หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

นั่งสมาธิแล้วชอบมึนและปวดหัว จะแก้ได้อย่างไร

คำถาม: เวลานั่งสมาธิทำไมจึงจรดเข้ากลางได้ยากเย็นนักคะ บางครั้งก็มึนและปวดหัว เป็นเพราะอะไรคะ? คำตอบ:  ที่เข้ากลางได้ยากเย็น ก็เพราะว่าตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยถูกสอนให้รู้จักศูนย์กลางกาย เพราะฉะนั้นเวลาคิด เราก็คิดที่หัวสมองกันทั้งนั้น แล้วก็คิดกันตลอดเวลา มาฝึกนั่งสมาธิ บอกให้หยุดคิด ก็หยุดไม่ได้ มิหนำซ้ำยังคิดเพิ่มขึ้นอีกว่าจะหยุดคิดได้อย่างไร คิดฟุ้งซ่านมากมายแล้วมาบ่นว่าปวดหัว         ไอ้ที่ปวดหัวเพราะอะไร เพราะนึกไม่เป็น นึกไม่ถูกเวลาที่คนทั่ว ๆ ไปนึกคิด เขาจะใช้สมองเป็นที่ทำงานของการคิด คิดมากเข้ากะโหลกมันขยายไม่ได้ ความคิดมันคับกะโหลก มันก็ต้องปวดหัว แต่ถ้าเอาศูนย์กลางกายซึ่งอยูในกลางท้องเป็นที่ทำงานของการคิด จะไม่ปวดหัว         พอเอาความคิดเข้ากลางได้ ก็มีที่กว้างขวางให้คิด แล้วก็คิดได้แบบเย็นๆ เป็นความคิดที่กรองด้วยสติ เวลานึกนิมิตองค์พระหรือดวงแก้ว บอกให้นึกเบาๆ แบบไม่ใช้กำลัง ให้นึกเหมือนนึกหน้าแม่หรือนึกถึงสิ่งที่เราคุ้นที่สุดก็นึกได้         ให้นึกสบายๆ นึกง่ายๆ เช่น นึกถึงหยาดน้ำค้างบนปลายยอดหญ้าในยามเช้า เป็นหยดกลมๆ ใสๆ หรือหยดน้ำที่กลิ้งอยู่บนใบบัวเดี๋ยวก็นึกออก นึกได้ชัดเจน เปลี่ยนที่ทำงานของการคนึกเสียใหม่ให้มาตรึกอยู่ที่กลางท้องให้ได้นะลูกนะ แล้วนะไม่ปวดหัว โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC …

นั่งสมาธิแล้วชอบมึนและปวดหัว จะแก้ได้อย่างไร Read More »

การคุมกำเนิดบาปหรือไม่

คำถาม: การคุมกำเนิดของมนุษย์ถือเป็นเรื่องบาปหรือไม่ เพราะการที่ใครจะมาเกิดได้ ชาติก่อนเขาต้องรักษาศีลห้ามาอย่างดีแล้วถึงได้เกิดเป็นมนุษย์ การคุมกำเนิดเท่ากับเป็นการไม่ให้โอกาสแก่วิญญาณที่ทำความดีมาเกิดหรือไม่ ? คำตอบ:  ขอถามกลับอย่างนี้ บ้านที่เราอยู่นี่ถ้าอยู่กันตามลำพังในครอบครัว แล้วมีใครไม่รู้มาขอนอนในบ้านเรา แต่เราไม่อนุญาต ถามว่าเราผิดไหม? ไม่ผิดใช่ไหม เพราะฉะนั้นเราคุมกำเนิดตัวเราเอง ก็ไม่ผิด ไม่บาป การที่ผู้ใดผู้หนึ่งมาบวชเป็นพระภิกษุนี้ ก็ถือเป็นการคุมกำเนิดนะ         ถามว่าหลวงพ่อผิดหรือไม่ให้โอกาสคนมาเกิด หลวงพ่อว่า ไม่ผิด แต่ถ้าใครทำแท้งสิผิด แล้วก็บาปมากด้วยเพราะเป็นการทำปาณาติบาต แยกประเด็นให้ถูกนะ         ทำแท้งน่ะปาณาติบาตเพราะฆ่าคน แต่ว่าคุมกำเนิดนี้ไม่ผิดไม่บาป เพราะไม่ได้ฆ่าใคร โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ทำอย่างไรจึงจะแก้ไขนิสัยวู่วามความเจ้าอารมณ์ของตนเองได้

คำถาม: ทำอย่างไรผมจึงจะขจัดนิสัยวู่วาม เจ้าอารมณ์ของตนเองได้ มีคนแนะนำให้ฝึกนับ ๑ ถึง ๑๐ ก็ทำไม่ค่อยสำเร็จคะ ?  คำตอบ:   คนที่วู่วามเจ้าอารมณ์ คือคนที่ห้ามอารมณ์ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เพราะสติมันหย่อน ใจไม่ตั้งมั่นพอ ฉะนั้นการที่จะแก้นิสัยวู่วามได้ต้องทำดังนี้        ๑. ฝึกสติฝึกใจให้ตั้งมั่น ด้วยการหาเวลาทำความสงบใจให้ได้ทุกคืนก่อนนอน โดยการนั่งสมาธิให้มากๆ ให้ใจสงบ และแผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายให้เขามีความสุขกายสุขใจทำอย่างนี้ให้เป็นประจำ ใจจะเริ่มเย็นลง ๆ        ๒. หาเวลาอยู่ลำพังๆ เงียบๆ เพื่อพิจารณาโทษของความโกรธให้มากๆ ว่ามันนำความเสียหายมาให้แก่ตนเอง แก่ครอบครัวและหมู่คณะอย่างไรบ้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้พิจารณาถึงความเสียหายที่เกิดจากความวู่วามของเราในอดีตที่ผ่านมา ว่าทำให้ทรัพย์สินเงินทองเสียหายไปเท่าไร แล้วเราเองต้องเสียใจ เพราะการกระทำนั้นเพียงใด คุณพ่อคุณแม่ ลูกเมีย แม้ที่สุดครูบาอาจารย์ต้องพลอยเสียใจ เสียชื่อเสียงตามเราไปด้วยขนาดไหน         ถ้าจะให้ดีก็ต้องพยายามคบเพื่อนที่ใจเย็นๆ จะได้ติดนิสัยใจเย็นของเขามาบ้าง หรืออย่างน้อยที่สุดเขาจะได้ช่วอยเตือนเราได้บ้างตามสมควร          เมื่อทำได้ครบตามนี้แล้ว ไม่ช้าความหุนหันพลันแล่นก็จะคลายไป ส่วนที่ว่าเมื่อโกรธขึ้นมาก็ให้นับ ๑ ถึง ๑๐ ก่อน แล้วจึงปล่อยตัดสินใจอย่างนั้นค่อนข้างยาก เพราะเวลาโกรธ มันมักจะระเบิดอารมณ์วู่วามทำอะไรร้ายๆ ออกไปเสียก่อน ต้องพยายามฝึกสมาธิให้ใจสงบ มีอารมณ์เย็นสม่ำเสมอ …

ทำอย่างไรจึงจะแก้ไขนิสัยวู่วามความเจ้าอารมณ์ของตนเองได้ Read More »

ฝึกสมาธิแล้วตัวแข็งเหมือนก้อนหินจะแก้ได้อย่างไร

คำถาม: ฝึกสมาธิแล้วตัวแข็งเหมือนก้อนหิน จะแก้อย่างไรครับ?  คำตอบ:   กรณีอย่างนี้เคยพบมาหลายท่าน วิธีแก้ไม่ยาก ก่อนจะนั่งให้กำหนดใจไว้ที่หน้าท้อง แล้วเลื่อนไปตั้งไว้ในกลางท้องเลย กำหนดนิ่งๆ อยู่ตรงนั้นปลดความกังวล วางใจเบาๆ อาการตัวแข็งจะค่อยๆ หายไป กลับมีอาการชุ่มชื่นเบิกบานใจเข้ามาแทนที่ แล้วความสว่างจะเข้ามาในกลางห้อง อาการเกร็ง อาการเครียดจะหายหมด         ทำง่ายๆ อย่างนี้แหละ คือเลื่อนฐานที่ตั้งจิต จากหน้าท้องเข้าไปในกลางท้อง หรือสมมุติเรามีเส้นด้าย ๒ เส้นขึงให้ตึง เส้นที่ ๑ ขึงจากสะดือทะลุหลัง เส้นที่ ๒ ขึงจากเอวซ้ายทะลุเอวขวา เส้นด้ายทั้ง ๒ เส้นนี้ตัดกันตรงไหน เหนือจุดตัดนั้นขึ้นมา ๒ นิ้วมือ (นิ้วชี้กับนิ้วกลางวางซ้อนกัน) ให้เอาใจไปวางไว้ตรงนั้น แล้วทำอารมณ์สบาย ๆ อาการแข็งดังกล่าวจะหายไปหมด ลองทำดูนะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

การนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ จะทำให้เห็นดวงปฐมมรรค วิชชาธรรมกายได้หรือไม่ ?

คำถาม: การนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ จะทำให้เห็นดวงปฐมมรรค วิชชาธรรมกายได้หรือไม่ ? คำตอบ:   ได้ แต่มีข้อแม้ว่าถ้าจะกำหนดลมหายใจให้เห็นดวงปฐมมรรคเล็กๆ ให้กำหนดลมเข้าออกกระทบที่สุดลมหายใจเข้าในกลางท้อง ให้รู้อยู่ที่ตรงนั้น คำภาวนาจะใช้ พุทโธ ตามเดิมก็ได้ผลเหมือนกัน ถ้าถนัดที่จะทำแบบการกำหนดลมหายใจ จะทำอย่างนั้นต่อก็ได้ เพราะในที่สุดก็จะเข้าสู่เส้นทางเดียวกัน แต่หากยังไม่ชำนาญหรือเพิ่งเริ่มฝึกขอให้เริ่มต้นกำหนดดวงแก้วไว้ในตัวที่กลางท้องเลยจะเห็นผลเร็วกว่า โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ชวนเพื่อนมาวัดพระธรรมกายหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ไม่ยอมมา

คำถาม: ผมเคยบอกให้คนแถวบ้านผมมาวัดพระธรรมกาย แต่เขากลับตอบว่าไปแล้วมันได้อะไรขึ้นมา มิหนำซ้ำยังขอเงินผมไปเล่นไพ่อยู่ตลอดเวลา เตือนเป็นครั้งที่ ๑๗ แล้วก็ยังไม่เชื่อ ผมควรทำอย่างไร ? คำตอบ:   เตือนมาตั้ง ๑๗ ครั้งแล้ว (แหม…ช่างจำช่างนับจังเลย) เขายังไม่เชื่อ มันน่าจะได้คำตอบอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ตักน้ำรดหัวตอน่ะตอมันไม่งอก เพราะตอมันตายแล้ว อืม…แต่ไม่แน่นะ รดน้ำลงบนตอไม้ผุบ่อยๆ เราอาจได้เห็ดหูหนู หรือเห็ดตามธรรมชาติมากินกัน         เราไปชวนเขามาวัดพระธรรมกาย เขาไม่มา แล้วเคยเห็นเขาไปทำบุญวัดอื่นบ้างหรือเปล่า ก็คงไม่ได้ไป เพราะมัวแต่ไปเล่นไพ่         เขาถามคุณว่าไปวัดพระธรรมกายแล้วได้อะไรขึ้นมา แสดงว่าคุณไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากตอนก่อนเข้าวัดเลย เพราะฉะนั้น คุณต้องเร่งปฏิบัติธรรม ปรับปรุงตัวเองให้สมภูมินักปฏิบัติธรรมมากๆ ถ้าคุณดูดีขึ้นกว่าเดิม คนแถวบ้านจะอยากรู้เองว่า วัดที่คุณไปมีดีอะไร จึงเปลี่ยนแปลงคุณให้ดีขึ้นได้         อย่ามัวแต่เคี่ยวเข็ญคนอื่นเลย เคี่ยวเข็ญตัวเองให้มากๆ อย่างน้อยคนที่มาขอเงินคุณไปเล่นไพ่บ่อยๆ อาจจะไม่กล้ามาขอเงินคุณอีกก็ได้ ซึ่งเป็นธรรมดาของคนชั่วคนพาลที่มักแสลงต่อความดี ไม่อยากเข้าใกล้คนดี ส่วนคนดีๆ เขาก็อยากได้เพื่อนคนดีๆ ถ้าคุณดีจริงเขาก็ตามคุณมาวัดเองนั่นแหละ อย่าเบื่อที่จะชวนคนมาวัดเลย โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา …

ชวนเพื่อนมาวัดพระธรรมกายหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ไม่ยอมมา Read More »

ผู้เข้าถึงธรรมกายทุกคนจะสามารถรู้วันตายของสัตว์โลกได้หรือไม่ ?

คำถาม: ผู้เข้าถึงธรรมกายทุกคนจะสามารถรู้วันตายของสัตว์โลกได้หรือไม่ ? คำตอบ:   เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน คือถ้าใครหมั่นฝึกทำซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกระทั่งเข้าถึงธรรมกายในตัวได้ชำนาญ ก็จะได้ฌาณทัศนะในระดับที่รู้เห็นการเกิดการตายของสัตว์โลก ที่เรียกว่าจุตูปปาตญาณ ได้ แต่ในการทำซ้ำอีก ยังมีอีกว่าตนเองมีความชำนาญในระดับไหน         หลวงพ่อยากจะอธิบายความแตกต่างของความชำนาญให้เข้าใจอีกนิดหนึ่งว่า ผู้ที่ฝึกสมาธิอยู่ทุกวันนี่แหละ บางคนว่ากำหนดได้ ๆ แต่ก็แค่กำหนดได้ ใจสงบไหม ก็สงบตามส่วน แต่ว่าบางคนนอกจากสว่างของดวงแก้วในตัวคนนี้จะมีมากกว่าอีกคนหนึ่ง         เพราะฉะนั้น คน ๒ คน กำหนดดวงแก้วเหมือนกัน แต่ก้าวไม่เท่ากัน คนหนึ่งพอเห็นดวงแก้วแล้วเอาใจสอดเข้ากลางลึกเข้าไปเรื่อย ๆ เห็นดวงใหม่ชัดขึ้น ใสขึ้น สว่างขึ้น จนกระทั่งสว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน สว่างจนกระทั่งเหมือนอย่างเอาดวงอาทิตย์เป็นพัน ๆ ดวงมาเรียงเต็มท้องฟ้าในกลางท้อง อย่างนี้คนแรกกับคนหลังก็มีการรู้การเห็นไม่เท่ากัน         แม้ผู้ที่เข้าถึงธรรมกายแล้วก็มีความสามารถไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน บางท่านอาจจะรู้วันตายของตัวเอง บางท่านอาจจะรู้วาระจิตผู้อื่น พระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่เพราะแต่ละท่านมีความรู้ความสามารถไม่เท่ากัน เราจึงรู้จักไม่ทั้งหมดที่เรารู้จักชื่อมีเพียงประมาณ ๘๐ รูป และรูปที่เราคุ้นมากคือ พระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร พระอานนท์         ที่เรารู้จักท่านกันมาก ก็เพราะว่าท่านมีความสามารถมากท่านฝึกมากกว่าคนอื่น …

ผู้เข้าถึงธรรมกายทุกคนจะสามารถรู้วันตายของสัตว์โลกได้หรือไม่ ? Read More »

ตาเหมือนตาไม้ หูเหมือนหูกระทะ กายเหมือนผ้าเช็ดเท้า หมายความว่าอย่างไร

คำถาม: ขอรบกวนหลวงพ่อได้โปรดอธิบายความหมายของคำต่อไปนี้ให้ด้วยค่ะ ?         ๑. ตาเหมือนตาไม้         ๒. หูเหมือนหูกระทะ         ๓. กายเหมือนผ้าเช็ดเท้า         ๔. ใจประดุจแผ่นดิน คำตอบ: ที่ว่าตาเหมือนตาไม้ ความจริงเขาใช้เต็มๆ ว่า ตาเหมือนตาไม้ไผ่ ตาไม้ไผ่ถ้าเราไม่ริดเสีย ปล่อยให้ติดลำไว้เป็นแขนงยาวประมาณสักคืบกว่าๆ เหลือไว้อย่างนี้ตลอดลำไม้ไผ่ ก็สามารถเอาไม้ไผ่ลำนั้นไปทำประโยชน์ได้ ชาวบ้านเขาเอาไว้ใช้ทำพะอง รู้จักพะองไหม ?         พะอง คือ บันไดสำหรับขึ้นต้นตาลสูงๆ ไม้ไผ่มันจะมีกิ่งมีแขนงแตกออกจากตา เป็น ๒ ข้างสลับกัน เราตัดแขนงให้เหลือสักประมาณคืบ ก็ใช้สำหรับเป็นที่เหยียบขึ้นแทนบันไดได้สบายๆ         ตาเหมือนตาไม้ไผ่ อุปมาข้อนี้หมายถึงว่า นัยน์ตาของเรานี่นะ อะไรที่ไม่ควรดูก็อย่าไปดูมันเลย เหมือนอย่างตาไม้ไผ่ซึ่งสักแต่ว่าเป็นตา แต่ใช้ตาดูไม่เป็นหรอก ท่านใช้อุปมาเช่นนี้ก็เพื่อจะบอกว่าอะไรที่ไม่ควรดูก็อย่าไปดู มันไม่ควรมองก็อย่าไปมองมัน อย่าเที่ยวไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านเขามากนัก เดี๋ยวใจจะฟุ้ง เดี๋ยวจะมีเรื่องทำเหมือนตาไม้ไผ่ โดนเหยียบขึ้นไปๆ มันก็เฉย ไม่เอาเรื่องกับใคร         หูเหมือนกระทะ หูกระทะนี่น่ะเอาไว้ทำอะไร เอไว้ฟังหรือเปล่า เปล่านะ เขาเอาไว้เป็นที่สำหรับแขวนตัวกระทะอุปมานี้หมายถึงว่าเรื่องอะไรไม่สมควรไปฟัง ก็อย่าไปฟัง …

ตาเหมือนตาไม้ หูเหมือนหูกระทะ กายเหมือนผ้าเช็ดเท้า หมายความว่าอย่างไร Read More »

ดื่มของที่มีแอลกอฮอล์เล็กน้อยเพื่อประโยชน์ของร่างกายผิดศีลหรือไม่

คำถาม:   การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เจือปนในปริมาณเล็กน้อย และดื่มเพื่อประโยชน์ของร่างกาย จะผิดศีลข้อ ๕ หรือไม่? คำตอบ:   ในกรณีที่ใช้ผสมยา เป็นยาจริง ๆ เช่น ยาธาตุ ยาขับลม ยาแก้ไอ แก้ปวด ซึ่งผสมแอลกอฮอล์ราว ๓ เปอร์เซนต์ ก็ยังทำให้ติดได้         เพราะฉะนั้นจะกินเหล้าที่ใช้เป็นกระสายยา ก็ต้องระวังอย่าให้กลายเป็นเอายามาเป็นกระสายเหล้า แต่ไม่ว่าจะกินอย่างไร เราก็เลี่ยงต่อการติดเหล้าแล้วนะ ดีที่สุดอย่ากินเลย คนบางพวกที่ดื่มเครื่องดื่มบางอย่าง ที่มีแอลกอฮอล์ผสมเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ โดยอ้างว่าดื่มเพื่อสุขภาพบ้างละ ให้เลือดลมดีขึ้นบ้างละ         ระวังเถอะจะพลัดตกนรกลงไป เพราะความประมาทว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพนั่นแหละ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

นั่งสมาธิแล้วชอบหลับจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร

คำถาม: ขณะนั่งสมาธิได้ประมาณ ๑๐–๑๕ นาที มักจะหลับเสมอ จะมีวิธีแก้ไขอย่างไรครับ ? คำตอบ:   ตื้อครองโลกซิลูก ตั้งใจนั่งไป แล้วก็แก้ไขไปในระหว่างนั้นด้วย เช่น สำรวจดูให้ได้ว่าทำไมเราจึงนั่งง่วง หลวงพ่อเองก็เคยนั่งง่วงเหมือนเป็นโรคชนิดหนึ่งติดต่อกันนานถึง ๑๐ ปี เสียเวลาไปไม่ใช่นิดหน่อย แต่ก็แก้ตกไปแล้ว         การที่คนใดคนหนึ่งนั่งง่วงนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก ประหลาดอะไร สาเหตุของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเพราะทำงานหนักจึงง่วง ซึ่งถ้าง่วงเพราะเหตุนี้ก็นั่งให้มันหลับไปเลย นั่งหลับคอตกไปอย่างนั้นแหละตื่นขึ้นมามันจะสดชื่น นั่งต่อได้         อีกพวกหนึ่งไม่ใช่เป็นเพราะเหนื่อย แต่เป็นประเภทลูกหลานตาชูชก กินหนักไปหน่อย คือตะกละ ถ้าใครอยู่ในกรณีนั้น ตอนกินอาหารก็ระวังตัวสักหน่อย เห็นว่าอีก ๔-๕ คำจะอิ่ม ให้หยุดกินเสียแล้วดื่มน้ำสักแก้วหรือครึ่งแก้วตามไป ก็จะทำให้อิ่มพอดี กินอย่างนี้จะไม่ง่วงเหงาหาวนอน อีกพวกหนึ่งที่นั่งง่วงมักเป็นประเภทนอนดึกพวกนึ้ถึงจะนอน ตื่นสายเพื่อชดเชยก็ง่วง กรณีนี้ก็อย่านอนให้มันดึกนักก็แล้วกัน แก้ไขเอาที่ต้นเหตุดีกว่า         อีกพวกหนึ่ง เป็นเพราะร่างกายอยู่ในอิริยาบถไม่สม่ำเสมอ เช่น บางวันนั่งมาก บางวันนอนมาก หรือเดินมาก อิริยาบถบางอย่างมากไป บางอย่างน้อยไป ไม่สม่ำเสมอ ถ้าเป็นกรณีนี้ก็ปรับเสียให้พอดีพูดง่ายๆ …

นั่งสมาธิแล้วชอบหลับจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร Read More »

นั่งสมาธิแล้วเห็นเป็นวงสีส้ม

คำถาม: เวลานั่งสมาธิเมื่อสามารถทำใจให้นิ่งอยู่ตรงจุดศูนย์กลางกายได้มองเห็นวงกลมเป็นสีส้มสวยเคลื่อนเป็นระยะๆ แต่ไม่สามารถนึกถึงดวงแก้วที่ศูนย์กลางกายได้ จะนึกไว้ ตรงจุดนั้นได้ ก็ต่อเมื่อลืมตา ควรจะปฏิบัติได้อย่างไรคะ? คำตอบ:  เอาเถอะนะ ถึงจะเห็นแค่วงกลมสีส้ม ก็ไม่เป็นไรหรอกได้วงกลมนั้นอยู่แถวศูนย์กลางกายก็แล้วกัน ถ้าจะให้นึกได้ชัดๆ ตอนหลับตาต้องวางใจเบาๆ อย่าเพ่ง อย่าบังคับให้เป็นอย่างที่ต้องการ แล้วว่าเมื่อไรจะเป็น ข้อสำคัญขอให้รักษาวงกลมเอาไว้ได้นานๆ ตรงศูนย์กลางกาย ภาพนั้นจะชัดจะใสจะสว่างขึ้นมาเองตามลำดับ อย่าใจร้อน ค่อยๆ ทำไปนะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ทำไมนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกล้วนแต่ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา

คำถาม: นักวิทยาศาสตร์ถือว่าเป็นบุคคลผู้มีปัญญาใช่ไหมครับ แต่ทำไมพวกนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก จึงล้วนแต่นับถือศาสนาอื่น ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นบ่อเกิดของปัญญา แล้วทำไมคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธจึงไม่มีปัญญาถึงขนาดเป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกกับเขาบ้างล่ะครับ? คำตอบ:  เขาจะนับถือศาสนาอะไรหรือไม่นั้นไม่สำคัญ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนว่า คนเราจะทำอะไรสำเร็จได้ ต้องประกอบด้วยองค์ ๔ คือ         ๑. ฉันทะ มีความพอใจรักใคร่ในการงาน คือมีใจรักที่จะทำงานนั้น         ๒. วิริยะ มีความตั้งใจจะทำงานด้วยความขยันหมั่นเพียร         ๓. จิตตะ มีใจทั้งหมดจดจ่อในการงานนั้น คือ เต็มใจทุ่มเททำงาน ไม่วอกแวก เผื่อใจไปคิดงานอื่นด้วย         ๔. วิมังสา มีความพยายามปรับปรุงงานนั้นๆ แก้ไขให้ดีขึ้นอยู่เรื่อยไป คือเข้าใจวิธีทำงานให้ประสบผลสำเร็จ         ใครทำอย่างนี้จะได้รับความสำเร็จในสิ่งที่ตนต้องการ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไรก็ตาม ถามว่าคุณสมบัติ ๔ ประการนี้ในคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ มีกันมากน้อยแค่ไหน เป็นต้นว่า         ๑. ฉันทะ ความรักในงาน คนไทยจำนวนไม่น้อยเป็นประเภทเช้าชามเย็นชาม หรือเช้าช้อนเย็นช้อน ทำตามหน้าที่พอให้เวลาผ่านไปวันๆ เพราะฉะนั้นพอให้ไปทำงานยากๆ จึงยากที่จะทำสำเร็จได้         ๒. วิริยะ ความขยัน ความขยันของเรายังไม่ถึงขั้นมุมานะ คนไทยไม่ใช่ประเภทคนขยัน นี่กล้าพูดได้เต็มปาก เพราะว่าสิ่งแวดล้อมของฟรีตามธรรมชาติมีมาก …

ทำไมนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกล้วนแต่ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา Read More »

ธรรมธาตุกับธรรมรังสีมีความหมายอย่างไร

คำถาม: ธรรมธาตุกับธรรมรังสี มีความหมายอย่างไรครับ? คำตอบ:   ธาตุเป็นที่ตั้งแห่งธรรม ถ้าไม่มีธาตุ ธรรมก็ตั้งอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีธรรม ธาตุอยู่ไม่ได้เหมือนกัน ธาตุและธรรมอาศัยกันและกัน เหมือนความร้อนกับแสงสว่าง เราจุดไฟก็มีแสงสว่างเกิดขึ้นพร้อมกับความร้อน         ตัวเราเองก็เป็นธาตุที่ตั้งแห่งธรรม ถ้าธาตุของเราถูกธรรมกลั่นมากๆ ธาตุของเราก็บริสุทธิ์ เรียกว่า “ธรรมธาตุ” พอบริสุทธิ์มากๆ รังสีก็ออกเป็นความสว่าง แสงสว่างที่ออกมาจากธรรมธาตุที่บริสุทธิ์มากๆ เรียกว่า “ธรรมรังสี ” ธรรมธาตุบริสุทธิ์มากเท่าไร ธรรมรังสีก็สว่างมากเท่านั้น โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

การนึกนิมิต เป็นการยึดติดวัตถุจริงหรือ

คำถาม: แนะนำเพื่อนให้นั่งสมาธิวิชชาธรรมกาย เพื่อนไม่เห็นด้วย บอกว่าธรรมเป็นการสอนให้ยึดติดในวัตถุ เพราะต้องนึกถึงดวงแก้ว นั่งแล้วก็ติดสุข ต้องฝึกแนวที่ไม่ยึดอะไรให้รู้สึกอยู่ตลอดเวลา กราบขอความกรุณาหลวงพ่อช่วยชี้แจงด้วยคะ? คำตอบ:   มีแนวไหนบ้างที่ไม่ยึดอะไรเลย แม้ที่สุดที่ว่าฝึกสติน่ะ ฝึกให้รู้สติก็ต้องยึด คือยึดเอากายเอาการเคลื่อนไหวของกายเป็นสติ วิธีนี้ก็ยึดนะ ไม่ใช่ไม่ยึด แต่เขาไม่รู้ การฝึกแบบนี้ทางพระเรียกว่า “กายคตาสติ”         บางคนที่กำหนดลมหายใจเข้าออก หรืออานาปานสติ ถามว่ายึดไหมติดไหม? ยึด แล้วก็ติดด้วย แต่ติดลมหายใจที่เข้าออกเอาไว้ก่อน ดีกว่าจะไปติดอย่างอื่น         หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านพบว่าในการสอนคนหมู่มาก ซึ่งต่างเพศต่างวัยกัน สอนให้กำหนดองค์พระหรือดวงแก้ว ง่ายกว่าการกำหนดอย่างอื่น เช่น การกำหนดลมหายใจเข้าออก ถ้าบอกให้เด็กๆ ทำ เด็กทำไม่ได้ แต่ผู้ใหญ่พอทำได้ นี่ยกตัวอย่าง         กายคตาสติเป็นการกำหนดสติแล่นไปในกาย บางคนกำหนดอวัยวะภายในกายเป็นอารมณ์ บางคนทำได้ บางคนทำไม่ได้ บางคนไม่ว่าทำนานแค่ไหนก็ไม่ชำนาญ หลังจากฝึกมาหลายวิธีแล้ว หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านจึงแนะวิธีให้กำหนดองค์พระหรือดวงแก้วเป็นแก้วใสสว่าง ซึ่งเป็นวิธีทำกรรมฐาน วิธี ๑ ใน ๔๐ วิธี ทางพระเรียกว่า …

การนึกนิมิต เป็นการยึดติดวัตถุจริงหรือ Read More »

นอนทำวัดเย็น ผิดหรือไม่

คำถาม: อยากทราบว่านอนทำวัตรเย็น จะผิดหรือถูกอย่างไรค่ะ? คำตอบ:   การทำวัตรเย็นหรือทำวัตรเช้าก็ตาม เป็นการสวดทบทวนโอวาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงแสดงไว้ตลอด ๔๕ พรรษา ที่ทรงประกาศพระศาสนา โอวาทที่พระองค์ทรงมอบให้ไว้ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ         ๑. พระโอวาทจ้ำจี้จ้ำไช คือพูดเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น ทรงสอนว่าเกิดแล้วก็แก่ แก่แล้วก็เจ็บ เจ็บแล้วก็ตาย ตายแล้วถ้าไม่ได้ทำความดีอะไร เกิดมาชาตินี้ก็เปล่าประโยชน์         ๒. พระโอวาทจร คือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาเฉพาะหน้าหรือต่อหน้าต่อตาคณะสงฆ์สักเรื่อง ก็ทรงเอาเรื่องนั้นยกขึ้นเป็นเหตุในการหยิบยกหัวข้อธรรมมาอธิบายให้ฟัง หรือถ้าใครทำผิดพลาดมีเรื่องราวร้อนใจเกิดขึ้น ก็ทรงชี้หนทางแก้ไขให้         เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว หาใครมาอบรมสั่งสอนแบบจ้ำจี้จ้ำไชอย่างพระองค์ไม่ได้ พระภิกษุผู้ใหญ่ท่านก็เลยให้มีการเอาพระโอวาทเหล่านั้นมาเรียบเรียงเป็นบทสวดมนต์สวดตอนเช้าก็เรียกทำวัตรเช้า สวดตอนเย็นก็เรียกทำวัตรเย็น เป็นการสวดเพื่อทบทวนพระโอวาทนะลูก         การสวดเพื่อทบทวนนั้นเป็นเรื่องของความตั้งใจจริง ความเคารพ ลูกเอ๊ย..ของแบบนี้ ถ้าไปนอนทบทวนเดี๋ยวก็หลับเสียก่อน สวดไม่ทันจบหรอก หรือถึงแม้จบแล้วค่อยหลับ ก็แสดงว่าไม่ได้ตั้งใจจริงแก้ไขตัวเองเสียใหม่นะ ตั้งใจสวดให้เป็นเรื่องเป็นราว และแสดงความเคารพในพระธรรมด้วย         เมื่อสวดมนต์ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว จะเอาบทสวดนี้เป็นคำภาวนาจนกระทั่งหลับไปนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นการทำภาวนาสมาธิให้ใจตรึกอยู่ในธรรมตลอดเวลา ทั้งนั่ง นอน ยืน เดิน ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการสวดทำวัตรนะ …

นอนทำวัดเย็น ผิดหรือไม่ Read More »