หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

ค้าขายอย่างไรให้สำเร็จสมความตั้งใจ ?

คำถาม: ผมเป็นเจ้าของกิจการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ตั้งใจดำเนินกิจการอยู่บนความถูกต้อง ผมจะทำอย่างไรให้สำเร็จสมความตั้งใจ? คำตอบ: “ความถูกต้อง” ที่คุณยึดเป็นหลักในการทำงานของคุณนั้น มาจากคำว่า “สัจจะ” ซึ่งแปลว่าความซื่อตรง ซื่อสัตย์ นั่นก็หมายความว่า ต้องทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง     เมื่อครั้งพุทธกาล เคยมีหัวหน้ายักษ์เป็นผู้ตั้งคำถามถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “ทำอย่างไรให้มีชีวิตอยู่ก็เป็นสุข ตายแล้วก็ไปสวรรค์” พระองค์ตรัสตอบว่า “ผู้มีศรัทธา เชื่อในคำสอนของพระอริยเจ้า แล้วมีความประพฤติ ๔ ข้อ คือ ๑. มีสัจจะ ๒. มีทมะ ๓. มีขันติ ๔. มีจาคะ ผู้มีศรัทธาและมีธรรมครบ ๔ อย่างนี้ มีชีวิตอยู่ในโลกก็มีความสุข ตายไปก็ไปสวรรค์”      ธรรมเรื่องที่ ๑ สัจจะ เป็นธรรมที่ต้องลงมือประพฤติปฏิบัติ ถ้ารู้ความหมายเพียงแค่ “ความถูกต้อง” ยังไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจมากพอจะนำไปปฏิบัติได้ ถ้าแปลในลักษณะที่เอาไปฝึกด้วย ใช้งานด้วย สัจจะนั้นแปลว่า ความรับผิดชอบ เมื่อทำอะไรขึ้นมาแล้ว ถ้าผิดก็ต้องรับผิดถ้าถูกก็รับความดีความชอบไปบูรพาจารย์ของเราท่านแยกออกมาให้ดูว่า ความถูกต้องที่คุณจะต้องรับผิดชอบทำนั้นมีอยู่ ๕ เรื่อง …

ค้าขายอย่างไรให้สำเร็จสมความตั้งใจ ? Read More »

สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น

คำถาม: สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น คำตอบ:      โลกยุคนี้มิได้เป็นยุคที่คนหวงแหนความรู้มิได้เป็นยุคที่คนขาดแคลนความรู้ ตรงกันข้ามกลับเป็นยุคที่คนมีความรู้จากทั่วทุกมุมโลกพยายามแข่งขันกันเผยแพร่ความรู้ของตัวเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตตลอด ๒๔ ชั่วโมงอีกด้วย      วิธีการเผยแพร่ความรู้ก็ทำได้ง่าย ๆ ใครมีความรู้ใดอยากจะแบ่งปันให้ผู้อื่นได้รู้บ้าง ก็อัปโหลด (Upload) ข้อมูลลงในอินเทอร์เน็ตความรู้นั้นก็จะถูกเผยแพร่กระจายออกไปทั่วโลกทันที ส่วนใครอยากรู้เรื่องใด เมื่อเข้าไปในอินเทอร์เน็ต ก็สามารถค้นหาความรู้เรื่องที่ต้องการนั้น แล้วดาวน์โหลด (Download) มาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ได้ทันทีเช่นกัน      ปริมาณข้อมูลความรู้ที่มีอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ตอย่างมากมายมหาศาลนี้ กลายเป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยของโลก โดยเปลี่ยนจากโลกยุคเดิมที่คนส่วนมากยังขาดแคลนความรู้ ให้กลายเป็นโลกยุคใหม่ที่มีปริมาณความรู้ล้นท่วมโลกไปแล้ว      สิ่งที่น่าคิดก็คือ ทั้ง ๆ ที่โลกยุคนี้กลายเป็นยุคที่ความรู้ท่วมโลก แต่ทำไมโลกกลับไม่เคยสงบลงเลยแม้แต่วันเดียว มิหนำซ้ำปัญหาความวุ่นวายต่าง ๆ นับวันมีแต่จะยิ่งเพิ่มพูนทวีคูณมากขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย อะไรเป็นสาเหตุให้โลกเกิดปัญหาวุ่นวายมากยิ่งขึ้นทั้ง ๆที่อยู่ในยุคความรู้ล้นท่วมโลกเช่นนี้ สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น      สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายทั้งที่อยู่ในยุคความรู้ล้นท่วมโลก มีอยู่ ๓ ประการ คือ      ๑. หลักสูตรการศึกษามุ่งเน้นด้านทฤษฎีแต่ขาดบทฝึกสร้างนิสัย      การจัดการศึกษาของชาติในยุคปัจจุบันมุ่งสร้างคนให้มีความรู้ แต่ไม่ให้ความสำคัญกับการฝึกคนให้มีนิสัยดี ๆ ครั้นเมื่อความรู้ตกไปอยู่ในมือคนพาล ย่อมมีแต่นำความวิบัติเสียหายมาสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม เพราะคนพาลมีนิสัยปล่อยให้ใจขุ่นเป็นปรกติ จึงแยกแยะถูก-ผิดดี-ชั่วไม่ออก …

สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น Read More »

แนวทางการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จของชาวพุทธเป็นอย่างไร?

คำถาม: แนวทางการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จของชาวพุทธเป็นอย่างไร? คำตอบ:      มนุษย์ทุกคนต่างก็หวังที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น แต่การจะดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้ มีหลักปฏิบัติเบื้องต้น ๒ ประการ คือ      ประการแรก ต้องแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง      ประการสอง ดำเนินชีวิตไปตามเส้นทางที่ถูกต้องที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ      การจะแก้ไขตนเองต้องเริ่มแก้ไขที่ใจ ใจบกพร่องเพราะมักทำไปตามอำนาจกิเลส คือถูกชักจูงให้ทำผิดด้วยอำนาจของโลภ โกรธ หลง มีผลทำให้ชีวิตพบกับความทุกข์และอุปสรรค ต่าง ๆ      การแก้ไขที่ใจจึงต้องวางเป้าหมายไว้ที่การนำใจกลับมาอยู่กับธรรมะ ซึ่งเป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์มีอยู่ภายในตัวมนุษย์ทุกคน      ธรรมะภายในจะเข้าถึงได้เมื่อใจหยุดใจนิ่ง เมื่อเข้าถึงธรรมแล้ว ก็อาศัยอานุภาพของธรรมะขจัดกิเลสออกไปจากใจ       ใจที่สว่างไสวด้วยแสงแห่งธรรม จึงจะรู้เห็น คิด พูด ทำ ไปในทางที่ถูกต้อง เหมาะสมดีงาม ก่อให้เกิดความสำเร็จในชีวิตทุกช่วงตอน ทำอย่างไรใจจะเข้าถึงธรรม?      ใจ ของพุทธศาสนิกชนต้องมี ศรัทธา คือ เชื่อพระปัญญาการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธ-เจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบ เพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดี รู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกผู้ที่ควรฝึกได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย …

แนวทางการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จของชาวพุทธเป็นอย่างไร? Read More »

“สังคมเปลี่ยนไป” แนวทางการใช้ชีวิตเปลี่ยนตามพระพุทธศาสนามีคำแนะนำอย่างไร ?

คำถาม: “สังคมเปลี่ยนไป” แนวทางการใช้ชีวิตเปลี่ยนตามพระพุทธศาสนามีคำแนะนำอย่างไร ? คำตอบ:      สังคมมนุษย์ยุคโซเชียลเน็ตเวิร์กในทุกวันนี้ มีโคชช่วยแนะนำแนวทางการใช้ชีวิตหลายรูปแบบมาก จนบางครั้งก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดีอยากทราบว่า ในพระพุทธศาสนามีคำแนะนำแนวทางการใช้ชีวิตที่เป็นมาตรฐานบ้างหรือไม่ว่าควรเป็นอย่างไร ? ก่อนจะตอบคำถามนี้ ให้เรามาใคร่ครวญดูให้ดีก่อนว่า ชีวิตคืออะไร ?      ๑. ชีวิต คือ การเป็นอยู่ในอัตภาพนี้ในโลกนี้ ในระยะเวลาหนึ่ง ปัจจุบันนี้ใครจะมีชีวิตอยู่เกินร้อยปีก็หาได้ยาก แทบจะนับคนได้สุดท้ายแล้วชีวิตก็ดับไป และแล้วก็ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในภพภูมิใหม่ มีชีวิตใหม่กันอีก      ๒. ชีวิตประกอบไปด้วยทุกข์ ซึ่งเราเคยทำความเข้าใจกันมาแล้วว่า ทุกข์ในโลกนี้แบ่งออกได้เป็น ๔ ประเภท       พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นชีวิตแรกของสัตวโลกที่กำจัดทุกข์ให้สิ้นไปหลุดพ้นจากทุกข์ไปได้ ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป         ทุกข์นำมาซึ่งความเดือดร้อน ความหิวกระหาย ความทุรนทุรายแก่ชีวิต เมื่อทุกชีวิตประกอบไปด้วยทุกข์ ๔ การดำเนินชีวิตให้เป็นอยู่อย่างดีและสามารถพัฒนาได้ จึงเป็นไปเพื่อดับทุกข์หรือปราบทุกข์ ๔ นั่นเอง        จากตรงนี้เราก็พอทราบกันแล้วว่า เรา จะดำเนินชีวิตไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ดังนั้นวิธีการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องจึงเปน็ การประกอบการงานต่าง ๆ เพื่อปราบทุกข์ ๔ ทุกข์ …

“สังคมเปลี่ยนไป” แนวทางการใช้ชีวิตเปลี่ยนตามพระพุทธศาสนามีคำแนะนำอย่างไร ? Read More »

การรู้จักตนเองตามคำสอนของพระพุทธศาสนาหมายถึงอย่างไร

คำถาม: การรู้จักตนเองตามคำสอนของพระพุทธศาสนาหมายถึงอย่างไร คำตอบ:      คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าล้วนเกี่ยวกับกายที่ยาววาหนาคืบกว้างศอกของเรานี้เอง หากเราต้องการรู้จักตัวเราเอง ต้องมาศึกษาคำสอนของพระพุทธองค์ว่าท่านทรงสอนให้เรารู้จักตนเองอย่างไร และควรทำอย่างไรต่อไป ถึงจะเป็นการรักตัวเองอย่างแท้จริง การทำความรู้จักตนเองขั้นพื้นฐานนั้น มีอยู่ 4 เรื่อง      1) กายมนุษย์ประกอบจากธาตุไม่บริสุทธิ์      กายของมนุษย์ประกอบด้วยธาตุสี่ ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ซึ่งธาตุสี่ที่ประกอบเป็นเซลล์ในร่างกายมนุษย์เป็นธาตุไม่บริสุทธิ์ จึงทำให้เซลล์ในร่างกายของเราเสื่อมสลายและตายไปสามร้อยล้านเซลล์ต่อนาทีโดยประมาณ      สิ่งที่ปรากฏเกิดขึ้นเนื่องจากเซลล์ที่ตายไป คือ อาการหนาวที่เกิดขึ้นของร่างกาย และหากปล่อยให้เซลล์ตายลงไปเรื่อย ๆ เราก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ จะถึงซึ่งความตายในที่สุด       ดังนั้น จึงต้องหาธาตุสี่จากภายนอกมาเติมให้ร่างกายอบอุ่น แต่ธาตุสี่ที่หามาได้จากภายนอกนั้นก็เป็นธาตุสี่ที่ไม่บริสุทธิ์ เซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นมาทดแทนเซลล์เก่า เนื่องจากได้มาจากธาตุสี่ที่ไม่บริสุทธิ์ แม้ได้มาเพิ่มใหม่ มันก็ต้องตายต่อไป ฉะนั้นเราก็ต้องหาธาตุสี่มาเติมให้ร่างกายต่อไปตลอดชีวิต วันใดที่ร่างกายไม่สามารถรับธาตุสี่เพิ่มได้อีกต่อไปก็เป็นวันสิ้นสุดชีวิตนี้       เมื่อเติมธาตุสี่เข้าไป ร่างกายสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาพร้อมกับได้พลังงานด้วย ความร้อนก็เกิดขึ้นในร่างกาย      ความหนาว ความร้อน ที่มีอยู่ในตัวเรา เป็นตัวฟ้องว่า ในกายเรานี้ ทุกนาทีมีตายมีเกิดและมีเกิดมีตายอยู่ตลอดเวลา ไม่มีอะไรยืนยงคงที่เลย …

การรู้จักตนเองตามคำสอนของพระพุทธศาสนาหมายถึงอย่างไร Read More »

หลักการขยายกิจการให้เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม

     ผมได้มาร่วมงานเด็กดีวีสตาร์ ได้เห็นการบริหารจัดการที่ดี ทำให้การรวมตัวกันของนักเรียนเป็นแสน ๆ คน ดำเนินไปได้อย่างดี จึงใคร่รู้ว่าวัดมีหลักการอย่างไรในการจะวัดศักยภาพการทำงานของเราว่าจะมีพอรองรับงานขนาดไหน ผมจะได้นำไปเป็นแนวทางในการตัดสินใจขยายกิจการว่าควรขยายหรือไม่      พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมให้มนุษย์รู้ความจริงว่า ชีวิตของคนจะเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงอยู่ที่บุญและบาป บุญเป็นพลังงานสะอาดที่ส่งเสริมให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง บาปเป็นพลังงานสกปรกที่ทำให้ชีวิตขัดสนและพบเจออุปสรรค บุญและบาปเป็นผลจากกรรมหรือการกระทำของคนเราที่ทำไว้นั่นเอง      หลักในการตัดสินใจว่าควรจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรอยู่ตรงที่ถ้าทำแล้วได้ทำบุญเพิ่มก็ควรทำ แต่ถ้าทำอะไรแล้วเป็นเหตุให้ไม่ได้ทำบุญ บางทีกลับต้องทำบาปเพิ่มขึ้นมา สิ่งนั้นก็ไม่ควรทำ      พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้มนุษย์ยึดหลักในการดำเนินชีวิตอย่างมีประโยชน์ ๓ ประการ ได้แก่      ๑. ละชั่ว เมื่อรู้ว่าอะไรเป็นบาปกรรมทุกชนิดไม่ทำอีกเด็ดขาด      ๒. ทำดี เมื่อรู้ว่าอะไรเป็นความดี เป็นบุญกุศล เพียรพยายามทำให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป      ๓. ทำใจให้ผ่องใส ใจใสเป็นใจที่มีคุณภาพเป็นต้นแหล่งของการคิด พูด ทำ ความดีทุกชนิด มนุษย์จะเข้าถึงธรรมจะบรรลุธรรมได้และสามารถกำจัดกิเลสซึ่งเป็นต้นเหตุให้ทำบาปกรรมให้สิ้นไปก็ด้วยการบำเพ็ญสมาธิ(Meditation)ภาวนา กลั่นใจให้ใส      ดังนั้น ในวิถีชีวิตประจำวันจึงมีกิจวัตรกิจกรรมที่ทำแล้วส่งเสริมให้มนุษย์ดำเนินไปตามหลักการดำเนินชีวิตดังกล่าว ได้แก่ ให้ทานรักษาศีล และเจริญภาวนา      ชาวไทยนับถือพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งที่ระลึกสูงสุดของชีวิตมาแต่บรรพบุรุษ แต่โบราณจึงปรากฏคำพูดที่เตือนใจถึงกิจวัตรประจำวันนี้ว่า …

หลักการขยายกิจการให้เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม Read More »

เหตุใดชาวพุทธแม้มีหลายนิกาย ก็ยังอยู่ร่วมกันได้โดยไม่กระทบกระทั่งกัน

คำถาม: เหตุใดชาวพุทธแม้มีหลายนิกาย ก็ยังอยู่ร่วมกันได้โดยไม่กระทบกระทั่งกัน คำตอบ: คนในโลกนี้มีหลากหลายความเชื่อ บางครั้งก็มีความเห็นไม่ลงรอยกัน แต่..เหตุใดชาวพุทธแม้มีหลายนิกาย ก็ยังอยู่ร่วมกันได้โดยไม่กระทบกระทั่งกัน?      ศาสนิกต่างศาสนาท่านหนึ่งได้พบกับหลวงพ่อ ได้สนทนากัน เขาเอ่ยความในใจขึ้นมาว่าทุกคนในโลกต่างก็อยากเห็นชาวโลกเป็นสุขด้วยกันทั้งนั้น แต่ในข้อปฏิบัติต่าง ๆ หรือวิธีตัดสินใจต่าง ๆ โดยรายละเอียดมักจะมีข้อขัดแย้งกันอยู่เป็นประจำ แม้แต่ในศาสนาเดียวกันก็ยังไม่วายมีข้อขัดแย้งกัน      เขารู้อีกว่า ในพระพุทธศาสนาของเราก็มีหลายนิกายเหมือนกัน แต่ทว่าในพระพุทธศาสนาแม้มีหลายนิกายก็ไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่ถึงกับยกพวกมาลุยกันหรืออะไรอย่างนั้น ตรงนี้เขาเห็นแล้วก็ชื่นชม แล้วก็เลยถามมา ซึ่งเป็นคำถามที่หลวงพ่อประทับใจว่าเขาเข้าใจถาม มีประโยชน์ แล้วคำตอบก็น่าจะได้รู้ทั่วกันทั้งชาวพุทธและชาวโลกเขาถามว่าชาวพุทธแม้ต่างนิกาย ทำไมจึงไม่มีการกระทบกระทั่งกัน เห็นมาร่วมกันทำบุญหลวงจีนก็นุ่งห่มแบบหลวงจีน หลวงเกาหลีคล้ายหลวงจีน แต่ก็มีส่วนที่แตกต่างอยู่บ้าง หลวงลามะจากทิเบตก็อีกอย่างหนึ่ง ในความแตกต่างอย่างนี้ มีวิธีที่จะทำความเข้าใจและก่อให้เกิดความสมัครสมานกันขึ้นมาได้อย่างไร ที่เขาถามอย่างนี้ก็เพื่อว่า เมื่อรู้แล้วจะได้ใช้หลักเดียวกันนี้ในกลุ่มศาสนาเดียวกันกับของเขา เพราะเขาก็ไม่อยากเห็นผู้ที่นับถือศาสนาเดียวกันกับเขาขัดแย้งกัน แล้วก็อยากจะเห็นทั้งศาสนาที่เขานับถือกับศาสนาพุทธของเราอยู่ร่วมกันด้วยดี แต่จะมีวิธีจัดการอย่างไรในส่วนที่ไม่ตรงกัน ซึ่งหลวงพ่อให้ข้อคิดกับเขาไปตั้งแต่เริ่มต้นว่า      1. คนเหมือนกัน เกิดเป็นคนต่างก็มีคุณค่าคนเราไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหน เป็นชนชาติเผ่าพันธุ์อะไรก็ช่างเถิด เขาก็เป็นคน เราก็เป็นคน แล้วก็มีองค์ประกอบเหมือน ๆ กัน คือ               …

เหตุใดชาวพุทธแม้มีหลายนิกาย ก็ยังอยู่ร่วมกันได้โดยไม่กระทบกระทั่งกัน Read More »

คำสอนของวัดพระธรรมกายถูกต้องตามแนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาหรือไม่ ทำไมถึงเน้นแต่การชวนคนทำบุญอย่างเดียว

คำถาม: คำสอนของวัดพระธรรมกายถูกต้องตามแนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาหรือไม่ ทำไมถึงเน้นแต่การชวนคนทำบุญอย่างเดียว คำตอบ:      วัดพระธรรมกายเป็นวัดหนึ่งในบรรดาวัดทั้งหลายในบวรพระพุทธศาสนา มีพระภิกษุผู้บวชในร่มผ้ากาสาวพัสตร์จำนวนหลายพันรูปทุกรูปบวชตามธรรมวินัยอย่างถูกต้อง ดำรงตนอยู่ในศีล ๒๒๗ ข้อ เหมือนกับพระภิกษุทุกรูปในนิกายเถรวาท ดังนั้นโดยธรรมวินัยแล้ว พระทุกรูปก็คือ พุทธสาวกที่บวชเข้ามาอย่างถูกต้องตามธรรมวินัย เป็นผู้ศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง มีพระบรมศาสดาองค์เดียวกันกับชาวพุทธทั่วโลก ทั้งที่เป็นชาวพุทธเถรวาทและชาวพุทธทุกนิกาย      ชาวพุทธทั้งโลกเคารพนับถือพระบรมศาสดาอย่างไร วัดพระธรรมกายก็สอนให้เคารพนับถืออย่างนั้น      พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นบุคคลผู้รู้แจ้งความจริงของโลกและชีวิตว่าเป็นทุกข์โลกในแต่ละยุคจึงมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระองค์แรกที่เอาชนะทุกข์ด้วยการกำจัดกิเลสอันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ได้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดในโลกนี้ ในภพสามนี้อีกต่อไป แล้วก็นำความรู้ที่ใช้ดับทุกข์นั้นมาสอนให้ชาวโลกได้รู้ความจริงและปฏิบัติตาม      พระภิกษุสงฆ์ในฐานะพุทธสาวกก็ได้ศึกษาและปฏิบัติตามพระบรมครูเพื่อเป้าหมายเดียวกัน นั้นคือวันหนึ่งจะได้เข้าถึงธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสรู้บ้าง จะได้เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยความบริสุทธิ์บริบูรณ์ อันเกิดจากสามารถปราบมารปหานกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษเข้าถึงความสุขอันเป็นบรมสุขคือพระนิพพาน      พระภิกษุสงฆ์เมื่อปฏิบัติธรรมแล้วก็ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา นำพระธรรมคำสอนของพระศาสดามาถ่ายทอดแผ่ขยายให้สาธุชนได้ศึกษาและปฏิบัติตามรอยบาทของพระบรมศาสดาผู้เป็นต้นบุญต้นแบบของการสร้างบารมี ๑๐ ทัศ ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่สมบูรณ์      ดังนั้น หากจะตั้งคำถามอย่างเป็นกลาง ๆ ขึ้นก่อนว่า แนวทางดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาคืออะไร ก็ต้องตอบว่า การสร้างบารมี ๑๐ ทัศคือ แนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาเพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ตรัสรู้ได้ด้วยการฝึกฝนอบรมตนเองและดำเนินชีวิตมาตามแนวทางการสร้างบารมี ๑๐ ทัศนั้นเอง      คำสอนที่วัดพระธรรมกายนำมาสั่งสอนแนะนำอบรมถ่ายทอดให้สาธุชนทั้งหลายประพฤติปฏิบัติตามก็คือ การสร้างบารมี ๑๐ …

คำสอนของวัดพระธรรมกายถูกต้องตามแนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาหรือไม่ ทำไมถึงเน้นแต่การชวนคนทำบุญอย่างเดียว Read More »

อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมแตกแยก

คำถาม:           อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมโลก เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายจนบานปลาย ไปสู่ความแตกแยก บางครั้งก็รุนแรง ถึงขั้นเกิดสงครามโลก คำตอบ: หลวงพ่อเกิดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ เป็นภาวะที่ขณะนั้นใกล้สงครามโลกครั้งที่ ๒ เต็มที ในช่วงนั้น ถ้าจะว่าไปแล้วประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะคับขัน ถูกอำนาจทางการเมืองโลก รวมทั้ง สภาพเศรษฐกิจสังคมทั่วโลก บีบเข้ามาอย่างแรง แล้วผลที่ตามมาก็คือ ความระส่ำระสายทั้งประเทศไทย และความไม่สงบเรียบร้อยในพระพุทธศาสนาก็เกิดขึ้นเป็นอันมาก แต่พวกเราซึ่งเกิด มาในภายหลังไม่ค่อยจะรู้กัน จะมีก็แต่หลวงปู่ หลวงพ่อ บางรูปในยุคนั้นเท่านั้นเอง สภาพต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลกระทบกระเทือนอย่างยิ่งในกาลต่อมา      เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ ระเบิดขึ้น ถ้ามองในสายตาของชาวโลก ก็บอกว่าเพราะประเทศนั้นประเทศนี้ เป็นตัวต้นเหตุ ในแง่ของประวัติศาสตร์ ก็มักจะโทษประเทศญี่ปุ่นและประเทศเยอรมัน ว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ทำให้สงครามโลกเกิดขึ้น ผู้คนต้องล้มตายกันมากมาย นี้คือการมองแบบชาวโลก มองในแง่ของประวัติศาสตร์      แต่ถ้ามองแบบชาวพุทธมอง เราไม่ได้มองอย่างนั้น เรามองว่าขณะนี้มารฝูงใหญ่ ๆ ฝูงหนึ่ง ที่เรียกกันว่า “กิเลสมาร” กำลังอาละวาดด้วยการแทรกเข้าไปอยู่ในใจคน แล้วทำให้คนโลภ โกรธ …

อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมแตกแยก Read More »

คนพานมีลักษณะอย่างไร

คำถาม: กราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าค่ะ มงคลชีวิตข้อแรก สอนให้เราไม่คบคนพาล ก่อนอื่นอยากกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า คนพาลมีลักษณะอย่างไร คบแล้วมีผลเสียอย่างไรเจ้าค่ะ คำตอบ:  การจะดูว่า ใครเป็นคนพาลหรือคนดีนั้น ยากพอสมควร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้มาตรฐานในการวัดมาตรฐานคนไว้ คือเอากรรมหรือการกระทำเป็นตัววัด คือคนทำกรรมดีก็เรียกว่าคนดี คนทำกรรมชั่วก็เรียกว่าคนชั่ว             คนพาลคือ คนที่มีนิสัยคิดและทำความชั่วเป็นปกติ คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่วเป็นปกติ ไม่ใช่นานๆ ครั้ง ไม่ใช่พลั้งเผลอ แต่เป็นอาชีพ เป็นอาจิณเลย             ตั้งแต่คิดโลภ พยาบาท เอาเปรียบ อิจฉาตาร้อน เป็นปกติ อย่างนี้เรียกว่าคิดชั่ว             พูดชั่ว โกหก พูดคำหยาบ ใส่ความเขา นินทาเขาเป็นประจำ             ทำชั่วเป็นปกติ ตั้งแต่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ขโมย คอรัปชั่น ใต้โต๊ะ บนโต๊ะแล้วก็ประพฤติผิดในกามเป็นประจำ             คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว เป็นประจำอย่างนี้ ท่านเรียกว่าคนพาล คือชั่วจนกระทั่งเป็นนิสัยประจำของเขา ทางพระเรียกว่าคนพาล ชาวบ้านเรียกว่าคนชั่ว  …

คนพานมีลักษณะอย่างไร Read More »