หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

ที่สร้างวัดพระธรรมกายมานี่ มีทุนเท่าไร หาเงินมาได้อย่างไร จึงสร้างวัดได้ใหญ่โตอย่างนี้

คำถาม: ที่สร้างวัดพระธรรมกายมานี่ มีทุนเท่าไร หาเงินมาได้อย่างไร จึงสร้างวัดได้ใหญ่โตอย่างนี้ (พระเรียนถามมา) คำตอบ: เรื่องนี้ถูกถามมามาก คือเมื่อเริ่มสร้างวัด เราเริ่มขุดดินก้อนแรกเมื่อวันมาฆบูชา ปี พ.ศ. 2513 ขณะนั้นเรามีเงินก้นถุงอยู่ 3,200 บาทเท่านั้น แต่เมื่อตอนจะลงมือสร้าง คุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ท่านไม่ได้มองที่เงิน แต่ท่านมองที่คนที่จะมาช่วยกันสร้างวัด         ขอฝากข้อคิดไว้กับพระภิกษุสามเณรและอุบาสกอุบาสิกาด้วยว่า การมองที่เงินของคนบางคนได้ก่อให้เกิดปัญหาน่ารำคาญแก่วัดพระธรรมกายมาก มีคนพูดว่าวัดนี้รวยแล้วบ้าง พูดว่าวัดนี้ได้เงินจากคอมมิวนิสต์ จึงมีทุนสร้างวัดได้ใหญ่โต สาธุชนก็พากันมาวัดมากมายผิดปกติ สงสัยจะส้องสุมผู้คน เป็นเรื่องแปลกนะครับ เมื่อมีอะไรที่มันผิดหูผิดตาเกิดขึ้น หรือผิดความเคยชินสักหน่อย เรื่องเหล่านั้นจะกลายเป็นผิดปกติไปหมด         คุณยายอาจารย์เมื่อจะเริ่มลงมือสร้างวัด ก่อนหน้านั้นท่านคัดคนฝึกคนอย่างเคร่งครัด ฝึกเอาจากผู้ที่มาวัดนั่นแหละ ผมเองก็ไม่รู้ตัวว่าถูกคัด ภายหลังจึงทราบว่าท่านดูจากความตั้งใจในการปฏิบัติธรรม ดูศีลตั้งแต่เป็นฆราวาส ดูความประพฤติต่างๆ ท่านดูของท่านเงียบๆ ท่านดูและคัดมาเรื่อยๆ ว่าพอที่จะเป็นกำลังในการสร้างวัดได้หรือไม่         จากลูกศิษย์ของท่านที่มีมากมาย ท่านคัดเลือกมาเพียง 30 คนเท่านั้น ขณะนั้นที่บวชแล้วมีอยู่องค์เดียว คือ พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาส ผมเองก็ยังไม่ได้บวช         ท่านเรียกพวกเราเข้ามาบอกว่า …

ที่สร้างวัดพระธรรมกายมานี่ มีทุนเท่าไร หาเงินมาได้อย่างไร จึงสร้างวัดได้ใหญ่โตอย่างนี้ Read More »

วิธีการสร้างวัดพระธรรมกายและการบอกบุญต่างๆทำกันอย่างไร

คำถาม: หากไม่เป็นการรบกวน ใคร่ของความกรุณาให้ท่านเล่าถึงวิธีการสร้างวัดพระธรรมกายโดยสังเขป และวิธีการบอกบุญในการสร้างวัดด้วย ทุนในการดำเนินงานในระยะเริ่มแรกมีเท่าไร ได้โดยศรัทธาจากการแสดงธรรมอย่างไร (พระที่เข้าอบรมธุดงค์มาฆบูชา 2529 เรียนถาม) คำตอบ: ทุนเริ่มต้นมีเท่าไหร่ ตอบว่า จำได้ติดหูติดตาติดใจว่ามีอยู่ 3,200 บาท เป็นเงินเริ่มต้น พร้อมกับคณะดำเนินการ ฝ่ายชายก็มีอยู่ 10 กว่าท่าน ฝ่ายหญิงก็อีก 10 กว่าท่าน รวมแล้วไม่ถึง 30 คน แม้เงินจะน้อย แต่ว่าเราใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ยอมให้ตกให้หล่น         ที่สำคัญที่สุดเมื่อรับบริจาคเพิ่มมาแล้ว ก็ทำตามสัญญาที่บอกกับประชาชนโดยเร็วพลัน ไม่เอาไปแช่เย็นไว้ จนกระทั่งเขาสงสัยว่า เอ…เจ้าอาวาสท่านกักเงินเอาไว้ทำไม เมื่อไรจะสร้างสักที สงสัยจะเตรียมเก็บไว้สึกกระมัง เรื่องจะสึกหรือไม่สึก กลายเป็นข้อสงสัยเราเสียแล้ว เพราะฉะนั้นได้เงินมาแล้วจึงต้องรีบทำ แต่เราก็ไม่ทำอย่างมีหนี้ บอกบุญเขามา พอได้ส่วนที่เป็นเสาเป็นหลังคาก็ลงมือสร้าง แต่ว่าเขายังไม่ได้บริจาคให้พอทำพื้น         เพราะฉะนั้นขั้นต้นเราก็เอาดินเอาทรายลงไว้ก่อน สร้างหลังคาแล้วก็ใช้งานไปได้พักหนึ่ง พอมีเงินบริจาคมาอีก ก็เอาหินเกร็ดลงใช้กันได้อีกพักครึ่ง ต่อมาเขาบริจาคพื้นมาบ้างแล้ว แต่ยังได้ไม่ครบ พื้นปูนซีเมนต์แผ่นหนึ่งราคา 10 บาท 80 สตางค์ ถ้าปูเต็มพื้นที่จะต้องใช้งบประมาณเกือบล้านบาท …

วิธีการสร้างวัดพระธรรมกายและการบอกบุญต่างๆทำกันอย่างไร Read More »

ทำอย่างไรจึงจะชวนคนที่ไม่นับถือพระพุทธศาสนาให้หันมานับถือได้

คำถาม: ทำอย่างไรจึงจะชักชวนให้คนที่ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา ให้เขามานับถือคะ? คำตอบ: การที่เราจะชักชวนให้ใครมานับถือพระพุทธศาสนานั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเทศน์เอาไว้ตั้งแต่ตอนที่พระองค์เพิ่งตรัสรู้ใหม่ๆ ในวันเพ็ญเดือน 3 คือวันมาฆบูชา เทศน์บทนั้นก็คือบทที่เราเราเรียกว่า “โอวาทปาฏิโมกข์”         พระองค์ทรงบอกว่า การที่จะไปชักชวนให้ใครมานับถือพระพุทธศาสนาตามอย่างเรานั้น ผู้ไปชวนจะต้องสามารถปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีก่อน เพื่อเอาชนะใจคนที่จะเข้ารับการสอนเสียตั้งแต่ต้นมือ ซึ่งจะทำให้ได้ผลดี และไม่หนักแรงจนเกินไป คำสอนของพระองค์ประกอบด้วยหลัก 6 ประการ คือ         1. อนูปวาโท ไม่ว่าร้ายกันด้วย ต้องไม่สอนศาสนาด้วยวิธีพูดกระทบกระเทียบ โจมตี แดกดัน ค่อนขอด เยาะเย้ย เหยียดหยามผู้อื่น         2. อนูปฆาโต ไม่ทำร้ายกันด้วย ต้องไม่สอนศาสนาโดยวิธีใช้กำลัง ใช้อาวุธ เข้าข่มขู่ บังคับ ทำร้ายหรือรังแก ข่มเหงให้เขาเชื่อ         3. ปาฏิโมกเข จ  สํวโร สำรวมในพระปาฏิโมกข์ด้วย ต้องสำรวมระวังความประพฤติของตนให้ดีงามเหนือกว่าเขา คือมีศีลธรรม มีวินัย มีมารยาท มีวัฒธรรมสูงกว่าเขา เพื่อให้เป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใสศรัทธาตั้งแต่ต้น         4. มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺสมึ เป็นผู้รู้ประมาณในภัตตาหารด้วย ต้องเป็นคนไม่เห็นแก่กิน …

ทำอย่างไรจึงจะชวนคนที่ไม่นับถือพระพุทธศาสนาให้หันมานับถือได้ Read More »

ที่วัดพระธรรมกายทำอย่างไร คนจึงมาที่วัดกันเป็นพันๆ หมื่นๆ และยังมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

คำถาม: ไม่ทราบว่าที่วัดพระธรรมกายทำอย่างไร คนจึงมาที่วัดกันเป็นพันๆ หมื่นๆ มามากอย่างนี้ แล้วยังมีระเบียบเรียบร้อยอีกด้วย แปลกจริงๆ คำตอบ: วัดพระธรรมกาย ใช้ระบบที่ว่า ใครก็ตามเมื่อมาถึงวัดแล้ว เราจะฝึกคุณธรรมให้ทุกคนมีวินัย มีความเคารพ และมีความอดทน ให้มีคุณธรรม 3 อย่างนี้ก่อน         ยกตัวอย่างเช่น เมื่อญาติโยมมาถึงวัด ก็ฝึกให้เขานั่งเป็นแถวเป็นแนว โดยเอาเสื่อปูเป็นแถวๆ แล้วก็ทำจุดที่แถวหน้าให้เขาดู เวลานั่งต้องนั่งให้ตรงกับจุด ซึ่งส่วนมากก็นั่งกันได้เป็นแถวดี สำหรับผู้ที่ยังนั่งไม่ตรงจุด เราก็หาเด็ก 2-3 คน ให้เป็นคนคอยเชิญเขามานั่งให้ตรงจุดหรือตรงคอคนหน้า ใครเข้ามาใหม่ เด็กก็เชิญเขามานั่งต่อๆ กันไป เพราะฉะนั้นมีมาเท่าไหร่ก็นั่งเป็นแถวหมด เราก็ฝึกวินัยกันง่ายๆ อย่างนี้         พอเลิกนั่งสมาธิ เลิกเทศน์หรือเลิกพิธีแล้ว ก็ให้สวดมนต์ทำวัตรก่อน เป็นบทยาวประมาณ 15 นาที ขณะสวดมนต์เราก็มีเด็กเตรียมผ้าเช็ดเสื่อ ซึ่งซักแล้วบิดหมาดๆ มาวางไว้ที่หัวเสื่อ พอสวดมนต์เสร็จเขาก็ลุกออกจากที่ ส่วนหนึ่งก็จะไปเช็ด และม้วนเสื่อเก็บส่วนพวกที่ไม่ได้เช็ดเสื่อ ก็มีเด็กอีกชุดหนึ่งเตรียมไม้กวาดส่งให้ อีกชุดเตรียมไม้ถูพื้น ผ้าขี้ริ้ว เมื่อญาติโยมที่มาวัดได้ช่วยกันกวาด ได้เช็ดเสื่อ ได้ถูศาลาแล้ว เขาจะมีความรู้สึกผูกพัน มีความเป็นเจ้าของวัด …

ที่วัดพระธรรมกายทำอย่างไร คนจึงมาที่วัดกันเป็นพันๆ หมื่นๆ และยังมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย Read More »

จริงหรือไม่ที่วัดพระธรรมกายทำธุรกิจการค้าเพื่อหาเงินใช้จ่ายในวัด

คำถาม: เคยมีข่าวว่า วัดพระธรรมกายใช้ที่ดินมาก ใช้เงินในการดูแลวัดพัฒนาพระ เณร อุบาสก อุบาสิกามาก ก็เลยมีการทำธุรกิจการค้าเพื่อหาเงินใช้จ่ายในวัด ข่าวนี้กราบขอความกรุณาให้หลวงพ่อชี้แจงด้วย? คำตอบ: โยม ธุรกิจไม่ใช่เรื่องของพระ ที่เราเป็นอยู่ได้ทุกวันนี้ จริงๆ แล้วใช้หลักง่ายๆ ที่หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านให้เอาไว้ รวมกับหลักการของคุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของพวกเรามาแต่ต้น หลวงพ่อวัดปากน้ำ ให้คาถาเรียกเงินสร้างวัดไว้ 3 บท คือ         มนต์บทที่ 1 กวาดวัดให้สะอาด เพราะถ้าวัดสะอาดแล้วคนที่เขาตั้งใจมาทำบุญ สมมติว่าตั้งใจจะมาทำสัก 10 บาท มาถึงเห็นวัดสะอาดสะอ้าน น่ายืน น่าเดิน แม้กระทั่งน่านอนในศาลา จากเดิมที่คิดจะทำบุญ 10 บาท ก็มีสิทธิ์เพิ่มเป็น 100 บาท ถ้าตั้งใจทำบุญ 100 บาท ก็เพิ่มขึ้นอีกเป็นเงาตามตัว         อุปกรณ์ทำความสะอาดนี่สำคัญมาก อย่ามองไม้กวาด มองผ้าขี้ริ้ว หรือถังขยะว่ามันเป็นไม้กวาด ผ้าขี้ริ้ว ถังขยะที่สกปรกโสโครก แต่ขอให้มองว่าของเหล่านี้ คือเทพธิดาแห่งความสะอาด ไม้กวาดที่เรากวาดขยะมีฤทธิ์ดึงดูดสมบัติติดปลายไม้กวาดมาได้นะ ทั้งผ้าขี้ริ้ว …

จริงหรือไม่ที่วัดพระธรรมกายทำธุรกิจการค้าเพื่อหาเงินใช้จ่ายในวัด Read More »

ถ้าพระเณรวัดอื่นขอมาอยู่วัดพระธรรมกายจะได้หรือไม่

คำถาม: สามเณรวัดอื่นจะขอมาอยู่ที่วัดพระธรรมกายจะได้หรือไม่ และจะต้องทำอะไรบ้าง? คำตอบ: เราประกาศอยู่ตลอดเวลาว่า ถ้าใครจะสมัครมาเป็นสามเณรที่นี่ จะเป็นพระที่นี่ เรายินดีรับ กฎเกณฑ์ต่างๆ มีไว้เรียบร้อย แต่ว่ากฎเกณฑ์ก็มากหน่อย แล้วก็บอกกันตรงๆ ว่าเป็นพระวัดนี้เหนื่อย ทั้งเจ้าอาวาส ทั้งรองเจ้าอาวาส พระเณรทุกรูปเหนื่อยกันทั้งนั้น ถ้าท่านคิดว่าจะทนเหนื่อยได้มาสิครับ ยินดีต้อนรับ         กฎเกณฑ์กติกาที่ว่านี้ ความจริงก็ไม่มากเท่าไร เช้าตี 4 ครึ่งก็ตื่นขึ้นมาทำวัตรทำภาวนาไป พอสว่างก็ไปบิณฑบาต เสร็จจากบิณฑบาตกลับมาฉัน เสร็จแล้วก็ไปเก็บกวาดเช็ดถูประมาณ 9 โมง ก็นั่งภาวนาไป งานอื่นยังไม่ต้อง ทำภาวนาไปจนกระทั่ง 11 โมง ถ้าท่านรูปไหนเพียงแค่นั่งชั่วโมงเดียว ก็โอยไม่ไหวแล้ว เมื่อยแล้ว ทนไม่ไหวท่านไม่ต้องมาสมัคร อยู่ไม่ได้หรอกครับ มีมาสมัครกันตั้งเยอะแล้วแต่มักจะอยู่กันไม่ได้ ที่อยู่ได้ก็มีครับ         ฉันเพลแล้วเรียนไม่ใช่นอน เรียนนักธรรม เรียนบาลีก็เรียนกันไป ตกกลางคืนทำภาวนาถึง 3 ทุ่ม หลังจากนั้นจะท่องหนังสืออ่านตำรา ก็นิมนต์ตามสะดวก แต่ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน ตี 4 ครึ่ง ต้องตื่นอย่าอยู่ช้า ถ้าทนได้ ก็อยู่ด้วยกันได้ …

ถ้าพระเณรวัดอื่นขอมาอยู่วัดพระธรรมกายจะได้หรือไม่ Read More »

รถบัสที่รับส่งคนมาวัดพระธรรมกายทุกวันอาทิตย์ ได้รับบริจาคมาจากไหน หรือต้องจ้างเขา ค่ารถปีละเท่าไร เอาเงินมาจากไหน?

คำถาม: รถบัสที่รับส่งคนมาวัดพระธรรมกายทุกวันอาทิตย์ ได้รับบริจาคมาจากไหน หรือต้องจ้างเขา ค่ารถปีละเท่าไร เอาเงินมาจากไหน? คำตอบ: รถที่รับ-ส่งสาธุชนแต่ละคันนี่ต้องจ้างเขานะ เข้าใจว่าประมาณวันละ 1,000 บาท (ราคาปี พ.ศ. 2528) ต่อไปทางวัดจะเพิ่มจุดออกรถตามหมู่บ้านต่างๆ ด้วย เลือกหมู่บ้านที่ใหญ่ๆ หน่อย         ปีที่แล้วเนื่องจากขยายรถเพิ่มขึ้นมาเป็น 7-8 จุดด้วยกัน เพื่อพยายามรับลูกหลานที่อยู่ตามสถาบันต่างๆ ให้ทั่วถึง เฉพาะค่ารถเมื่อปีที่แล้ว (พ.ศ.2527) ไม่คิดว่ารถในงานบุญใหญ่นะ รวมได้ประมาณ 6 แสนบาท         หลายคนบ่นว่า ทำไมทอดผ้าป่าบ่อยจริง จะเอาเงินไปทำอะไร? ก็เอามาใช้กันอย่างนี้แหละครับ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ที่วัดพระธรรมกายนี้ มีรายการธรรมะออกอากาศทางวิทยุกี่รายการครับ?

คำถาม: ที่วัดพระธรรมกายนี้ มีรายการธรรมะออกอากาศทางวิทยุกี่รายการครับ? คำตอบ: ความจริงที่วัดนี้ไม่มีรายการทางวิทยุออกเลย แต่มีญาติโยมที่มาวัดนี่ ที่เขาจัดรายการวิทยุอยู่แล้ว อย่างเช่นรายการธรรมะก่อนนิทรา คือเขาเห็นว่าที่วัดมีรายการเทศน์ดีๆ เขาก็อัดเทปเอาไปเปิด บางทีก็ช่วยขยายความต่อให้ด้วย         ก็เป็นการช่วยกันเผยแผ่พระพุทธศาสนา ผู้ที่ฉลาดในบุญเขาย่อมขวนขวายหาวิธีสร้างบุญให้ตนเองอย่างนี้ เราไม่เคยเป็นเจ้าของรายการเลย แต่มีนักจัดรายการทั้งวิทยุและโทรทัศน์ หลายรายการมาขออัดเทป มาขอถ่ายวิดีโอ เอาไปเผยแพร่ หลวงพ่อเห็นว่าเป็นประโยชน์แก่พระศาสนา ก็ไม่เคยขัดข้อง ยินดีจัดทำให้ในส่วนที่ทำได้ ยังนึกอนุโมทนาในน้ำใจของเขาที่ขวนขวายสร้างบุญกุศลทุกลมหายใจ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

วัดพระธรรมกายมีแม่ครัวประจำหรือไม่แล้วต้องจ้างเขาหรือไม่

คำถาม: แม่ครัวประจำวัดพระธรรมกายนี้มีหรือไม่ จ้างเขาหรือเปล่า? คำตอบ: มี เพราะอาหารการกินเป็นเรื่องสำคัญของมนุษย์ กองทัพเดินด้วยท้อง ไม่ว่ากองทัพทางโลก หรือกองทัพทางธรรม วัดพระธรรมกายมีพระภิกษุ มีสามเณร มีอุบาสก อุบาสิกา รวมทั้งคนมาปฏิบัติธรรมมากมาย เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีแม่ครัว         ถ้าถามว่าจ้างหรือเปล่า ตอบว่าไม่ได้จ้าง เขาอาสาสมัครมาช่วยงานครัว แต่ว่าเมื่อเขามาอยู่ในวัด เราก็ต้องจัดที่ให้เขานอน เจ็บไข้ได้ป่วยก็มีหมอของสถานพยาบาล ซึ่งอยู่ในวัด รักษาให้ ค่าตอบแทนมีให้ เราไม่อยากเรียกว่าเป็นค่าจ้าง แต่เราเรียกกันว่าเป็นค่าสวัสดิการ         ส่วนมากเราก็ให้เป็นเงินค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเขาเท่าที่จำเป็น ไม่มากเหมือนค่าจ้าง ถ้าเป็นผู้ที่มีฐานะดี เขาก็ไม่ขอรับ ผู้ที่ฐานะไม่ดี จำได้คร่าวๆ ว่าเดือนละไม่เกิน 2,000 บาท อยู่ในย่านกรุงเทพฯ ค่าสวัสดิการแค่นี้พอไหม         จริงๆ แล้วถ้าจะเอาสุขสบายอย่างชาวบ้าน ก็ไม่พอแน่ๆ แต่ว่านี่มาอยู่กันอย่างชนิดว่ามาเอาบุญ เขาต้องตื่นกันมาตั้งแต่ตี 3 ตี 4 กว่าจะกลับเข้านอนก็ 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม ถ้าจะพูดว่าเป็นค่าจ้างก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ เพราะเขาทำให้เกินกว่าจะเรียกว่าค่าจ้าง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว …

วัดพระธรรมกายมีแม่ครัวประจำหรือไม่แล้วต้องจ้างเขาหรือไม่ Read More »

ถ้าท่านเป็นพระสังฆาธิการ ท่านจะแก้ปัญหาพระที่ไม่ถูกกันอย่างไร

คำถาม: ถ้าท่านเป็นพระสังฆาธิการ ท่านจะแก้ปัญหาพระที่ไม่ถูกกันอย่างไรครับ? คำตอบ: พระแตกความสามัคคีก็ด้วย 2 สาเหตุใหญ่ๆ คือ         1. ศีลไม่เสมอกัน หรือวินัยไม่เสมอกัน รูปหนึ่งตั้งใจรักษาศีล อีกรูปหนึ่งไม่ตั้งใจรักษาศีล         2. ทิฏฐิไม่เสมอกัน หรือความเห็นไม่ตรงกัน เช่น รูปหนึ่งตั้งใจเรียน ตั้งใจนั่งสมาธิ(Meditation)เพื่อตอบแทนคุณญาติโยมที่มาตักบาตรให้ อีกรูปหนึ่งตั้งใจเป็นหมอดู ตั้งใจให้หวยเป็นการตอบแทน นี่ต่างกันไม่เสมอกันถึง 2 อย่างแบบนี้ไปกันไม่ได้หรอก         ขนาดศีลเสมอกัน แต่ทิฏฐิต่างกันยังอยู่ด้วยกันไม่ค่อยจะได้ พระนักเทศน์กับพระนักภาวนาอยู่กุฏิใกล้เคียงกันยังกระทบกระทั่งกัน พระนักภาวนาพอเช้ามืดตีสามตีสี่ท่านลุกขึ้นมานั่งภาวนา ต้องการความเงียบ ท่านว่าถูกต้องตามกิจวัตร พระอีกรูปท่านเป็นพระนักเทศน์ ท่านก็ตื่นมาตีสามตีสี่เหมือนกันมาซ้อมเทศน์ ท่านต้องซ้อมเสียง ท่านก็ว่าของท่านไป เสียงแจ้วๆ ท่านว่าเป็นกิจวัตรพระเหมือนกัน ดังนั้นอยู่กุฏิติดกันไม่ได้ ต้องขยับกุฏิให้ท่านใหม่ ถ้าทำได้ ท่านก็เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาทั้งคู่ ศีลเสมอกัน แต่ทิฏฐิไม่เสมอกัน ยังต้องเปลี่ยนที่พักให้ใหม่         ประเด็นที่พระเณรไม่ถูกกันก็ด้วยเหตุ 2 ประเด็นนี้ เป็นเรื่องที่เจ้าอาวาสต้องไปจัดการแก้ไขเป็นเรื่องๆ ไป เรื่องทิฏฐิจะปรับให้เสมอกันทำอย่างไร ก็ต้องอบรมกันไปเป็นคู่เป็นกลุ่ม คู่ไหนธาตุในตัวไม่ค่อยจะลงกันนัก แต่ก็เป็นพระดีทั้งคู่ รูปหนึ่งชอบเทศน์ รูปหนึ่งชอบก่อสร้างก็ปรับที่อยู่อาศัยของท่าน ให้พอดีๆ …

ถ้าท่านเป็นพระสังฆาธิการ ท่านจะแก้ปัญหาพระที่ไม่ถูกกันอย่างไร Read More »

เราจะใช้ทรัพย์อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

คำถาม: เราจะใช้ทรัพย์อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด คำตอบ: พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง ทรงค้นพบว่า      1 ) ชีวิตนี้เป็นทุกข์ การเกิดเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ เมื่อมีการเกิด ทุกข์นี้เป็นอันพึงหวังได้      2 ) ชีวิตของมนุษย์ดำเนินไปภายใต้กฎแห่งกรรม หากมนุษย์เข้าใจ รู้เท่าทันเรื่องราวของกฎแห่งกรรม ก็จะสามารถดำเนินชีวิตในโลกให้มีทุกข์น้อย และมีโอกาสพ้นทุกข์ได้      เรื่องสำคัญในชีวิตที่จะต้องทำให้สม่ำเสมอ เพื่อทำให้ชีวิตเราสามารถเป็นที่พึ่งแก่ตนเองได้สามารถนำพาชีวิตของตนให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเกิดมาได้ นั่นคือ การศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยจะต้องศึกษาให้เข้าใจจนแจ่มชัด แล้วสามารถปฏิบัติตามธรรมนั้นได้ ชีวิตถึงจะเป็นสุข สามารถพึ่งตัวเองได้      เมื่อเราจะศึกษาธรรมะ เราก็ต้องแบ่งเวลาเพื่อศึกษาให้เข้าใจในภาคทฤษฎีและแบ่งเวลานั่งสมาธิ(Meditation)ปฏิบัติธรรมควบคู่กันไป มิฉะนั้นการศึกษาและปฏิบัติธรรมก็จะไม่ก้าวหน้า       พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงให้เห็นว่า ความก้าวหน้าในการศึกษาและประพฤติธรรมนั้น ผู้ศึกษาจะจัดลำดับความสำคัญไว้ 4 เวลา หรือ 4 กาล ได้แก่ กาลที่ 1 กาลแห่งการฟังธรรม กาลที่ 2 กาลแห่งการสนทนาธรรม กาลที่ 3 กาลแห่งการแสดงธรรม กาลที่ 4 …

เราจะใช้ทรัพย์อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด Read More »

การสร้างธุดงคสถานมีความสัมพันธ์กับการพัฒนาประเทศอย่างไร

คำถาม: การสร้างธุดงคสถาน มีความจำเป็นอย่างไร และมีความสัมพันธ์กับการพัฒนาประเทศไทยอย่างไร? คำตอบ: ให้จำเอาไว้ว่า งานทั้งหลายในโลกนี้ไม่มีอะไรยาก แม้แต่จะเป็นงานสร้างดาวเทียมไปดวงดาวดวงอื่น ไปโลกพระจันทร์หรือไปไหนก็ตาม งานอะไรในโลกนี้ไม่มียาก         ที่ยากที่สุดคือเรื่องการอบรมคน เมืองไทยของเราไม่เจริญเท่าที่ควร เพราะยังมีประชาชนไทยอีกเป็นจำนวนมาก ที่พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เนื่องจากธรรมะยังเข้าไปอยู่ในใจไม่พอ ถ้าธรรมะมีอยู่ในใจพอละก็ เมืองไทยเจริญเป็นแนวหน้าของบรรดาประเทศที่พัฒนาไปตั้งนานแล้ว         การเปิดธุดงคสถาน เป็นเรื่องของการสร้างสถานที่สำหรับอบรมจิตใจคนให้มีธรรมะ โดยสร้างบรรยากาศให้เหมือนปลีกตัวไปหาความสงบตามลำพัง เพื่อพิจารณาหาข้อบกพร่องของตนเองและหาวิธีแก้ไขโดยใช้ธรรมะ คนเราถ้าอบรมจิตใจดีแล้ว ก็ไม่ต้องห่วงว่าการพัฒนาประเทศจะเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าคนจิตใจดี ก็จะไม่คอร์รัปชั่น เมื่อคนไทยไม่คอร์รัปชั่นกันทั้งประเทศ เมืองไทยก็เจริญเอง เพราะฉะนั้นคำถามที่ว่าอยู่ธุดงค์นี่ช่วยพัฒนาประเทศได้อย่างไร ตอบว่า นี่แหละกำลังพัฒนาประเทศละ ถูกเป้าหมายด้วย         เมื่อตอบเรื่องนี้แล้วก็ขอเล่าเลยไปอีกเรื่องหนึ่งด้วย คือเมื่อหลายปีมาแล้วหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ใหม่ๆ ได้มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งมาที่วัดพระธรรมกาย โดยเจตนา โดยลักษณะอาการแล้ว เขาเตรียมจะมารื้อวัด เขามาถามปัญหาหลายข้อ มีอยู่ข้อหนึ่งเขาตั้งปัญหามาว่าอย่างนี้         “หลวงพ่อครับ ประเทศไทยกำลังพัฒนาอุตสาหกรรม ถ้าหน่วยงานไหนๆ ในประเทศไม่ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมให้เป็นไปในทางเดียวกัน ก็ได้ชื่อว่าบ่อนทำลายประเทศไทย อยากจะทราบว่าพระภิกษุช่วยอะไรในการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศบ้าง เพราะถ้าไม่ช่วยก็ต้องถือว่าพระภิกษุเป็นผู้บ่อนทำลายประเทศไทยเหมือนกัน” ถามมาอย่างนี้ ไม่ตอบก็โดนรื้อวัด ถามอย่างนี้ตีความได้ …

การสร้างธุดงคสถานมีความสัมพันธ์กับการพัฒนาประเทศอย่างไร Read More »

ทำอย่างไรจึงจะฝึกตนให้เป็นคนมีเหตุผล

คำถาม: ทำอย่างไรจึงจะฝึกตนให้เป็นคนมีเหตุผล คำตอบ:       คนมีเหตุผล คือผู้ที่สามารถตัดสินใจด้วยตนเองได้ เนื่องจากมีความเห็นถูกตามมาตรฐานของผู้รู้จริง คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณด้วยพระองค์เองความเห็นถูก ภาษาพระเรียกว่า สัมมาทิฐิ หมายถึง ความเห็นถูกหรือความเข้าใจถูกในเรื่องของกรรม      หลักเหตุและผลที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ซึ่งเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ที่มีผลบังคับต่อทุกสรรพชีวิตในโลก ไม่ว่าใครจะรู้หรือไม่รู้กฎนี้ก็ตามพระพุทธองค์ทรงค้นพบกฎนี้ที่มีอยู่ก่อนแล้ว เมื่อรู้แล้วก็นำมาเปิดเผยให้ชาวโลกทราบความจริงเรื่องนี้ เพราะทรงมีมหากรุณาจะช่วยชาวโลก แม้ว่ายังต้องอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมก็ต ามแต่ทรงต้องการให้รู้เท่าทันจะได้เลือกดำเนินชีวิตแต่ในส่วนที่เป็นกรรมดี เวลาที่กฏแห่งกรรมส่งผล ก็จะได้ส่งผลในทางที่ดี ที่เป็นประโยชน์แก่ชีวิต      พระพุทธองค์ทรงสอนให้ชาวโลกเป็นผู้มองการณ์ไกล เพราะชีวิตยังต้องดำเนินต่อไปอีกยาวนาน จากชาตินี้ภพนี้สู่ชาติหน้าภพหน้า สู่ชาติต่อ ๆ ไป จนกว่าจะกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้สำเร็จ      ดังนั้น ทุกจังหวะของชีวิต จะตัดสินใจทำอะไร ไม่ทำอะไร จะดำเนินชีวิตไปสู่จุดไหน จำเป็นต้องคิดและชั่วน้ำหนักให้ดีถึงผลดีผลเสียของการกระทำ      ในคราวใดที่ได้รับผลร้ายของการกระทำที่ทำผิดพลาดไว้ในอดีต จะต้องไม่มัวแต่หาคนผิดเพราะเรานั่นเองคือผู้รับผิดชอบการกระทำของตัวเรา สิ่งที่ควรจะทำคือยอมรับและแก้ไข คือทำใหม่ให้ดีกว่าเดิม อย่าให้ผิดพลาดอีก เราจึงจะเป็นผู้ที่ลิขิตชีวิตที่ดีให้แก่ตนเองได้      สิ่งสำคัญของผู้ที่จะเข้าใจกฎแห่งกรรมได้ดีจริงๆ คือ คนๆ นั้นจะต้องได้ทำความดีมาจนคุ้นในระดับหนึ่งเพราะถ้าไม่เคยทำความดีมาก่อน …

ทำอย่างไรจึงจะฝึกตนให้เป็นคนมีเหตุผล Read More »

ทำอย่างไรจึงจะใช้งานคนอื่นได้ง่าย

คำถาม: มีวิธีการอย่างไร ที่จะทำให้สามเณรหรือเด็กวัดที่เราต้องการจะใช้สอย ทำโน่นทำนี่ให้ตามความต้องการของเรา โดยที่เราเองไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส และไม่ได้รับมอบหมายอำนาจสั่งการแทน แต่อยากจะให้วัดดูเป็นระเบียบ? คำตอบ: วิธีการที่จะให้สามเณรในวัดทำอะไรต่ออะไรตามคำสั่ง โดยที่เราเองไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส ก็มีอยู่วิธีเดียวคือ เราลงไปทำงานนั้นกับเณรด้วย จะให้เณรกวาดวัด ถูกุฏิของส่วนกลาง เราก็ไปถูกับเณร อย่างนี้จะใช้อะไรก็ใช้ง่าย แต่ถ้าชี้นิ้วใช้ เณรไปกวาดซิ เณรไปถูซิ เณรจะนึกในใจ “เป็นพ่อกูเมื่อไหร่ล่ะ ก็โตไล่กันมา รอยเท้าไล่กันมาทุกวันๆ เมื่อไหร่พ่อบวชเป็นพระบ้างละก็…ฮึ่ม!” ก็จะเกิดอาการอย่างนั้น แต่ว่าถ้าบอกว่า “เณรมาช่วยหลวงพี่หน่อย” แล้วก็กวาดก็ถูเรื่อยไป เณรมา เณรก็ช่วย ถ้าอย่างนี้คุยกันได้ จำไว้ว่า จะใช้งานใครก็ตาม จะให้ง่ายต้อง         1) ทำให้ดู แล้วก็ช่วยทำด้วย         2) มีอะไรก็แบ่งปันกันกินกันใช้ มีอะไรฉันก็แบ่งให้ฉัน มีอะไรใช้ ก็แบ่งให้เณรใช้บ้างนะ         อย่าทำให้เณรคิดแย้งในใจว่า “ทีงานละก็โยนโครมๆ ให้เณรทำ ทีเวลาฉันละก็ฉันคนเดียวเงียบเชียว” อย่างนี้น่าทำงานให้ไหมเณร? ไม่น่าเลยนะ ถ้าเจ้าอาวาส พระลูกวัด เด็กวัดมีอะไรฉันก็ฉันก็กินเหมือนๆ กัน ข้าวหุงมาจากหม้อเดียวกัน กับข้าวก็จากกระทะเดียวกัน พระก็ฉัน เด็กวัดก็กิน …

ทำอย่างไรจึงจะใช้งานคนอื่นได้ง่าย Read More »

มีวิธีอย่างไรที่จะทำให้มีความตื่นตัวรักความก้าวหน้าในการพัฒนาวัด

คำถาม: คือที่วัดของผมมีโยมอยู่ 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งอยากจะพัฒนา อีกฝ่ายไม่อยากจะพัฒนาทำอย่างไรดีครับ? (พระเรียนถามมา) คำตอบ: สำหรับเรื่องนี้  ถ้าหลวงพ่อหรือเจ้าอาวาสของวัด หรือพระอุปัชฌาย์ของเรา ท่านไม่ค่อยจะตื่นตัว เราไปทำอะไรท่านไม่ได้หรอกครับ แต่มีวิธีอยู่อย่างหนึ่ง ที่จะทำให้วัดของเรา ตัวของเราก้าวหน้า คือ         1) กุฏิที่เราอยู่เองต้องทำให้ดี ให้สะอาดเรียบร้อย         2) ตัวเราเองต้องตั้งใจศึกษาหาความรู้เพิ่มขึ้นเรื่อยไป         ทำอย่างนี้ รอเวลาไว้ แล้วระหว่างนั้นก็อบรมญาติโยม อบรมสามเณร อบรมเด็กวัด ทำอะไรได้ก็ทำกันไป เอาให้เต็มที่อย่าไปท้อ ที่ท่านถามมานี่ ผมขอถามท่านคำเดียวว่า ถ้าเขาให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสวันนี้ ท่าจะสามารถพัฒนาวัดได้จริงหรือเปล่า ไม่ง่ายนะครับ เพราะพอลงมือทำงานเมื่อไร คนของเราเองนั่นแหละ จะแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเห็นด้วย อีกฝ่ายหนึ่งจะไม่เห็นด้วย ไม่ต้องมาก ลองให้สามเณรที่มีอยู่แล้วไปทำความสะอาดวัด ทำง่ายๆ ให้ไปกวาดใบไม้ ท่านจะพบว่าสามเณรฝ่ายหนึ่งก็คงจะเห็นด้วยว่าดี แต่อีกฝ่ายหนึ่งก็อาจจะนึกว่า แหม…หลอกใช้งานเราอีกแล้ว         ยกตัวอย่างนะ ทำอะไรขึ้นมาแล้ว ที่จะได้รับคำชมอย่างเดียวไม่มี ถูกด่าอย่างเดียวก็ไม่มี ขนาดโจรยังมีคนชมเลย ใครชม? …

มีวิธีอย่างไรที่จะทำให้มีความตื่นตัวรักความก้าวหน้าในการพัฒนาวัด Read More »