หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

ทรัพย์สมบัติบุตรภรรยาเป็นเครื่องจองจำได้อย่างไร

คำถาม: ทรัพย์สมบัติ บุตร ภรรยา เป็นเครื่องจองจำได้อย่างไร? ไม่เข้าใจเลย หลวงพ่อกรุณาอธิบายให้ด้วยครับ? คำตอบ: เครื่องจองจำคนเรา โดยเฉพาะเครื่องจองจำที่เห็นด้วยตา เช่น กุญแจมือที่ตำรวจเขาใส่ข้อมือผู้ร้าย หรือโซ่ตรวนที่ผู้คุมเขาใส่กับนักโทษ ดูแล้วมันเหมือนผูกมัดคนจนแน่นหนา แต่อย่างไรก็ดีของพวกนี้เป็นเพียงเครื่องจองจำทางกาย ถึงเวลาหมดโทษเขาก็ต้องปลดออก แต่มีเครื่องจองจำชนิดหนึ่ง ที่ไม่ได้ติดอยู่กับร่างกายหรอก มันติดอยู่กับใจคน ติดแน่นจนสลัดไม่หลุด ของพวกนี้ได้แก่อะไรบ้าง?         เครื่องจองจำใจคนมีหลายอย่าง เช่น สามีหรือภรรยา ยามคิดถึงกัน ก็อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลไปหา ขืนไม่ไปก็คิดถึงอยู่นั่นแหละ ห่วงหาจนแทบจะเป็นจะตายเสียให้ได้ พอมีลูกขึ้นมา ก็ห่วงลูก ความห่วงอันนี้แหละทางพระพุทธศาสนาจัดเป็นเครื่องจองจำทีเดียว บางคนห่วงสามี บางคนห่วงภรรยา ห่วงกันจนกระทั่งกินไม่ได้นอนไม่หลับทีเดียว ห่วงสามีหรือภรรยา 1 ห่วงบุตร 1 ห่วงสมบัติ 1 ห่วงทั้ง 3 อย่างนี้ เป็นเครื่องจองจำหรือเครื่องพันธนาการทางใจของคน ที่ใครๆ ก็ดิ้นหลุดออกได้ยากเหลือเกิน เพราะเป็นสิ่งผูกพันที่ทำให้ห่วงใยคิดถึงอยู่ตลอดเวลา นั่งสมาธิ หลับตานึกถึงดวงแก้ว เดี๋ยวเดียวหน้าลูกโผล่ออกมาแล้ว หน้าเมียโผล่ซ้อนขึ้นมาอีกแล้ว เดี๋ยวเช็คก็โผล่ตามขึ้นมาอีกแล้ว เช็คจะเด้งหรือเปล่าหนอ? ที่นั่งสมาธิกันไม่ค่อยจะได้เห็นธรรมะ ก็เพราะเหตุตรงนี้แหละ ห่วงคู่ครอง …

ทรัพย์สมบัติบุตรภรรยาเป็นเครื่องจองจำได้อย่างไร Read More »

คุณพ่อและน้องชอบเล่นการพนัน จะแก้ไขอย่างไรดี

คำถาม: คุณพ่อและน้องชอบเล่นการพนัน จะแก้ไขไม่ให้เล่นได้อย่างไรคะ? คำตอบ: แก้ไขโดยเริ่มด้วยตัวเราเองอย่าเล่นการพนันเด็ดขาด เราต้องทำตัวเป็นต้นแบบเป็นมาตรฐานให้ดู การงานทุกอย่างต้องทำได้เรียบร้อย จนใครตำหนิอะไรไม่ได้สักอย่างเดียว ถ้าเราทำได้อย่างนี้บารมีจะเกิด แล้วทีนี้จะพูดอะไรก็มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ แทบจะชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนก แต่ว่าต้องใช้เวลาหน่อยนะ         การงานต้องดี การเรียนต้องดี จนใครก็หาข้อบกพร่องอะไรเราไม่ได้ ถ้าทำได้ถึงขนาดนี้แล้ว ต่อไปแม้เป็นลูกก็ทำให้พ่อเกรงใจได้ พอผิดพลาดอะไร ก็สามารถชี้เหตุชี้ผลให้ดูได้ เช่น เพราะพ่อมาจมอยู่ในวงไพ่ จึงทำมาหากินสู้ชาวบ้านเขาไม่ได้ งานการถึงได้เสียหายอย่างนั้นๆ         ถ้าเราดีจริง พ่อก็พ่อเถอะ จำเป็นต้องเชื่อเพราะเราเรียนดี ทำงานดีให้เขาดูก่อน และยังสามารถพูดอธิบายได้อย่างมีเหตุผล ส่วนน้องนั้นไม่มีปัญหา ถ้าคุณพ่อเลิกเล่นการพนัน เพราะความเข้าใจถูกว่าการพนันนำไปสู่ความพินาศฉิบหาย ท่านคงห้ามปรามไม่ให้ลูกท่าน หรือน้องเราเล่นการพนันอีกต่อไป         แต่เท่าที่หลวงพ่อเห็นมามากต่อมาก ต่อให้ลูกมีบารมีมากแค่ไหน ลูกก็สอนพ่อสอนแม่ให้เชื่อฟังได้ยาก ทางที่ง่ายกว่าคือห้ามปรามน้องก่อน อย่าปล่อยให้น้องเป็นขาไพ่ของพ่อก็แล้วกัน โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

จะทำใจอย่างไรคะ เมื่อไม่พอใจคนในบ้าน

คำถาม: จะทำใจอย่างไรคะ เมื่อไม่พอใจคนในบ้าน เขาเป็นคนอาศัยเราอยู่ แต่กลับไม่เกรงใจเราเลย? คำตอบ: ก่อนจะรับใครเข้ามาอยู่ในบ้าน จะมาอยู่ในฐานะลูกจ้าง ในฐานะเพื่อน ในฐานะสามี ในฐานะภรรยา หรือในฐานะอะไรก็ตาม โบราณท่านพูดไว้ประโยคหนึ่งว่า “เข้าง่าย ออกยาก”         การรับใครมาเป็นคนใช้ในบ้าน ถ้ารับง่ายๆ ระวังเถอะ วันที่จะให้เขาออกจากบ้าน ออกจากงานมันจะยุ่ง วันออกอาจจะมีการเผาบ้าน มีการปล้นเจ้าของบ้าน ขนาดเชือดคอลูกเจ้าของบ้านก็มีมาแล้ว แม้ที่สุดรับเขามาเป็นสามี รับเขามาเป็นภรรยา วันเลิกร้างจะให้เขาออกจากบ้าน ที่เกิดเรื่องตบตีเตะกันซี่โครงหักก็มีมาแล้ว ก็อยากจะเตือนสำหรับผู้ที่ยังคิดจะให้ใครมาอยู่ด้วยละก็ ดูนิสัยใจคอกันก่อนนานๆ นะ อย่าลืมคำโบราณ “เข้าง่าย ออกยาก”         สำหรับในกรณีของคุณโยม รับเขามาอาศัย แต่เขาก็ไม่เกรงใจ จริงอยู่คุณนั้นมีความดีตรงที่มีเมตตา แต่ความประพฤติส่วนตัวของคุณอย่างอื่นบกพร่องไหม ถ้าบกพร่อง ก็น่าหรอกที่เขาจะไม่เกรงใจ แต่ถ้าเราไม่บกพร่องแล้ว เขายังไม่เกรงใจเรา บ้านของเราแท้ๆ เขายังไม่เกรงใจ ก็ให้เขากลับไปอยู่บ้านของเขาเอง ก็จบ แต่อย่าลืมนะว่า เข้าง่าย ออกยาก เรื่องไม่จบง่ายๆ หรอก หากุศโลบายให้เขาออกดีๆ ก็แล้วกัน โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว …

จะทำใจอย่างไรคะ เมื่อไม่พอใจคนในบ้าน Read More »

ทำอย่างไรจึงจะเลิกนิสัยอิจฉาชาวบ้านได้

คำถาม: หลวงพ่อคะ ทำอย่างไรดิฉันจึงจะเลิกนิสัยอิจฉาชาวบ้านได้คะ? คำตอบ: ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่า การที่คุณเป็นคนขี้อิจฉาริษยาชาวบ้านนั้น เป็นเพราะคุณเป็นรองเขาเรื่อยมา เหตุลึกๆ ที่ทำให้คุณเป็นคนต่ำต้อย น้อยหน้าเป็นรองคนอื่น เพราะคุณมีบุญเก่าติดตัวมาน้อย อยากจะรวยก็รวยไม่ได้ เพราะให้ทานมาน้อย อยากฉลาดก็ฉลาดสู้เขาไม่ได้ เพราะทำภาวนามาน้อย อยากจะเกิดในชาติตระกูลสูงก็ไม่ได้ เพราะไม่เคยเคารพกราบไหว้ผู้มีคุณธรรมมาก่อน        เมื่อเป็นรองเขาเรื่อยมา แทนที่จะได้คิดว่าเป็นรองเขา เพราะสร้างบุญมาน้อย กลับปล่อยให้โมหะความหลงผิดเข้าครอบงำจิตใจ ไปอิจฉาริษยาเขาอีก เลยหาความสุขไม่ได้ ยังดีที่คิดอยากเลิกนิสัยขึ้นอิจฉา         คนที่จะเลิกอิจฉาริษยาชาวบ้านได้ ต้องรู้จักพิจารณาให้ชัดเจนเสียก่อนว่า ความอิจฉาริษยาทำให้เกิดความเสียหายแก่เราอย่างไรบ้าง โทษของความอิจฉาริษยามีหลายอย่าง ตั้งแต่ทำให้วาสนาของตัวเองตกต่ำ มิหนำซ้ำยังไม่มีกำลังใจที่จะทำความดีต่อไปอีก แม้จะเกิดไปกี่ภพกี่ชาติเบื้องหน้าก็จะเป็นคนที่มีอานุภาพน้อย จะต้องเป็นรองคนอื่นเขาอยู่ร่ำไป แม้ได้เกิดเป็นกษัตริย์ก็ต้องเป็นกษัตริย์ของประเทศที่เป็นอาณานิคมของประเทศอื่น  ฉะนั้น ถ้าต้องการแก้ไขนิสัยไม่ดีดังกล่าว จึงต้องทำดังนี้         1. ทุกครั้งที่รู้ตัวว่าเรากำลังมีจิตคิดอิจฉาริษยาใครก็ตาม ต้องรีบเตือนสติตัวเอง ว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะคุณความดีในตัวเรามีน้อยมีบุญน้อยจึงได้น้อยหน้าไม่เท่าเทียมเขา เป็นความผิดของเราเองที่ภพในอดีตไม่ชอบสร้างบุญกุศล ไม่ใช่ความผิดของคนอื่น เพราะฉะนั้นจะต้องรีบเร่งสะสมความดี สร้างบุญกุศลให้มากๆ         2. หมั่นฝึกสมาธิให้มากๆ เป็นประจำ แม้จะได้ผลช้ากว่าคนอื่นก็เพียรพยายามเรื่อยไป เมื่อใจผ่องใสละเอียดอ่อนขึ้น ก็จะเห็นช่องทางในการทำความดี แล้วตั้งใจทำความดีอย่างสุดกำลังความสามารถด้วยความไม่ประมาท บุญของเราก็จะสมสมมากขึ้นๆ         ในที่สุดก็เป็นคนดีที่มีความดีอยู่ในตัวมาก จนไม่จำเป็นต้องอิจฉาริษยาใครอีกต่อไป แต่แน่นอนว่ากว่าจะทำให้นิสัยขี้อิจฉาริษยานี้หมดไปต้องใช้เวลานานมาก …

ทำอย่างไรจึงจะเลิกนิสัยอิจฉาชาวบ้านได้ Read More »

หลวงพ่อไม่คิดจะมาสร้างวัดที่กรุงเทพบ้างหรอคะ

คำถาม: บ้านของอิฉันเป็นร้านค้าอยู่แถวถนนเยาวราช หลวงพ่อนึกภาพออกใช่ไหมคะว่ามันยุ่งทั้งวันทั้งคืน อิฉันมาวัดกับหลานชายสองครั้ง เห็นวัดสงบเงียบดีก็ชอบใจ แต่จะมาบ่อยๆ ก็ไม่ได้เพราะไกล หลวงพ่อไม่คิดจะมาสร้างวัดในกรุงเทพฯ บ้างหรือคะ อิฉันมาวัดกับหลานชายสองครั้ง เห็นวัดสงบเงียบดีก็ชอบใจ แต่จะมาบ่อยๆ ก็ไม่ได้เพราะไกล หลวงพ่อไม่คิดจะมาสร้างวัดในกรุงเทพฯ บ้างหรือคะ อิฉันยินดีออกเงินช่วยซื้อที่ดินให้  คำตอบ: ขอบคุณต่อข้อเสนอของคุณโยมจริงๆ แต่อยากให้มาช่วยหลวงพ่อสร้างวัดพระธรรมกายให้เสร็จเร็วๆ เสียก่อนดีกว่า แถวบ้านยุ่งนักคุณโยมเองก็แก่แล้วน่าจะย้ายมาอยู่ข้างๆ วัด จะได้อยู่อย่างสงบ มาวัดสะดวกๆ ทำอย่างนี้ไม่ดีกว่าหรือ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบได้อย่างไร

คำถาม: พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีความรับผิดชอบได้อย่างไร? คำตอบ: ก่อนอื่นพ่อแม่ต้องเป็นคนมีความรับผิดชอบ เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกดู คือเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ไม่ทอดทิ้ง ไม่ปล่อยปละละเลยลูก ทำหน้าที่ของพ่อแม่ที่ดีให้สมบูรณ์ สร้างฐานะของครอบครัวให้มั่นคง และฝึกลูกตั้งแต่ยังเล็ก ให้รู้จักช่วยตัวเอง รู้จักรับผิดชอบในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ต้องสอนให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่จะอยู่กับลูกตลอดไปนั้นเป็นไปไม่ได้ ลูกต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเอง         การฝึกลูกให้เป็นคนมีความรับผิดชอบอาจทำได้ โดยมอบหมายหน้าที่ที่เหมาะสมกับวัยให้ลูกทำ เช่น ให้รับผิดชอบหน้าที่กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างห้องน้ำ ล้างจาน ช่วยงานแม่ในครัว หรือช่วยงานพ่อในสนาม เช่น ช่วยตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ ปลูกต้นไม้ ดูแลความสะอาดบริเวณบ้าน นอกจากรับผิดชอบงานส่วนรวมของบ้านแล้ว งานส่วนตัวก็ต้องสอนให้รับผิดชอบ ไม่ให้เป็นภาระแก่คนอื่น เช่นการดูแลเรื่องเสื้อผ้าของตนเอง เป็นต้น พ่อแม่ต้องฝึกลูกให้เป็นคนตรงต่อเวลา ให้เป็นคนมีระเบียบวินัย ในการกิน การเล่น ดูหนังสือ และนอนให้เป็นเวลา เพื่อลูกจะได้รู้จักบริหารเวลาเป็น ทำงานเป็น นิสัยตรงต่อเวลาจะได้เกิดขึ้นกับลูก         เมื่อมอบหมายหน้าที่ให้ลูกรับผิดชอบแล้ว พ่อแม่ต้องคอยสอดส่องดูแล สอนลูกให้ตระหนักในหน้าที่ของตัวเอง ถ้าลูกปล่อยปละละเลยก็ต้องตักเตือน หรือบางครั้งอาจต้องลงโทษ แต่ถ้าลูกรับผิดชอบในหน้าที่การงานได้ไม่บกพร่องเลย พ่อแม่ก็ควรชมเชยหรือให้รางวัลด้วย เพื่อเป็นกำลังใจในการทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป         นอกจากนั้นยังต้องฝึกลูกให้เป็นคนมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ …

พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบได้อย่างไร Read More »

พ่อแม่เป็นห่วงลูกมากเกินไปหรือไม่

คำถาม: หลวงพ่อครับ ผมและเพื่อนๆ ชอบเล่นสเก็ตน้ำแข็งมาก แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยยอมอนุญาต บอกว่าห่วง ผมไม่เห็นมีอะไรน่าห่วงเลยครับ? คำตอบ: ลูกพูดอย่างนี้ หลวงพ่อขอเป็นตัวแทนของลูก พูดไปถึงคุณพ่อคุณแม่ทางบ้านหน่อยนะ แล้วในเวลาเดียวกัน ก็จะเป็นตัวแทนของคุณพ่อคุณแม่ ตอบคำถามของลูกด้วยว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านห่วงทำไม หลวงพ่อจะทำตัวเป็นกลางที่สุดนะ ขอเป็นตัวแทนคุณพ่อคุณแม่อธิบายให้คุณลูกฟังก่อนว่าทำไมต้องห่วง ทำไมไม่อยากอนุญาตในเรื่องบางเรื่อง สิ่งที่อยากให้คุณลูกได้รับรู้ไว้มี 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ         เรื่องที่หนึ่ง การที่ลูกจะไปเล่นอะไรที่ไหนก็ตาม จะเป็นสเก็ตหรือสกีอะไรอีกก็ตามทีเถอะ การเที่ยวเล่นลักษณะนี้ที่แน่ๆ เลยคือ ค่าใช้จ่ายสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องควักกระเป๋าแน่นอน ถ้าอนุญาต ลูกลองคิดดูซิว่ามันคุ้มกันไหม คุณพ่อคุณแม่เหนื่อยแทบตายกว่าจะหาเงินมาได้เป็นกอบเป็นกำ เสร็จแล้วเงินนั่นกลับกลายเป็นค่าความสนุกของเราไป เดี๋ยวนี้เงินทองก็ไม่ใช่หาง่ายๆ มันหายากนะ หรือแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณหนูจะมีฐานะดี เงินทองหาง่าย แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ขอให้ลูกๆ วัยรุ่นทั้งหลายมองเรื่องนี้ให้กว้างๆ จะได้เข้าใจหัวอกคุณแม่คุณพ่อว่าเป็นธรรมดาที่ท่านต้องคิดว่าท่านต้องแก่ ต้องตายจากลูกไปแน่ๆ จะช้าจะเร็วไม่รู้ อะไรที่จะเป็นสมบัติทิ้งไว้ให้ลูกทุกคนได้ ท่านก็ยินดีจะเก็บสมบัตินั้นไว้มากกว่าที่จะปล่อยให้มันละลายไป เพราะตามใจลูกเรื่องเที่ยว เรื่องเล่น         คุณหนูอาจจะแย้งว่า การเล่นสเก็ตน้ำแข็งเป็นการออกกำลังกาย ข้อนี้หลวงพ่อไม่เถียง แต่ว่าการออกกำลังกายนี่ ยังมีวิธีอื่นอีกตั้งมากที่จะทำให้ได้เรี่ยวแรง แล้วก็ได้สุขภาพพลานามัยดี ไม่น้อยหน้ากว่าเจ้าสเก็ตน้ำแข็งนี้ และวิธีนั้นก็ไม่ต้องใช้เงินอะไรเลย         …

พ่อแม่เป็นห่วงลูกมากเกินไปหรือไม่ Read More »

พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีนิสัยประหยัดได้อย่างไร?

คำถาม: พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีนิสัยประหยัดได้อย่างไร? คำตอบ: ลูกจะมีนิสัยประหยัดได้ พ่อแม่ต้องประหยัดเป็นแบบอย่างให้ลูกดูเสียก่อน การเพาะนิสัยประหยัดให้ลูก ทำได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก คือ         1. ฝึกลูกให้รู้จักคุณค่าของเงิน เมื่อลูกขอเงินต้องซักถามให้ละเอียดก่อนว่า จะเอาเงินนี้ไปทำอะไร มีความจำเป็นแค่ไหนจึงต้องใช้เงิน ถ้าลูกขอโดยไม่มีเหตุผล ก็ไม่ควรให้ ต้องชี้แจงให้ลูกทราบด้วยว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ให้ แม้ลูกจะไม่พอใจก็ต้องทำใจแข็งไว้ อย่าให้เงินลูกเพียงเพื่อตัดความรำคาญ อย่าให้ลูกมีความคิดว่าเงินได้มาอย่างง่ายๆ ต้องสอนให้ลูกรู้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่พ่อแม่หามาได้หมายถึงหยาดเหงื่อแรงกายของพ่อแม่ ลูกจะได้รู้คุณค่าของเงินและใช้เงินอย่างคุ้มค่า         2. ฝึกให้งดเว้นของฟุ่มเฟือย สิ่งใดที่เห็นว่าเป็นของฟุ่มเฟือยไม่จำเป็น พ่อแม่อย่าซื้อหาให้ลูก ถ้าขัดไม่ได้ ก็หาอย่างอื่นที่ราคาไม่แพง แต่ใช้ทดแทนกันได้มาให้ หาวิธีอธิบายให้ลูกรู้ว่าของดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ฝึกให้ลูกรู้จักใช้ของอย่างคุ้มค่า ให้ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ไม่ใช้ทิ้งๆ ขว้างๆ เมื่อของเสียหาย ต้องสอนให้รู้จักซ่อมแซมของนั้นด้วยตัวเอง         3. ฝึกให้ลูกรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สอนลูกให้รู้จักทำของใช้เอง เป็นการเสริมสร้างปัญญาให้ลูก โดยเฉพาะของเล่น ให้ลูกรู้จักประดิษฐ์ขึ้นเอง หรือประกอบจากชิ้นส่วนเอง ลูกจะได้รู้จักช่วยตัวเองเป็น และมีความภาคภูมิใจในความสำเร็จ มีกำลังใจสูงขึ้น นอกจากนั้น ควรฝึกให้ลูกรู้จักวิธีตัดทอนงบประมาณค่าใช้จ่ายของลูกเองเพื่อลูกจะได้รู้จักวิธีอดออม และรู้จักทำงานให้ได้เงินด้วยตัวเอง         4. ฝึกลูกให้รู้จักเก็บออมทรัพย์ หากระป๋องออมสินให้ลูกสำหรับเก็บเงินที่เหลือจากค่าขนม หรือค่าใช้จ่ายประจำ พาลูกหรือสอนลูกให้เอาเงินที่เก็บออมได้ไปฝากเข้าบัญชีในธนาคาร เมื่อลูกได้เงินพิเศษ จากญาติผู้ใหญ่ในวันสำคัญของลูก เช่น วันเกิด …

พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีนิสัยประหยัดได้อย่างไร? Read More »

หน้าที่ของลูกที่มีต่อพ่อแม่มีอะไรบ้าง

คำถาม: หน้าที่ของบุตรที่มีต่อบิดามารดา มีอะไรบ้างคะ? คำตอบ: พ่อแม่เป็นผู้มีพระคุณอย่างที่สุดของลูก นับตั้งแต่เป็นต้นแบบที่ดีของลูก คือเป็นผู้ให้รูปร่างมนุษย์ที่เหมาะสมในการสร้างความดีทุกรูปแบบ ดังนั้นแม้พ่อแม่จะไม่เลี้ยงดูบุตร ก็ได้ชื่อว่ามีพระคุณอยู่แล้ว และถ้าท่านเลี้ยงดู ทำหน้าที่ของพ่อแม่ดีที่สุดอย่างสมบูรณ์แบบ พระคุณของท่านก็จะยิ่งมากมายสุดจะนับจะประมาณได้         พ่อแม่เป็นผู้ให้อภัยแก่ลูกอยู่เสมอ ไม่ผูกโกรธ แม้จะดุด่าว่ากล่าวหรือเฆี่ยนตีลูกบ้าง ก็เป็นเพราะความรัก ความห่วงใย ต้องการสั่งสอนให้ลูกเป็นคนดี ทุกครั้งที่ไม้เรียวกระทบเนื้อลูก เชื่อเถอะว่ามันเหมือนมีมีดกรีดลงบนหัวใจของพ่อแม่ด้วย ในโลกนี้ไม่มีใครที่รักลูกเป็นมิตรแท้ต่อลูกเหมือนพ่อแม่ เพราะท่านคิดแต่จะให้เพียงอย่างเดียว ลูกๆ ไม่ต้องหวาดระแวงเลยว่าพ่อแม่จะทรยศหักหลังเหมือนคนอื่น         พระคุณของพ่อแม่มีมากมายเกินกว่าจะตอบแทนได้หมด ลูกที่ดีต้องสำนึกในพระคุณของพ่อแม่ให้เปี่ยมล้นในใจอยู่เสมอ ปฏิบัติต่อท่านให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ท่านเป็นพระในบ้าน หน้าที่ของลูกที่ควรปฏิบัติต่อพ่อแม่ กล่าวโดยย่อ คือ         1. คอยดูแลท่านให้ดี ตั้งแต่เรื่องอาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย ยามเจ็บป่วย ก็ช่วยพยาบาลรักษาให้ดีที่สุด ทำให้สม่ำเสมอตราบจนวาระสุดท้ายของท่าน         2. ประพฤติตนเป็นคนดี สร้างชื่อเสียงให้แก่วงศ์ตระกูล ให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ         3. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับการที่จะเป็นผู้รับมรดก         4. ทำกิจการงานแทนท่านไม่ให้บกพร่อง         5. ชักชวนหรืออำนวยความสะดวก สนับสนุนให้ท่านได้มีโอกาสทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา จะได้เป็นบุญติดตัวท่านไปในภพเบื้องหน้า เป็นการถากถางหนทางไปสู่พระนิพพานของท่านเอง หน้าที่นี้เป็นหน้าที่สำคัญที่สุดที่ลูกทุกคนต้องปฏิบัติต่อพ่อแม่ …

หน้าที่ของลูกที่มีต่อพ่อแม่มีอะไรบ้าง Read More »

จะทำอย่างไรเมื่อโดนเพื่อนบ้านเอาเปรียบ

คำถาม: เพื่อนบ้านบางคนชอบเอาเปรียบ เช่น กวาดขยะมาทิ้งหน้าบ้านเราทุกวัน จะทำอย่างไรดีคะ? คำตอบ: ที่เขากวาดขยะมาใส่บ้านเราทุกวัน เพราะเราเคยไปทำแบบนั้นกับเขาก่อนหรือเปล่า ถ้าเราไม่ได้ทำอย่างนั้น แต่เขายังมาทำกับเรา เราก็หาถังอะไรมาวางตรงที่ทิ้งขยะของเขาและของเรา อย่าเพิ่งไปทำอะไร หรืออย่าเพิ่งพูดอะไรมาก เริ่มทำตัวให้เขาทั้งรักทั้งเกรงเสียก่อน แล้วจึงค่อยไปพูดขอร้องกัน         ถ้าเราไปทำ จะให้เขาเกรงโดยไม่ต้องรัก เราก็เป็นอันธพาลประจำซอย เดี๋ยวก็ได้เรื่อง เขาอาจไม่กล้าเอาขยะมาทิ้งอีก แต่อย่าเลย ลูก..อย่าเป็นพาลเสียเอง เพราะมันแค่ทำให้เขาเกรงกลัว จะเป็นการเพาะศัตรูเพาะเวรภัยในภายหลัง         ทำให้เขารัก ดีกว่าทำให้เขาเกลียดกลัว การทำตัวให้น่ารักอาจจะเสียเวลาบ้าง แต่อดทนเถอะ ทนไปสักพัก พอชนะได้ครั้งหนึ่งแล้ว จะชนะได้ตลอด แล้วจากที่ชาวบ้านเรียกเราว่า “นายนั่น นายนี่” นักเลงโตประจำซอย ก็อาจเปลี่ยนเป็น “คุณพ่อ คุณแม่” ประจำซอยไปก็ได้ ซึ่งก็เป็นด้วยความที่เรามีคุณธรรม โดยเฉพาะมีขันติ อดทนต่อความไม่เข้าท่าเข้าทางของเพื่อนบ้านได้         เพื่อนบ้านนั้นหากผูกมิตรไว้ดีแล้ว เขาจะเป็นเสมือนญาติสนิทที่คอยเอื้ออาทร คอยปกป้องภัยอันตรายให้เรา รั้วน้ำใจนั้นดีกว่ารั้วเหล็กหลายเท่า เราควรทำให้บุคคลที่อยู่รอบบ้านเป็นเพื่อนของเรา อย่าให้เขาเป็น “คนอื่น” สำหรับเรา เพราะมิฉะนั้นเราก็จะเป็น “คนอื่น” สำหรับเขาเหมือนกัน โอวาท …

จะทำอย่างไรเมื่อโดนเพื่อนบ้านเอาเปรียบ Read More »

บิดาป่วยหนัก แต่ท่านไม่เชื่อเรื่องบุญบาป จะช่วยได้อย่างไร ทำบุญให้ตอนมีชีวิต ท่านจะได้บุญไหม

คำถาม: บิดาของดิฉันป่วยหนัก 2 เดือนแล้ว อาการของท่านทรมานมากบ่นและร้องโวยวายตลอดเวลา ไม่ทราบว่าจะช่วยได้อย่างไร ดิฉันสงสารท่านมาก ปกติท่านไม่ยอมเชื่อเรื่องบุญบาป ถ้าหากลูกๆ ทำบุญให้ในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านจะได้รับไหมคะ เผื่อว่าจะทุเลาอาการทรมานได้บ้าง? คำตอบ: ก็ได้เหมือนกัน ถ้าท่านอนุโมทนาบุญกับเรา แต่ได้น้อย ต้องให้ท่านทำเอง คนที่ไม่เชื่อเรื่องบุญ บาป ไม่เชื่อเรื่องนรก สวรรค์ แต่เชื่อว่าชาติหน้าไม่มี ตายแล้วสูญ พวกนี้พอบาปตามมาทัน ก่อนตายก็ต้องได้รับทุกข์ทรมานมากกันทุกคน         ในฐานะที่เราเป็นลูก ก็ควรเฝ้าดูแลอยู่ใกล้ๆ ได้โอกาสก็ชวนท่านคุยเรื่องธรรมะบ้าง นำดอกไม้ธูปเทียนมาให้ท่านบูชาพระตอนเช้า ตอนเย็น และก่อนนอน แรกๆ ท่านอาจจะไม่ยอมทำตาม แต่เราก็ต้องค่อยๆ พูดให้ท่านเข้าใจเรื่องบุญบาป บอกให้พ่อไหว้พระและสวดมนต์ทุกวันๆ เท่าที่จะทำได้         ถ้าลุกไม่ขึ้นก็ให้นอนสวดบนที่นอนนั้นแหละ เมื่อก่อนตอนสบายดีอาจจะไม่เชื่อ แต่พอเจ็บหนักใกล้ตายเข้า ลูกบอกให้ขอให้พระช่วยอาจจะยอมเชื่อ หรืออาจจะเตรียมหาข้าวปลาอาหาร ผลไม้ ดอกไม้ไว้ให้ท่านใส่บาตร ถ้าเรานิมนต์พระมารับถึงห้องได้เลยก็ดี แต่ถ้าพระมาไม่ได้หรือแถวนั้นไม่มีพระ เราก็ไปตักบาตรแทนท่าน แล้วกลับมาเล่าให้ท่านฟังว่า ได้ไปทำบุญทำทานมาให้ท่านอย่างนี้ๆ         ถ้าท่านยังพอมีบุญอยู่บ้างก็จะคล้อยตาม อาการป่วยที่ทุรนทุรายก็จะลดลง หากท่านไม่ยอมสักอย่าง ก็จนปัญญา ก็ขอไปทดแทนคุณกันชาติหน้าก็แล้วกัน …

บิดาป่วยหนัก แต่ท่านไม่เชื่อเรื่องบุญบาป จะช่วยได้อย่างไร ทำบุญให้ตอนมีชีวิต ท่านจะได้บุญไหม Read More »

พ่อแม่ควรปลีกเวลาอยู่กับลูกตอนไหนอย่างไรครับ?

