสงฆ์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงห้ามโค่นต้นไม้ที่มีเทวดาอยู่อาศัย ท่านใช้คำว่า “ภูตคาม” คือต้นไม้ที่เป็นวิมานของเทวดา ห้ามตัด ซึ่งก็คงเป็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ ๆ นะ         อย่างไรก็ดี ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ แล้ว อย่าตัดต้นไม้เลย เพราะจะทำให้บรรยากาศแห้งแล้ง แผ่นดินแตกระแหง โล่งเตียน พอฝนตกมาก น้ำก็หลากไหลไปท่วมบ้านเรือนเร็วขึ้น เพราะไม่มีต้นไม้คอยปะทะหรือช่วยดูดซับน้ำเอาไว้ ใครย้ายข้าวของหนีไม่ทัน ก็จะเสียหายกันยกใหญ่         แต่หากจำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะโค่นต้นไม้ต้นไหนที่คิดว่ามีเทวดาอาศัยอยู่ ให้บอกท่านก็แล้วกัน เชิญให้เทวดาไปหาที่อยู่ใหม่ เพราะจำเป็นต้องโค่นต้นไม้ต้นนี้ พอโค่นแล้ว เราก็ตักบาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เทวดา ทำอย่างนี้จะสบายใจขึ้น โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา …

ตัดต้นไม้ที่มีรุกขเทวดาอยู่บาปไหม Read More »

กรณีที่พระยืนรอรับบิณฑบาตนั้นผิดหรือสมควรหรือไม่

คำถาม: กรณีที่พระถือบาตรมายืนหน้าร้านขายอาหาร รอผู้ที่จะมาใส่บาตร ถามว่าผิดหรือสมควรหรือไม่คะ ? คำตอบ:   ตอบว่า ไม่ผิด แต่ถามว่าสมควรหรือไม่?  ก็ไม่ค่อยสมควรนะ คืออาจจะยืนรอได้ แต่พอรายแรกหรือคนกลุ่มแรกเขาใส่บาตรให้แล้วควรเดินต่อไปเลย แต่ถ้า ๒ รายก็แล้ว ๓ รายก็แล้ว ๖-๗ รายแล้วก็ยังยืนปักหลักรออยู่อีก อย่างนี้ก็ไม่สมควร         แต่ถ้าจะเอาผิดเอาถูกกัน ก็ตอบว่าไม่ผิด จะผิดก็ต่อเมื่อได้อาหารมาหลายชุดจนล้นบาตร กลับไปถึงวัด แล้วยังกลับมารับอีกอย่างนี้ผิดแน่นอน         พระท่านเดินรับบิณฑบาตจากหลายบ้าน จนของล้นบาตร ก็เพื่อรักษาศรัทธาญาติโยม ส่วนพวกญาติโยมก็ควรเอ็นดูพระบ้าง อย่าเคี่ยวเข็ญ ยัดเยียดให้ท่านหอบหิ้วจนทุลักทุเลนักเลย         สำหรับเรื่องนี้ต้องค่อย ๆ พิจารณาให้ดี อย่าเอาแค่ผิดแค่ถูก ต้องเอาความควรหรือไม่ควรด้วย โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

คนที่คิดในเรื่องกาม แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร บาปหรือไม่

คำถาม: คนที่คิดในเรื่องกาม แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร บาปหรือไม่ครับ ? คำตอบ:  บาป ยิ่งเจ้าชู้เท่าไรยิ่งบาปมาก ถึงแม้ว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวทางเพศกับใคร ไม่ได้ทำให้ศีลข้อกาเมฯ ขาดหรอก แต่วัน ๆ นึกเห็นแต่หน้าคนโน้นคนนี้โผล่ขึ้นมา “อุ้ยแม่นั่นสวย แม่นี่ก็ยิ้มหวาน แม่นั่นก็อื้อฮือ” นึกแบบนี้ทั้งวันก็แย่แล้วละ รีบแก้ไขตัวเองเสีย         ถามว่าไม่ดียังไง ? ไม่ดีเพราะมันฟ้องว่าใจขุ่นแล้ว ใจขุ่นเพราะมัวเมาหมกหมุ่น ครุ่นคิดในเรื่องเพศ เฝ้าคิดถึง คนึงหา หวงหึงสารพัด แค่วันทั้งวันไม่ได้คิดสร้างสรรค์งานการอะไรเลย นี่ก็แย่แล้วถ้าสร้างสรรค์อะไรก็วกเข้าเรื่องส่งเสริมกามราคะเสียทั้งหมด สังคมก็เดือดร้อน         พวกนี้เวลาใกล้ ๆ ตาย ภาพที่ติดอยู่ในเรื่องกามเหล่านี้มันจะกลับมาทำให้นึกเรื่องบุญไม่ออก เมื่อนึกถึงบุญไม่ออก แม้จะเคยทำบุญไว้บ้างก็ไม่มีทางได้ไปสวรรค์ และถ้าใจยังวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่แต่เรื่องเหล่านี้ จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ดีไม่ดีอาจตกนรกเอาง่าย ๆ         เรื่องรัก ๆ ใคร่ๆ เรื่องกามเหล่านี้ ทำให้คนเอาตัวไม่รอดมานักต่อนักแล้ว แม้เมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ สังเกตดูจากข่าวหนังสือพิมพ์ก็ได้ จะเห็นว่ามีคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ทุกวัน และมีคนอยู่จำพวกหนึ่งไม่ได้ยุ่งกับลูกเขาเมียใคร แต่วัน ๆ เอาแต่สร้างสื่อลามกออกเผยแพร่ทำให้เกิดคดีทางเพศเพิ่มขึ้นไม่น้อย …

คนที่คิดในเรื่องกาม แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร บาปหรือไม่ Read More »

พระภิกษุสงฆ์รับบาตรด้วยภาชนะอย่างอื่นผิดหรือไม่ พระสามารถพายเรือ ซ้อนหรือขี่จักรยานได้หรือไม่

คำถาม: การที่พระภิกษุไม่ถือบาตร แต่ถือภาชนะอย่างอื่น เช่น ถังพลาสติกไปบิณฑบาต จะผิดวินัยสงฆ์หรือไม่คะ ? คำตอบ: ถ้าถามว่าผิดวินัยหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าไม่ผิด แต่ถ้าถามว่าเป็นการสมควรหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าไม่สมควร พวกเราที่อยู่ทางโลกมองการกระทำของคนอื่นแล้ว มักจะตัดสินกันเพียงแค่ผิดหรือถูก เรื่องบางเรื่องเพียงแค่นี้ยังไม่พอ ผิดกับถูกเป็นการตัดสินเรื่องระดับเด็ก ๆ         ถ้าตัดสินเรื่องของผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นต้นแบบทางความประพฤติแก่ผู้อื่น นอกจากผิดกับถูกแล้ว ยังต้องมองออกไปว่ามันสมควร หรือไม่สมควรอีกด้วย เช่น ในการบิณฑบาต ถ้าพระไม่ถือบาตรไป อาจจะเอาถุงพลาสติกหรือถังอะไรไปรับของถวายก็ตามถามว่าจะผิดไหม? ก็ไม่ผิด แต่ถ้าถามว่าสมควรไหม? ต้องดูจากสถานการณ์ ในบางสถานการณ์สมควร แต่ในบางสถานการณ์ไม่สมควร เช่น บาตรมีอยู่แล้ว ก็น่าจะใช้บาตร ทำไมไปใช้ถังพลาสติก ไม่สมควรเลย         แต่ในเวลาเดียวกัน ถ้าบาตรเกิดแตก จะเอาบาตรแตก ๆ ไป บิณฑบาตได้อย่างไร ก็ต้องใช้ถังใช้ถึงพลางก่อน แต่ไม่ใช้อ้างบาตรแตกทุกวัน แล้วเอาถังพลาสติกไปบิณฑบาตเป็นเดือน ๆ หรือตลอดทั้งปี อย่างนี้ก็ไม่สมควร ขอให้ไปพิจารณากันเอง         อีกกรณีหนึ่ง มีคนถามมาบ่อย ๆ …

พระภิกษุสงฆ์รับบาตรด้วยภาชนะอย่างอื่นผิดหรือไม่ พระสามารถพายเรือ ซ้อนหรือขี่จักรยานได้หรือไม่ Read More »

การดื่มเหล้าแก้หนาวถือว่าผิดศีลข้อ ๕ หรือไม่

คำถาม: ในประเทศแถบยุโรป อากาศนาวจัด มีความจำเป็นต้องดื่มเหล้า หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย ที่เรียกว่าดื่มเหล้าแก้หนาว อย่างนี้ถือว่าผิดศีลข้อ ๕ หรือเปล่าครับ ? คำตอบ:  ในกรณีนี้ขอให้มองให้ดี ในวงการแพทย์เรายังมีปัญหาถกเถียงกันพอสมควรว่า ทำไมต้องใช้ฝิ่น จะกำจัดฝิ่นให้หมดไปจากโลกเสียไม่ได้หรือ จริงอยู่ว่าฝิ่นมีสารเสพติดที่เป็นอันตรายต่อผู้เสพ แต่เมื่อถึงความจำเป็น ฝิ่นก็มีประโยชน์มาก เพราะสามารถเอาไปทำเป็นยาได้โดยเฉพาะยาระงับประสาท ระงับอาการเจ็บปวดยามฉุกเฉิน       เพราะฉะนั้นจึงมีข้อพิจารณากันว่าสิ่งเสพติดเหล่านี้เราจะใช้มันเพื่อประโยชน์อะไร เราใช้ฝิ่นเพื่อการรักษาโรค คือทำเป็นยา หรือ ใช้เพื่อการเสพติด ประเด็นสำคัญอยู่ตรงนี้       แอลอกฮอล์ก็ทำนองเดียวกัน พูดง่าย ๆ คือเลิกผลิตไม่ได้เพราะในวงการแพทย์ยังจำเป็นต้องใช้ อย่าว่าแต่ใช้ดื่มกินเลย แม้แต่ใช้เป็นแอลกอฮอล์ล้างแผลเช็ดแผล ก็ยังต้องใช้อยู่จนทุกวันนี้เพราะฉะนั้นถ้าจะตัดสินก็ต้องดูวัตถุประสงค์ในการใช้เป็นหลัก เหล้าหรือแอลกอฮอล์ขวดเดียวกัน ถ้าใช้แพทย์ก็ไม่ว่ากัน เพราะมันคือยา แต่ถ้าใช้เพื่อการมึนเมานั้นผิด เพราะมันเป็นสิ่งเสพติด       ในกรณีของคนป่วย มีความจำเป็นต้องดื่มเหล้า หรือแอลกอฮอล์ เพื่อแก้หนาวหรือเพื่ออะไรก็ตามที หรือการรักษาอาการป่วยนั้นจำเป็นต้องกินยาที่ผสมเหล้า ถ้าจำเป็นอย่างนั้นก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าไม่ได้หายป่วย หนาวอย่างไรก็ทนหนาวเอาเถอะ อย่าไปดื่มเหล้าแก้หนาวเลย       เพราะถ้าดื่มเข้าไปก็เท่ากับเดินอยู่บนทางแห่งความพินาศฉิบหายเข้าไปแล้ว ต้องรู้ไว้นะว่า เมื่อดื่มเหล้า ล่วงเข้าลำคอไป สติของเราก็เริ่มจะขาด แล้วอย่าไปคิดว่า แหม….ถ้าเราดื่มเหล้าเข้าไปสักหน่อยดื่มเข้าไปสักอึก  …

การดื่มเหล้าแก้หนาวถือว่าผิดศีลข้อ ๕ หรือไม่ Read More »

การสวดพระปาฏิโมกข์คืออะไร พระภิกษุต้องสวดได้ทุกรูปหรือไม่

คำถาม: หลวงพ่อครับ การสวดพระปาฏิโมกข์คืออะไร พระภิกษุต้องสวดได้ทุกรูปหรือไม่ พระบวชใหม่บางรูปบอกว่าสวดได้ไม่จบ สวดได้เพียงครึ่งเดียว ก็เวียนศีรษะแล้ว อย่างนี้จะเป็นอะไรไหมครับ? คำตอบ: การสวดปาฏิโมกข์ คือการสวดทบทวนศีลและวินัยของพระภิกษุซึ่งมี ๒๒๗ ข้อ โดยสวดเป็นภาษาบาลี และสวดภายในโบสถ์เท่านั้น จัดเป็นสังฆกรรมที่สำคัญอย่างยิ่งของพระภิกษุ         พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดไว้ว่า พระภิกษุจะต้องฟังสวดปาฏิโมกข์ทุกวันพระ ๑๕ ค่ำ ถึงตัวเองสวดไม่ได้ แต่ว่าในวัดมีผู้สวดได้ก็ต้องไปฟังท่านสวด         สาเหตุที่ต้องลงไปฟังก็คือจะได้ทบทวนและจดจำพระวินัยได้แม่นยำ ถ้าตนมีสิ่งใดผิดพลาดจะได้แก้ไข ปรับปรุงตนเองเสียใหม่นั่นเอง         ศีล ๒๒๗ ข้อ ต้องบอกว่าจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน ผู้ที่มีความจำไม่ดี สวดได้ไม่หมดหรอก แต่ถ้าคนที่มีความจำดีๆ ท่องเที่ยวเดียว ๒ เที่ยวก็จำได้ เพราะบางรูปท่องเป็นเดือนๆ ยังจำไม่ได้ แต่ก็พอรู้ว่ามีอะไรบ้าง รู้แค่นี้ก็เป็นประโยชน์แก่ชีวิตการเป็นพระมากมายแล้ว โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ดื่มไวน์เพื่อเจริญอาหารถือว่าผิดศีลข้อที่ ๕ หรือไม่

คำถาม: ถือศีล ๕ ครบทุกข้อ แต่มีข้อมุสาที่ไม่แน่ใจว่าขาดหรือไม่ คือ บางครั้งก็พูดมากเกินเหตุ พูดเพ้อเจ้อ พูดแซวบ้าง อำกันบ้าง หลอกบ้าง จะถือว่ารักษาศีล ๕ ครบไหมคะ? คำตอบ:   ศีลข้อ ๔ มุสาวาทา เวรมณี ไม่ใช่แค่ห้ามพูดไม่จริงอย่างเดียว แต่รวมถึงการพูดเพ้อเจ้อ พูดส่อเสียด เอาความข้างโน้นไปบอกข้างนี้ให้เขาแตกแยกกัน พูดหยาบคายให้เขาโกรธ แม้เป็นเรื่องก็ไม่ได้ทั้งนั้น ถือว่าผิดศีล อย่าทำ         ถ้าจะรักษาศีลก็รักษาให้ครบตามที่ลั่นวาจาไว้ จะได้มีโอกาสสร้างบุญได้ตลอดรอดฝั่ง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ความหมายของคำว่าบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ คืออะไร

คำถาม:  ที่ว่าบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ หมายถึงอะไร เวลาถวายของพระมักได้ยินอยู่บ่อยๆ ? คำตอบ:  การถวายทาน ถ้าจะให้ได้บุญมาก ทั้งผู้ถวายและพระภิกษุผู้รับจะต้องมีความบริสุทธิ์ทั้งกาย และใจ ยิ่งบริสุทธิ์มากเท่าไรก็ยิ่งบุญมากเท่านั้น         ความบริสุทธิ์กายนั้น พระพุทธองค์ทรงเปรียบเทียบไว้อย่างนี้คนทั้งหลายถึงแม้ว่าจะอาบน้ำวันละพันครั้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าวันละพันหนก็ยังไม่ชื่อว่าบริสุทธิ์กาย ผู้ที่จะบริสุทธิ์ได้ต้อง         ๑. ไม่ฆ่าสัตว์         ๒. ไม่ลักทรัพย์         ๓. ไม่เจ้าชู้         ผู้บริสุทธิ์วาจา ท่านก็กล่าวทำนองเดียวกันว่า ถึงจะแปรงฟันวันละพันครั้ง อมยาอมวันละพันหน ก็ไม่สามารถทำให้วาจาบริสุทธิ์ได้ ผู้ที่วาจาบริสุทธิ์ต้อง         ๑. ไม่พูดโกหก         ๒. ไม่พูดคำหยาบ         ๓. ไม่พูดเพ้อเจ้อ         ๔. ไม่พูดส่อเสียด         ถ้าลักษณะคำพูดมีครบ ๔ อย่างนี้จึงจะถือว่ามีวาจาบริสุทธิ์จริงหรือพูดภาษาชาวบ้านว่าปากสะอาดได้ โดยไม่ต้องอมอะไรต่ออะไรทั้งนั้นแหละ         ส่วนผู้ที่จะนับได้ว่ามีใจบริสุทธิ์ ก็ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติต่อไปนี้         ๑. ไม่โลภ อยากได้ของคนอื่น         ๒. ไม่พยาบาท ปองร้ายใคร         ๓. ไม่คิดผิดทำนองคลองธรรม         …

ความหมายของคำว่าบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ คืออะไร Read More »

ศีล แปลว่าอะไร ถ้าคน ๆ นั้นมีความบริสุทธิ์เป็นปกติ ถามว่าจำเป็นต้องรักษาศีลหรือไม่ ?

คำถาม:   ศีล แปลว่าอะไร ถ้าคน ๆ นั้นมีความบริสุทธิ์เป็นปกติ ถามว่าจำเป็นต้องรักษาศีลหรือไม่ ? คำตอบ:   ศีล คือข้อบัญญัติที่กำหนดความประพฤติตามปกติ ทางกายและวาจาของบุคคลในพระพุทธศาสนา         คนที่มีความประพฤติดี มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ เป็นปกติแล้ว  ก็ไม่จำเป็นต้องประกาศว่ารักษาศีล เพราะว่าเขามีศีลอยู่ในตัวแล้ว แต่คนที่อ้างว่าเป็นผู้มีความบริสุทธิ์เป็นปกติน่ะอยู่ที่ไหน ขอดูหน้าหน่อยซิ         เพราะโดยทั่วไปแล้วคนที่มีแต่ความบริสุทธิ์เป็นปกติ คือ บริสุทธิ์ตลอดเวลา มีอยู่ประเภทเดียวคือ พระอรหันต์ ชาวบ้านหรือแม้ที่สุดเป็นพระภิกษุก็ยังบริสุทธิ์ไม่พอเพราะฉะนั้นจึงต้องประคับประคองตั้งใจรักษาศีลกันต่อไป โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

มีวิธีอย่างไรที่จะทำให้รักษาศีล 5 ได้ทั้งวัน

คำถาม:   การรักษาศีล ๕ ดูเหมือนง่าย ผมสังเกตตัวเองที่เคยตั้งใจรักษาศีล ๕ ข้อให้ครบหลายครั้ง แต่ไม่เคยรักษาได้ครบสักวัน ขาดเป็นบางข้อบางวันอยู่ตลอด หลวงพ่อมีวิธีการอย่างไรครับ ที่จะฝึกรักษาศีล ๕ ให้ได้ตลอดทั้งวัน? คำตอบ:   เมื่อตอนที่หลวงพ่อเริ่มต้นคิดจะรักษาศีล ๕ ให้ได้ ก็ต้องตัดสินใจเลิกอบายมุขทั้งหมดก่อน อบายมุขมีอะไรบ้าง ?         ๑. ดื่มน้ำเมา                                                              ๒. เที่ยวกลางคืน         ๓. เที่ยวดูการละเล่น                                                ๔. เล่นการพนัน         ๕. คบคนชั่วเป็นมิตร                                               ๖. เกียจคร้านในการทำงาน         ทั้ง ๖ ประการนี้ คืออบายมุข เป็นเหตุแห่งความพินาศฉิบหาย ใน ๖ ประการนี้การคบคนชั่วเป็นมิตรเป็นข้อที่อันตรายที่สุด เพราะนำความฉิบหายมาให้มากที่สุด         ตอนนั้นถึงแม้ว่าจะเลิกอบายมุขได้เด็ดขาดแล้ว แต่ว่าศีล ๕ ยังกะพร่องกะแพร่งอยู่ ก็พยายามที่รักษาศีล …

มีวิธีอย่างไรที่จะทำให้รักษาศีล 5 ได้ทั้งวัน Read More »

ผู้ที่ได้ธรรมกายแล้ว ละเมิดศีล ๕ ได้บ้างหรือไม่

คำถาม: ผู้ที่ได้ธรรมกายแล้ว ละล่วงละเมิดศีล ๕ ได้บ้างไหม หรือไม่ได้เลยครับ? คำตอบ:   จำไว้ก็แล้วกัน ผู้ที่จะเข้าถึงธรรมกายในตัวได้ อย่างน้อยต้องรักษาศีล ๕ ได้ครบ         คราวนี้พอมีศีล ๕ ครบ และปฏิบัติธรรมจนเห็นธรรมกายในตัวชัดเจนดีแล้ว ถ้าไปทำผิดศีล ๕ ข้อใดข้อหนึ่งเข้า การรู้การเห็นก็เลือนไป ต้องมาเริ่มต้นรักษาศีล นั่งสมาธิ(Meditation)กันใหม่อย่างจริงจังคือเริ่มต้นใหม่นั่นเอง         เพราะฉะนั้น ใครได้เข้าถึงธรรมกายในตัวแล้ว ควรรักษาให้ดีอุปมาเหมือนปลูกต้นไม้ ถ้าเราปลูกขึ้นมา แล้วปล่อยให้มันเฉากว่าจะรดน้ำพรวนดินให้มันฟื้นขึ้นมาได้นั้นยากกว่าปลูกใหม่         ดังนั้นพวกเราจงตั้งใจรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ เพราะศีล ๕ เป็นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ และเป็นพื้นฐานของการสร้างความดีทั้งปวง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา