หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

พระอ่านหนังสือพิมพ์ได้หรือไม่

คำถาม: ถ้าเป็นพระ อ่านหนังสือพิมพ์ได้หรือเปล่าคะ ? คำตอบ:   จริง ๆ แล้ว ในพระวินัยก็ไม่มีห้ามเอาไว้ แต่แน่ละหนังสือบางประเภท เช่น หนังสือโป๊ หนังสือเปลือย อย่าว่าแต่อ่านเลย ชำเลืองก็ไม่ควรจะชำเลืองดูมัน         ส่วนหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวสารบ้านเมืองที่ควรรู้ จำเป็นต้องรู้สำหรับเป็นข้อมูลไปเทศน์สอนชาวบ้าน ก็อ่านเถอะ ไม่ได้ผิด แต่ว่าในช่วงที่กำลังเข้าธุดงค์ ต้องการความสงบใจอย่างมาก ก็ไม่ควรอ่านอย่างยิ่ง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ดูทีวีอย่างไรไม่ให้เกิดโทษ

คำถาม:   หนูอายุ ๑๙ ปี ตั้งใจจะรักษาศีล ๘ หนูตั้งใจปฏิบัติไม่ให้ศีลด่างพร้อยเลย แต่ว่ามักจะขาดอยู่หนึ่งข้อ คือข้อที่ ๗ หนูชอบดูทีวี อันที่จริงไม่ดูก็ได้ แต่ว่ามันได้ยินเสียงก็เลยคิดว่าไหน ๆ ฟังเสียงแล้วก็เลยดูซะเลย หนูเข้าใจว่าทุกบ้านต้องมีเสียงทีวี อย่างนี้คนอยู่บ้านคงรักษาศีล ๘ ไม่ได้ใช่ไหมคะ ? คำตอบ:   ก็อดใจอย่าไปดูมันซิลูกเอ๊ย…..ให้มันเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาซะบ้าง ฝากข้อคิดว่า ทีวีเป็นสื่อมวลชนที่ดีอย่างหนึ่ง ทำให้เรารู้ข่าวคราวทั่วโลกได้เร็ว แต่ก็ควรระวังด้วย เพราะของที่มีคุณอนันต์ก็มีโทษ มหันต์ อยากจะบอกว่าทีวีนั้น ถ้าจะให้ได้ประโยชน์ ไม่มีโทษละก็ พอหมดข่าวก็ปิดเลยดีที่สุด         ทีวี หลาย ๆ ช่องกว่าจะจบข่าวก็ประมาณ ๓ ทุ่ม ทางที่ดีพอหมดข่าวก็ควรปิดทีวีได้แล้ว พวกหนังพวกละครอย่าไปดูมันเลย เอาเวลามานั่งสมาธิดีกว่า อีกอย่างหนึ่งอยากจะเตือนไว้ เห็นคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน ทำเหมือนกำลังฆ่าลูก ฆ่าอย่างไร? คือ โทรทัศน์นี่ความจริงตัวเองก็อยากดู ลูกก็อยากดู เพราะฉะนั้นไล่ให้ลูกนอน มันก็ไม่นอน ทีวีอยู่ในห้องนอน …

ดูทีวีอย่างไรไม่ให้เกิดโทษ Read More »

ภิกษุณีกับแม่ชีมีความแตกต่างกันอย่างไร

คำถาม: ขอความกรุณา หลวงพ่อช่วยไขข้อข้องใจในเรื่องภิกษุณี กับชีในปัจจุบันด้วยครับว่าต่างกันอย่างไร? คำตอบ:   ภิกษุณีมีศีล ๓๑๑ ข้อ แต่ชีมีศีล ๘ ข้อ ภิกษุณีนั้นหมดไปนานแล้ว ชีก็ส่วนชี ภิกษุณีก็ส่วนภิกษุณี เป็นคนละประเภทกัน แม่ชีนั้นเทียบได้แค่อุบาสิกาเท่านั้นเอง เพราะถือศีล ๘ ยกขึ้นไปเทียบกับภิกษุณีไม่ได้เลย         เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๒๙ มีนักบวชหญิงมาจากไต้หวัน เขาบอกว่าเขาเป็นภิกษุณีของเขายังมีอยู่ ส่วนทางหินยานหรือเถวรวาทของพวกเรา ภิกษุณีหมดไปตั้งแต่เมื่อพระพุทธศาสนาแผ่จากอินเดียมาปักหลักที่ลังกาแล้ว แต่ว่าภิกษุณีของทางมหายานจะมีศีลมีวินัยถูกต้องครบที่ทรงบัญญัติไว้ในสมัยพุทธกาลเพียงใดนั้นเราไม่ทราบ เพราะขาดการติดต่อกัน แต่เมื่อเขามา ทางเราก็ต้อนรับเขา        พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ก็ขอเล่าไว้เป็นเกร็ดความรู้สักนิด พระภิกษุในฝ่ายมหายาน โดยเฉพาะในประเทศเกาหลี ไต้หวัน เขามีสิ่งที่เขาภูมิใจอยู่สิ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราไม่มีแล้ว สิ่งนั้นคือการสืบสายถึงอุปัชฌาย์ น่าสรรเสริญที่เขาสามารถรักษาขนบธรรมเนียมเอาไว้ได้ คือเวลาจะบวชกับอุปัชฌาย์ เพียงองค์ ๒ องค์ เท่านั้น ส่วนมากเขาบวชแล้วไม่มีการสึกกัน        เวลามีคนมาขอบวชพระกับอุปัชฌาย์องค์ไหนก็ตาม พระอุปัชฌาย์ จะต้องบอกลูกศิษย์ก่อนว่า “คุณจำไว้นะ อุปัชฌาย์ของฉันชื่อนั้น อุปัชฌาย์ ของอุปัชฌาย์ชื่อนั้น ๆ” ไล่ชื่อกันไปถึงโน่น พระอานนท์พระมหากัสสปะ …

ภิกษุณีกับแม่ชีมีความแตกต่างกันอย่างไร Read More »

ตัดต้นไม้ที่มีรุกขเทวดาอยู่บาปไหม

คำถาม: ตัดต้นไม้ที่มีรุกขเทวดาอยู่ บาปไหมครับ ? คำตอบ:  ถามก่อนว่าเราตัดต้นไม้ถือว่าเป็นปาณาติบาตไหม ? ไม่เป็นนะ เราตัดต้นไม้ เราไม่ได้ฆ่าใครก็ไม่บาป แต่ถ้าต้นไม้นั้นมีรุกขเทวดาอยู่ เราทำลายที่อยู่อาศัยของเขา บางทีเขาก็เล่นงานเราเหมือนกัน แต่ถ้าเรามีบุญอยู่ในตัว เขาก็เล่นงานเราไม่ได้         ในพระวินัยของสงฆ์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงห้ามโค่นต้นไม้ที่มีเทวดาอยู่อาศัย ท่านใช้คำว่า “ภูตคาม” คือต้นไม้ที่เป็นวิมานของเทวดา ห้ามตัด ซึ่งก็คงเป็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ ๆ นะ         อย่างไรก็ดี ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ แล้ว อย่าตัดต้นไม้เลย เพราะจะทำให้บรรยากาศแห้งแล้ง แผ่นดินแตกระแหง โล่งเตียน พอฝนตกมาก น้ำก็หลากไหลไปท่วมบ้านเรือนเร็วขึ้น เพราะไม่มีต้นไม้คอยปะทะหรือช่วยดูดซับน้ำเอาไว้ ใครย้ายข้าวของหนีไม่ทัน ก็จะเสียหายกันยกใหญ่         แต่หากจำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะโค่นต้นไม้ต้นไหนที่คิดว่ามีเทวดาอาศัยอยู่ ให้บอกท่านก็แล้วกัน เชิญให้เทวดาไปหาที่อยู่ใหม่ เพราะจำเป็นต้องโค่นต้นไม้ต้นนี้ พอโค่นแล้ว เราก็ตักบาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เทวดา ทำอย่างนี้จะสบายใจขึ้น โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา …

ตัดต้นไม้ที่มีรุกขเทวดาอยู่บาปไหม Read More »

กรณีที่พระยืนรอรับบิณฑบาตนั้นผิดหรือสมควรหรือไม่

คำถาม: กรณีที่พระถือบาตรมายืนหน้าร้านขายอาหาร รอผู้ที่จะมาใส่บาตร ถามว่าผิดหรือสมควรหรือไม่คะ ? คำตอบ:   ตอบว่า ไม่ผิด แต่ถามว่าสมควรหรือไม่?  ก็ไม่ค่อยสมควรนะ คืออาจจะยืนรอได้ แต่พอรายแรกหรือคนกลุ่มแรกเขาใส่บาตรให้แล้วควรเดินต่อไปเลย แต่ถ้า ๒ รายก็แล้ว ๓ รายก็แล้ว ๖-๗ รายแล้วก็ยังยืนปักหลักรออยู่อีก อย่างนี้ก็ไม่สมควร         แต่ถ้าจะเอาผิดเอาถูกกัน ก็ตอบว่าไม่ผิด จะผิดก็ต่อเมื่อได้อาหารมาหลายชุดจนล้นบาตร กลับไปถึงวัด แล้วยังกลับมารับอีกอย่างนี้ผิดแน่นอน         พระท่านเดินรับบิณฑบาตจากหลายบ้าน จนของล้นบาตร ก็เพื่อรักษาศรัทธาญาติโยม ส่วนพวกญาติโยมก็ควรเอ็นดูพระบ้าง อย่าเคี่ยวเข็ญ ยัดเยียดให้ท่านหอบหิ้วจนทุลักทุเลนักเลย         สำหรับเรื่องนี้ต้องค่อย ๆ พิจารณาให้ดี อย่าเอาแค่ผิดแค่ถูก ต้องเอาความควรหรือไม่ควรด้วย โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

คนที่คิดในเรื่องกาม แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร บาปหรือไม่

คำถาม: คนที่คิดในเรื่องกาม แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร บาปหรือไม่ครับ ? คำตอบ:  บาป ยิ่งเจ้าชู้เท่าไรยิ่งบาปมาก ถึงแม้ว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวทางเพศกับใคร ไม่ได้ทำให้ศีลข้อกาเมฯ ขาดหรอก แต่วัน ๆ นึกเห็นแต่หน้าคนโน้นคนนี้โผล่ขึ้นมา “อุ้ยแม่นั่นสวย แม่นี่ก็ยิ้มหวาน แม่นั่นก็อื้อฮือ” นึกแบบนี้ทั้งวันก็แย่แล้วละ รีบแก้ไขตัวเองเสีย         ถามว่าไม่ดียังไง ? ไม่ดีเพราะมันฟ้องว่าใจขุ่นแล้ว ใจขุ่นเพราะมัวเมาหมกหมุ่น ครุ่นคิดในเรื่องเพศ เฝ้าคิดถึง คนึงหา หวงหึงสารพัด แค่วันทั้งวันไม่ได้คิดสร้างสรรค์งานการอะไรเลย นี่ก็แย่แล้วถ้าสร้างสรรค์อะไรก็วกเข้าเรื่องส่งเสริมกามราคะเสียทั้งหมด สังคมก็เดือดร้อน         พวกนี้เวลาใกล้ ๆ ตาย ภาพที่ติดอยู่ในเรื่องกามเหล่านี้มันจะกลับมาทำให้นึกเรื่องบุญไม่ออก เมื่อนึกถึงบุญไม่ออก แม้จะเคยทำบุญไว้บ้างก็ไม่มีทางได้ไปสวรรค์ และถ้าใจยังวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่แต่เรื่องเหล่านี้ จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ดีไม่ดีอาจตกนรกเอาง่าย ๆ         เรื่องรัก ๆ ใคร่ๆ เรื่องกามเหล่านี้ ทำให้คนเอาตัวไม่รอดมานักต่อนักแล้ว แม้เมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ สังเกตดูจากข่าวหนังสือพิมพ์ก็ได้ จะเห็นว่ามีคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ทุกวัน และมีคนอยู่จำพวกหนึ่งไม่ได้ยุ่งกับลูกเขาเมียใคร แต่วัน ๆ เอาแต่สร้างสื่อลามกออกเผยแพร่ทำให้เกิดคดีทางเพศเพิ่มขึ้นไม่น้อย …

คนที่คิดในเรื่องกาม แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใคร บาปหรือไม่ Read More »

พระภิกษุสงฆ์รับบาตรด้วยภาชนะอย่างอื่นผิดหรือไม่ พระสามารถพายเรือ ซ้อนหรือขี่จักรยานได้หรือไม่

คำถาม: การที่พระภิกษุไม่ถือบาตร แต่ถือภาชนะอย่างอื่น เช่น ถังพลาสติกไปบิณฑบาต จะผิดวินัยสงฆ์หรือไม่คะ ? คำตอบ: ถ้าถามว่าผิดวินัยหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าไม่ผิด แต่ถ้าถามว่าเป็นการสมควรหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าไม่สมควร พวกเราที่อยู่ทางโลกมองการกระทำของคนอื่นแล้ว มักจะตัดสินกันเพียงแค่ผิดหรือถูก เรื่องบางเรื่องเพียงแค่นี้ยังไม่พอ ผิดกับถูกเป็นการตัดสินเรื่องระดับเด็ก ๆ         ถ้าตัดสินเรื่องของผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นต้นแบบทางความประพฤติแก่ผู้อื่น นอกจากผิดกับถูกแล้ว ยังต้องมองออกไปว่ามันสมควร หรือไม่สมควรอีกด้วย เช่น ในการบิณฑบาต ถ้าพระไม่ถือบาตรไป อาจจะเอาถุงพลาสติกหรือถังอะไรไปรับของถวายก็ตามถามว่าจะผิดไหม? ก็ไม่ผิด แต่ถ้าถามว่าสมควรไหม? ต้องดูจากสถานการณ์ ในบางสถานการณ์สมควร แต่ในบางสถานการณ์ไม่สมควร เช่น บาตรมีอยู่แล้ว ก็น่าจะใช้บาตร ทำไมไปใช้ถังพลาสติก ไม่สมควรเลย         แต่ในเวลาเดียวกัน ถ้าบาตรเกิดแตก จะเอาบาตรแตก ๆ ไป บิณฑบาตได้อย่างไร ก็ต้องใช้ถังใช้ถึงพลางก่อน แต่ไม่ใช้อ้างบาตรแตกทุกวัน แล้วเอาถังพลาสติกไปบิณฑบาตเป็นเดือน ๆ หรือตลอดทั้งปี อย่างนี้ก็ไม่สมควร ขอให้ไปพิจารณากันเอง         อีกกรณีหนึ่ง มีคนถามมาบ่อย ๆ …

พระภิกษุสงฆ์รับบาตรด้วยภาชนะอย่างอื่นผิดหรือไม่ พระสามารถพายเรือ ซ้อนหรือขี่จักรยานได้หรือไม่ Read More »

การดื่มเหล้าแก้หนาวถือว่าผิดศีลข้อ ๕ หรือไม่

คำถาม: ในประเทศแถบยุโรป อากาศนาวจัด มีความจำเป็นต้องดื่มเหล้า หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย ที่เรียกว่าดื่มเหล้าแก้หนาว อย่างนี้ถือว่าผิดศีลข้อ ๕ หรือเปล่าครับ ? คำตอบ:  ในกรณีนี้ขอให้มองให้ดี ในวงการแพทย์เรายังมีปัญหาถกเถียงกันพอสมควรว่า ทำไมต้องใช้ฝิ่น จะกำจัดฝิ่นให้หมดไปจากโลกเสียไม่ได้หรือ จริงอยู่ว่าฝิ่นมีสารเสพติดที่เป็นอันตรายต่อผู้เสพ แต่เมื่อถึงความจำเป็น ฝิ่นก็มีประโยชน์มาก เพราะสามารถเอาไปทำเป็นยาได้โดยเฉพาะยาระงับประสาท ระงับอาการเจ็บปวดยามฉุกเฉิน       เพราะฉะนั้นจึงมีข้อพิจารณากันว่าสิ่งเสพติดเหล่านี้เราจะใช้มันเพื่อประโยชน์อะไร เราใช้ฝิ่นเพื่อการรักษาโรค คือทำเป็นยา หรือ ใช้เพื่อการเสพติด ประเด็นสำคัญอยู่ตรงนี้       แอลอกฮอล์ก็ทำนองเดียวกัน พูดง่าย ๆ คือเลิกผลิตไม่ได้เพราะในวงการแพทย์ยังจำเป็นต้องใช้ อย่าว่าแต่ใช้ดื่มกินเลย แม้แต่ใช้เป็นแอลกอฮอล์ล้างแผลเช็ดแผล ก็ยังต้องใช้อยู่จนทุกวันนี้เพราะฉะนั้นถ้าจะตัดสินก็ต้องดูวัตถุประสงค์ในการใช้เป็นหลัก เหล้าหรือแอลกอฮอล์ขวดเดียวกัน ถ้าใช้แพทย์ก็ไม่ว่ากัน เพราะมันคือยา แต่ถ้าใช้เพื่อการมึนเมานั้นผิด เพราะมันเป็นสิ่งเสพติด       ในกรณีของคนป่วย มีความจำเป็นต้องดื่มเหล้า หรือแอลกอฮอล์ เพื่อแก้หนาวหรือเพื่ออะไรก็ตามที หรือการรักษาอาการป่วยนั้นจำเป็นต้องกินยาที่ผสมเหล้า ถ้าจำเป็นอย่างนั้นก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าไม่ได้หายป่วย หนาวอย่างไรก็ทนหนาวเอาเถอะ อย่าไปดื่มเหล้าแก้หนาวเลย       เพราะถ้าดื่มเข้าไปก็เท่ากับเดินอยู่บนทางแห่งความพินาศฉิบหายเข้าไปแล้ว ต้องรู้ไว้นะว่า เมื่อดื่มเหล้า ล่วงเข้าลำคอไป สติของเราก็เริ่มจะขาด แล้วอย่าไปคิดว่า แหม….ถ้าเราดื่มเหล้าเข้าไปสักหน่อยดื่มเข้าไปสักอึก  …

การดื่มเหล้าแก้หนาวถือว่าผิดศีลข้อ ๕ หรือไม่ Read More »

การสวดพระปาฏิโมกข์คืออะไร พระภิกษุต้องสวดได้ทุกรูปหรือไม่

คำถาม: หลวงพ่อครับ การสวดพระปาฏิโมกข์คืออะไร พระภิกษุต้องสวดได้ทุกรูปหรือไม่ พระบวชใหม่บางรูปบอกว่าสวดได้ไม่จบ สวดได้เพียงครึ่งเดียว ก็เวียนศีรษะแล้ว อย่างนี้จะเป็นอะไรไหมครับ? คำตอบ: การสวดปาฏิโมกข์ คือการสวดทบทวนศีลและวินัยของพระภิกษุซึ่งมี ๒๒๗ ข้อ โดยสวดเป็นภาษาบาลี และสวดภายในโบสถ์เท่านั้น จัดเป็นสังฆกรรมที่สำคัญอย่างยิ่งของพระภิกษุ         พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดไว้ว่า พระภิกษุจะต้องฟังสวดปาฏิโมกข์ทุกวันพระ ๑๕ ค่ำ ถึงตัวเองสวดไม่ได้ แต่ว่าในวัดมีผู้สวดได้ก็ต้องไปฟังท่านสวด         สาเหตุที่ต้องลงไปฟังก็คือจะได้ทบทวนและจดจำพระวินัยได้แม่นยำ ถ้าตนมีสิ่งใดผิดพลาดจะได้แก้ไข ปรับปรุงตนเองเสียใหม่นั่นเอง         ศีล ๒๒๗ ข้อ ต้องบอกว่าจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน ผู้ที่มีความจำไม่ดี สวดได้ไม่หมดหรอก แต่ถ้าคนที่มีความจำดีๆ ท่องเที่ยวเดียว ๒ เที่ยวก็จำได้ เพราะบางรูปท่องเป็นเดือนๆ ยังจำไม่ได้ แต่ก็พอรู้ว่ามีอะไรบ้าง รู้แค่นี้ก็เป็นประโยชน์แก่ชีวิตการเป็นพระมากมายแล้ว โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ดื่มไวน์เพื่อเจริญอาหารถือว่าผิดศีลข้อที่ ๕ หรือไม่

คำถาม: ถือศีล ๕ ครบทุกข้อ แต่มีข้อมุสาที่ไม่แน่ใจว่าขาดหรือไม่ คือ บางครั้งก็พูดมากเกินเหตุ พูดเพ้อเจ้อ พูดแซวบ้าง อำกันบ้าง หลอกบ้าง จะถือว่ารักษาศีล ๕ ครบไหมคะ? คำตอบ:   ศีลข้อ ๔ มุสาวาทา เวรมณี ไม่ใช่แค่ห้ามพูดไม่จริงอย่างเดียว แต่รวมถึงการพูดเพ้อเจ้อ พูดส่อเสียด เอาความข้างโน้นไปบอกข้างนี้ให้เขาแตกแยกกัน พูดหยาบคายให้เขาโกรธ แม้เป็นเรื่องก็ไม่ได้ทั้งนั้น ถือว่าผิดศีล อย่าทำ         ถ้าจะรักษาศีลก็รักษาให้ครบตามที่ลั่นวาจาไว้ จะได้มีโอกาสสร้างบุญได้ตลอดรอดฝั่ง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ความหมายของคำว่าบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ คืออะไร

คำถาม:  ที่ว่าบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ หมายถึงอะไร เวลาถวายของพระมักได้ยินอยู่บ่อยๆ ? คำตอบ:  การถวายทาน ถ้าจะให้ได้บุญมาก ทั้งผู้ถวายและพระภิกษุผู้รับจะต้องมีความบริสุทธิ์ทั้งกาย และใจ ยิ่งบริสุทธิ์มากเท่าไรก็ยิ่งบุญมากเท่านั้น         ความบริสุทธิ์กายนั้น พระพุทธองค์ทรงเปรียบเทียบไว้อย่างนี้คนทั้งหลายถึงแม้ว่าจะอาบน้ำวันละพันครั้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าวันละพันหนก็ยังไม่ชื่อว่าบริสุทธิ์กาย ผู้ที่จะบริสุทธิ์ได้ต้อง         ๑. ไม่ฆ่าสัตว์         ๒. ไม่ลักทรัพย์         ๓. ไม่เจ้าชู้         ผู้บริสุทธิ์วาจา ท่านก็กล่าวทำนองเดียวกันว่า ถึงจะแปรงฟันวันละพันครั้ง อมยาอมวันละพันหน ก็ไม่สามารถทำให้วาจาบริสุทธิ์ได้ ผู้ที่วาจาบริสุทธิ์ต้อง         ๑. ไม่พูดโกหก         ๒. ไม่พูดคำหยาบ         ๓. ไม่พูดเพ้อเจ้อ         ๔. ไม่พูดส่อเสียด         ถ้าลักษณะคำพูดมีครบ ๔ อย่างนี้จึงจะถือว่ามีวาจาบริสุทธิ์จริงหรือพูดภาษาชาวบ้านว่าปากสะอาดได้ โดยไม่ต้องอมอะไรต่ออะไรทั้งนั้นแหละ         ส่วนผู้ที่จะนับได้ว่ามีใจบริสุทธิ์ ก็ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติต่อไปนี้         ๑. ไม่โลภ อยากได้ของคนอื่น         ๒. ไม่พยาบาท ปองร้ายใคร         ๓. ไม่คิดผิดทำนองคลองธรรม         …

ความหมายของคำว่าบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ คืออะไร Read More »

ศีล แปลว่าอะไร ถ้าคน ๆ นั้นมีความบริสุทธิ์เป็นปกติ ถามว่าจำเป็นต้องรักษาศีลหรือไม่ ?

คำถาม:   ศีล แปลว่าอะไร ถ้าคน ๆ นั้นมีความบริสุทธิ์เป็นปกติ ถามว่าจำเป็นต้องรักษาศีลหรือไม่ ? คำตอบ:   ศีล คือข้อบัญญัติที่กำหนดความประพฤติตามปกติ ทางกายและวาจาของบุคคลในพระพุทธศาสนา         คนที่มีความประพฤติดี มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ เป็นปกติแล้ว  ก็ไม่จำเป็นต้องประกาศว่ารักษาศีล เพราะว่าเขามีศีลอยู่ในตัวแล้ว แต่คนที่อ้างว่าเป็นผู้มีความบริสุทธิ์เป็นปกติน่ะอยู่ที่ไหน ขอดูหน้าหน่อยซิ         เพราะโดยทั่วไปแล้วคนที่มีแต่ความบริสุทธิ์เป็นปกติ คือ บริสุทธิ์ตลอดเวลา มีอยู่ประเภทเดียวคือ พระอรหันต์ ชาวบ้านหรือแม้ที่สุดเป็นพระภิกษุก็ยังบริสุทธิ์ไม่พอเพราะฉะนั้นจึงต้องประคับประคองตั้งใจรักษาศีลกันต่อไป โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

มีวิธีอย่างไรที่จะทำให้รักษาศีล 5 ได้ทั้งวัน

คำถาม:   การรักษาศีล ๕ ดูเหมือนง่าย ผมสังเกตตัวเองที่เคยตั้งใจรักษาศีล ๕ ข้อให้ครบหลายครั้ง แต่ไม่เคยรักษาได้ครบสักวัน ขาดเป็นบางข้อบางวันอยู่ตลอด หลวงพ่อมีวิธีการอย่างไรครับ ที่จะฝึกรักษาศีล ๕ ให้ได้ตลอดทั้งวัน? คำตอบ:   เมื่อตอนที่หลวงพ่อเริ่มต้นคิดจะรักษาศีล ๕ ให้ได้ ก็ต้องตัดสินใจเลิกอบายมุขทั้งหมดก่อน อบายมุขมีอะไรบ้าง ?         ๑. ดื่มน้ำเมา                                                              ๒. เที่ยวกลางคืน         ๓. เที่ยวดูการละเล่น                                                ๔. เล่นการพนัน         ๕. คบคนชั่วเป็นมิตร                                               ๖. เกียจคร้านในการทำงาน         ทั้ง ๖ ประการนี้ คืออบายมุข เป็นเหตุแห่งความพินาศฉิบหาย ใน ๖ ประการนี้การคบคนชั่วเป็นมิตรเป็นข้อที่อันตรายที่สุด เพราะนำความฉิบหายมาให้มากที่สุด         ตอนนั้นถึงแม้ว่าจะเลิกอบายมุขได้เด็ดขาดแล้ว แต่ว่าศีล ๕ ยังกะพร่องกะแพร่งอยู่ ก็พยายามที่รักษาศีล …

มีวิธีอย่างไรที่จะทำให้รักษาศีล 5 ได้ทั้งวัน Read More »

การไปเที่ยวดิสโก้เธคหรือเที่ยวกลางคืนทางพุทธศาสนาถือว่าบาปหรือไม่

คำถาม:   การไปเที่ยวดิสโก้เธค เที่ยวกลางคืน ทางพระพุทธศาสนาถือ ว่าเป็นบาปไหมครับ ? คำตอบ:   การไปเที่ยวดิสโก้เธคถือว่าเป็นอบายมุขชนิดหนึ่ง คนที่ประพฤติอย่างนั้น พระพุทธองค์ตรัสว่ากำลังเดินอยู่บนเส้นทางแห่งความหายนะ เอาเถิดความประพฤติบางอย่าง ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ไปยุ่งกับใคร กิน ๆ ดิ้น ๆ อยู่ในบ้านของเราเอง ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ว่าคุณไปเต้นให้มันเป็นอะไรขึ้นมา จะบอกว่าไปดิ้น ๆ เฉย ๆ         หลวงพ่อ ว่ามันไม่เฉย ๆ หรอก กามมันกำเริบโดยคุณไม่รู้ตัว ตอนนั้นกามกำเริบนะ ไม่กำเริบดิ้นไม่ได้ คราวนี้เถียงไม่ขึ้นหรอก         กรณีนี้แม้จะไม่ไปเกี่ยวข้องกับคนอื่น แค่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน พระพุทธศาสนาก็ถือว่าทำชั่วแล้ว ยิ่งไปเต้นไปร้องทำความรำคาญให้หนวกหูชาวบ้าน ไปยุ่งกับคนอื่น ทำให้พ่อแม่เป็นห่วงว่าจะไปได้รับอันตรายหรือเปล่า ทำชั่วขนาดนี้จะบาปหรือไม่ล่ะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

เมื่อชวนคนทำบุญตามกำลังศรัทธาพอเขาทำน้อยก็ใจหมองควรทำอย่างไรดี

คำถาม:   เป็นการไม่ดีใช่ไหมค่ะ ถ้าชวนคนอื่นเป็นกรรมการทอดผ้าป่า ทอดกฐิน แล้วบอกว่า “แล้วแต่ศรัทธา” ถึงเวลาเขาให้ด้วยศรัทธา ๑๐ บาท โดยที่เขาก็เป็นกรรมการ ทำให้ลูกคิดแค้นมาก? คำตอบ:   โธ่…แม่คุณเอ๋ย ก็เขาศรัทธาเท่านั้น ก็ได้เท่านั้นซิคุณ จะเอาอะไรกันหนักหนา         เขามีเงินอยู่เท่านั้นเขาก็ทำได้เท่านั้น ยังดีนะที่เขาทำ หรืออีกประการหนึ่ง เขาอาจจะมีเงินเป็นล้านๆ เป็นร้อยล้านก็ได้ แต่เขาทำแค่ ๑๐ บาท ก็แสดงว่าเรายังไม่สามารถที่จะอธิบายให้เขาซาบซึ้ง ถึงความจำเป็นในการทำบุญทำทาน ว่ามันจำเป็นกับชีวิตอย่างไร เงินจำนวนนั้นเอาไปทำอะไร จะได้สิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างไรต่อไป         เรายังไม่ได้อธิบายให้เขาเข้าใจ เพราะฉะนั้นเขาก็ให้ตามกำลังศรัทธาของเขา ถ้าจะโกรธก็ต้องโกรธตัวเองว่า เรานี่ขาดปฏิสัมภิทาญาณ ๔ ตั้งแต่         ๑. ความแตกฉานในการขยายข้อธรรมะให้พิสดาร         ๒. ความแตกฉานในการย่นย่อ สรุปให้เขานำไปปฏิบัติได้         ๓. ความแตกฉานที่จะพูดให้เข้าใจ         ๔. ความแตกฉานที่จะชี้แจงให้เขานำไปปฏิบัติให้ได้ผล         เรายังขาดความสามารถทั้ง ๔ อย่างนี้ จึงพูดให้ผู้อื่นศรัทธาในการทำบุญได้ไม่มาก ก็ค่อย ๆ ฝึกกันต่อไป โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว …

เมื่อชวนคนทำบุญตามกำลังศรัทธาพอเขาทำน้อยก็ใจหมองควรทำอย่างไรดี Read More »