หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

ศาสนาพุทธมีหลักธรรมในการบริหารงานบ้างหรือไม่

คำถาม: หลวงพ่อเจ้าคะ ลูกอยากจะกราบเรียนถามหลวงพ่ออีกประการหนึ่งนะคะว่า ทำไมในปัจจุบันนี้ นักธุรกิจทั่วไป มักจะนิยมอ่านตำราบริหารงานของฝรั่ง ลูกกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า ในพุทธศาสนา เรามีหลักคำสอนซึ่งเกี่ยวกับการบริหารงานบ้างหรือไม่เจ้าคะ คำตอบ: เจริญพร…ความจริงในเรื่องของการบริหารงานนั้น ตำรับตำราทางโลก ว่าที่จริงของเขาก็ไม่เลวหรอก เพียงแต่ว่ามันยังไม่สมบูรณ์ ที่ว่าไม่สมบูรณ์มันเป็นอย่างไร กล่าวคือ การบริหารทางโลก มักมุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จเป็นหลัก ที่เรียกว่าความสำเร็จเป็นหลัก คือ มุ่งประโยชน์ของตนเองเป็นหลักนั่นเอง พอมุ่งประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก มันก็เข้าทำนองที่เราเรียกว่า “มุ่งวัตถุเป็นหลัก จนกระทั่งลืมทางด้านจิตใจกันไป” เพราะว่าพอมุ่งเอาความสำเร็จ ซึ่งมนุษย์ส่วนมากมุ่งที่ความร่ำรวยอีกนั่นแหละ มุ่งที่ความเด่น ความดังอีกนั่นแหละ ส่วนใครจะกระทบอย่างไรก็ช่าง ขอให้เราได้รวย ได้เด่น ได้ดังมาเสียก่อน นี้ก็เป็นแนวทางการบริหารทางโลก ตามตำรับตำราในยุคปัจจุบันนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ทรงทราบดีว่า ความจริงแล้ว มนุษย์เกิดมาทำไม คือ เกิดมาสำหรับสร้างบุญ สร้างบารมี เกิดมาเพื่อแก้ไขตัวเอง มีข้อผิดพลาดอยู่อย่างไร ติดตัวข้ามภพข้ามชาติมา แก้เสียให้หมดในชาตินี้ แล้วก็ขณะที่กำลังทำมาหากิน ซึ่งแน่นอน เพราะเรื่องการทำมาหากินนั่นแหละ ทำให้ต้องบริหารงาน อันนั้น อันนี้ อันโน้น ขึ้นมา ในระหว่างทำมาหากินอยู่นี่เอง ก็ถือโอกาสปรับปรุงแก้ไขตัวเองให้ยิ่งๆขึ้นไป …

ศาสนาพุทธมีหลักธรรมในการบริหารงานบ้างหรือไม่ Read More »

หลักในการครองใจลูกน้อง

คำถาม: หลวงพ่อเจ้าคะ เนื่องจากลูกทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งต้องดูแลลูกน้องเยอะ  อยากจะกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า ทำอย่างไรเราถึงจะเป็นนักบริหารที่สามารถครองใจให้ลูกน้องรักได้เจ้าค่ะ คำตอบ: ครองใจคนความจริงไม่ยาก ขอให้เราครองใจของเราให้ได้ก่อน ครองใจของตนเองได้แล้ว จึงค่อยครองใจคน ตรงนี้จำไว้ให้ดี ในการครองใจของตนเองเป็นอย่างไร…ครองใจของตนเองให้ได้ คือ ครองใจของเราให้ผ่องใสอยู่ตลอดเวลา ถ้าครองใจให้ผ่องใสได้ตลอดเวลาแล้ว…ถ้าอย่างนั้นครองใจคนก็ไม่ยาก ทีนี้ที่ถามว่า “ครองใจลูกน้องจะทำอย่างไร” ดูศัพท์คำนี้ให้ดี ดูศัพท์คำว่า “ลูกน้อง” ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเรามีหลายรูปแบบ เรามีคำหลายคำ ตั้งแต่คำว่า “พนักงาน” คำว่า “คนงาน” คำว่า “คนรับใช้” หนักเข้าไปก็ “ข้าทาส” แย่หนักเข้าไปก็ “ขี้ข้า” คำประเภทนี้ปู่ย่าตาทวดเราไม่ใช้ ถือว่าเป็นคำที่จิกหัวเรียก อย่างเช่น คำว่า “ขี้ข้า” คำว่า “ข้าทาส” อย่างนี้…จิกหัวเรียก…หมดความเป็นคน แต่ว่า…ให้มีจิตเมตตา มองกันด้วยว่า เขากับเราก็เป็นมนุษย์ด้วยกัน แล้วการที่เขามาอยู่กับเรา เป็นบุคคลที่มาช่วยผ่อนแรง มาช่วยเราทำมาหากิน เราได้เขาเป็นแรงกาย ส่วนเราออกแรงสติปัญญา…อย่างนี้ ถ้าจะว่าไป ก็เหมือนมือกับซ้ายมือขวา หรือว่าเท้าหน้ากับเท้าหลัง อะไรอย่างนี้…ถ้าอย่างนี้พอไปด้วยกันได้ ทีนี้เมื่อเราจะครองใจลูกน้องของเรา ขั้นต้น…ให้มองคำว่า “ลูก” …

หลักในการครองใจลูกน้อง Read More »

สร้างเครือข่ายคนดีได้อย่างไร

คำถาม: กระผมกำลังสร้างเครือข่ายคนดีที่เป็นนักธุรกิจ พระเดชพระคุณหลวงพ่อจะมีคำแนะนำอย่างไรบ้างให้ประสบความสำเร็จครับ  คำตอบ: ขอโมทนาด้วยนะ…ความเดือดร้อนเกี่ยวกับเศรษฐกิจในบ้านเมืองไทยของเราน่ะ อยู่ตรงไหน…อยู่ตรงที่คนไทยหรือนักธุรกิจไทยไม่ค่อยชอบสร้างเครือข่ายกัน เลยกลายเป็นว่าในประเทศไทยที่ผ่านมา นักธุรกิจประเภทเดียวกัน แทนที่จะสร้างเครือข่ายซึ่งกันและกันกลายเป็นว่าฟาดฟันกันเอง ผลสุดท้ายยังไม่มีใครมาทำลายเราเลย เราก็ทำลายกันเองเสียแล้ว แข่งกันตัดราคา ความฉิบหายทางเศรษฐกิจของชาติจึงได้เกิดขึ้น ทำไมเป็นอย่างนั้น เพราะมองเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก มันเป็นเรื่องของคนใจแคบ  คนใจแคบสร้างเครือข่ายคนดีไม่ได้…ทำไม   เพราะเขาจะมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก เพราะฉะนั้น การที่คุณโยมคิดจะสร้างเครือข่ายคนดีของนักธุรกิจน่ะ ขอโมทนาด้วยนะ ซึ่งการที่จะทำอย่างนี้ได้ สิ่งสำคัญก็คือ ต้องฝึกให้เป็นคนสายตายาว แต่สายตายาวในที่นี้ไม่ใช่ต้องประกอบแว่นนะ ยาวนั้นให้มองกันให้ข้ามชาติไปเลย อย่ามองกันแค่ใกล้ๆ คือ มองว่าเกิดมาชาตินี้น่ะ เกิดมาเพื่อสร้างบุญสร้างบารมี เกิดมาเพื่อทำความดี เกิดมาเพื่อปราบกิเลสให้หมด ทำพระนิพพานให้แจ้ง   ในระหว่างสร้างบุญสร้างบารมีนี้ มันยังต้องกินมันยังต้องใช้ มันก็จะต้องประกอบอาชีพประกอบธุรกิจ เมื่อต้องประกอบอาชีพประกอบธุรกิจ ก็ขอให้มองว่าอันนี้น่ะมันแค่ทางผ่าน มันไม่ใช่เป้าหมายชีวิต มองกันให้ชัดอย่างนี้   การประกอบธุรกิจ ไม่ใช่เป้าหมายชีวิต เป็นแค่ทางผ่านเป็นแค่อุปกรณ์ในการสร้างบารมี อุปกรณ์ในการปราบกิเลสให้ยิ่งๆขึ้นไป เมื่อมองอย่างนี้แล้ว…ใจใหญ่ๆ นั่นแหละใจใหญ่ๆตายาวๆ มองชีวิตว่าเกิดมาสร้างบารมี จากนั้นให้มองว่าครั้งนี้ที่เราทำเครือข่ายธุรกิจนักธุรกิจนี้ มันไม่ใช่รวมแค่เงินทุน แต่มันเป็นเรื่องของการรวมคนดี รวมนักสร้างบารมีมาร่วมกัน เพราะฉะนั้น… …

สร้างเครือข่ายคนดีได้อย่างไร Read More »

ฝากปัจจัยมาทำบุญ แต่ไม่ยอมมาวัดด้วยตัวเอง

คำถาม: หลวงพ่อเจ้าค่ะ ลูกเคยชวนญาติมาทำบุญด้วยกันที่วัด แต่เขาไม่ยอมมาเจ้าค่ะ ได้แต่ฝากปัจจัยมาทำบุญด้วยทุกครั้ง เพราะเขาคิดเอาเองว่า ถึงตัวเขาจะมาหรือไม่มา เขาก็ได้บุญอยู่แล้ว เพราะเงินนั้นเป็นเงินของเขาเจ้าค่ะ ลูกจะอธิบายให้ญาติเข้าใจได้อย่างไรเจ้าคะ คำตอบ: เจริญพร…ความจริง การที่ฝากเงินใครไปทำบุญ ถามว่า “ได้บุญไหม” คำตอบคือ “ได้บุญ” แต่ว่าได้เต็มที่หรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การที่ฝากเงินใคร ฝากของใคร ไปทำบุญ ถามว่า “บุญเกิดขึ้น หรือไม่” ตอบว่า “เกิด”  แต่เกิดมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้ 1.ของที่เขาเอามาทำบุญ หรือเงินนั้นเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยน้ำพักน้ำแรง หรือ เป็นทรัพย์บริสุทธิ์ 2.เจตนาของเขา ต้องการจะทำบุญจริงๆ ไม่มีอย่างอื่นแอบแฝง เป็นเจตนาบริสุทธิ์ 3.ตัวเขาก็เป็นคนมีศีล ก็ถือว่า เป็นบุคคลบริสุทธิ์ 4.พระที่รับปัจจัยไทยธรรมที่เขาทำมา ก็ตั้งใจอยู่ในศีลในธรรมวินัยอย่างดี เป็นพระที่บริสุทธิ์ เมื่อ 4องค์ประกอบดังกล่าวพร้อมแล้ว ก็ถือว่า “ได้บุญ” ตรงนี้ชัดเจนลงไปก่อน แต่ว่าบุญที่เกิดขึ้นนั้น มันเป็นระยะๆ ตั้งแต่ 1.เกิดเมื่อตอนคิดจะทำ แค่คิดก็เกิดแล้ว แต่เกิดไม่มาก 2.เมื่อลงมือทำ …

ฝากปัจจัยมาทำบุญ แต่ไม่ยอมมาวัดด้วยตัวเอง Read More »

ศีล มีความหมายอย่างไร

คำถาม: กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ วันนี้กระผมมีปัญหาบางประการ เกี่ยวกับความหมายของคำในพระพุทธศาสนาครับ คือ คำว่า ศีล ซึ่งมีมากมาย ทั้งศีลห้า ศีลแปด ศีลสิบ ศีลสองร้อยยี่สิบเจ็ด กระผมจึงอยากทราบว่าจริงๆแล้วคำว่า ศีล มีความหมายอย่างไรครับ คำตอบ: คุณโยม ในฐานะที่คุณโยมเป็นนักกฎหมาย ในทางโลกประเทศชาติจะอยู่กันได้ ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะกฎหมายจะเป็นตัวบอกให้เรารู้ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ที่ต้องมีกฎหมายก็เพราะว่า เพื่อป้องกันไม่ให้แต่ละคนน่ะล้ำเส้นกัน ถ้าล้ำเส้นกันด้วยเรื่องอะไรก็ตามทีเถอะ เดี๋ยวได้กระทบกระทั่งกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันในทางโลก ก็เลยต้องมีกฎหมายเอามาควบคุม จะเป็นกฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา หรืออะไรก็ตามทีล่ะนะ แต่ว่าในศาสนาพุทธของเรานั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดศีลเอาไว้ ก็คล้ายๆกัน พอจะเทียบกันได้ว่า ศีล เป็นเครื่องควบคุมทางกายทางวาจาของเรา ให้ประพฤติอยู่ในกรอบ เพื่อว่าบาปจะได้ไม่รั่วรดเข้าไปในใจเราได้ แล้วก็ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย เรามาดูถึงคำแปลของคำว่าศีลก่อน ศีลไม่ใช่ภาษาไทยของเราเป็นภาษาอินเดีย ภาษาแขก ศีล แปลว่า ปกติ คำว่าปกตินี่เราพูดกันจนกระทั่ง ต้องมาถามอีก…ปกติ แปลว่าอะไร สิ่งที่มันเป็นอยู่แล้วโดยธรรมชาติของมัน เราเรียกว่า ปกติ เช่นร่างกายของเรานั้น ปกติมีความอบอุ่นหรือมีอุณหภูมิอยู่ในตัวประมาณ 37องศาเซลเซียส ถ้าสูงกว่านั้นหรือต่ำกว่านั้นล่ะก็ …

ศีล มีความหมายอย่างไร Read More »

ทำบุญแล้วอธิษฐาน เป็นความโลภหรือเป็นการทำบุญเพื่อหวังผลหรือไม่

คำถาม: กราบนมัสการหลวงพ่อครับ ขอเรียนถามหลวงพ่อว่า บางคนคิดว่า การทำบุญนั้นไม่ต้องอธิษฐาน เพราะถ้าอธิษฐานแล้วเชื่อว่า เป็นการโลภ หรือเป็นการหวังผลตอบแทนครับ ไม่ทราบว่า จะแก้ความเข้าใจผิดตรงนี้ได้อย่างไรครับ คำตอบ: หลวงพ่อก็เคยได้ยินอย่างนี้มานานแล้วเมื่อตอนเด็กๆ เขาว่า ทำบุญแล้วอธิษฐานรู้สึกว่า เป็นความโลภชนิดหนึ่ง เพราะหวังผลตอบแทน ตอนนั้น หลวงพ่อก็เชื่อเขานะ เพราะว่าเป็นผู้ใหญ่พูด จนกระทั่ง มาเข้าวัดเต็มตัว โดยเฉพาะมาเจอคุณยายอาจารย์ของเรา คุณยายอาจารย์ตอบปัญหาเรื่องนี้ให้กับหลวงพ่อชัดเจนว่า ในทางโลกนั้น เวลาเขาจะสร้างบ้าน ยิ่งบ้านใหญ่เท่าไหร่ล่ะก็ ต้องมีพิมพ์เขียวนะ ถ้าไม่มีพิมพ์เขียวล่ะก็ ถึงเวลาไปสร้าง ประเดี๋ยวเถอะ สร้างไปรื้อไปทุบไปกว่าจะสร้างเสร็จยุ่งเลย แต่ว่าถ้ามีพิมพ์เขียวเสร็จเรียบร้อย จะสร้างบ้านรูปร่างอย่างนั้นอย่างนี้ กว้างยาวเท่านั้นเท่านี้ มีกี่ห้องมีห้องน้ำห้องนอนเท่าไหร่ ว่าไป กำหนดไว้ชัดเจน ถึงเวลาก็สร้างตามนั้น โอกาสผิดพลาดยาก แต่ว่าโอกาสจะได้ผลดี และประหยัดเยอะ สร้างบ้านต้องมีแผนฉันใด การทำบุญต้องมีแผนฉันนั้นเหมือนกัน ทำไม…ก็เพราะว่า เมื่อเราทำบุญแล้ว บุญนั้นย่อมเกิดแน่นอน แต่ว่า เมื่อบุญเกิดแล้ว เมื่อบุญจะส่งผล ถ้าไม่กำหนดทิศทางให้ดี อาจเป็นอันตรายกับตัวเองได้ ยกตัวอย่างเช่น เราทำทานไป ผลแห่งการทำทานนั้น จะทำให้ผู้ที่ทำทานนั้น …

ทำบุญแล้วอธิษฐาน เป็นความโลภหรือเป็นการทำบุญเพื่อหวังผลหรือไม่ Read More »

กุศโลบายให้รักษาศีล 5 ได้อย่างมั่นคง

คำถาม: นอกจากนี้ กระผมอยากจะกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า เรามีวิธีการรักษาศีลห้าให้ถูกต้องอย่างไรครับ และพระเดชพระคุณหลวงพ่อมีกุศโลบายและยุทธวิธีอย่างไรหรือไม่ ในการที่จะทำให้เรารักษาศีลห้าได้มั่นคงตลอดไปครับ คำตอบ: เจริญพร…จำหลักง่ายๆก็แล้วกันว่าในการรักษาศีลให้ถูกวิธีก็คือ ต้องตั้งใจ ถ้าไม่ตั้งใจล่ะก็ ไม่ถือว่าเป็นการรักษาศีล ถ้าตั้งใจว่าจะไม่ละเมิด แล้วเมื่อมีโอกาสที่จะละเมิดก็ไม่ละเมิดตามที่ตั้งใจเอาไว้ นั่นคือการรักษาศีลตัวจริง ทำไมจึงต้องใช้คำว่า ต้องตั้งใจ ตั้งใจว่าจะไม่ฆ่า หัวเด็ดตีนขาดไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ฆ่า ตั้งใจว่าจะไม่ลัก หัวเด็ดตีนขาดไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ลักไม่ขโมย ตั้งใจว่าจะไม่ประพฤติผิดในกาม หัวเด็ดตีนขาดไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่เจ้าชู้ ตั้งใจว่าจะไม่พูดเท็จ หัวเด็ดตีนขาดไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่โกหก ไม่พูดเท็จ ตั้งใจว่าจะไม่ดื่มสุรา หัวเด็ดตีนขาดไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่กินเหล้า กินเบียร์ บรรดาแอลกอฮอล์ทั้งหลายแหล่ ยาเสพติดทั้งหลายแหล่ ที่ให้โทษ เลิก…ไม่ต้องมาพูดกัน ใครจะเอามีดมาจ่อคอ เอาปืนมาจ่อหัวให้ละเมิดศีลทั้ง 5ข้อนี้ ตายก็ให้มันตายไปเถอะ เราไม่ทำหรอก ที่ต้องพูดอย่างนี้ เพราะว่ามีหลายคนเข้าใจผิด เมื่อมีคนชวนเข้าวัด เขาว่าอย่างไร เขาว่า…ผมไม่ได้ไปทำความชั่วอะไร ทำไมจะต้องเข้าวัดด้วย นั่นแน่ะ ผมไม่ได้ทำชั่วก็ต้องถือว่าผมเป็นคนดีแล้ว โอ…อันตรายแล้วลูกเอ๊ย ต้องมองใหม่ มองอย่างไร คนดีที่ได้มาตรฐาน คือ คนอย่างไร…คือ คนที่ตั้งใจทำความดี อย่างนี้เรียกว่าคนดี ส่วนอีกพวกหนึ่ง …

กุศโลบายให้รักษาศีล 5 ได้อย่างมั่นคง Read More »

ทำไมทำบุญต้องกรวดน้ำด้วย

คำถาม: ขอกราบเรียนถามหลวงพ่ออีกคำถามนะครับ ทำไมเวลาทำบุญต้องกรวดน้ำด้วยครับ ไม่ทราบว่า ธรรมเนียมการกรวดน้ำมีที่มาที่ไปอย่างไรครับ แล้วถ้าลืมกรวดน้ำจะมีผลอย่างไรบ้างครับ คำตอบ: คุณโยม…ประเพณีกรวดน้ำนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยต้นพุทธกาลทีเดียว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้สอนให้พระเจ้าพิมพิสาร ผู้สร้างวัดแรกในพระพุทธศาสนา ให้กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติของพระองค์ท่านในอดีต เป็นญาติในอดีตชาติ ซึ่งเมื่อละโลกไปแล้ว ญาติเหล่านั้นไปเกิดเป็นเปรต แล้วก็มารอรับส่วนบุญอยู่เป็นพุทธันดรเลย เนื่องจากว่า พระเจ้าพิมพิสารระลึกชาติไม่ได้ พระองค์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ญาติของพระองค์เองในอดีตชาติ มาเป็นเปรต มาเป็นอะไรไม่รู้ ไม่รู้ว่า เขามารอรับส่วนบุญส่วนกุศลเป็นพุทธันดรแล้ว เพราะฉะนั้น เมื่อท่านทำบุญแล้ว ท่านก็เลยไม่ได้อุทิศส่วนกุศลให้ ญาติที่เป็นเปรตก็เลยยังเป็นเปรตต่อไป ทีนี้ ญาติเหล่านั้นเป็นทุกข์หนัก ก็เลยปรากฏตัวให้เห็นว่าตัวเองเป็นเปรต ส่งเสียงร้องโหยหวนอยู่ในวัง พระเจ้าพิมพิสารเห็นเข้า รีบไปกราบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า เพราะสาเหตุใดกัน เปรตจึงมาร้องลั่นอยู่เต็มวัง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงเล่าเรื่องหนหลังให้ฟังว่า เปรตเหล่านั้น คือ ญาติในอดีตชาติของพระเจ้าพิมพิสาร เมื่อในอดีตชาติพระองค์ทำบุญทำทานตั้งโรงทาน เลี้ยงพระเลี้ยงมหาชน แต่ว่าญาติเหล่านี้ไม่มีกุศลศรัทธา จึงมายักยอกเอาของที่จะถวายสงฆ์นั้น ไปใช้เป็นของตัวเอง ไปกินเป็นของตัวเอง ละโลกไปแล้วจากชาตินั้น จึงต้องมาเกิดเป็นเปรต แล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงแนะ ให้พระเจ้าพิมพิสารทำบุญเลี้ยงพระ แล้วก็หลังจากนั้น ก็กรวดน้ำอุทิศบุญส่งให้กับเปรตเหล่านั้น พวกเปรตเหล่านั้น พอได้รับอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลเท่านั้น ก็กลายสภาพไปเป็นเทวดา ไปเป็นนางฟ้า …

ทำไมทำบุญต้องกรวดน้ำด้วย Read More »

อานิสงส์การรักษาศีล 5

คำถาม: กระผมอยากจะทราบต่อไปว่า ถ้ากระผมตั้งใจรักษาศีลห้าอย่างดี แบบที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อว่าแบบมะขามแช่อิ่มแล้วนะครับ จะมีอานิสงส์อย่างไรบ้างครับ คำตอบ: เจริญพร คุณโยมเมื่อเรารักษาศีลกันเต็มที่จริงๆอย่างที่ว่า คือ เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไม่ใช่เหยาะๆแหยะๆ ไม่เอาศีลจิ้ม ศีลเชื่อม เอาศีลแช่อิ่ม ถ้าศีลแช่อิ่มกันจริงๆล่ะก็คุณโยม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ชัดว่า มีอานิสงส์มากมาย แต่ว่าโดยย่อก็แล้วกัน โดยย่อล่ะก็มีสามประการด้วยกัน ทุกครั้งเวลาเรารับศีลจากพระ พระจะสรุปอานิสงส์ของศีล แล้วเราก็กล่าวสาธุกัน มีอยู่สามข้อ ดังนี้ 1.สีเลนะสุคติงยันติ ศีลทำให้ไปสู่สุคติ ขอยืมภาษาบาลีมาก่อน แล้วจะได้ไม่ตกไม่หล่น ศีลทำให้ไปสุคติ ถ้าแปลภาษาชาวบ้านก็แปลว่า ศีลนั้นเมื่อตั้งใจรักษากันเต็มที่ดีแล้ว เอาชีวิตเป็นเดิมพันกันจริงๆ ไปสุคติ คือ ไปดี หรืออนาคตดีนั่นเอง เป็นอย่างไร รักษาศีลแล้วอนาคตดี… ดีสิ ดีแน่นอน ลองว่ามีศีลแล้วล่ะก็ ไม่ต้องไปปรึกษาเรื่องกฎหมายกับคุณโยมล่ะ ไม่ไปคุกแน่เลยนะ เออ…ถึงอย่างไรก็ไม่ไปคุกแล้วชาตินี้ ชาติหน้ายังไม่ต้องพูดถึง ชาตินี้น่ะถึงอย่างไรไม่ต้องไปคุกไปตะราง ไม่ต้องไปเข้าห้องขัง เพราะฉะนั้น คำว่า สุคติ นี้ก็คือรักษาศีลแล้วอนาคตชาตินี้ มีแต่เจริญรุ่งเรืองไม่มีเวรไม่มีภัย อนาคตชาติหน้า ตายไปก็ไม่ตกนรก กลับมาเกิดอีกทีเป็นมนุษย์ …

อานิสงส์การรักษาศีล 5 Read More »

เราจะอธิบายคนทั่วไปเข้าใจว่าเกิดมาทำไมได้อย่างไร

คำถาม: กราบเรียนถามหลวงพ่อครับว่า ถ้าจะบอกคนข้างนอกที่ยังไม่ได้เข้าวัดว่า คนเราเกิดมาทำไม เราจะมีวิธีการที่จะบอกให้เขาได้เข้าใจอย่างง่ายๆ ได้อย่างไรครับ คำตอบ: คนเราเกิดมาทำไม ถ้าเราจะตอบตามคติของพระพุทธศาสนาว่า เกิดมาเพื่อกำจัดกิเลสให้หมดไป ทำพระนิพพานให้แจ้ง ผู้ที่เข้าวัด เวลาถูกญาติโยมถามธรรมะ มักจะตอบรวบยอดกันอย่างนี้เลย ถ้าตอบอย่างนี้ สำหรับคนที่ยังไม่เคยเข้าวัด เขาก็คงบอกว่า “ต่างคนต่างไป กลับบ้านตัวเองดีกว่า” แต่สำหรับวันนี้ ตอบกันง่ายๆก็แล้วกัน คนเราเกิดมา มีเป้าหมายของชีวิตอยู่ 3ระดับ 1.ภาษาชาวบ้าน ก็บอกว่า มีเป้าหมายบนดิน 2.สูงขึ้นไปอีกหน่อย มีเป้าหมายบนฟ้า 3.เป้าหมายสูงสุดในชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหนก็ตาม โดยธรรมชาติแล้ว คือ เป้าหมายเหนือฟ้า เป้าหมาย 3ประการนี้เป็นอย่างไร กล่าวคือ ในบรรดาชาวโลกทั่วไปที่ยังไม่ได้เข้าวัด ประการแรก สิ่งที่ควรจะต้องแนะนำเขาอย่างมาก ให้เขารู้ว่า เป้าหมายของเขานั้น คือ ยืนหยัดบนขาตัวเองให้ได้ รับผิดชอบตัวเองให้ได้ พูดง่ายๆ ตั้งฐานะของตัวเองให้ได้นั่นเอง ไม่ทำตัวให้เป็นภาระของใคร จะต้องเลี้ยงตัวของเราให้ได้ มีอาชีพที่บริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นสัมมาอาชีวะ เลี้ยงตัวเองให้ได้ ไม่เป็นภาระแก่สังคม ถ้าเจอใครที่เขายังตั้งเนื้อตั้งตัวไม่ได้ ก็ต้องคุยกับเขาว่า เป้าหมายชีวิตของคนเรา เกิดมาอย่างน้อยต้องตั้งฐานะของตัวเองให้ได้ …

เราจะอธิบายคนทั่วไปเข้าใจว่าเกิดมาทำไมได้อย่างไร Read More »

วัตถุประสงค์ของการทำทาน

คำถาม: กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ กระผมมีความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องการทำทานในพระพุทธศาสนาว่า มีวัตถุประสงค์อย่างไร และทำได้กี่ประเภทครับ คำตอบ: ก่อนอื่นทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่า คำว่า ทาน นั้นจริงๆแล้ว เป็นภาษาแขก ภาษาอินเดีย ภาษาไทย คือ ให้ ชัดๆลงไปนะ ทาน ก็คือ ให้ ทีนี้วัตถุประสงค์ของการให้ แบ่งออกได้ 4ประเภทด้วยกัน ตั้งแต่ ประเภทที่1.ให้เพื่ออนุเคราะห์ คือ ผู้ใหญ่ให้กับเด็ก อย่างนี้…ให้เพื่อการอนุเคราะห์ ส่วนประเภทที่2.ให้อีกเหมือนกัน แต่…ให้เพื่อการสงเคราะห์ คือ ใครเดือดร้อนมา คนยากจน หรือไม่ยากไม่จนหรอก แต่ว่าไฟไหม้-น้ำท่วมขึ้นมาแล้ว…มันเดือนร้อน มันก็ต้องให้ ให้แบบนี้ก็เป็นเรื่องให้ที่เขาเรียกว่า สงเคราะห์ คือ ใครตกทุกข์ได้ยาก ก็ช่วยกันล่ะนะ จะใจไม้ไส้ระกำกันได้อย่างไร มีข้าวให้ข้าว มีของให้ของ ช่วยกันคนละไม้ละมือ ประเภทที่3.ก็ให้อีกเหมือนกัน แต่ว่าเป็นการให้ที่คำนึงถึงพระคุณ ที่เขาเคยหว่านมากับเรา เคยเลี้ยงดูเรามา เคยให้ความรู้เรามา เราเจ็บไข้ได้ป่วย เขาเคยหยิบยื่นมือมาช่วยเหลือเรา…คิดถึงพระคุณของเขา เราก็เลยหาทาง มีอะไรที่คิดว่าถูกใจเขา หรือเป็นประโยชน์ต่อเขา…เอาไปให้ ให้ชื่นใจกัน …

วัตถุประสงค์ของการทำทาน Read More »

ทำไมการธรรมทานถึงชนะการให้ทั้งปวง

คำถาม: จากที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้เอ่ยถึงเกี่ยวกับคำว่า ธรรมทาน อยากเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า ทำไมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “ธรรมทานชนะการให้ทั้งปวง” ครับ คำตอบ: ถามดีคุณโยม…ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้มุ่งเน้นกันที่ธรรมทานให้มาก โดยตรัสว่า สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ คือ การให้ธรรมทาน วิเศษกว่าให้ทานอย่างอื่น ทำไมพระองค์ตรัสอย่างนั้น ก็นึกถึงความจริงก็แล้วกัน โบราณท่านเคยพูดเอาไว้แบบโลกๆ ท่านบอกว่า ถ้าเราให้ข้าวเขาไปสักถังหนึ่ง กระสอบหนึ่ง อย่างมากเขากินได้ไม่กี่วันหรอก แล้วมันก็หมด แต่ว่าถ้าสอนวิธีปลูกข้าวให้เขา เขาก็จะมีข้าวกินตลอดทั้งชาติ ไม่ใช่วันเดียว เดือนเดียว ปีเดียว แต่ตลอดชาติกันทีเดียว พูดง่ายๆ สอนให้ใครมีความรู้แล้วล่ะก็ ความรู้นั้นมันกินไม่หมด มันใช้ได้ตลอดปี นี่ขนาดแค่ความรู้ทางโลกนะ คือ เรื่องการปลูกข้าว ยังทำให้มีข้าวกินได้ทั้งปี แต่ว่าปัญหาของมนุษย์เรานั้น มันไม่ได้อยู่แค่ความหิว ปัญหารวมๆของโลกมนุษย์มันมีอยู่ 3เรื่องใหญ่ๆ คือ 1.ความรู้ไม่ทันโลก ปรากฏการณ์ต่างๆในโลกนี้ ตั้งแต่ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า แผ่นดินถล่ม อะไรก็ว่ากันไป นั่นก็เป็นความรู้ เป็นประสบการณ์เกี่ยวกับโลก 2.ความรู้ไม่ทันคนอื่นเขา ก็เลยโดนโกง โดนรังแก…กันสารพัด   …

ทำไมการธรรมทานถึงชนะการให้ทั้งปวง Read More »

หลักในการถวายสังฆทาน

คำถาม: อยากเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า การถวายสังฆทาน จริงๆแล้วมีหลักอย่างไรครับ และการถวายกับพระภิกษุรูปเดียว ถือเป็นสังฆทานหรือไม่ครับ และการถวายสังฆทาน กับถวายแบบเจาะจง แบบไหนได้บุญมากกว่ากันครับ คำตอบ: เจริญพร การทำบุญที่เรียกว่า สังฆทาน ถ้าว่าไปแล้ว…เอาง่ายๆภาษาชาวบ้าน นี่ก็ทำความเข้าใจคำว่า สังฆะ เสียก่อน สังฆะ ถ้าว่าไปแล้ว คือ ความเป็นทีม…ชัดดีไหม การทำบุญที่เรียกว่า สังฆทาน คือ การทำบุญกับพระที่เป็นคณะหรือว่าที่เป็นทีม พระที่เป็นคณะหรือว่าเป็นทีม ที่เรียกว่าสังฆะ โดยพระวินัยแล้วล่ะก็อย่างน้อยประกอบด้วยพระตั้งแต่ 4รูปขึ้นไป เมื่อการทำทานที่จะให้เรียกว่า สังฆทานจริงๆก็คือ การทำทานกับพระซึ่งเป็นหมู่เป็นคณะตั้งแต่ 4รูปขึ้นไป เราเรียกว่า สังฆทาน ทีนี้ก็ต้องถามว่า ถ้าเราทำทานกับพระรูปใดรูปหนึ่ง จะเป็นสังฆทานขึ้นมาได้ไหม ก็ตอบว่า มีทั้งได้และไม่ได้…ทำไม ถ้าจำเพาะเจาะจงว่าจะไปทำกับรูปใดรูปหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จัดว่าเป็นสังฆทาน แต่ตรงกันข้าม ตั้งใจไว้ว่าจะไปทำทานกับพระทีมใดทีมหนึ่ง หรือคณะใดคณะหนึ่งตั้งแต่ 4รูปขึ้นไป แต่ว่าตอนนั้นท่านอยู่องค์เดียวรูปเดียว อีก 3รูป 5รูป 10รูปก็แล้วแต่ล่ะ ท่านไม่อยู่ด้วย เราก็ต้องบอกกับท่านว่า เราจะถวายท่านนี้แล้วท่านช่วยจัดการด้วยเถอะ เอาไปแบ่งเอาไปปันกันให้ได้ …

หลักในการถวายสังฆทาน Read More »

ความเป็นมาการเข้าพรรษา

คำถาม: กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับ ในช่วงนี้เป็นช่วงเข้าพรรษา อยากกราบขอความรู้ในเรื่องเข้าพรรษาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เกี่ยวกับความเป็นมาของการเข้าพรรษา และกิจวัตรของพระภิกษุในช่วงนี้ครับ คำตอบ: เจริญพร…ในเรื่องความเป็นมาของการเข้าพรรษา ถ้าว่ากันตามประวัติย่อๆ คือ ในยุคต้นพุทธกาล ก็ยังไม่มีการเข้าพรรษา เพราะฉะนั้นตลอดทั้งปี เมื่อพระภิกษุมีความเห็นว่าท่านควรจะไปเทศน์ ไปสอนญาติโยมที่ไหนได้ ท่านพอมีเวลา ท่านก็จะไป หรือไม่ได้ไปเทศน์ไปสอนใคร ถ้าเห็นว่าที่ไหนมันเงียบ มันสงัดดี เหมาะในการที่จะไปบำเพ็ญภาวนา ทำสมาธิ(Meditation)ของท่าน ท่านก็จะไป ซึ่งแน่นอน…ส่วนมากก็จะอยู่ในเขตที่เป็นป่าเป็นเขา ไกลๆออกไปจากตัวเมือง หรือว่าต้องผ่านไปในชนบทนั่นเอง จากการที่ท่านต้องไปอย่างนี้ เนื่องจากในฤดูฝนที่เขาทำไร่ทำนากันอยู่นั้น บางครั้ง ข้าวกล้าของเขาก็เพิ่งหว่านลงไปในนา มันเพิ่งงอกออกมาใหม่ๆ บางทีก็ดูเหมือนหญ้า พระภิกษุก็เดินผ่านไป นึกว่ามันเป็นดงหญ้า ก็เลยย่ำข้าวกล้าของเขาไป ซึ่งก็ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน เขาก็มาฟ้องพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าพระไปย่ำข้าวของเขาที่ปลูกเอาไว้ หว่านเอาไว้ นกกาฤดูฝนมันยังอยู่กับรังของมัน พระทำไมไม่รู้จักพักบ้าง เพื่อตัดปัญหานี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เลยทรงกำหนดให้พระภิกษุ เมื่อเข้าพรรษา หรือเมื่อเข้าฤดูฝน ให้พระอยู่กับที่ คือ ตั้งแต่แรม 1ค่ำเดือน8 จนกระทั่งขึ้น 15ค่ำเดือน11 ให้อยู่เป็นที่เป็นทาง ไม่ไปทำภาวนาที่ไหน ไม่ไปเทศน์โปรดใคร ถ้าใครต้องการให้โปรด ก็มาที่วัดก็แล้วกัน มาหาท่าน …

ความเป็นมาการเข้าพรรษา Read More »

ต้องปฏิบัติตนอย่างไรในช่วงเข้าพรรษาถึงจะได้บุญเยอะ

คำถาม: พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ชาวพุทธควรปฏิบัติตนอย่างไรในช่วงเข้าพรรษา จึงจะได้บุญเต็มที่ครับ คำตอบ: เจริญพร…ในช่วงเข้าพรรษา พระเก่าพระใหม่ ท่านอยู่กันพร้อมหน้า เมื่ออยู่พร้อมหน้ากันอย่างนี้ ก็เป็นโชคดีของญาติโยม โชคดีอย่างไร…โชคดีที่เนื้อนาบุญอยู่กันพร้อมหน้า ญาติโยมตั้งแต่ครั้งปู่ย่าตาทวด ท่านไม่ปล่อยให้พระเข้าพรรษาเพียงลำพัง ญาติโยมก็พลอยเข้าพรรษาไปด้วยเหมือนกัน แต่ว่าเข้าพรรษาของญาติโยมนั้น เข้าพรรษาด้วยการอธิษฐานจิต หลักธรรมในพระพุทธศาสนา มีแม่บทไว้ชัดอยู่ 3ข้อ คือ 1.ละชั่ว 2.ทำดี 3.กลั่นใจให้ใส เมื่อพระอยู่จำพรรษา ท่านก็มีหน้าที่ของท่านว่า ละชั่ว คำว่า ละชั่วของพระนั้น ไม่ใช่ ชั่ว หยาบๆอย่างที่มนุษย์เป็นกัน แต่ว่าละชั่วของท่านในที่นี้หมายถึงละกิเลส ซึ่งแม้ในเรื่องนั้นโดยทางโลกแล้ว มองไม่ออกหรอกว่ามันเป็นความชั่ว ความไม่ดี เช่น มีจิตใจฟุ้งซ่าน ความจริงก็อยู่ในใจของท่าน คนอื่นมองไม่เห็น ถึงขนาดนั้น ท่านก็พยายามจะละความฟุ้งซ่านของท่านให้ได้ ด้วยการเจริญภาวนา หรือทำสมาธิ ให้ยิ่งๆขึ้นไป เป็นต้น ท่านก็ละกิเลสหรือละชั่วที่ละเอียดๆ ยิ่งๆขึ้นไป ให้สมกับภูมิแห่งความเป็นพระของท่าน ความดี ท่านก็ทำให้ยิ่งๆขึ้น ตัวอย่างเช่น อยู่ที่วัดพระเก่าก็เทศน์อบรมให้พระใหม่ พระใหม่ก็ตั้งใจศึกษาให้เป็นความรู้ความดี เพิ่มพูนความดีให้กับตัวของท่านไป แล้วก็ทำใจให้ใสพร้อมๆกัน …

ต้องปฏิบัติตนอย่างไรในช่วงเข้าพรรษาถึงจะได้บุญเยอะ Read More »