คำถาม: พ่อแม่ควรปลีกเวลาอยู่กับลูกตอนไหนอย่างไรครับ? คำตอบ: พ่อแม่ ควรจะทราบก่อนว่าธรรมชาติของเด็กที่เด่นๆ มี 2 ประการ คือ         ประการแรก เด็กเป็นเสมือนผ้าขาวสะอาด เด็กต้องการตัวอย่างหรือต้นแบบในการคิด การพูดและการกระทำ สิ่งใดมาถึงก่อนเด็กจะรับสิ่งนั้นไว้เป็นแบบอย่าง ดังนั้นถ้าเด็กได้รับแต่สิ่งที่ดีก่อน ก็ก็จะมีโอกาสทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป และมีฐานกำลังความดีไว้ต่อต้านความชั่วที่เข้ามาภายหลัง ทำให้เอาตัวรอดได้ง่าย         ประการที่สอง เมื่อเด็กทำอะไรผิด ในระยะ 2-3 ครั้งแรก เด็กจะมีพิรุธให้เห็นได้ชัด ทำให้เราหาทางแก้ไขได้ทันท่วงที ถ้าผู้ใหญ่ไม่รู้ หรือปล่อยปละละเลย เด็กก็จะเกิดความเคยชิน ทำผิดเป็นนิสัย โดยไม่มีพิรุธให้ผู้ใหญ่จับได้ ทำให้เสียนิสัยที่ดีงามไปในที่สุด         ในการอบรมเด็ก ผู้ใหญ่จึงควรจะต้องทำในสิ่งต่อไปนี้ คือ         1. พยายามหาโอกาสอยู่ใกล้ชิดเด็กให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เช่น ทุกๆ วัน ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะมีงานยุ่งอย่างไรก็ตาม ต้องหาเวลามารับประทานอาหารร่วมกับลูกทุกคนอย่างน้อย 1 มื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมื้อเย็น เพื่อว่าถ้าลูกทำอะไรถูกต้องดีงาม ก็จะได้ชมเชย ให้เกิดกำลังใจ ถ้าลูกทำผิดพลาด จะได้ว่ากล่าวตักเตือนแนะนำสั่งสอน หรือถ้าผิดร้ายแรง ก็ลงโทษกันได้อย่างทันทีทันควัน และที่สำคัญก็คือ จะได้มีโอกาสอบรมคุณธรรมให้ลูก …

พ่อแม่ควรปลีกเวลาอยู่กับลูกตอนไหนอย่างไรครับ? Read More »

ปัญหาสามีเจ้าชู้จะแก้อย่างไร

คำถาม: หญิงที่สามีเจ้าชู้จะแก้ปัญหาอย่างไรคะ? คำตอบ: สามีเจ้าชู้หรือคนเจ้าชู้ มีเหตุ 2 ประการ คือ     1. เจ้าชู้เพราะแม่บ้านบกพร่องต่อหน้าที่ สำหรับกรณีนี้เป็นเรื่องที่แม่บ้านต้องแก้ไขตัวเอง โดยพยายามค้นหาข้อบกพร่องของตัวเองให้พบ แล้วก็ต้องยอมรับว่าตนเป็นอย่างนั้นด้วย ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างยาก         การค้นหาข้อบกพร่องของตนเองมีความจำเป็นที่จะต้องทำใจให้สงบเสียก่อน ซึ่งไม่มีวิธีไหนดีเกินกว่าการนั่งสมาธิ(Meditation)เป็นประจำทุกคืน เพราะคนเรานั้นเมื่อเวลาลืมตามักเห็นแต่ข้อบกพร่องของคนอื่น ความผิดของคนอื่นแม้เล็กน้อยก็มองว่าใหญ่โตร้ายแรง ส่วนความผิดของตัวเองแม้ร้ายแรงใหญ่โตกว่าภูเขาก็ยังมองไม่เห็น แต่เมื่อหลับตานั่งสมาธิไม่เห็นใครอื่น กลับเห็นตัวเองในมโนภาพ ความบกพร่องของตัวเองก็จะค่อยๆ ลอยเด่นขึ้นมาให้เห็น ยิ่งใจสงบเท่าไร ก็ยิ่งเห็นข้อบกพร่องมากขึ้นเท่านั้น         คนเราขอให้เห็นความผิดพลาดบกพร่องของตัวเองเถิด หนทางแก้ไขจะมีมาเอง แต่มีข้อเตือนใจอยู่อย่างหนึ่งสำหรับท่านที่มีสามี คือ ห้ามไปหาหมอทำเสน่ห์เด็ดขาด และอย่าทำอะไรรุนแรงเป็นการประชดประชัน เพราะนั่นมิใช่เป็นการแก้ปัญหา แต่จะยิ่งเป็นการเพิ่มปัญหาไม่รู้จบ         นอกจากนี้ ยังมีอีกวิธีหนึ่งเป็นวิธีประกอบ คือให้ปรึกษาผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาเป็นคนดีมีศีลธรรม และมีความสำเร็จในการครองเรือน ซึ่งอาจจะไม่ใช่พ่อแม่ หรือญาติของเราก็ได้     2. เจ้าชู้โดยนิสัย สำหรับกรณีนี้แก้ยากสักหน่อย ก็ต้องทนเอาก็แล้วกัน นึกว่าเป็นกรรมของเราที่ดูคนไม่เป็น ไปเลือกคนอย่างนี้มาเป็นสามี ก็ให้เราตั้งใจทำหน้าที่ภรรยา หน้าที่แม่บ้านให้ดี ไม่ให้บกพร่อง ทำบ้านให้เย็น คือไม่เอาเรื่องร้อนหูร้อนใจเข้าบ้าน ไม่ด่าว่าให้สามีอับอายแค้นเคืองใจ         ถ้ามีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้น ก็แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าเป็นเรื่องๆ …

ปัญหาสามีเจ้าชู้จะแก้อย่างไร Read More »

พ่อแม่ควรจะมีหลักเกณฑ์การวางบทบาทของตัวเอง ให้เหมาะสมในการปกครองลูกได้อย่างไร?

คำถาม: พ่อแม่ควรจะมีหลักเกณฑ์การวางบทบาทของตัวเอง ให้เหมาะสมในการปกครองลูกได้อย่างไร? คำตอบ: พ่อแม่ที่ดีต้องเข้าใจสภาวะจิตใจของลูก รู้ว่าความรู้สึกนึกคิดของลูกจะเปลี่ยนแปลงตามวัยและสิ่งแวดล้อม เมื่อลูกยังเล็กอยู่ พ่อแม่จะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ครั้นโตขึ้นเพื่อนจะเข้ามามีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิด พอลูกเข้าสู่วัยหนุ่มวัยสาว ความสำคัญของพ่อแม่จะลดลง และเมื่อลูกเป็นผู้ใหญ่ ลูกจะเป็นตัวของตัวเอง ต้องการความอิสระมาก ต้องการเหตุผลมากขึ้น ดังนั้นพ่อแม่จำเป็นจะต้องปรับตัวเองให้เท่าทันความรู้สึกนึกคิดของลูก         การเป็นพ่อแม่ที่ดี นอกจากจะต้องทำหน้าที่ของพ่อแม่ที่ดีให้ครบถ้วนแล้ว ยังต้องเล่นบทบาทต่อไปนี้ให้ได้ดีอีกด้วย คือ     1. บทบาทของความเป็นครู พ่อแม่ต้องอบรมสั่งสอนลูกชี้แจงให้ลูกรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก อะไรควร และอะไรไม่ควร ถ้าลูกยังเล็กนัก สอนกันด้วยเหตุผลยังไม่ได้ พ่อแม่ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกดูเป็นแบบอย่าง การอบรมสั่งสอนจะต้องนุ่มนวล ค่อยพูดจาปราศรัย ไม่เอาแต่อารมณ์ การสั่งสอนด้วยไม้เรียว ควรเก็บไว้ใช้ในคราวที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น ต้องปลูกฝังนิสัยรักความสะอาดให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก ฝึกให้รู้จักดูแลความสะอาดของตัวเอง ตั้งแต่เรื่องเสื้อผ้า การอาบน้ำถูตัว แม้ที่สุดเรื่องนิสัยในการกินอาหาร อย่าปล่อยปละละเลย อย่าคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อย พ่อแม่ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกดูเป็นแบบอย่าง พ่อแม่ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกดูเป็นแบบอย่าง         เนื่องจากพ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก ใกล้ชิดลูกตั้งแต่แรกเกิด การระมัดระวังปลูกฝังสิ่งที่ถูกต้องดีงามให้เป็นพื้นฐานความประพฤติของลูกก่อน เมื่อโตขึ้นจะทำให้เขาสามารถรองรับความดีมาใส่ตัวได้เร็ว และมักรังเกียจความไม่เข้าท่าเข้าทางต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาได้เองโดยอัตโนมัติ     2. บทบาทเทวดา พ่อแม่ต้องมีพื้นฐานทางธรรมที่ดี จึงจะเล่นบทนี้ได้ เพราะต้องฝึกลูกให้รู้จักรักบุญกลัวบาป …

พ่อแม่ควรจะมีหลักเกณฑ์การวางบทบาทของตัวเอง ให้เหมาะสมในการปกครองลูกได้อย่างไร? Read More »

ทำอย่างไรให้เมืองไทยสะอาด

คำถาม: ทำอย่างไร เมืองไทยจึงจะสะอาดครับ? คำตอบ: ความสะอาดความเป็นระเบียบ จะต้องเริ่มต้นทำกันที่บ้าน ฝึกกันตั้งแต่เล็ก พ่อแม่ต้องฝึกฝนอบรมลูกให้เป็นคนรักความสะอาด รักความเป็นระเบียบและมีวินัย ทั้งนี้พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกดูด้วย พ่อแม่ต้องฝึกลูกให้รักความสะอาดของตัวเองก่อน จนเป็นนิสัย         เริ่มตั้งแต่การอาบน้ำแปรงฟัน ฝึกลูกไว้ตั้งแต่ยังเล็ก จากนั้นฝึกให้ลูกรู้จักทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาด เช็ดถูบ้านเรือน เห็นอะไรรกหูรกตา ต้องให้รีบเก็บกวาดให้เป็นระเบียบ ทุกบ้านทุกครอบครัวต้องปลูกฝังนิสัยรักความสะอาด รักความเป็นระเบียบให้กับเด็กในบ้านทุกคน แม้ที่สุดของเล่น เมื่อเลิกเล่นแล้วต้องสอนให้รู้จักเก็บเข้าที่เข้าทาง         พ่อแม่ต้องฝึกฝนทั้งตัวเองและฝึกฝนอบรมลูก ให้คุณธรรมข้อนี้ฝังอยู่ในใจให้ดี เมื่อทุกๆ บ้านต่างมีคุณธรรมประจำใจ ก็จะส่งผลไปถึงสังคม บ้านเมืองไทยก็จะสะอาดเป็นระเบียบไปเอง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา