หนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหา

DMC.TV ที่นี่

การทำบุญด้วยเงินที่โกงเขามาจะได้บุญหรือไม่

คำถาม: กรณีคนที่โกงเขามา แล้วเอาเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญ ผลบุญจะได้แก่ผู้ที่โกงเขามาทำบุญหรือไม่ครับ? คำตอบ: การทำบุญที่ได้ผลบุญ ต้องประกอบด้วยองค์ 4 ประการ คือ 1. วัตถุบริสุทธิ์ คือไม่ได้โกงใครมา คำถามนี้พอเริ่มต้นที่วัตถุก็โกงเขามาเสียแล้ว เพราะฉะนั้นวัตถุไม่บริสุทธิ์ บุญส่วนนี้จึงไม่ได้ 2. เจตนาบริสุทธิ์ ถึงแม้วัตถุบริสุทธิ์ ไม่ได้ขโมยใครมา แต่ที่เอาไปทำบุญ ไม่ใช่เพราะอยากได้บุญ แต่อยากจะได้ประโยชน์จากเขา เช่น ถวายของให้เจ้าอาวาส เพื่อประจบจะได้ฝากลูกเข้าทำงานในบริษัทของโยมอุปัฏฐากของท่าน อย่างนี้ก็ไม่ได้บุญ เพราะเจตนาไม่บริสุทธิ์ เท่ากับติดสินบนเชียวนะ 3. ผู้ให้บริสุทธิ์ คือตัวผู้ทำบุญมีศีลตามเพศภาวะของตน คือ เป็นฆราวาสก็ต้องมีศีล 5 คำถามนี้บอกว่าไปโกงเขามา เพราะฉะนั้นศีลข้อ 2 ก็ขาดไปแล้ว บุญส่วนนี้จึงไม่ได้ 4. ผู้รับมีศีล ถ้าพระภิกษุผู้รับทานรักษาศีล 227 ข้อได้กะพร่องกะแพร่ง หรือผู้รับเป็นขอทานขี้เมา ซ้ำยังติดยาเสพย์ติดอีกต่างหาก บุญที่ผู้ทำทานควรจะได้ก็ตกๆ หล่นๆ ไป เพราะไม่รู้จักเลือกเนื้อนาบุญ         ถ้าการทำบุญไม่ครบองค์ประกอบทั้ง 4 ข้อ อานิสงส์ที่ได้ก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย          คนที่โกงเขามาทำบุญ แม้ว่าเจตนาอยากได้บุญ …

การทำบุญด้วยเงินที่โกงเขามาจะได้บุญหรือไม่ Read More »

การบริจาคโลหิตเป็นการทำบุญหรือไม่ ถ้าเป็นจะได้อานิสงส์อย่างไร?

คำถาม: การบริจาคโลหิตเป็นการทำบุญหรือไม่ ถ้าเป็นจะได้อานิสงส์อย่างไรครับ? คำตอบ: เป็นบุญแน่นอน การบริจาคโลหิตถือว่าเป็นการให้เลือดเนื้อเป็นทานทีเดียว ได้บุญมากระดับอุปบารมี คือเป็นบุญที่ส่งผลทันตาเห็น         ผลในชาตินี้ ทางการแพทย์ยืนยันว่าใครที่บริจาคโลหิตไปร่างกายก็จะผลิตเม็ดเลือดขึ้นมาใหม่ ที่บริสุทธิ์และมีคุณภาพสูงกว่า เพื่อทดแทนโลหิตที่บริจาคไป ส่วนอานิสงส์ที่จะได้ติดตัวข้ามภพข้ามชาติไป คือจะไปเกิดกีภพกี่ชาติก็ตาม จะมีร่างกายแข็งแรงและมีสติปัญญาฉลาดหลักแหลมเหนือมนุษย์ทั้งหลาย         ถ้าเราอ่านเรื่องโบราณๆ จะพบว่าบางคนมีแรงมาก ขนาดชักคะเย่อกับช้างได้ หรือแม้ที่สุดกับคนหนุ่มฉกรรจ์ประเภททหารเกณฑ์ขนาด 1 ต่อ 100 ก็ยังชักคะเย่อชนะ ให้ปล้ำต่อสู้กับเสือ ยังหักคอเสือได้ พวกที่แข็งแรงอย่างนี้เป็นเพราะกำลังบุญจากอดีตที่เคยบริจาคโลหิตเป็นทานนั่นเอง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

จริงหรือไม่ที่กล่าวกันว่า เมื่อทำบุญเสร็จแล้ว ถ้าไม่ได้กรวดน้ำให้กับผู้ตาย แม้ผู้ตายจะเป็นญาติสนิท เขาก็ไม่ได้รับบุญ

คำถาม: จริงหรือไม่ที่กล่าวกันว่า เมื่อทำบุญเสร็จแล้ว ถ้าไม่ได้กรวดน้ำให้กับผู้ตาย แม้ผู้ตายจะเป็นญาติสนิท เขาก็ไม่ได้รับบุญที่เราอยากให้เขาได้? คำตอบ: เรื่องนี้ก็มีส่วนจริงนะ การกรวดน้ำ คือการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่เราทำให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เราระบุถึง ถ้าเราไม่ให้ เขาก็ไม่ได้รับน่ะซิ         ในสมัยพุทธกาล มีอยู่คราวหนึ่ง พระเจ้าพิมพิสารท่านทำบุญแล้วไม่ได้อุทิศส่วนกุศลให้กับใคร ทีนี้พวกญาติในอดีตชาติของท่านซึ่งชอบยักยอกของที่เขาเตรียมไว้จะถวายพระ พวกนี้ตายแล้วไปเกิดเป็นเปรตนานจนนับเวลาไม่ถ้วน ตลอดเวลานั้นก็รออยู่ว่า เมื่อไหร่หนอพระเจ้าพิมพิสารจะกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้บ้าง แต่ทำบุญกี่ครั้งๆ พระองค์ก็ไม่กรวดน้ำให้สักที เขาไม่ได้บุญ ก็เลยไม่พ้นจากสภาพการเป็นเปรต         วันหนึ่งพระเจ้าพิมพิสารทำบุญถวายวัดเวฬุวันให้แก่สงฆ์แล้วก็ไม่ได้กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ใครอีกเช่นเคย เพราะไม่เคยทำสักที แต่เนื่องจากบุญครั้งนี้มากเป็นพิเศษ เป็นที่รู้กันทั่วไปหลายภพหลายภูมิ พวกเปรตที่เป็นญาติเก่าก็รู้ด้วย และรอรับส่วนบุญอยู่ พอไม่ได้อย่างที่หวังตั้งตารอ ก็นัดกันประท้วง         เจ้าเปรตพวกนี้พอนัดแนะกันอย่างดีแล้ว ตกกลางคืนก็ไปร้องกรี๊ดๆ ทำเสียงโหยหวนอยู่รอบพระราชวัง บ้างก็แสดงกายให้พระเจ้าพิมพิสารเห็นพอพระเจ้าพิมพิสารได้ยินเสียง ก็สงสัย เอ๊ะ! มันอะไรกัน พอเห็นตัวชัดก็ตกพระทัยว่า เจ้าเปรตพวกนี้จะมาทำลายแว่นแคว้นหรือจะมาเอาชีวิตพระองค์ หรือจะยังไงกันแน่ วันรุ่งขึ้น ก็เลยรีบเสด็จแต่เช้า ไปกราบทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น         พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า เปรตพวกนี้เคยเป็นญาติของพระเจ้าพิมพิสารในชาติก่อนๆ โน้นนานมาแล้ว เขาไม่ได้มาทำร้ายอะไรหรอก แต่มาขอส่วนบุญ …

จริงหรือไม่ที่กล่าวกันว่า เมื่อทำบุญเสร็จแล้ว ถ้าไม่ได้กรวดน้ำให้กับผู้ตาย แม้ผู้ตายจะเป็นญาติสนิท เขาก็ไม่ได้รับบุญ Read More »

คุณแม่ทำบุญด้วยเงินที่ลูกให้ท่านจะได้บุญหรือไม่

คำถาม:  คุณแม่ของหนูท่านแก่แล้ว ทำอะไรไม่ค่อยไหว ลูกๆ ให้เงินท่านใช้ ท่านก็แบ่งเอาไปทำบุญบ้าง แต่ดูท่านมีกังวล ไม่เบิกบานเหมือนคนอื่นที่เขาไปทำบุญกัน ถามได้ความว่าคุณแม่กลัวไม่ได้บุญ เพราะไม่ใช่เงินของท่าน กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า ท่านจะได้บุญไหมค่ะ เพราะเงินนั้นเป็นเงินที่ลูกๆ ให้เป็นสิทธิ์ของท่านแล้วค่ะ คำตอบ: เมื่อเงินนั้นเป็นสิทธิ์ของท่านแล้ว ท่านจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของท่าน ถ้าท่านเอาไปทำบุญ ท่านก็ได้บุญ ถ้าท่านเอาไปทำบาป ท่านก็ได้บาป คุณแม่กลัวไม่ได้บุญ เพราะไม่ใช่เงินของท่าน        หลวงพ่อฝากช่วยเอาคำตอบของหลวงพ่อไปอธิบายให้ท่านเข้าใจด้วยนะ ท่านจะได้ดีใจว่าท่านได้บุญทุกครั้งที่เอาเงินของลูกที่มอบให้ไปทำบุญ และจริงๆ แล้วลูกๆ ก็ได้บุญด้วย ทั้งบุญที่ได้จากการตอบแทนคุณพ่อแม่ และบุญจากเงินที่ลูกหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงไปก่อให้เกิดประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา เท่ากับว่าคุณแม่ได้ช่วยโลกีย์ทรัพย์ธรรมดาๆ ของลูกให้เป็นอริทรัพย์       นี่เป็นลักษณะบุญต่อบุญ สามารถขยายผลมากอย่างนี้ ขอให้ดีใจกันทั้งคุณแม่และคุณลูกนะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ต้องดื่มเหล้าแค่ไหนถึงถือว่าขาดสติ

คำถาม: คนดื่มเหล้าขนาดไหนจึงจะถือว่าขาดสติครับ ? คำตอบ:   ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจคำว่า “สติ” เสียก่อน สติ แปลว่าความระลึกได้ หมายถึงระลึกได้ก่อนจะทำ จะพูดและสามารถจำสิ่งที่ทำ คำที่พูดแล้วได้อีกด้วย         เรามักใช้คำนี้คู่กับคำว่า สัมปชัญญะ แปลว่ารู้ตัว หรือระลึกได้ชัดถึงการปฏิบัติและการพูดที่เหมาะสม ทำให้จิตอยู่ในสภาพที่พร้อมจะทำงานได้อย่างดี         โดยทั่วไปคนเราแม้ยังไม่ได้ดื่มสุรา ก็เมาอยู่แล้ว คือ         ๑. เมาอยู่ในความเป็นหนุ่มเป็นสาว คือคิดว่ายังมีเวลาสนุกอยู่อีกนาน         ๒. เมาในความเป็นผู้ไม่มีโรค คือเผลอสติคิดว่าตัวเองจะเป็นคนที่แข็งแรงต่อไปอีกนาน หารู้ไม่ว่าโรคร้ายจะมาเยือนตัวเมื่อไรก็ได้         ๓. เมาในชีวิต คือ เผลอสติคิดว่าความตายยังอยู่ห่างไกล อีกนานกว่าความตายจะมาถึงตัว หารู้ไม่ว่าความตายนั้นไม่มีเครื่องหมายอะไรบอกล่วงหน้า         ในทัศนะของพระอริยเจ้าทั้งหลาย พวกเราชาวโลกคือคนประมาทขาดสติแล้วทั้งสิ้น ดังนั้นคนที่ดื่มเหล้าจึงล้วนแต่เพิ่มความขาดสติให้แก่ตนมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นการดื่มเหล้ายังให้โทษอีกมากมายแก่ตนเองและคนรอบข้างอีกด้วย         คนส่วนมากเข้าใจว่า คนที่ดื่มเหล้าเมาจนเดินไม่ไหว หรือพูดไม่รู้เรื่องแล้ว คือคนขาดสติ แต่จริง ๆ แล้วในทางธรรม ถือว่าเขาขาดสติแล้วตั้งแต่คิดจะดื่ม คิดจะซื้อ ยิ่งลงมือเปิดขวดรินเหล้าใส่แก้ว แล้วดื่มล่วงลำคอเข้าไป เขาก็ยิ่งขาดสติมากยิ่งขึ้นตามลำดับ         ยิ่งดื่มมาเท่าไร …

ต้องดื่มเหล้าแค่ไหนถึงถือว่าขาดสติ Read More »

การใส่บาตร ถ้าไม่ได้อธิษฐาน เพราะถือว่าใส่บาตรไม่ได้หวังผล จะได้บุญหรือไม่

คำถาม: การใส่บาตร ถ้าไม่ได้อธิษฐาน เพราะถือว่าใส่บาตรไม่ได้หวังผล จะได้บุญหรือไม่คะ? คำตอบ:   ความจริงเวลาใส่บาตรแล้วจะอธิษฐาน หรือไม่อธิษฐานก็ได้บุญอยู่แล้ว แต่ที่โบราณท่านสอนให้เราอธิษฐานกันนั้น เป็นการตั้งเจตนาแน่วแน่ลงไป คนที่ทำอย่างนี้เมื่อถึงคราวบุญสงผล จะได้ผลตรงตามที่เราปรารถนา เช่น สมมติเราเป็นคนที่ให้ทาน ถึงคราวบุญส่งผลก็จะทำให้เราเป็นคนร่ำรวย แต่ว่าถ้าเราเป็นคนที่มีความเห็นผิด เป็นคนเจ้าโทสะ ถึงคราวบุญส่งผล เราก็รวย แต่เราก็ยังเจ้าโทสะอยู่         เพราะฉะนั้น เราจึงมีโอกาสที่จะเอาความรวยไปใช้ในทางที่ผิด คือใครขวางทางก็เล่นงานเขาถึงเป็นถึงตายเลยทีเดียว ท่านจึงสอนให้อธิษฐานด้วยเมื่อทำบุญ เพื่อเป็นการเตือนสติตัวเองไว้ จะได้ไม่ถลำไปในทางที่ไม่ดีไม่งาม เช่น อธิษฐานว่า ด้วยอำนาจทานที่ข้าพเจ้าทำดีแล้วนี้ ขอให้บุญกุศลนี้ส่งให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ไม่มีโทสะ         ถ้าทำอย่างนี้ถึงคราวบุญส่งผล บุญก็จะคอยเตือนเราให้ไม่เป็นคนเจ้าโทสะได้ แม้แต่ในปัจจุบันนี้ ถ้าเราหมั่นอธิษฐานอย่างนี้บ่อยๆ ก็เป็นการเตือนตัวเอง ไม่ให้มีโทสะเข้าครอบงำ หรือเวลาเกิดโทสะก็สามารถยับยั้งตัวเองมีสติได้เร็วขึ้น         การอธิษฐานมีส่วนดีอย่างนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงจัดให้การอธิษฐานเป็นบารมีอย่างหนึ่ง ในบารมี 10 ทัศ เรียกว่า อธิษฐานบารมี แม้การที่พระองค์มาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ พระองค์มาด้วยอำนาจแรงอธิษฐาน คือทรงตั้งจิตมั่น แล้วพยายามทำตามเส้นทางที่หวังไว้         การอธิษฐาน คือการตั้งโครงการนั่นเอง …

การใส่บาตร ถ้าไม่ได้อธิษฐาน เพราะถือว่าใส่บาตรไม่ได้หวังผล จะได้บุญหรือไม่ Read More »

ดื่มไวน์เพื่อเจริญอาหารย์ ผิดศีลข้อ 5 หรือไม่

คำถาม: เครื่องดื่มประเภทไวน์ ที่มีเปอร์เซนต์แอลกอฮอล์ต่ำ ที่เขานิยมดื่มกันก่อนอาหาร เพื่อเจริญอาหาร ดื่มแล้วเข้าข่ายผิดศีลข้อ ๕ หรือเป็นอบายมุขหรือเปล่า ครับ ? คำตอบ:   ไวน์ เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์น้อยก็จริง แต่ก็เป็นของมึนเมาชนิดหนึ่ง ดื่มเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นน้ำย่อยให้เจริญอาหารหรือเพื่ออะไรก็ตาม ดื่มไม่ช้าไม่นานก็ติด ติดไวน์ไม่นานต้องวายวอดแน่ เพราะไวน์ราคาแพงไม่ใช่เล่น ได้ยินว่าไวน์บางขวดราคาเป็นหมื่น         เพราะฉะนั้นอย่าไปหลงนิยมชมชื่นว่ามันเป็นเครื่องดื่มที่แสดงรสนิยมสูง หรือแสดงฐานะอะไรเลย เพราะมันเป็นทางไปสู่ความวายวอด นำความพินาศฉิบหายมาให้ เป็นอบายมุขที่ใครก็ไม่ควรแตะต้อง และไม่ควรประมาทว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำดื่มแล้วไม่เมา แค่ดื่มแล้วครึ้มใจ พูดไม่ยั้งคิดก็แย่แล้วนะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

การใส่บาตรด้วยข้าวอย่างเดียวเป็นประจำจะมีผลในชาตินี้และชาติหน้าอย่างไร

คำถาม: การใส่บาตร โดยใส่แต่ข้าวอย่างเดียวเป็นประจำ ไม่มีของหวาน ของคาวเลย จะมีผลในชาตินี้และชาติหน้าอย่างไรคะ? คำตอบ: หว่านพืชเช่นไร ก็ได้ผลเช่นนั้นแหละลูกเอ๊ย ใส่แต่ข้าวไม่ใส่กับข้าวเลย ถึงคราวบุญส่งผล มันก็ส่งมาแบบฝืดๆ คอนั่นแหละ ถึงคราวจะได้อะไรก็ได้ไม่ครบเครื่อง เคยนึกบ้างไหมว่า ถ้าเราถูกจำกัดให้กินแต่ข้าวเปล่าอย่างเดียวทุกวันๆ เราจะเป็นเช่นไร ชีวิตมันขาดรสชาติไปเลยใช่ไหม         ถ้าท้องถิ่นใด ชาวบ้านใส่บาตรไม่ใส่กับข้าวกันเลยทั้งหมู่บ้าน ไม่มีการส่งปิ่นโตกับข้าวไปรอท่าไว้ที่วัดด้วย ปล่อยให้หลวงปู่ หลวงตา อดแห้งอดแล้งกินข้าวเปล่าๆ ชาติหน้าถึงคราวบุญส่งผลให้มีเงิน ก็มีอันเป็นให้ไปอดแห้งอดแล้ง เหมือนที่ทำกับพระนั่นแหละ ถึงคราวจะได้อะไรมาก็ขาดๆ เกินๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นผลมาจากการถวายทานที่ไม่ประณีตของเรานั่นเองนะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ฆ่ายุงเป็นบาปหรือไม่

คำถาม: เคยฟังหลวงพ่ออธิบายเรื่องมาร ดิฉันเข้าใจว่ายุงเป็นมารประเภทหนึ่ง คือประเภทเทวบุตรมาร ฉะนั้นคนที่ฆ่ายุงก็เป็นการฆ่ามารชนิดหนึ่ง ฆ่าเพื่อสงเคราะห์ชาวโลกไม่ให้ถูกรบกวน ไม่น่าจะถือว่าเป็นบาปใช่ไหมคะ ? เวลาโดนยุงกัด คำตอบ:   เรื่องนี้เราต้องจับประเด็นให้ถูกนะ ตอนจะฆ่ายุง ถามว่าเราโกรธไหม โกรธ แถมบันดาลโทสะเข้าไปด้วย ตบยุงตายคาที่เลย พอยุงตาย เราก็กลายเป็นมารอีกตัวหนึ่งต่างหาก ฆ่ามารตัวเล็กไป แต่ได้มารตัวโตขึ้นมาแทน มันไม่คุ้มกันเลยนะ ไม่คุ้มทั้งในส่วนของตัวเองและในส่วนของโลก ยิ่งถ้าเอาดีดีที ฉีดเข้าไปอีก คราวนี้นอกจากโลกจะได้มารตัวใหญ่มาแทนแล้ว ยังได้สารพิษตกค้างอีกไม่รู้เท่าไร จะมีมลภาวะที่เลวร้ายติดตามมาอีกมากมาย โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

อธิษฐานไม่ให้มีคู่ครอง จะได้ผลหรือไม่

คำถาม: ถ้าทำบุญแล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า เกิดกี่ชาติๆ อย่าได้มีคู่ครองเลย คำอธิษฐานจะเป็นผลหรือไม่ครับ? คำตอบ: เมื่อทำบุญ ผลของบุญต้องเกิดแน่ แต่ว่าถ้าตราบใดเรายังเข้าไม่ถึงพระธรรมกายในตัวละก็ คำอธิษฐานนี้ยังไม่ค่อยจะได้ผลนะ แต่ว่าถ้าผู้ที่อธิษฐานเข้าถึงพระธรรมกายในตัวแล้ว และสิ่งที่อธิษฐานก็อยู่ในเส้นทางพระนิพพาน ที่ตนกำลังปฏิบัติอยู่ คำอธิษฐานจะศักดิ์สิทธิ์ได้ผลตามความปรารถนา ตั้งแต่ชาตินี้เป็นต้นไป         เพราะฉะนั้น ถ้าใครเห็นทุกข์เห็นภัยในการครองเรือน และต้องการป้องกันไม่ให้ตัวถลำไปมีคู่ครองอีกละก็ ตั้งใจฝึกสมาธิให้ดีเอาให้ถึงธรรมกาย  ให้ได้ตั้งแต่ชาตินี้ แล้วหมั่นอธิษฐานขอเป็นโสดเรื่อยไป ทำอย่างนี้ได้จึงจะรอดตัว         ถ้ายังเข้าไม่ถึงก็ยังไม่แน่นอนนะ อาจจะรอดหรืออาจจะไม่รอด แต่ถ้าเข้าถึงธรรมกายละก็ ร้อยเปอร์เซนต์รอดแน่เลย แล้วเราไปบวชต่อด้วยกันในชาติหน้าอีกนะ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

พระสามารถใช้ยาฆ่าแมลงหรือโรยยาป้องกันแมลงมารบกวนได้หรือไม่

คำถาม: พระภิกษุใช้ยาฆ่าแมลงในกุฏิ หรือกรณีมีแมลงมาทำลายต้นไม้ในวัด จึงโรยยาป้องกัน ถูกทำร้าย โดยคนทำก็ไม่มีเจตนาเช่นเดียวกัน คำตอบ:   ขอฝากข้อสังเกตสักนิด ถ้าบ้านไหน วัดไหนมีมด มีแมลงมาก มันก็ฟ้องว่าการดูแลที่อยู่อาศัย ดีไม่พอ ตั้งแต่ไม่ค่อยปัดกวาดเช็ดถูเท่าที่ควร หรือปล่อยบริเวณรอบ ๆ ให้รก อาจจะมีหญ้ามาก หรืออะไรก็แล้วแต่ หรือเป็นเพราะการเปิดไฟสว่างมากเกินไป เปิดต่อเนื่องกันนานเกินไปก็ได้ แมลงมันมาเล่นไฟแล้วมันก็ตาย แล้วมดมันก็มากินแมลงอีกที เลยทำให้มดชุม         กรณีนี้แก้ไขได้ง่าย เช่น เวลากลางคืนจะดูหนังสือ ก็เปิดไฟชนิดไฟโคมดูเฉพาะที่ แล้วทันทีที่ใช้เสร็จก็ปิดไฟเลย วิธีนี้ก็ช่วยได้มากแต่อย่าลืมว่าท่านลงมือฆ่าเมื่อไหร่ ก็ผิดพระวินัยเมื่อนั้น หนีไม่พ้น ทางที่ดีควรเกณฑ์เด็กวัดช่วยกันถางหญ้าเสียบ้าง หมั่นกวาดวัด จัดระบบรักษาความสะอาดให้ดี         ส่วนหลวงพ่อหลวงพี่ก็หมั่นกวาดวัด จัดระบบรักษาความสะอาดให้ดี ป้องกันไว้ดีกว่าจะไปตามแก้ไข แล้วพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีป้องกันให้มากที่สุด โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

อานิสงส์และสาเหตุของการสร้างพระพุทธรูปคืออะไร

คำถาม: ขอความกรุณาหลวงพ่อให้ความกระจ่างเกี่ยวกับอานิสงส์ และสาเหตุของการสร้างพระพุทธรูปด้วยค่ะ? คำตอบ: ก่อนที่จะฟังอานิสงส์ของการสร้างพระพุทธรูป ขอเล่าถึงสาเหตุของการสร้างพระพุทธรูปว่าสร้างขึ้นมาทำไม         เรื่องเดิมมีอยู่ว่าเป็นธรรมดาของพระโพธิสัตว์ ก่อนจะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ หลังจากได้รับพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อน แล้วจะต้องบำเพ็ญบารมีต่ออีกอย่างน้อย 4 อสงไขยกับแสนมหากัป ซึ่งนับว่านานไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว         เพราะเหตุนี้นานๆ จึงจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นสักพระองค์หนึ่ง เมื่อพระองค์ใดบังเกิดขึ้นแล้วก็จะทรงรีบประกาศธรรมะให้ชาวโลกรู้ ชาวโลกที่รู้แล้วก็ตั้งอยู่ในศีลในธรรม ประพฤติปฏิบัติตัวเป็นอย่างดี จนกระทั่งหมดกิเลสเข้านิพพานตามพระองค์ไป เพราะฉะนั้น ใครที่เกิดทันเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ชื่อว่ามีโชคดีอย่างยิ่ง         คราวนี้สำหรับผู้ที่มาเกิดไม่ทันพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้พบแต่คำสอนของพระองค์ นึกหน้าเจ้าของคำสอนไม่ออกจะทำอย่างไรดี?         ปู่ ย่า ตา ยาย ที่ปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงพระธรรมกายแล้ว ท่านมองการณ์ไกล รู้ว่าในภายหน้าจะเกิดมีปัญหาเรื่องนี้แน่นอน จึงปั้นองค์พระตามลักษณะที่ท่านเห็นในกายภายในออกมา พระพุทธรูปที่ท่านแกะสลักจำลองออกมาจากภายในจึงสวยงามมาก เพื่อให้คนรุ่นหลังอย่างเรากราบไหว้กัน         ในสมัยแรกๆ ธรรมะในตัวของท่านเหล่านั้นหนักแน่น มั่นคง แจ่มชัด เพราะฉะนั้นใครก็ตาม อย่าว่าแต่ได้ยินคำสอนเลย เพียงแค่เห็นพระพุทธรูปที่ท่านแกะสลักหรือปั้นขึ้นมา ใจก็ชุ่มชื่นเบิกบานเสียแล้ว เพราะว่าได้พบพุทธลักษณะ ซึ่งเป็นลักษณะที่สง่างาม ใครๆ เห็นแล้วก็อยากประพฤติปฏิบัติตนให้หมดกิเลสตาม ยิ่งเมื่อได้ศึกษาถึงธรรมะที่พระองค์ได้ทรงประกาศไว้ ก็ยิ่งมีกำลังใจที่จะทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป …

อานิสงส์และสาเหตุของการสร้างพระพุทธรูปคืออะไร Read More »

ถ้าเราไปซื้อปลาที่มันชามาปล่อยให้มันตายเองเสียก่อน แล้วเอามาทำอาหาร อย่างนี้จะบาปไหม

คำถาม: หลวงพ่อเจ้าคะบางทีเราไปตลาด เราเห็นปลาช่อนที่เขาเอามาขายมันเริ่มชาแล้ว อย่างไรเสียอีกไม่นาน มันก็ต้องตายเอง เราไปซื้อปลาที่มันชา เอามาบ้านแล้วปล่อยให้มันตายเองสียก่อน แล้วเอามาทำอาหาร อย่างนี้จะบาปไหมคะ ? คำตอบ: ประเด็นนี้ก็ได้ชื่อว่ามีส่วนในการฆ่าเหมือนกัน ลองมาฟังนิทานดูสักเรื่อง บอกก่อนนะว่าเรื่องนี้เป็นเพียงนิทาน แต่ว่าเคยเป็นข้อสอบที่เอามาถามกันในการสอบนักธรรมของพระภิกษุสามเณร         เรื่องอยู่ว่า มีตากับยายสองคน เข้าวัดเป็นประจำทั้งคู่ วันโกนวันพระก็ไปนอนวัด ถือศีล ๘ กันตลอดพรรษา เช้ารุ่งขึ้นจากวันพระวันหนึ่ง ก็พายเรือกลับมาบ้านด้วยกัน ตาพายท้าย ยายพายหัวขณะพายเรือฉับ ๆ ไปนั่นเอง ก็มีปลาเจ้ากรรมตัวหนึ่งกระโดดเข้ามาในเรือ ทั้งตาทั้งยายถือศีลกันมานาน ก็รู้อยู่นะว่าฆ่าสัตว์เป็นบาป แต่ปลานี้มันตัวโต แล้วทั้งคู่ก็อยากกินแกงปลาติดหมัดขึ้นมาเดี๋ยวนั้นทีเดียวก็คิดกันอยู่ในใจทั้งคู่ละนะว่า ทำอย่างไรหนอจะได้กินแกงปลาอร่อย ๆ แล้วก็ไม่บาปด้วย         ตาก็เอื้อมมือไปจับปลาตัวนั้น แล้วก็โยนไปให้ยายที่นั่งอยู่หัวเรือ บอกว่า “ยาย…แกปล่อยปลาซิ” ยายก็แหม….กำลังมองหาผักบุ้งยอดอ่อน ๆ มาใส่แกงส้มปลาอยู่พอดี แต่ว่าก็กลัวบาป เลยจับปลาโยนกลับไปให้ตาพร้อมกันบอกว่า “ตา..แกปล่อยเองถอะ” ตาก็จับปลาโยนกลับมาใหม่ “แกปล่อยเถอะ” โยนกันไปโยนกันมาจนปลาตาย         ถามว่าบาปไหม ? ตอบว่าบาป …

ถ้าเราไปซื้อปลาที่มันชามาปล่อยให้มันตายเองเสียก่อน แล้วเอามาทำอาหาร อย่างนี้จะบาปไหม Read More »

การมีอาชีพขายเหล้า หรือขายบริการให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ถือว่าเป็นการสนับสนุนให้เขาผิดศีล ๕

คำถาม: การมีอาชีพขายเหล้า หรือขายบริการให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ไม่ทราบว่าเป็นการสนับสนุนให้เขาผิดศีล ๕ หรือไม่อย่างไร หลวงพ่อกรุณาช่วยอธิบายด้วยคะ ? คำตอบ: เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน หลวงพ่อจะเล่าเรื่องเก่าให้ฟัง ที่บ้านหลวงพ่อแต่เดิมก็เป็นเอเย่นค้าเหล้า ถามว่าแล้วมีบาปติดตัวไหม ?         ตอบว่ามี หลวงพ่อเองตอนนี้เป็นนิสิตมหาวิทยาลัย เคยได้ชื่อว่าเป็นถังเหล้าเคลื่อนที่อยู่ระยะหนึ่ง คนที่ค้าเหล้านี่โดยทั่วไปเขารู้ไหมว่าคนที่ซื้อเหล้าไปกินจะเสียผู้คน รู้ไหมว่ากินแล้วเขาจะเมา “รู้” แต่เขาไม่สงสารคนกิน เขาขาดคุณธรรม คือเมตตาจิต เห็นแก่จะได้ฝ่ายเดียว แล้วก็เลยตั้งหน้าตั้งตาขายไปทั้งเหล้าทั้งบริการ         ด้วยบาปที่ขาดเมตตาจิตนี้ ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน ถ้าตกทุกข์ได้ยากเมื่อไร จะไม่มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ชาตินี้แม้เคยช่วยใครมาเท่าไร ๆ พอถึงคราวตัวเองทุกข์ได้ยากบ้าง ก็จะไม่มีคนช่วยเคยช่วยคนอื่นไว้ อาจจะเป็นบุญแค่ปลายนิ้วก้อย แต่บาปที่เขาขาดเมตตาจิตมอมเมาคนทั้งโลกนี่ เทียบกันแล้วบาปเป็นกระบุงเป็นตระกร้าเอามาเทียบกับบุญที่ทำไว้แค่ปลายนิ้วก้อย มันถ่วงกันไม่ได้ งัดกันไม่ขึ้นหรอกนะ         โบราณจึงบอกว่า ใครที่ค้าเหล้าค้ายาเสพติด ทำบุญกับใครไม่ขึ้น จริง ๆ แล้วก็บุญส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป แต่ว่าบาปมันมีตั้งเยอะ เมื่อเทียบกับบุญที่ทำไว้นิดเดียว มันก็เลยเทียบกันไม่ได้ คนพวกนี้ทำบุญคุณกับใครแล้วเขาไม่เห็นความดีหรอก เพราะฉะนั้นใครที่เป็นคนขายเหล้า เป็นเจ้าของกิจการขายเหล้า หรือเป็นคนเสิร์ฟ …

การมีอาชีพขายเหล้า หรือขายบริการให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ถือว่าเป็นการสนับสนุนให้เขาผิดศีล ๕ Read More »

คนที่ชอบโกหกเพื่อให้คนอื่นสบายใจนั้นบาปหรือไม่

คำถาม: ศีลข้อที่ ๔ เรื่องมุสานั้น หมายความว่าไม่ให้พูดคำที่ไม่เป็นจริงเลยหรือครับ หรือมีข้อยกเว้นอย่างไรบ้าง ? คำตอบ: แน่นอนคำที่ไม่เป็นจริง ห้ามพูดเด็ดขาด ข้ออ้างชนิดที่เรียกว่าโกหกเพื่อให้คนอื่นสบายใจนั้นฟังไม่ขึ้น โกหกแล้วใครจะสบายใจหรือไม่สบายใจยังไงก็ตามเถอะ โกหกก็คือโกหก มันผิดนะ         คำถามประเภทนี้มักจะได้ยินจากพ่อบ้านจอมเจ้าชู้อยู่บ่อย ๆ “กับคนอื่นผมไม่โกหกหรอก ผมจะโกหกเฉพาะกับเมียผมเท่านั้นแหละคือพูดให้แกสบายใจ ผมคงไม่บาปนะหลวงพ่อ” นั่นแหละบาปชัด ๆ เสียแรงร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งนาน ยังหลอกกันได้         คนที่ชอบอ้างว่าโกหก เพื่อให้คนอื่นสบายใจนั้น ลองสำรวจตัวเองใหม่จะพบว่า ถ้าเราเองได้จัดการเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเราอย่างรอบคอบถูกต้องแล้ว การที่จะมาโกหกเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้น ก็เป็นอันหมดห่วงไปได้ เพราะว่าไม่มีเรื่องอะไรที่เราจะต้องไปโกหกใครนั่นเอง แต่ถ้าเรายังต้องโกหกคนโน้นคนนี้อยู่ ก็แสดงว่ายังมีเรื่องที่ไม่ถูกต้องแอบแฝงไว้ ต่อไปชีวิตของเราจะไม่ราบรื่นแน่ถ้าไม่รีบแก้ไข โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา