หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

ทำบุญแล้วไม่เห็นบุญจะส่งผลเลย มีสามีก็ขี้เหล้า มีลูกก็สอนยาก

คำถาม: หลวงพ่อคะ ดิฉันมาวัดเป็นประจำ อีกทั้งยังทำบุญให้ทานอยู่เสมอ แต่ความดีและผลบุญไม่เห็นส่งผลเลย มีสามีก็ขี้เหล้า มีลูกก็สอนยาก ที่เป็นอย่างนี้เพราะอะไรคะ? คำตอบ: ถ้าตอบตามประสาพระ แล้วก็พูดตรงๆ ไม่เอาความไพเราะ ก็ต้องบอกว่าเพราะเรามันผิดเองพลาดเองตั้งแต่ว่า พระท่านสอนนักสอนหนาว่าอยู่คนเดียวไปเถอะจะสบาย ก็ไม่เชื่อ ดื้อไปมีสามีจนได้ ตอนจะมีก็ดูคนไม่เป็น ไปเลือกเอาคนขี้เหล้ามา มันก็ผิดซ้ำสองอย่างนี้แหละ         ถามว่าทำไมมีลูกสอนยาก? ตอบว่า ก็ไปคว้าเอาคนอย่างนั้นมาเป็นพ่อของลูก แล้วจะได้ลูกฉลาดมาจากไหน พ่อมันดื้อๆ ด้านๆ ใครห้ามก็ไม่ฟัง จนเป็นขี้เมาประจำตำบล แบบนี้ลูกจะไปไหนพ้น ก็ต้องดื้อเหมือนพ่อเหมือนแม่ คนที่ฉลาดหน่อยเมื่อพลาดไปแล้ว เขาจะรีบสอนลูกตั้งแต่ยังเล็กอยู่ ถ้าขนาบไว้ตั้งแต่เริ่มรู้เดียงสา สอนไปขนาบไปเรื่อยๆ ดื้ออย่างไรก็พอเอาอยู่ แต่ถ้าปล่อยให้ดื้อจนโต จะยิ่งสอนยาก         ชีวิตการครองเรือนมันไม่ง่ายนัก ถ้าผิดตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งจบ ชีวิตก็จะเป็นอย่างนี้แหละ คุณผู้ที่ยังโสดจำไว้นะ ผู้ชายไม่เจ้าชู้ ไม่มีหรอก ที่นั่งอยู่นั่นน่ะ เจ้าชู้ทั้งนั้นแหละ ผู้ชายไม่เจ้าชู้ ไม่ขี้เหล้าหายาก เพราะฉะนั้นอยู่คนเดียวไปเถอะ สบายดี         ปัญหาของคุณโยม ถ้าอธิบายตามกฎแห่งกรรมก็ต้องบอกว่า การได้คู่ชีวิตขี้เหล้านั้นเป็นเพราะในอดีตชาติ เราเคยอนุโมทนาบาปเอาไว้ เห็นคนกินเหล้าก็ไม่ห้ามปราม กลับหากับแกล้มเหล้าอร่อยๆ …

ทำบุญแล้วไม่เห็นบุญจะส่งผลเลย มีสามีก็ขี้เหล้า มีลูกก็สอนยาก Read More »

จะบาปหรือไม่ถ้าลูกเกลียดพ่อ

คำถาม: พ่อชอบเอาเปรียบแม่ไม่ห่วงใยลูก เอาแต่ใจตนเอง หวังแต่ความสุขสบายส่วนตัว เวลาตกอับ ก็ปล่อยให้แม่แต่เพียงผู้เดียว ต้องดิ้นรนค้าขายเลี้ยงดูลูก ส่วนตนสุขสบาย อยู่ที่บ้าน เจ้าชู้กับคนรับใช้ในบ้าน ลูกจะบาปหรือไม่ ถ้าลูกเกลียดพ่อ? คำตอบ: พ่อที่ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ ท่านก็มีความผิดเป็นของท่านอยู่แล้ว ยิ่งเอาแต่ความสุขความสบาย ไปเจ้าชู้กับคนรับใช้ในบ้าน นี่ก็ผิดศีลกาเมฯ เข้าไปอีก ท่านบาปเต็มตัวของท่านอยู่แล้ว ส่วนที่ท่านมีเรื่องกับแม่ จะทะเลาะเบาะแว้งอะไรกัน ก็เป็นเรื่องระหว่างท่านกับแม่ของเราเท่านั้น         สำหรับเรา หลวงพ่ออยากจะฝากนะ เวลาเรามองคุณพ่อมองคุณแม่ ขอให้มองอย่างนี้ สัตว์โลกเวลาจะเกิด มีความจำเป็นต้องมีต้นแบบ สมมติก็แล้วกันว่า เรามีก้อนดินเหนียว ถ้าเราได้แบบพิมพ์เป็นรูปถ้วย เอาก้อนดินเหนียวอัดเข้าไปในแบบพิมพ์ เราก็ได้ถ้วยมาใช้ ถ้าได้แบบพิมพ์เป็นชาม เราก็ได้ชามมาใช้ มีแบบพิมพ์เป็นตุ๊กตา เอาดินอัดเข้าไปในแบบพิมพ์ตุ๊กตา เราก็ได้ตุ๊กตาไว้ดูเล่น ถ้าเราได้แบบพิมพ์ที่เป็นพระพุทธรูป เอาดินเหนียวอัดเข้าไปในแบบพิมพ์พระพุทธรูปเราก็ได้พระพุทธรูปมากราบไหว้บูชา ดินเหนียวก้อนเดียวกัน เมื่อได้แบบพิมพ์ไม่เหมือนกัน ดินก้อนนั้นก็มีค่าไม่เท่ากัน ถ้าไม่มีแบบเลย ดินก้อนนั้นก็เป็นแค่ดินเละๆ ยิ่งไม่มีค่าอะไรเลย         คนเราจะมาเกิดก็ต้องมีต้นแบบ ถ้าได้ต้นแบบพ่อแม่เป็นวัวเป็นควาย ลูกมาเกิดก็ต้องเป็นวัวเป็นควาย ถ้าต้นแบบพ่อแม่เป็นลิง ลูกก็เป็นลิง ถ้าต้นแบบเป็นคน ลูกก็เป็นคน ถามตัวเองก็แล้วกันว่า …

จะบาปหรือไม่ถ้าลูกเกลียดพ่อ Read More »

พ่อแม่เข้าข้างลูกเมื่อลูกทำผิด จะมีผลเสียมากน้อยเพียงใด?

คำถาม: พ่อแม่เข้าข้างลูกเมื่อลูกทำผิด จะมีผลเสียมากน้อยเพียงใด? คำตอบ: พ่อแม่ที่เข้าข้างลูกเมื่อลูกทำผิด ได้ชื่อว่าเป็นผู้สร้างความหายนะให้แก่ลูกอย่างที่สุด โดยทั่วไปแล้วคนเราจะดำเนินชีวิตตามความเห็นของตนเอง ความสำเร็จหรือความผิดพลาดของชีวิต ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเห็น ผู้ที่จะดำเนินชีวิตได้อย่างดีที่สุด ต้องมีความเห็นที่ถูกต้อง ลูกจะดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง พ่อแม่ต้องสอนลูกให้ซาบซึ้งแก่ใจว่า ลูกทำดี ลูกจะได้รับผลดีตอบแทนเสมอ แต่ถ้าลูกทำชั่ว ลูกจะต้องเป็นผู้รับผลของความชั่วนั้นอย่างไม่มีวันหลีกเลี่ยงได้         เมื่อลูกทำผิดหรือทำชั่ว ถ้าพ่อแม่เข้าข้างลูกเสียแล้ว ก็ขอให้รู้เถอะว่า พ่อแม่เองนั่นแหละ คือผู้สร้างความหลงเข้าใจผิดให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก ปูทางชีวิตที่ผิดให้ จนกระทั่งลูกหลงผิดคิดไปว่า “ทำชั่วได้ดีมีถมไป ทำดีได้ดีมีที่ไหน” ลูกย่อมมุ่งแต่จะทำชั่วเรื่อยไป ชาตินี้ทั้งชาติไม่มีวันได้สร้างความดี ชีวิตของลูกจะมีแต่ความผิดพลาด สร้างแต่ความเดือดร้อนให้เกิดขึ้น เพราะความเห็นผิดที่พ่อแม่ปลูกฝังไว้ให้ตั้งแต่เล็ก         ครั้นเมื่อตายลง ทุคติ คือนรกก็จะเป็นที่ไป ถามว่าใครล่ะ ที่เป็นผู้ชี้ทางนรกให้ลูก? ดังนั้น พ่อแม่ทั้งหลายต้องตระหนักถึงโทษของการเข้าข้างลูก เมื่อลูกทำผิด อย่าคิดว่ารักลูกแล้วต้องตามใจลูกตลอดเวลา จนไม่คำนึงถึงโทษที่จะเกิดขึ้น ถ้าลูกทำผิดพ่อแม่ต้องว่ากล่าวตักเตือน ถ้าไม่เชื่อฟังก็ต้องลงโทษ อย่าให้ท้ายลูก ยอมให้ลูกเจ็บเสียแต่ตอนนี้ ดีกว่าให้ชีวิตของลูกเจ็บปวดเดือดร้อนไปตลอดชีวิต ลูกบางคนอาจได้รับความเจ็บปวด เดือดร้อนข้ามภพข้ามชาติไปทีเดียวนะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง …

พ่อแม่เข้าข้างลูกเมื่อลูกทำผิด จะมีผลเสียมากน้อยเพียงใด? Read More »

คุณพ่อกินเหล้าเมาอาละวาดทุกวันจะมีวิธีให้ท่านเลิกเหล้าได้อย่างไร

คำถาม: คุณพ่อผมกินเหล้าเมาอาละวาดทุกวัน จะมีวิธีให้ท่านเลิกเหล้าอย่างไรดีครับ? คำตอบ: ถ้าเป็นคนอื่นยังพูดง่าย เป็นพ่อนี่พูดยากที่สุด พอเอ่ยปากพูดไม่ทันจบ ก็ถูกห้ามเสียแล้ว “อย่าพูดๆ ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย” หลวงพ่อเคยโดนห้ามทำนองนี้มาแล้ว ขนาดบวชแล้วเทศน์ให้คนอื่นเลิกเหล้าเลิกบุหรี่มาได้มากมาย กลับบ้านไปเทศน์ให้โยมพ่อเลิกเหล้า พูดเรื่องนี้ทีไร โดนคำพูดแบบศอกกลับมาทุกที         “โยมพ่อ..เลิกเหล้าเถอะนะสุขภาพจะได้ดีขึ้น เอาเวลาไปนั่งสมาธิดีกว่า” ตอนนั้นโยมพ่ออายุ 70 กว่าปีแล้ว ก็ตั้งใจจะให้ท่านสวดมนต์ภาวนานั่งสมาธิ กำหนดองค์พระ หรือดวงแก้วให้ใจผ่องใส พอเทศน์จบท่านตอบกลับมาอย่างนี้ “ดีเหมือนกันนะท่าน โยมจะนั่งสมาธิตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่นั่งไปกินเหล้าไป พร้อมๆ กับนั่งสมาธิ เวลานึกถึงดวงแก้วมันคงจะชัดดี”         ท่านพูดมาอย่างนั้นแล้วเราจะไปว่าอย่างไร พูดแรงไป เดี๋ยวแบกบาปอีกเพราะว่าเป็นพ่อ ครั้นไม่เตือนเลย เราก็จะไม่ได้แทนคุณท่าน กระอึกกระอักอยู่หลายปีกว่าจะแก้ตก หลวงพ่อต้องใช้กุศโลบายแก้เป็นเปลาะๆ ไป เริ่มตั้งแต่บอกโยมแม่ว่าอย่าซื้อเหล้าให้โยมพ่อกิน เมื่อท่านเคี่ยวเข็ญโยมแม่ไม่ได้ ก็หันไปทางพี่สาว หลวงพ่อก็บอกโยมพี่อีกว่า อย่าซื้อเหล้าให้โยมพ่อกินนะ พอใช้ลูกไม่ได้ ท่านก็ไปใช้หลาน         หลวงพ่อก็ต้องกำชับหลานว่าอย่าซื้อเหล้าให้ตานะ พอหลานไม่ซื้อท่านก็บ่น บ่นยังไม่พอ ด่าอีกด้วย หลวงพ่อก็บอกหลานให้ทนๆ เอา ให้เห็นแก่หลวงน้า ท่านไปเคี่ยวเข็ญแม้กระทั่งเหลนอายุ 7-8 …

คุณพ่อกินเหล้าเมาอาละวาดทุกวันจะมีวิธีให้ท่านเลิกเหล้าได้อย่างไร Read More »

ธรรมะข้อโสรัจจะนี้สามารถช่วยปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้หรือไม่

คำถาม: ลูกรู้ตัวว่าลูกไม่มีโสรัจจะ คือเวลาปรนนิบัติคุณแม่ที่ป่วยนานๆ จิตใจมักเศร้าหมอง เบื่อด้วย รำคาญด้วย เพราะคุณแม่ทั้งบ่นทั้งจู้จี้สารพัดเลย แต่เนื่องจากปฏิบัติต่อท่านอย่างดีตลอดเวลา ท่านคงไม่รู้หรอกว่า ในใจลูกนั้นเบื่อ แสนจะเบื่อ ลูกจะเอาธรรมะข้อโสรัจจะนี้ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นจะได้ไหม หรือว่าหลวงพ่อมีข้อแนะนำอะไรอีกบ้างคะ? คำตอบ: โสรัจจะ แปลว่า “ความเสงี่ยม” การปรนนิบัติดูแลคุณพ่อคุณแม่เวลาท่านเจ็บป่วยด้วยความเสงี่ยมงามนี้ได้บุญติดตัวมากนะ พ่อแม่ได้ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ของลูก เราดูแลท่านก็เหมือนดูแลพระอรหันต์นั่นแหละ ถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณท่านอย่างหนึ่ง นอกจากนั้นระหว่างดูแลท่าน จะทำให้เราได้ข้อคิดมากมาย         เพราะฉะนั้นเบื่อแสนเบื่อก็ควรทำ ระหว่างนั้น ควรจะตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งที่ไม่ดีของท่านคือข้อเตือนใจของเรา ยกตัวอย่างเช่น ท่านจู้จี้ขี้บ่น เราอย่ามองท่านว่าจู้จี้ขี้บ่น ถ้ามองอย่างนั้นไม่ได้อะไร เราควรมองว่าท่านเคยทำผิดศีลข้อไหน หรือท่านขาดคุณธรรมข้อไหน จึงได้มาจู้จี้ขี้บ่นอย่างนี้ สาวให้รู้ต้นเหตุให้ได้         ถามว่ารู้แล้วจะได้อะไร? ได้มากเลย ได้ข้อเตือนใจตัวเองว่าเราจะไม่ทำอย่างนั้น ถ้าไม่หัดสังเกต และป้องกันตัวไว้ก่อน พอเราอายุมากเหมือนคุณแม่ เราก็จะจู้จี้ขี้บ่นเหมือนกับท่านอีกคน         นับแต่นี้ไปให้ปรับปรุงแง่คิดมุมมองของเราเสียใหม่ เห็นความไม่น่ารักของท่านข้อไหนบ้างให้จดเอาไว้ แล้วมาถามหลวงพ่อ ถ้าสาวไม่ออกว่า ท่านก่อกรรมทำเข็ญเรื่องอะไร หลวงพ่อจะชี้ให้ดูเป็นฉากๆ ไป ถ้าเข้าใจกันอย่างนี้แล้ว เราจะได้ป้องกันตัวเองถูกต้องตั้งแต่ตอนยังไม่แก่ว่า ความไม่ดีอย่างนั้นๆ เราจะไม่ทำ เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ได้รับหน้าที่พยาบาลคุณพ่อคุณแม่ ขอให้คิดอย่างนี้ …

ธรรมะข้อโสรัจจะนี้สามารถช่วยปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้หรือไม่ Read More »

หลวงพ่อไม่คิดจะมาสร้างวัดที่กรุงเทพบ้างหรอคะ

คำถาม: บ้านของอิฉันเป็นร้านค้าอยู่แถวถนนเยาวราช หลวงพ่อนึกภาพออกใช่ไหมคะว่ามันยุ่งทั้งวันทั้งคืน อิฉันมาวัดกับหลานชายสองครั้ง เห็นวัดสงบเงียบดีก็ชอบใจ แต่จะมาบ่อยๆ ก็ไม่ได้เพราะไกล หลวงพ่อไม่คิดจะมาสร้างวัดในกรุงเทพฯ บ้างหรือคะ อิฉันมาวัดกับหลานชายสองครั้ง เห็นวัดสงบเงียบดีก็ชอบใจ แต่จะมาบ่อยๆ ก็ไม่ได้เพราะไกล หลวงพ่อไม่คิดจะมาสร้างวัดในกรุงเทพฯ บ้างหรือคะ อิฉันยินดีออกเงินช่วยซื้อที่ดินให้  คำตอบ: ขอบคุณต่อข้อเสนอของคุณโยมจริงๆ แต่อยากให้มาช่วยหลวงพ่อสร้างวัดพระธรรมกายให้เสร็จเร็วๆ เสียก่อนดีกว่า แถวบ้านยุ่งนักคุณโยมเองก็แก่แล้วน่าจะย้ายมาอยู่ข้างๆ วัด จะได้อยู่อย่างสงบ มาวัดสะดวกๆ ทำอย่างนี้ไม่ดีกว่าหรือ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบได้อย่างไร

คำถาม: พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีความรับผิดชอบได้อย่างไร? คำตอบ: ก่อนอื่นพ่อแม่ต้องเป็นคนมีความรับผิดชอบ เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกดู คือเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ไม่ทอดทิ้ง ไม่ปล่อยปละละเลยลูก ทำหน้าที่ของพ่อแม่ที่ดีให้สมบูรณ์ สร้างฐานะของครอบครัวให้มั่นคง และฝึกลูกตั้งแต่ยังเล็ก ให้รู้จักช่วยตัวเอง รู้จักรับผิดชอบในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ต้องสอนให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่จะอยู่กับลูกตลอดไปนั้นเป็นไปไม่ได้ ลูกต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเอง         การฝึกลูกให้เป็นคนมีความรับผิดชอบอาจทำได้ โดยมอบหมายหน้าที่ที่เหมาะสมกับวัยให้ลูกทำ เช่น ให้รับผิดชอบหน้าที่กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างห้องน้ำ ล้างจาน ช่วยงานแม่ในครัว หรือช่วยงานพ่อในสนาม เช่น ช่วยตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ ปลูกต้นไม้ ดูแลความสะอาดบริเวณบ้าน นอกจากรับผิดชอบงานส่วนรวมของบ้านแล้ว งานส่วนตัวก็ต้องสอนให้รับผิดชอบ ไม่ให้เป็นภาระแก่คนอื่น เช่นการดูแลเรื่องเสื้อผ้าของตนเอง เป็นต้น พ่อแม่ต้องฝึกลูกให้เป็นคนตรงต่อเวลา ให้เป็นคนมีระเบียบวินัย ในการกิน การเล่น ดูหนังสือ และนอนให้เป็นเวลา เพื่อลูกจะได้รู้จักบริหารเวลาเป็น ทำงานเป็น นิสัยตรงต่อเวลาจะได้เกิดขึ้นกับลูก         เมื่อมอบหมายหน้าที่ให้ลูกรับผิดชอบแล้ว พ่อแม่ต้องคอยสอดส่องดูแล สอนลูกให้ตระหนักในหน้าที่ของตัวเอง ถ้าลูกปล่อยปละละเลยก็ต้องตักเตือน หรือบางครั้งอาจต้องลงโทษ แต่ถ้าลูกรับผิดชอบในหน้าที่การงานได้ไม่บกพร่องเลย พ่อแม่ก็ควรชมเชยหรือให้รางวัลด้วย เพื่อเป็นกำลังใจในการทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป         นอกจากนั้นยังต้องฝึกลูกให้เป็นคนมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ …

พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบได้อย่างไร Read More »

พ่อแม่เป็นห่วงลูกมากเกินไปหรือไม่

คำถาม: หลวงพ่อครับ ผมและเพื่อนๆ ชอบเล่นสเก็ตน้ำแข็งมาก แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยยอมอนุญาต บอกว่าห่วง ผมไม่เห็นมีอะไรน่าห่วงเลยครับ? คำตอบ: ลูกพูดอย่างนี้ หลวงพ่อขอเป็นตัวแทนของลูก พูดไปถึงคุณพ่อคุณแม่ทางบ้านหน่อยนะ แล้วในเวลาเดียวกัน ก็จะเป็นตัวแทนของคุณพ่อคุณแม่ ตอบคำถามของลูกด้วยว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านห่วงทำไม หลวงพ่อจะทำตัวเป็นกลางที่สุดนะ ขอเป็นตัวแทนคุณพ่อคุณแม่อธิบายให้คุณลูกฟังก่อนว่าทำไมต้องห่วง ทำไมไม่อยากอนุญาตในเรื่องบางเรื่อง สิ่งที่อยากให้คุณลูกได้รับรู้ไว้มี 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ         เรื่องที่หนึ่ง การที่ลูกจะไปเล่นอะไรที่ไหนก็ตาม จะเป็นสเก็ตหรือสกีอะไรอีกก็ตามทีเถอะ การเที่ยวเล่นลักษณะนี้ที่แน่ๆ เลยคือ ค่าใช้จ่ายสูง คุณพ่อคุณแม่ต้องควักกระเป๋าแน่นอน ถ้าอนุญาต ลูกลองคิดดูซิว่ามันคุ้มกันไหม คุณพ่อคุณแม่เหนื่อยแทบตายกว่าจะหาเงินมาได้เป็นกอบเป็นกำ เสร็จแล้วเงินนั่นกลับกลายเป็นค่าความสนุกของเราไป เดี๋ยวนี้เงินทองก็ไม่ใช่หาง่ายๆ มันหายากนะ หรือแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณหนูจะมีฐานะดี เงินทองหาง่าย แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ขอให้ลูกๆ วัยรุ่นทั้งหลายมองเรื่องนี้ให้กว้างๆ จะได้เข้าใจหัวอกคุณแม่คุณพ่อว่าเป็นธรรมดาที่ท่านต้องคิดว่าท่านต้องแก่ ต้องตายจากลูกไปแน่ๆ จะช้าจะเร็วไม่รู้ อะไรที่จะเป็นสมบัติทิ้งไว้ให้ลูกทุกคนได้ ท่านก็ยินดีจะเก็บสมบัตินั้นไว้มากกว่าที่จะปล่อยให้มันละลายไป เพราะตามใจลูกเรื่องเที่ยว เรื่องเล่น         คุณหนูอาจจะแย้งว่า การเล่นสเก็ตน้ำแข็งเป็นการออกกำลังกาย ข้อนี้หลวงพ่อไม่เถียง แต่ว่าการออกกำลังกายนี่ ยังมีวิธีอื่นอีกตั้งมากที่จะทำให้ได้เรี่ยวแรง แล้วก็ได้สุขภาพพลานามัยดี ไม่น้อยหน้ากว่าเจ้าสเก็ตน้ำแข็งนี้ และวิธีนั้นก็ไม่ต้องใช้เงินอะไรเลย         …

พ่อแม่เป็นห่วงลูกมากเกินไปหรือไม่ Read More »

พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีนิสัยประหยัดได้อย่างไร?

คำถาม: พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีนิสัยประหยัดได้อย่างไร? คำตอบ: ลูกจะมีนิสัยประหยัดได้ พ่อแม่ต้องประหยัดเป็นแบบอย่างให้ลูกดูเสียก่อน การเพาะนิสัยประหยัดให้ลูก ทำได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก คือ         1. ฝึกลูกให้รู้จักคุณค่าของเงิน เมื่อลูกขอเงินต้องซักถามให้ละเอียดก่อนว่า จะเอาเงินนี้ไปทำอะไร มีความจำเป็นแค่ไหนจึงต้องใช้เงิน ถ้าลูกขอโดยไม่มีเหตุผล ก็ไม่ควรให้ ต้องชี้แจงให้ลูกทราบด้วยว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ให้ แม้ลูกจะไม่พอใจก็ต้องทำใจแข็งไว้ อย่าให้เงินลูกเพียงเพื่อตัดความรำคาญ อย่าให้ลูกมีความคิดว่าเงินได้มาอย่างง่ายๆ ต้องสอนให้ลูกรู้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่พ่อแม่หามาได้หมายถึงหยาดเหงื่อแรงกายของพ่อแม่ ลูกจะได้รู้คุณค่าของเงินและใช้เงินอย่างคุ้มค่า         2. ฝึกให้งดเว้นของฟุ่มเฟือย สิ่งใดที่เห็นว่าเป็นของฟุ่มเฟือยไม่จำเป็น พ่อแม่อย่าซื้อหาให้ลูก ถ้าขัดไม่ได้ ก็หาอย่างอื่นที่ราคาไม่แพง แต่ใช้ทดแทนกันได้มาให้ หาวิธีอธิบายให้ลูกรู้ว่าของดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ฝึกให้ลูกรู้จักใช้ของอย่างคุ้มค่า ให้ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ไม่ใช้ทิ้งๆ ขว้างๆ เมื่อของเสียหาย ต้องสอนให้รู้จักซ่อมแซมของนั้นด้วยตัวเอง         3. ฝึกให้ลูกรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สอนลูกให้รู้จักทำของใช้เอง เป็นการเสริมสร้างปัญญาให้ลูก โดยเฉพาะของเล่น ให้ลูกรู้จักประดิษฐ์ขึ้นเอง หรือประกอบจากชิ้นส่วนเอง ลูกจะได้รู้จักช่วยตัวเองเป็น และมีความภาคภูมิใจในความสำเร็จ มีกำลังใจสูงขึ้น นอกจากนั้น ควรฝึกให้ลูกรู้จักวิธีตัดทอนงบประมาณค่าใช้จ่ายของลูกเองเพื่อลูกจะได้รู้จักวิธีอดออม และรู้จักทำงานให้ได้เงินด้วยตัวเอง         4. ฝึกลูกให้รู้จักเก็บออมทรัพย์ หากระป๋องออมสินให้ลูกสำหรับเก็บเงินที่เหลือจากค่าขนม หรือค่าใช้จ่ายประจำ พาลูกหรือสอนลูกให้เอาเงินที่เก็บออมได้ไปฝากเข้าบัญชีในธนาคาร เมื่อลูกได้เงินพิเศษ จากญาติผู้ใหญ่ในวันสำคัญของลูก เช่น วันเกิด …

พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีนิสัยประหยัดได้อย่างไร? Read More »

ตั้งใจทำงานซื่อตรงในอาชีพถือเป็นการสร้างบุญไปด้วยใช่หรือไม่

คำถาม: หลวงพ่อคะ ลูกอยากให้การทำงานที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เป็นทั้งการประกอบอาชีพด้วย และเป็นการสร้างบุญไปด้วยเข้าใจว่าถ้าเราตั้งใจทำงานอย่างซื่อตรงต่ออาชีพของเราแล้ว ก็เท่ากับเป็นการสร้างบุญไปด้วยใช่ไหมคะ? คำตอบ: ไม่แน่ มันอยู่ที่งาน แล้วก็อยู่ที่ใจประกอบกัน มีงานอาชีพ ที่ไม่ชอบธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นการค้าขายที่ผิดศีลธรรม ไม่ควรทำมีอยู่ 5 อย่าง ซึ่งทำแล้วเป็นการก่อเวร ไม่มีทางเป็นบุญได้ คือ         1. ค้าอาวุธ         2. ค้ามนุษย์         3. ค้าสัตว์สำหรับฆ่าเป็นอาหาร         4. ค้าของเมาสิ่งเสพติด         5. ค้ายาพิษ         ส่วนงานอาชีพต่างๆ ที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ บางงานก็เป็นบุญ บางงานก็ไม่เป็น ไปเทียบดูเอานะ จะยกตัวอย่างให้ดูเกี่ยวกับงานของคนรับจ้างทำงานในวัด เช่น งานปลูกต้นไม้ ซึ่งเป็นงานกลางๆ  ไม่บุญไม่บาป แต่เนื่องจากคนปลูกมีระดับจิตใจต่างกัน ทำให้ได้ผลต่างกันเป็นระดับๆ ไป         เรื่องนี้คุณยายอาจารย์ของหลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า วันหนึ่งคุณยายเดินตรวจบริเวณวัด เห็นคนงานกำลังปลูกต้นไม้กันอยู่ ก็แวะเข้าไปดูแล้วได้ถามคนงานในกลุ่มนั้นว่า         “เวลาปลูกต้นไม้คิดอย่างไร” คนหนึ่งวัยรุ่นหน่อย ก็ตอบว่า “คิดว่าอย่าตายนะเดี๋ยวต้องปลูกใหม่ หลวงพ่อจะเอ็ดเอา”         อีกคนหนึ่งตอบว่า “ขอให้โตเร็วๆ …

ตั้งใจทำงานซื่อตรงในอาชีพถือเป็นการสร้างบุญไปด้วยใช่หรือไม่ Read More »

สิ่งปลูกสร้างหลังแรกของวัดพระธรรมกายได้แก่อะไร?

คำถาม: สิ่งปลูกสร้างหลังแรกของวัดพระธรรมกายได้แก่อะไร? (พระเรียนถามมา) คำตอบ: สิ่งแรกที่จำเป็นต้องใช้ ต้องก่อสร้างก่อน คือ สำนักงาน เมื่อแรกเริ่มที่มีเพียงที่ดินโล่งๆ เราก็ทำเป็นกระต๊อบให้พออยู่อาศัยกันไปเพิ่งมาเป็นเป็นรูปเป็นร่างอย่างขณะนี้ในระยะหลัง ระยะแรกเป็นกระต๊อบออฟฟิศ พอผุๆ พังๆ แล้วก็รื้อไป พวกเราที่มาภายหลังเลยไม่ได้เห็นกันนะ         ตอบเรื่องนี้แล้ว ก็มีข้อแนะนำอีกเรื่องหนึ่ง เผื่อจะเป็นประโยชน์ คือตามวัดต่างๆ มีสิ่งที่ฆ่าตัวเองอยู่ลักษณะหนึ่ง คือเวลาก่อสร้างมักจะก่อสร้างบริเวณข้างหน้าที่ติดถนน ติดคลองก่อน สมมติสร้างศาลาไว้หลังหนึ่ง พอต่อมามีความจำเป็นจะต้องสร้างสิ่งก่อสร้างหลังที่ 2 จะเป็นโบสถ์หรือเป็นอะไรก็ตาม ท่านคิดว่าโยมที่เป็นเจ้าภาพเขาอยากจะให้สร้างข้างหน้า หรือข้างหลังของเดิม         ตอบว่าข้างหน้า เมื่อสร้างข้างหน้า จะสร้างตรงไหนก็ตาม อย่างมากก็ 2-3 หลังเท่านั้นก็เต็มหมด ข้างหลังที่ว่างอีกมาก ก็ใช้ไม่ได้ เริ่มต้นสร้างอย่างนี้เรียกว่าฆ่าตัวตาย ไม่ควรทำ วัดพระธรรมกายของเราเมื่อเริ่มสร้าง เราสร้างสำนักงานเข้ามาในช่วงกลางของที่ดินทั้งผืน จากนั้นที่ข้างหน้าก็สร้างศาลาสำหรับฟังธรรม และใช้เป็นที่สร้างโบสถ์ สร้างเสร็จแล้วเรายังมีที่ในบริเวณข้างหน้าเหลืออีกมากมายเลย จนกระทั่งมาทำลานจอดรถ มาทำสระน้ำ มาทำอะไรอีกตั้งหลายอย่าง         เพราะฉะนั้นอย่าสร้างอะไรเป็นกระจุกอยู่ข้างหน้า ควรจะเริ่มบริเวณกลางๆ พื้นที่ก่อน ยอมเดินไกลสักหน่อย จากนั้นก็แบ่งส่วนที่เป็นกุฏิก็ให้ไปอยู่ข้างหลัง ส่วนที่เป็นอาคารธรรมาวาส พุทธาวาสก็ขึ้นไปข้างหน้า วางผังอย่างนี้แล้วจะสะดวกหลายอย่าง …

สิ่งปลูกสร้างหลังแรกของวัดพระธรรมกายได้แก่อะไร? Read More »

ข้างบ้านทะเลาะกันเสียงดังทุกวันจะแก้ไขอย่างไรดี

คำถาม: ข้างบ้านทะเลาะกันเสียงดังทุกวัน จะแก้ไขอย่างไรดีคะ? คำตอบ: การแก้ไขผ่อนปรนสถานการณ์อย่างนี้มีเรื่องที่อาจจะทำได้อยู่ 2 ประการ คือ         ประการแรก ย้ายบ้านหนี ถ้ากำลังวังชาของเรายังไม่พอ ก็ต้องทนกันไป แต่ถ้ากำลังวังชาพอ ก็ควรปรับปรุงที่อยู่เสียใหม่ให้เหมาะสม อย่างกรณีที่ข้างบ้านทะเลาะกันทุกวันอย่างนี้ ย้ายบ้านหนีได้ก็ย้าย ถ้าย้ายไม่ได้ก็ทนกันไป ไปทำอะไรเขาไม่ได้หรอก พูดมากไปเดี๋ยวเจ็บตัว มันไม่คุ้มหรอกนะ         ประการที่สอง เอาความดีเข้าสู้ ถ้าเราเด็กกว่าเขา อย่างดีก็ทำตัวให้น่ารัก เขาอาจจะเกรงใจเราขึ้นมาบ้าง โดยไม่กล้าทะเลาะเสียงดัง แต่ถ้าเราเป็นผู้ใหญ่ มีอาชีพ มีงานการเป็นหลักเป็นฐาน เป็นที่เคารพนับถือของคนในหมู่บ้าน กรณีของบ้านนี้จะต้องหาทางพูดคุยกันให้รู้เรื่อง แต่ว่าก่อนจะพูดจะคุยกับเขาให้รู้เรื่องนั้น เราจะต้องทำตัวของเราเองให้เป็นทั้งที่รัก และที่เกรงใจให้ได้เสียก่อน มิฉะนั้นก็ยากที่จะไปพูดอะไรได้ ต่อเมื่อทำให้มีความน่ารักน่าเกรงอยู่ในตัวแล้วค่อยไปคุยกับเขา คนเราจะน่ารักได้ต้องทำอย่างไรบ้าง?         คนจะน่ารักได้ต้องเป็นนักให้ ส่วนจะให้อะไรบ้างก็แล้วแต่กรณีๆ ไป เช่น อาจจะมีกำลังทรัพย์ มีข้าวของพอแบ่งปันพอให้กันได้ก็ปันก็ให้กันไป เขาก็จะเกรงใจเราเอง เพราะแม้เราเองพอใครเขาให้ของเราก็เกรงใจเขาเหมือนกัน หรือมีกำลังกาย พอจะให้ความช่วยเหลือในกิจอันควร ช่วยได้ก็ช่วยกันไป แม้ที่สุดถ้าเราไม่รู้จะให้อะไร ก็ให้กำลังใจ คือให้คำพูดเพราะๆ พูดอะไรก็พูดกันดีๆ หรือให้รอยยิ้ม คือ …

ข้างบ้านทะเลาะกันเสียงดังทุกวันจะแก้ไขอย่างไรดี Read More »

กฎแห่งกรรมนั้นเข้าใจยากจริงหรือ

คำถาม: การที่เชื่อในกฎแห่งกรรม บางครั้งเข้าใจยาก หรือไม่ยากเชื่อเลย เช่น คนๆ หนึ่งเกิดในตระกูลดีมีการศึกษาสูงมีคุณธรรม ทำบุญและช่วยเหลือผู้อื่นมาโดยตลอด แต่ชีวิตในด้านการงานตกต่ำเสมอ การปฏิบัติงานดี เป็นที่รักใคร่ของผู้ใต้บังคับบัญชา และผู้อื่นที่เกี่ยวข้องยกเว้นผู้บังคับบัญชาที่มักหาทางกลั่นแกล้งอยู่เสมอจนทนไม่ได้ และเป็นเช่นนี้แห่งแล้วแห่งเล่า เชื่อว่าได้ทำกรรมในอดีตชาติไม่ดี แต่ทำไมมีสิทธิ์มาเกิดในตระกูลดีการศึกษาสูง และมีจิตใจที่ดี? คำตอบ: สำหรับกรณีทำนองนี้ หลวงพ่อเคยพบอยู่คนหนึ่ง  ท่านเป็นผู้หญิงเกิดในตระกูลสูง มีฐานะดี ความประพฤติเรียบร้อยดีมาก เป็นคนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างวัดพระธรรมกายมาตั้งแต่ต้น แต่ชีวิตการทำงานของท่านมีอุปสรรค ถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา เราก็เลยค้นกันว่าอะไรเป็นต้นเหตุทำให้เป็นเช่นนั้น ก็พบว่าในอดีตชาติที่ผ่านมา เป็นผู้หญิงเกิดในตระกูลสูง มีฐานะดี ความประพฤติเรียบร้อยดีมาก เป็นผู้หญิงเกิดในตระกูลสูง มีฐานะดี ความประพฤติเรียบร้อยดีมาก         ท่านเป็นคนให้ความเคารพผู้มีศีลพระสงฆ์ผู้ใหญ่ ฉะนั้นจึงเกิดในตระกูลสูง ส่วนที่ฐานะดี เพราะภพชาติในอดีตทำทานมามาก แต่ว่าเวลาทำงานไม่สู้จะได้ดี ถูกกลั่นแกล้งตลอด เพราะชาติในอดีตไม่ได้ฝึกพรหมวิหาร 4 ชอบลำเอียงเข้าข้างคนของตัวมาตลอดมา ชาตินี้เลยพบกับผู้บังคับบัญชาลำเอียง ต้องถูกกดดัน ถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา เป็นเรื่องที่ต้องทนทำใจยอมรับสภาพ         กรณีทำนองนี้มีคนมาถามหลวงพ่อบ่อยๆ โยมผู้หญิงคนนี้เขาสงสัยแล้วก็น้อยใจมาถามเหมือนกัน ก็เรียกมาเตือนบอกว่าอย่าน้อยใจเลย เพราะชาติก่อนเราเคยลำเอียงกลั่นแกลังเขาไว้ ก็ขอฝากพวกเราด้วย ใครก็ตามที่ขณะนี้ชอบลำเอียงเข้าข้างพรรคพวก เพื่อฝูงหรือคนที่จบจากสถาบันเดียวกันอยู่ ขอให้รีบแก้ไขเสียนะ เดี๋ยวจะเป็นเวรเป็นกรรมติดตัวไป …

กฎแห่งกรรมนั้นเข้าใจยากจริงหรือ Read More »

คำถาม: ผมทำงานธนาคาร ฝ่ายติดตามหนี้สิน ผมไปทวงหนี้ แล้วมีลูกหนี้คนหนึ่งฆ่าตัวตาย

คำถาม: ผมทำงานธนาคาร ฝ่ายติดตามหนี้สิน ผมไปทวงหนี้ แล้วมีลูกหนี้คนหนึ่งฆ่าตัวตาย ผมจะบาปไหมครับที่ไปทวงหนี้แล้วทำให้เขาฆ่าตัวตาย? คำตอบ: คุณไม่ได้ทำให้เขาฆ่าตัวตาย คุณเพียงแต่ไปทำหน้าที่ของคุณคือไปทวงหนี้ เขาต่างหากผิดเองที่จัดการเรื่องการใช้เงินอย่างประมาทไม่รู้จักประมาณในการใช้จ่าย แล้วยังไปฆ่าตัวตายอีก        เพราะฉะนั้นคุณไม่ผิด ไม่บาป เพราะทำไปตามหน้าที่ แต่ถ้าคุณจะเมตตาผ่อนสั้นผ่อนยาวให้เขาสักหน่อย ก็จะเป็นบุญกุศล ที่คุณพอจะทำได้ ต่อไปข้างหน้าถ้าคุณมีเรื่องเดือดร้อนใจ ก็จะมีคนให้ความช่วยเหลือเมตตา ผ่อนสั้นผ่อนยาวให้เหมือนที่คุณเคยทำไว้นะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

คนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีวัดกันที่ตรงไหน

คำถาม: คนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี เขาวัดกันที่ตรงไหนคะ? เป็นคนที่ดื่มเหล้าเข้ากับใครๆ ได้หมด หรือเป็นคนที่สามารถสรวลเสเฮฮากับพรรคพวกเพื่อนฝูงหรือคนทั่วไปได้ ใช่ไหมคะ? คำตอบ: อย่าไปเชื่อนะ ว่าคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี คือคนที่ต้องดื่มเหล้าหรือสามารถสรวลเสเฮฮา เข้ากับใครได้หมด นั่นเป็นได้แค่ตลกบริโภคเท่านั้น         คนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี คือคนที่เมื่อถึงคราวจะทำงานอะไรก็ตาม เพื่อนๆ มักรี่เข้ามาหา มาออกปากว่าอยากจะทำด้วย ประชาชนเชื่อถืออยากเข้ามาปรึกษาหารือด้วย แม้คนนั้นไม่เคยเฮฮากับใครก็ตาม         ความมีมนุษย์สัมพันธ์ดี เขาวัดกันตรงที่ ใครๆ ก็อยากเข้าใกล้ อยากมาร่วมทำความดีด้วย ไม่ใช่วัดกันที่ถึงเวลาสนุกก็สนุกด้วย แล้วก็เฮๆ อยู่ตรงกลางวง แต่เวลาจะทำงาน เวลาตกทุกข์ได้ยาก กลับไม่มีใครเหลียวแล อย่างนี้ถือว่ามนุษย์สัมพันธ์ไม่ดี ขอให้ตีค่าคำว่ามนุษยสัมพันธ์ให้ถูกต้องนะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา