หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

ว่าด้วยนิมิตในสมาธิ

คำถาม:  ขณะเข้าสมาธิอยู่นั้นเห็นเป็นหมอกสีขาวๆ อมม่วงสว่าง สักครู่แสงเหล่านั้นก็มารวมกันเป็นก้อนสีม่วงก้อนเดียว เมื่อเพ่งไปมากๆ ก็กลายเป็นพื้นสีม่วงหมด แล้วก็มืดลงอีก เรียนถามว่ายึดถือสิ่งนี้เป็นนิมิตได้ไหม ? คำตอบ:   อย่าไปปั้นแต่งความคิดให้เป็นอย่างโน้นอย่างนี้ เอาใจของเราจรดรอ อยู่ที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว พวกนิมิตลวงต่างๆ เหล่านี้ อย่าสนใจ จะมีอะไรเกิดขึ้นก็ช่างมัน รออยู่ที่ศูนย์กลางกายเท่านั้น         รอจนกว่าเมื่อไรจะเกิดเป็นดวงใส กลมสว่างโพลงขึ้นมา ถ้าทำอย่างนี้ได้ เราจะไม่พลาดไปหลงติดนิมิตลวง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

นั่งสมาธิแล้วเจอเสียงรบกวนต่างๆ ควรทำอย่างไรดี

คำถาม:  การนั่งสมาธิ หากเจอปัญหา เช่น เสียงรบกวนต่างๆ ทำให้ใจฟุ้งซ่าน จะแก้ไขอย่างไรดีครับ ? คำตอบ:   ขอให้ใช้สโลแกน หรือถือคติสั้นๆ ว่า         ๑. หลบ         ๒. ทน         ๓. ไม่โต้ตอบ ถือว่าเป็น “กรรมเก่า”         ก็อยู่ในความพิจารณาว่าเราอยู่ในโลกที่ต้องทนอย่างนี้ เราเองก็จงระมัดระวัง ไม่ไปรบกวนคนอื่นเขา ถ้าเราเคยรบกวนเขามาเหมือนกัน ก็จงพิจารณาทำตัวเป็น “เสือสำนึกบาป” ว่าเราคงเคยรบกวนคนอื่นเขามาเหมือนกัน         เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนว่า ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา ความอดทน คือความทนทานเป็นตบะอย่างยิ่ง คือให้อดทน แล้วใช้ปัญญาพิจารณาแก้ไขกันต่อไป         ถ้าขาดความอดทน เรื่องอื่นก็ไม่ต้องพูด เพราะถึงจะมีปัญญาขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถใช้ปัญญาได้หรอกนะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

กำหนดจุดใส่แทนดวงแก้วระหว่างนั่งสมาธิได้หรือไม่

คำถาม:  ฝึกสมาธิเห็นแต่เพียงจุดใสหลายครั้ง ถ้าจะกำหนดจุดใสนั้นแทนดวงแก้ว ได้เลยหรือไม่ ? คำตอบ:   เวลานั่งสมาธิเรากำหนดเป็นองค์พระหรือดวงแก้วก็ได้ ตามแต่จะถนัด เมื่อกำหนดเป็นอย่างนั้นแล้ว พอใจนิ่ง ก็เกิดจุดใสๆ ถ้าสมมุติเป็นจุดใสลอยอยู่ข้างหน้าเหมือนดาวมากขึ้น ก็ขอบอกว่าวอย่าไปสนใจ ให้ลืมไปเลย เอาใจไปจรดนิ่งๆ ที่กลางท้องต่อไป ยกเว้นแต่จุดใสๆ นั้นไปปรากฏอยู่ที่กลางท้อง อยู่ที่ศูนย์กลางกายพอดี         ถ้าอย่างนั้นก็มองที่จุดใสนิ่งๆ มองไปเรื่อยๆ มันจะเกิดอะไรขึ้นก็ช่างมัน มาถึงจุดนี้ แม้คำว่าสัมมา อะระหัง ก็ไม่ต้องภาวนา เห็นอะไรก็ไม่ต้องตื่นเต้น ทำใจเย็นๆ เรื่อยไป แล้วจะดีเอง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ธรรมกายคืออะไร

คำถาม:  ขอกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า ธรรมกายคืออะไร เห็นธรรมกายสว่างชัดเจนเป็นอย่างไร ? คำตอบ:   ธรรมกาย คือกายภายในของเราที่เกิดขึ้นจากการกลั่นใจด้วยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมอันนั้น คือมรรคที่ประกอบด้วยองค์ ๘ ตั้งแต่         ๑. สัมมาทิฏฐิ มีความเห็นถูกต้องร่องรอยว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นต้น แล้วก็ตั้งใจทำแต่ความดี อย่างนี้เป็นองค์ประกอบที่ ๑         ๒. สัมมาสังกัปโป คือความคิดชอบ เช่น คิดจะออกจากกาม คิดจะออกจากความพยาบาท คิดจะออกจากความเบียดเบียนกัน มีแต่ความคิดดีๆ มีแต่ความคิดสร้างสรรค์ นี้เป็นองค์ประกอบที่ ๒         ๓. สัมมาวาจา พูดแต่คำที่ดีๆ คำโกหกพกลม คำหยาบ คำส่อเสียด คำเพ้อเจ้อ ไม่พูด นี่เป็นองค์ประกอบอันที่ ๓         ๔. สัมมากัมมันตา การงานชอบ เอาเบื้องต้นๆ นะ ลึกๆ ยังไม่พูด ก็มีตั้งแต่ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่เจ้าชู้ เหล่านี้เป็นการงานชอบ         ๕. สัมมาอาชีวะ …

ธรรมกายคืออะไร Read More »

นั่งสมาธิแล้วเห็นดวงแก้วอยู่นอกกาย จะทำให้เข้ามาอยู่ที่กลางกายได้อย่างไร

คำถาม:  หนูนั่งสมาธิแล้วเห็นลูกแก้วแต่ลูกแก้วอยู่ข้างนอก หนูพยายามเอาเข้าในท้องก็เข้าไม่ได้เลยเจ้าค่ะ ลูกแก้วไม่ยอมหยุดนิ่งเลย แต่ก็ใส เคลื่อนที่เร็วมาก พอพยายามตามก็จะหายไป ทำอย่างไรหนูจะเอาเข้าในท้องได้เจ้าคะ ? คำตอบ:  คุณหนู เวลาเราเอาเบ็ดไปเกี่ยวเหยื่อตกปลาโยนลงไปในน้ำเราบังคับให้ปลาฮุบเหยื่อได้ไหม? ไม่ได้ เราต้องทำอย่างไร เราทำได้แค่นั่งถือคันเบ็ดนิ่งๆ ประคองเอาไว้ เมื่อไรปลามาฮุบ เมื่อนั้นคอยตวัดเบ็ด เช่นกัน ดวงแก้วที่หนูเห็นนั้น ถ้ามันไม่เข้ามาอยู่ในกลางท้องมันจะอยู่ตรงไหน ?         ส่วนมากผู้หญิงมักเห็นปรากฏอยู่หัวตาซ้าย ลอยวืดไปวืดมา ถ้าผู้ชายจะเริ่มปรากฏจากหัวตาข้างขวา ลอยวืดไปวืดมาเหมือนกัน บางทีก็หมุนเป็นวางอยู่ข้างหน้า มันจะเป็นอย่างไร ไม่ต้องไปสนใจเอาใจจรดนิ่งๆ ที่กลางท้อง ทำใจสบายๆ คิดว่าวันนี้จะมาก็มา ถ้าไม่มา จะไปไหนก็เชิญ ฉันจะรออยู่ที่กลางท้องนี่แหล่ะ         วันนี้ไม่มา พรุ่งนี้มันก็มา พรุ่งนี้ไม่มา อาทิตย์หน้ามันก็มา อาทิตย์หน้าไม่มา เดือนหน้ามันก็มา เดือนหน้าไม่มา ปีหน้ามันก็มา ปีหน้าไม่มาชาติหน้าคงมาเอง วางใจให้ได้อย่างนี้ ทำใจเย็นๆ อย่าใจร้อน ถ้าใจร้อนที่เห็นจะหาย ยิ่งจ้องเดี๋ยวหายเลย จ้องเมื่อไร หายเมื่อนั้น         ให้ทำใจรออยู่ที่ศูนย์กลางกาย …

นั่งสมาธิแล้วเห็นดวงแก้วอยู่นอกกาย จะทำให้เข้ามาอยู่ที่กลางกายได้อย่างไร Read More »

ทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงพระธรรมกายได้โดยเร็ว

คำถาม:  ผู้ที่นั่งสมาธิจนเข้าถึงธรรมกายแล้วเวลาเลิกนั่งสมาธิจะสามารถเกิดกิเลสขึ้นมาอีกได้ไหมคะ ? คำตอบ:  แน่นอน ผู้ที่เข้าถึงดวงปฐมมรรคนั้น เท่ากับยืนอยู่ปากทางที่จะเข้าไปสู่พระนิพพาน ผู้ที่เข้าถึงธรรมกายขั้นต้น จะอยู่กึ่งกลางระหว่างโลกมนุษย์กับพระนิพพาน ถ้าขยันฝึกอบรมตัวเองต่อไป โอกาสที่กิเลสจะหมดก็มี ถ้าขี้เกียจก็หกคะเมนตีลังกาหงายท้องกลับมาที่เดิม ถ้าเลิกนั่งแล้ว ไม่ประคองสมาธิให้ดี เดี๋ยวกิเลสก็ฟูขึ้นมาตามเดิม         เพราะฉะนั้นใครที่เข้าถึงธรรมกายแล้ว อย่างประมาทนะลูก เพิ่งมาได้ครึ่งทาง โบราณท่านเปรียบว่าเท้าขวาเหยียบพระนิพพาน เท้าซ้ายเหยียบโลก ถ้าขยันตั้งใจฝึกต่อไปก็จะก้าวสู่พระนิพพานได้ ถ้าขี้เกียจก็ดักดานเป็นมนุษย์เดินดินอยู่นี่แหล่ะ และเนื่องจากยังไม่หมดกิเลส จึงมีโอกาสผิดพลาดไปทำบาปได้ง่าย ถ้าเผลอไปทำบาป ชาติต่อไปต้องเกิดในภาวะที่ต่ำกว่ามนุษย์ หมดโอกาสทำความดี สร้างบุญไม่ได้ ก็ยิ่งตกต่ำลงทุกที เพราะฉะนั้นใครที่นั่งสมาธิจนเข้าถึงธรรมกายแล้ว ให้นั่งต่อไปเรื่อยๆ อย่าถอยหลังนะลูก โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ทำอย่างไรจะเข้าถึงพระธรรมกายได้อย่างรวดเร็ว

คำถาม: ทำอย่างไรจึงจะถึงพระธรรมกายได้โดยรวดเร็ว จะต้องทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาหรือปฏิบัติธรรมอย่างไรบ้าง? คำตอบ: ถ้าจะเอาอย่างเคร่งครัดอย่างที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านใช้กับลูกศิษย์ของท่าน สมัยที่ท่านรับลูกศิษย์ใหม่ๆ ถ้ามีใครมาถามอย่างนี้ละก็ ท่านจะถามกลับเลยว่า “เออ…จะต้องให้เข้าถึงเมื่อไรล่ะ” “ผมละอยากได้เดี๋ยวนี้เลย” ถ้าตอบท่านอย่างนั้น ท่านจะบอกทันทีว่า “ได้…เอ้านั่งตรงนั้นแหล่ะ มีข้อแม้นะ ถ้าพ่อยังไม่ลุก เจ้าก็ห้ามลุก ห้ามขยับ” แล้วก็นั่งกันไป ก็มีคนที่ทำได้         มีผู้เล่าว่ามีชาวอินเดียคนหนึ่ง แขกอินเดียคนนี้นับถือศาสนาฮินดู เป็นแขกจริงๆ เขาได้ยินกิตติศัพท์หลวงพ่อวัดปากน้ำ เขาก็มากราบหลวงพ่อ “หลวงพ่อ ผมอยากจะเข้าถึงธรรมกายบ้าง อยากจะเข้าถึงเร็วๆ ได้ไหม” หลวงพ่อท่านก็นั่งนิ่งเข้าสมาธิไปดูพักหนึ่ง “เออ..โดยกำลังบุญของเอ็งนี่ ได้ และได้ในเวลาไม่เกิน ๗ วันด้วย “อาบังร้องเอะอะบอกว่า “อะไรกันหลวงพ่อ พรุ่งนี้ผมจะกลับอินเดียแล้ว เอาให้ได้วันนี้ไม่ได้หรอ” หลวงพ่อก็นั่งนิ่งเข้าสมาธิไปดูใหม่ “ได้ แต่อาบังนะ พ่อไม่ลุก เอ็งห้ามขยับ ตกลงไหม” “ตกลงครับ”         อาบังก็แน่เหมือนกัน คนมันข้ามน้ำข้ามทะเลมาเยอะ เพราะฉะนั้นใจมันถึง ตกลงหลวงพ่อก็พานั่งกันในโบสถ์ นั่งกันตั้งแต่ประมาณบ่ายโมง พอบ่าย ๒ …

ทำอย่างไรจะเข้าถึงพระธรรมกายได้อย่างรวดเร็ว Read More »

วัตถุมงคลเป็นอย่างไร มีอิทธิปาฏิหาริย์จริงหรือ

คำถาม: วัตถุมงคลใช้เพื่อการอยู่ยงคงกระพัน บางอย่างเป็นเสน่ห์นะหน้าทอง เรื่องจริงๆ ของการทำวัตถุมงคลเป็นอย่างไร มีอิทธิปาฏิหาริย์จริงหรือ ? คำตอบ: เกี่ยวกับวัตถุมงคลหลวงพ่อเคยมีความรู้สึกว่า ของดีมีอยู่ในตัวทำเอาเองได้ เพราะฉะนั้นตอนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ยังมีชีวิตอยู่เคยไปกราบท่านครั้งหนึ่ง กราบอยู่ห่างๆ เห็นท่านกำลังแจกพระของขวัญ ก็ไม่เข้าไปรับ เพราะมีความคิดฝังใจอยู่อย่างนั้น         ต่อมาเมื่อฝึกสมาธิแล้วจึงนึกเสียใจว่าไม่ได้ไปรับพระของขวัญมาไว้ ทำให้การนั่งสมาธิไม่ก้าวหน้าเร็วเท่าที่ควร เพิ่งมาเข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างวัตถุมงคลว่า หลวงพ่อหลวงปู่ทั้งหลายเวลาท่านทำวัตถุมงคล ท่านทำในลักษณะเป็นกุศโลบายให้คนประพฤติธรรม         เวลาท่านมอบพระให้ใคร ท่านมักสั่งว่าให้รักษาศีล ๕ อยู่เสมอ พระจะช่วยได้ หรือเวลาเดือดร้อนอะไรให้สวด อิติปิโส ๑๐๘ จบ ใจก็เป็นสมาธิ มองเรื่องร้ายๆ มองปัญหาที่ผูกมัดรัดรึงอยู่อย่างคนมีปัญญา แล้วก็คิดแก้ไขผ่อนคลายออกไปได้เป็นเปลาะๆ ในที่สุดก็แคล้วคลาดอันตรายพ้นจากปัญหาได้เอง         บางครั้งหลวงพ่อเวลาทำพระผง ท่านใช้ลูกศิษย์โขลกเครื่องที่จะผสมเป็นพระ ซึ่งมีทั้งเส้นผม ข้าวก้นบาตร ดอกมะลิแห้งจากหิ้งพระและของที่เป็นมงคลอีกสารพัด ขณะโขลกท่านสั่งให้ภาวนา “สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง” ลูกศิษย์กลัวพระจะไม่ขลัง ก็ตั้งใจโขลก ตั้งใจสวด จนใจเป็นสมาธิได้ นี่ก็เป็นกุศโลบายฝึกสมาธิให้ลูกศิษย์อีกอย่างหนึ่ง สมัยหลังๆ ใครอยากได้พระ ท่านก็ให้ทำบุญบูชาเอาพระไป         แต่เวลามอบพระ …

วัตถุมงคลเป็นอย่างไร มีอิทธิปาฏิหาริย์จริงหรือ Read More »

ถ้าสวดมนต์ไม่จบบทแล้วนั่งสมาธิทำแบบนี้ผิดหลักหรือไม่

คำถาม:  ลูกตื่นขึ้นตอนตี ๕ แล้วลุกขึ้นสวดมนต์ทำวัตรเช้าตามหนังสือสวดมนต์ที่วัดแจกให้ แต่สวดไม่จบ สวดแต่บทบูชาพระโดยพิสดารถึงอะระหัง สัมมาสัมพุทโธและสุดท้ายด้วยบทนะโม ตัสสะ ๓ จบ แล้วก็ทำสมาธิเลย การทำเช่นนี้ผิดหลักการประการใดหรือเปล่า จะเป็นผลต่อการนั่งสมาธิหรือไม่ เวลาสวดมนต์เสร็จแล้วจะนั่งสมาธิ เทียนจะต้องจุดไว้หรือเปล่า หรือต้องดับเทียนคะ? คำตอบ:  จะสวดตอนไหนก็ได้ แล้วแต่ถนัด ถ้าพอตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกร่างกายมันสดชื่นดี จะลงนั่งสมาธิเลยก็ยังได้ เพราะเพิ่งตื่นมาหยกๆ ใจมันยังไม่ฟุ้ง นั่งเลยแล้วไปสวดเอาตอนจะเลิกนั่ง หรือบางคนตื่นมาแล้วหงุดหงิด ถ้าเป็นอย่างนี้ให้สวดไปก่อน แล้วค่อยนั่งถึงจะดี         สำหรับการจุดเทียนก่อนสวดมนต์นั้น อยากจุดก็จุด จุดแล้วอยากดับตอนไหนก็ได้ ระวังอย่าให้ไฟไหม้ที่บูชาพระ จนบ้านไหม้วอดไปทั้งหลังก็แล้วกัน อยู่ในบ้านนั่งหลับตาแล้ว ไฟจากเทียนก็ไม่มีประโยชน์ ดูความสว่างในตัวดีกว่านะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

คนที่เคยเป็นสามีภรรยากันได้ทำกรรมใดร่วมกันมา

คำถาม:  ผู้ที่เป็นสามีภรรยากันในอดีตชาติเคยกระทำกรรมใดร่วมกันไว้บ้าง? คำตอบ:  การที่ชายหญิงมาเป็นสามีภรรยากันนั้น เพราะในอดีตชาติ มีความใกล้ชิดกัน สนิทสนมกัน เมื่อใกล้ชิดแล้วได้สร้างบุญสร้างบาปร่วมกัน ก็ส่งผลให้มาเจอกันอีก แต่บางชาติก็ไม่เจอ เพราะว่าต่างคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง ที่ร่วมกันสร้างก็มี ถ้าต่างกรรมต่างวาระ ต่างเจตนากันมาก ก็ไม่แน่ว่าชาติต่อมาจะได้เจอกัน         แต่มีข้อคิดอยู่อย่างหนึ่ง ใครที่อธิษฐานขอให้เป็นสามีภรรยากันทุกชาติๆ จนกว่าจะเข้านิพพานนี้ ไม่ควรทำ เพราะเป็นการอธิษฐาน ตั้งจิตไว้ในกิเลส เคยมีเรื่องเกิดขึ้นแล้วในสมัยพุทธกาล         พระนางมัลลิกา พระมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศล เคยอธิษฐานกับสามีในอดีตชาติเมื่อหลายภพหลายชาติเต็มที ว่าขอให้ไปเกิดเป็นสามีภรรยากันอีก แต่สามีไปเกะกะเกเร ไปตกนรก ไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็คลาดกันไป นางก็เลยแต่งงานกับคนอื่นแทน มาในชาตินี้ได้มาเป็นมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโก แต่ว่าชาตินี้สามีเก่ากลับมาเกิดเป็นแพะ ด้วยอำนาจที่อธิษฐานผูกกันไว้ นางเลยได้สามีเป็นแพะด้วย เป็นที่อับอายขายหน้าว่า นอกใจพระสวามีตนเองซึ่งเป็นกษัตริย์ ทั้งยังนอกใจไปกับแพะด้วย เลยไปกันใหญ่ นี่เพราะอธิษฐานตั้งจิตไว้ในกิเลส ซึ่งไม่ควรเลย         แต่ถ้าเรารักสามีมากอยากเจอกันอีก ก็ให้ตั้งใจทำบุญอธิษฐานให้ดีว่า เกิดกี่ชาติๆ ขอเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน ตักเตือนกันไป ประคับประคองกันไปจนกว่าจะเข้านิพพาน จะเป็นสามีภรรยาหรือไม่ อย่าไปห่วง ไม่อย่างนั้นหากเกิดมาเป็นพี่น้องกันจะทำอย่างไร แต่ถ้าอธิษฐานว่าให้เกิดไปทำบุญร่วมกันอีก ถ้าไปเกิดในภาวะที่จะเป็นสามีภรรยากันได้ก็เป็นไป …

คนที่เคยเป็นสามีภรรยากันได้ทำกรรมใดร่วมกันมา Read More »

วิบากกรรมอะไรจึงต้องไปเกิดเป็นยักษ์

คำถาม: ยักษ์มีจริงไหมคะ มีกี่ประเภท ทำผิดอะไรจึงไปเกิดเป็นยักษ์ ? คำตอบ: เท่าที่เคยพบ คำว่ายักษ์นี่มีอยู่ ๒ ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ ยักษ์โดยอุปมาอุปไมย นั่นอย่างหนึ่ง กับยักษ์ที่เป็นยักษ์จริงๆ นั่นอีกอย่างหนึ่ง         ยักษ์ที่เป็นยักษ์โดยอุปมาอุปไมย คือพวกคนใจยักษ์ทั้งหลายรูปร่างเป็นคนเหมือนอย่างกับเรานี้แหละ แต่ใจคอร้ายกาจ เช่นมนุษย์กินคน เรามักพูดกันว่าพวกนี้มันไม่ใช่คน มันเป็นยักษ์ นี่ไม่ใช่ยักษ์จริงๆ แต่ก็ถือว่าเป็นยักษ์ประเภทหนึ่ง         ส่วนยักษ์ที่เป็นยักษ์จริงๆ ถ้าเราฝึกสมาธิ(Meditation)ให้จิตนิ่งจนใสสว่างดีแล้ว ก็จะพบเห็นยักษ์ตัวจริงได้ ยักษ์พวกนี้ชาติในอดีตก็เป็นคนเหมือนอย่างกับพวกเรา แต่นิสัยเสีย มีโทสะจริต คือเป็นคนเจ้าโทสะ ทำอะไรมักทำไปด้วยโกรธไปด้วย ฮึ่มๆ ฮ่ำๆ อยู่ตลอดเวลา แม้แต่จะทำบุญทำทานก็ทำด้วยโทสะ ตักบาตรไป ก็ด่าลูกด่าหลานไปด้วย มึงไม่ช่วยกูโขลกน้ำพริก มึงไม่ช่วยกูจัดสำรับ ให้กูเหนื่อยอยู่คนเดียว ไม่มาช่วยหิ้วของบ้าง รอพระไปก็บ่นไป พระอะไรก็ไม่รู้ สายป่านนี้ยังไม่มาเลย เป็นคนมักโกรธอะไรง่ายๆ คนอย่างนี้จิตใจพอมีกุศลบ้าง อยากจะทำบุญ ทำทาน แต่ว่าปากเสีย เจ้าโทสะ เป็นนิสัยติดตัวตลอดชีวิต         พอละโลกไปแล้ว เนื่องจากบุญพอมีบ้างเลยไม่ตกนรก …

วิบากกรรมอะไรจึงต้องไปเกิดเป็นยักษ์ Read More »

ฆ่าตัวตาย กับฆ่าคนอื่นตาย ผลกรรมต่างกันอย่างไร

คำถาม:  การฆ่าตัวตาย มีบาปเท่ากับการฆ่าผู้อื่นตายหรือไม่ ? คำตอบ:  มันขึ้นอยู่แต่ละกรณี แต่ละบุคคล การฆ่าผู้อื่นตาย ถ้าไปฆ่าคนเลวๆ คนกระจอกงอกง่อย ความจริงก็บาปมาก แต่ว่าถ้าฆ่าพระอรหันต์นั้นบาปหนัก ถึงขั้นอนันตริยกรรม คือบาปที่สุดเลย         ทีนี้ถ้าฆ่าคนอื่น ซึ่งไม่ใช่พระอรหันต์ และก็ไม่ใช่เป็นคนมีความดีมากนัก เทียบกับฆ่าตัวตาย ฆ่าตัวตายก็บาปมากกว่า แต่ว่าถ้าเทียบกับไปฆ่าพระอรหันต์ การฆ่าตัวตายกลับบาปน้อยกว่าฆ่าพระอรหันต์ นี่ ขึ้นอยู่กับกรณีๆ ไป แล้วถ้าจะให้ดีละก็อย่าไปฆ่าใครเลยนะไม่ว่าจะเป็นตัวเอง หรือใครๆ ก็ตามนะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

การฆ่าสัตว์ใหญ่บาปมากกว่าฆ่าสัตว์เล็กจริงหรือไม่

คำถาม:  ฆ่าสัตว์ใหญ่บาปมาก ฆ่าสัตว์เล็กบาปน้อย จริงหรือเปล่าคะ ? คำตอบ:  จริง ฆ่ามดกับฆ่าช้าง บาปไม่เท่ากันหรอก ถ้าเอามาเปรียบเทียบกันระหว่างฆ่ามด ฆ่าปลวกกับฆ่าคน ยังไงเสียการฆ่าคนก็บาปมากกว่า แต่ในคน ๒ คนนี้แหละ แม้อายุเท่าๆ กัน ทุกอย่างเท่ากันหมด ถ้าคนหนึ่งเป็นคนดี คนหนึ่งเป็นคนชั่ว ใครฆ่าคนดีก็บาปมากกว่าฆ่าคนชั่ว บาปมากบาปน้อยนั้น ในที่สุดแล้วก็ต้องเอาคุณธรรมมาคำนวณร่วมด้วยเสมอ นอกจากนี้แล้วยังต้องดูที่เจตนาอีกด้วยว่ามีเจตนาฆ่าที่รุนแรงไหม ถ้าฆ่าด้วยความอาฆาตพยาบาท บาปก็มากไปตามส่วน         โดยสรุปก็คือ การฆ่าสัตว์บาปจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบเหล่านี้ คือ         ๑. สัตว์นั้นเป็นสัตว์ใหญ่หรือสัตว์เล็ก         ๒. สัตว์นั้นมีคุณมากหรือมีคุณน้อย         ๓. มีเจตนาในการฆ่าที่รุนแรงหรือไม่ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

คนในโลกเกิดมาจากไหน

คำถาม:  ทำไมสมัยนี้จึงมีคนเยอะจัง คนที่เพิ่มขึ้นมาจากไหนกันคะ? คำตอบ:  เมื่อก่อนหลวงพ่อเองก็สงสัยเหมือนกันว่า ถึงชาติหน้าจะมีจริงคนหนึ่งจะแยกไปเกิดเป็น ๒ คนไม่ได้ เหตุใดพลเมืองจึงเพิ่ม ส่วนที่เพิ่มนั้นมาจากไหน แต่ว่าบัดนี้หมดสงสัยแล้ว หมดสงสัยเพราะอ่านพระไตรปิฎกจบไปหลายเที่ยว และนั่งสมาธิ(Meditation)ควบคู่ไปด้วย จนเชื่อในการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่นแฟ้น คำตอบของเรื่องนี้คือ         ประการแรก ได้อ่านพบว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศยืนยันว่าโลกอื่นและจักรวาลอื่นมีจริง และจำนวนจักรวาลก็มีมากมายเป็นอนันตจักรวาล สัตว์โลกสามารถย้ายจากโลกนี้ของจักรวาลนี้ไปโลกโน้นของจักวาลโน้นได้         ประการที่สอง คนเราสามารถเปลี่ยนภพเปลี่ยนภูมิได้ คือจากคนตายแล้ว ไปเกิดเป็นสัตว์ได้ถ้าทำบาปหนัก และเมื่อสัตว์ใดหมดเวร หมดบาป ก็สามารถกลับมาเกิดเป็นคนได้อีกเช่นกัน ประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น ประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น         นอกเหนือจากความจริง ๒ ข้อนี้แล้ว ถ้าจะว่าไป เราไม่รู้หรอก ว่าสัตว์โลกในโลกของเรามีจำนวนทั้งหมดเท่าไร ยังนับไม่ไหว ลำพังโลกที่เราอยู่ใบนี้ใบเดียวจำนวนคนทั้งหมดเท่าไหร่ ยังนับไม่ครบ สัตว์เดรัจฉานอีกเท่าไหร่ก็นับไม่ถ้วน แล้วแต่ละวันที่ผ่านไป สัตว์ที่อยู่บนโลกเดียวกับเรา หมดเวรมาเกิดเป็นคนก็มาก คนที่ตายไปเกิดเป็นสัตว์ก็อีกไม่รู้เท่าไหร่ อุปมาคล้ายๆ อย่างนี้ ตอนหน้าแล้งเราแหงนหน้าดูท้องฟ้า จะหาปุยเมฆสักปุยก็ไม่มี หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ แผ่นดินก็แห้งแล้ง แต่พอหน้าฝนเหลียวไปดูทางไหนเมฆฝนครึ้มไปหมด มีแต่น้ำเจิ่งนองไปทั่ว แล้วมาจากไหนก็ไม่รู้         …

คนในโลกเกิดมาจากไหน Read More »

คนที่มีเสียงดี หรือบุคลิกดี เขาได้คุณสมบัตินี้มาได้อย่างไร

คำถาม:  อยากทราบว่า คนที่มีเสียงดี หรือบุคลิกดี เขาได้คุณสมบัตินี้มาได้อย่างไรคะ? คำตอบ:  เสียงดี ได้มาจากการไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเพ้อเจ้อ ได้สวดมนต์ไหว้พระ และสรรเสริญคนดีข้าภพข้ามชาติ         คนมีบุคลิกดี อย่างน้อยที่สุดก็ต้องรักษาศีลมาดี ไม่เคยไปทุบตี ทำร้ายใคร ไม่เคยฆ่าใคร รู้จักขวนขวายช่วยเหลืองานบุญงานกุศล มีความเคารพนบนอบต่อผู้ใหญ่ ผู้ปฏิบัติธรรมข้าภพข้ามชาติมา ย่อมจะได้บุคลิกที่ดีเป็นบุญติดตัวมา         เมื่อได้บุคลิกดี ได้เสียงที่ดีมาแล้ว ก็เอาคุณสมบัติที่ดีนี้ไปใช้ สร้างความดีเพิ่ม เช่น เอาเสียงดีๆ มาเทศน์ มาชวนคน มาสอนคนให้ทำความดี เอาบุคลิกดีๆ มาเป็นผู้นำประกอบการบุญการกุศล เป็นกัลยาณมิตรให้กับชาวโลก เรียกว่า เอาบุญต่อบุญ คนที่ฉลาดใช้บุญได้ถูกต้อง บุญก็ยิ่งสะสมมากขึ้นเป็นทวีคูณ          แต่นั้นแหละ ผู้ที่มีบุคลิกดีเสียงดีก็ต้องระมัดระวัง อย่านำสิ่งดีๆ ไปใช้ในทางที่ผิด เช่น เอาเสียงดีๆ ไปร้องเพลงยั่วยุกาม เอาบุคลิกดีๆ ไปยกตนข่มท่าน หรือเอาไปหลอกลวงเขาให้หลงไว้วางใจ แล้วลอบทำร้ายปอกลอก แบบนี้เรียกว่า เอาบุญไปเป็นต้นตอของบาป เป็นประเภท ต้นตรง …

คนที่มีเสียงดี หรือบุคลิกดี เขาได้คุณสมบัตินี้มาได้อย่างไร Read More »