หนังสือ ชีวิตสมณะ ๑

จังหวะชีวิตที่มีค่า…ได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์

๖. จังหวะชีวิตที่มีค่า…ได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ พระเณรที่บวชช่วงสั้น ต้องคิดอย่างนี้ เรามีเวลาจำกัดในเพศของสมณะ เป็นจังหวะชีวิตที่ดีของเราที่ได้มาบวช ซึ่งถือว่าเป็นเพศสูงสุดที่มนุษย์และเทวา ผู้มีบุญ ผู้รู้ทั้งหลายเขาเคารพกราบไหว้ว่า เป็นส่วนหนึ่งในพระรัตนตรัย ผ้าผืนนี้เป็นผ้าผืนสุดท้ายของผู้มีบุญจะได้สวมใส่ ไม่มีบุญไม่มีสิทธิ์ครองผ้ากาสาวพัสตร์ สีทองบริสุทธิ์ตั้งแต่เกิด เหมือนทองคำพอเกิดมาก็บริสุทธิ์ ตกอยู่ในโคลน ในที่โสโครก เขาก็เรียกว่า ทอง ตกในที่ดี ๆ ทองยิ่งสุกปลั่ง สดใส งามตั้งแต่เกิด ไม่ต้องเจียระไนเหมือนเพชรเหมือนพลอย ผ้ากาสาวพัสตร์ครองได้ตั้งแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์เรื่อยมา และชุดนี้เป็นชุดสุดท้ายของผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต ที่จะเอาชนะพญามารได้ก็ชุดนี้แหละ ชุดหลากสี ชุดอื่นไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์ ไปลองศึกษาดูในพระไตรปิฎก ยืนยันเหมือนกันหมด เพราะฉะนั้นผ้าผืนนี้สำคัญมาก ผู้มีบุญเท่านั้นจึงจะได้สวมใส่ ทรงผมนี้ก็เป็นทรงสุดท้าย ชาวโลกเขาทรงไม่เสร็จ เดี๋ยวสั้น เดี๋ยวยาว เดี๋ยวหยิก เดี๋ยวเหยียด เดี๋ยวแสก เดี๋ยวโกนครึ่งหนึ่ง เดี๋ยวโกน ๒ ข้าง บ้างก็โผล่ตรงกลางเหมือนนกเอี้ยง สารพัดทรง แต่ทรงนี้ทรงสุดท้าย ใช้มีดโกนแทนหวี ปลงทีหนึ่งก็ โล่ง โปร่ง เบาสบาย หมดกังวล …

จังหวะชีวิตที่มีค่า…ได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ Read More »

สมณะน้อย… ผู้ได้โอกาส

๗. สมณะน้อย… ผู้ได้โอกาส สมณะน้อย หรือสามเณรผู้เป็นเทือกเถาเหล่ากอของสมณะ ที่จะรักษาสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไปในอนาคต เอาไว้ให้ผู้มีบุญที่เขาจะมาเกิดในภายหลัง ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะได้เป็นหนทางสว่าง ส่องทางชีวิตทั้งในปัจจุบันและในสังสารวัฏ หลวงพ่ออธิษฐานอยู่เรื่อย ๆ เกิดภพต่อไปให้ได้บวชตั้งแต่เป็นสามเณรตัวน้อย ชาตินี้มาทางอ้อม ต้องเสียเวลาไปเรียนหนังสือตามสถาบันต่าง ๆ ยาวนาน กว่าจะได้บวชก็เข้าวัยเบญจเพส วิชาแต่ละวิชาในมหาวิทยาลัย ตรวจตราดูแล้วเป็นวิชาชีพเอาไว้เลี้ยงชีพ เหมาะสำหรับทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชชาชีวิต ที่จะทำให้ชีวิตมีชีวา ทั้งอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน หรือเมื่อตายแล้วก็ไปดี ในมหาวิทยาลัยไม่มีการสอนเรื่องปรโลก ไม่ได้สอนควบคู่กันไประหว่างเศรษฐกิจกับจิตใจ สอนแต่เรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว ไม่ได้สอนเรื่องจิตใจว่า ทำอย่างไรถึงจะดำรงชีวิตได้อย่างผาสุก ทำอย่างไรถึงจะรู้เรื่องราวความจริงของชีวิต ปรโลกมีจริงไหม นรกสวรรค์มีจริงไหม ทำอย่างไรไปนรกไปสวรรค์ได้ ในสังสารวัฏเป็นอย่างไร หรือบรรพบุรุษหมู่ญาติตายไปแล้ว ทำอย่างไรจะสื่อสารกันได้ วิชชาเหล่านี้ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย หลวงพ่อกว่าจะได้บวชก็อายุ ๒๕ ปีแล้ว เสียดายเวลา สู้ลูกเณรไม่ได้ มาทางลัด ไม่ต้องเสียเวลาเรียนทางโลก มาถึงก็เรียนสุดยอดวิชชา เรียนวิชชาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย ทิ้งหมดศิลปศาสตร์ ๑๘ ประการ ไม่ต้องไปเรียน เรียกว่า ดำเนินตามปฏิปทาของพระราหุล พระราหุลออกบวชเป็นสามเณรรูปแรก บวชกันตั้งแต่ยังเยาว์วัย …

สมณะน้อย… ผู้ได้โอกาส Read More »

สมณะ…หาใช่…ไม่ได้ทำอะไร

๘. สมณะ…หาใช่…ไม่ได้ทำอะไร เป็นพระนี่ยากนะ อยู่เฉย ๆ เขาก็หาว่าเกียจคร้าน โดยหารู้ไม่ว่าพระท่านกำลังทำงานที่แท้จริง งานหยุดนิ่ง คือ งานที่แท้จริง ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไรแต่กำลังทำงานที่ยิ่งใหญ่ เหมือนผนังหรือเสาเรือนอยู่เฉย ๆ แต่จริง ๆ กำลังทำงานแบกคาน แบกหลังคาอยู่ แม้แต่หลังคาก็กำลังทำงานคอยกันแดด กันฝน กันลม หรือพื้นก็นึกว่าอยู่เฉย ๆ แต่กำลังแบกพวกเราอยู่ ของบางสิ่งบางอย่างเห็นนิ่ง ๆ แต่กำลังทำงานทั้งนั้น แผ่นดินอย่านึกว่าอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร แต่ว่าข้างในภายใต้พื้นโลกมันเคลื่อนไหวตลอดเวลา ภูเขา ต้นไม้ก็เช่นเดียวกัน เหมือนอยู่เฉย ๆ แต่ก็กำลังทำงาน แม้แต่ดอกไม้ปักใส่แจกัน ก็ไม่ได้อยู่เฉย ๆ กำลังทำงาน ให้ความสดชื่น ให้ความสวยงาม แล้วก็ดึงดูดให้เราเข้าไปหา ไปดอมไปดม เสื้อผ้านึกว่าอยู่เฉย ๆ ก็กำลังทำงาน คอยป้องกันความร้อน ความหนาว กันเหลือบ ยุง ริ้น ไร แมลง คอยป้องกันความละอาย ปกปิดร่างกายให้เราอยู่ …

สมณะ…หาใช่…ไม่ได้ทำอะไร Read More »

เกื้อกูลกัน…จรรโลงธรรม

๙. เกื้อกูลกัน…จรรโลงธรรม เกิดมาชาติหนึ่งชีวิตหนึ่งเราทำได้อย่างเดียว ถ้าคฤหัสถ์ก็ต้องทำมาหากินกันไป จะให้มาศึกษาธรรมะกระทั่งถึงขั้นละเอียดนี่ยาก เพราะฉะนั้นก็ต้องอาศัยผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสาร เพราะท่านออกบวชแล้ว หมดความจำเป็นในการใช้ชีวิตในเพศคฤหัสถ์ ก็สนับสนุนท่าน ให้ท่านได้ทำความเพียร ท่านก็จะได้เรียนรู้เรื่องพระธรรมคำสอน เรื่องการปฏิบัติธรรม แล้วก็นำความรู้มาถ่ายทอดให้โยมฟัง โยมกลับมาเหนื่อย ๆ จากการงานก็จะได้ฟังธรรม พระฝากท้องไว้กับโยม โยมก็ฝากเรื่องจิตใจไว้กับพระ พระฝากกาย โยมฝากใจ ก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างนี้ อย่าไปมองว่า พระเอาเปรียบสังคม เพราะท่านก็ทำประโยชน์ โดยทำหน้าที่เป็นครูสอนศีลธรรม และก็เป็นแบบอย่างที่ดีของคนดีที่โลกต้องการ และเป็นแหล่งแห่งความรู้ แหล่งแห่งเนื้อนาบุญ ที่จะสอนเกี่ยวกับเรื่องความเป็นจริงของชีวิต ต้องแบ่งหน้าที่กันทำ เพราะฉะนั้นใครมองแคบ ๆ ตื้น ๆ ว่า พระเอาเปรียบสังคม เลิกคิดซะ เลิกมองกันอย่างนั้น ให้มองใหม่ พระเป็นพระ ก็ต้องทำแบบพระ โยมเป็นโยม ก็ต้องทำแบบโยม พระเป็นครูสอนศีลธรรมที่ราคาถูกที่สุด ปีหนึ่งก็มีผ้าแค่ ๓ ผืน เปลี่ยนปีละชุด โยมเปลี่ยนวันละชุด อาหารวันละมื้อ บางแห่ง ๒ มื้อ แต่มื้อเช้าเบา มื้อเพลหนัก …

เกื้อกูลกัน…จรรโลงธรรม Read More »

ภิกษุสามเณร คือผู้ให้แสงสว่างแก่โลก

๑๐. ภิกษุสามเณร คือผู้ให้แสงสว่างแก่โลก ชีวิตในสังสารวัฏอันตรายมีภัยมาก ภัยในอบาย เป็นสัตว์นรก โลกันตร์ ในอุสสทนรก ในยมโลก อสุรกาย เปรต สัตว์เดรัจฉาน มีทุกข์มาก ๆ เลย แต่มนุษย์มองเห็นได้แค่ภูมิเดียว คือ ภูมิของสัตว์เดรัจฉาน ภูมิมนุษย์ก็มีความทุกข์ทรมานแบบมนุษย์ ไม่ว่าจะเกิดเป็นชนชั้นไหนก็ตาม ล้วนแต่มีทุกข์ มีโทษ มีภัยทั้งนั้น มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย มีความพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก ประสบในสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ปรารถนาอะไรไม่ได้อย่างนั้น เป็นต้น แล้วการดำเนินชีวิตก็ไม่ค่อยจะสมบูรณ์ มันกะพร่องกะแพร่ง ถ้าไม่รู้เรื่อง อันตราย โลกจะไม่มีวันขาดแคลนมนุษย์ เพราะโลกเป็นเหมือนจุดกลาง มาจากสุคติภพบ้าง ทุคติภพบ้าง หมุนเวียนกันมาเกิดในโลกมนุษย์ แต่ว่าพอมาเกิดใหม่แล้วก็ลืม ระลึกชาติเก่าไม่ได้ว่า ก่อนมาเกิดมาจากไหน ไม่รู้เรื่องเหตุเรื่องผล ทำไมชีวิตประจำวันจึงประสบปัญหา มีสุขมีทุกข์อย่างนี้ เพราะเหตุเพราะผลอะไรก็ไม่รู้ ความไม่รู้นี่แหละเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงสำหรับชีวิต เพราะว่ามีโอกาสดำเนินชีวิตที่ผิดพลาดได้ ผลก็คือไปอบาย ทุกข์ในอบายนี่มันมหาศาลและก็ยาวนาน ชีวิตในเมืองมนุษย์สั้น แต่ในปรโลกนั้นยาวนานมากจนเรานึกไม่ถึง และก็ทุกสิ่งที่เรากระทำ ไม่ว่าทางกาย …

ภิกษุสามเณร คือผู้ให้แสงสว่างแก่โลก Read More »

ถ้าบวชกันหมดทั้งโลก ?

๑๑. ถ้าบวชกันหมดทั้งโลก ? ชีวิตสมณะเป็นชีวิตที่เป็นต้นบุญต้นแบบ เป็นชีวิตที่ใกล้สมบูรณ์ที่สุด เพราะชีวิตจะสมบูรณ์ได้ต้องอยู่ในเพศสมณะ ชีวิตที่ยิ่งเรียบง่าย จะเป็นชีวิตที่มีความผาสุก และทรงพลัง มีความรอบรู้ ถ้าชีวิตซับซ้อนอะไรก็ดูยุ่งเหยิง วุ่นวาย อย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา พระองค์ทรงสละชีวิตที่ซับซ้อนมาใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ในที่สุดพระองค์ก็ได้เข้าถึงพระนิพพาน เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องกังวล ใจจะเป็นกลาง ๆ สบาย ๆ หากทุกคนมีชีวิตที่เรียบง่าย การปฏิบัติธรรมจะได้ผลดี ใจหยุดนิ่งได้ง่าย มีคนเขาถามว่า “ถ้าเกิดบวชกันทั้งโลกจะว่าอย่างไร” แต่เขาถามแบบประชดประชัน หรือกระแนะกระแหน หรืออะไรก็ไม่ทราบ ก็คงเป็นห่วง ถ้าบวชกันหมดโลกแล้วใครจะใส่บาตร แต่ก็เป็นคำถามที่น่าคิดนะ หลวงพ่อก็เลยถามว่า “ที่ถามมานี่ คุณจะบวชหรือเปล่า ถ้าคุณยังไม่บวชก็แสดงว่า ทั้งโลกยังขาดคนหนึ่ง ถ้าสมมุติว่าบวช ถ้าบวชได้ทั้งโลกนี่แสดงว่า ทุกคนในโลกมีบุญมาก ๆ เพราะที่บวชหมดทั้งภพมีแต่ในพระนิพพาน มีแต่พระเต็มไปหมดเลย ไม่มีอุบาสก อุบาสิกาเลย แต่ในเมืองมนุษย์บวชหมดก็เป็นนิพพานในเมืองมนุษย์ แล้วใครจะใส่บาตร ถ้าเกิดบวชกันทั้งโลก ต้องถือว่าเป็นความอัศจรรย์ของโลก เทวดาก็จะต้องมาใส่บาตร” ตอบเขาไปอย่างนี้ เขาบอก”ไม่เชื่อ” “ไม่เชื่อลองมาบวชสิ” ถามต่ออีกว่า “ถ้าเกิดบวชไปแล้วไม่มีเทวดามาใส่แล้วจะทำทำอย่างไร” “ถ้าไม่มีเทวดามาใส่ …

ถ้าบวชกันหมดทั้งโลก ? Read More »

สมณะ…ผู้สงบนิ่งภายใน

๑๒. สมณะ…ผู้สงบนิ่งภายใน เรื่องของกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องที่เราจะต้องศึกษา เมื่อศึกษาแล้วเราจะพบว่า ทุกการกระทำไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนา ล้วนตกอยู่ในกฎแห่งกรรมทั้งสิ้น เหมือนไฟ ใครจับก็ร้อน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ จะเจตนาจับหรือเผลอไปจับก็ร้อน หรือเอาเสี้ยนมาทิ่มเท้า เจตนาทิ่มก็เจ็บ หรือแกว่งเท้าไปหาเสี้ยน ทั้งที่ไม่มีเจตนาก็เจ็บ โดนประตูหนีบมือ จะเด็กหรือผู้ใหญ่ จะชาติไหนก็แล้วแต่เจ็บทั้งนั้น เช่นเดียวกันกฎแห่งกรรมไม่มีละเว้น ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ จะมีเจตนาหรือไม่มีเจตนา จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ทุกการกระทำล้วนมีผลทั้งสิ้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมัยที่เป็นพระบรมโพธิสัตว์ พระองค์ทรงระลึกชาติได้ มองเห็นภัยในวัฏสงสาร เห็นว่าวัฏสงสารไม่มีจุดไหนที่ไม่เสี่ยงต่ออบายเลย ไม่ว่าจะเกิดเป็นคนชั้นสูง ชั้นกลาง ชั้นล่าง ถ้าไม่รู้เรื่องกฎแห่งกรรม อันตรายมาก ๆ ทุกคนเสี่ยงและมีสิทธิ์ไปอบายด้วยกันทั้งนั้น และพระองค์ก็เคยไปอบายมาแล้ว และก็ทรงพ้นจากภัยในสังสารวัฏนั้น ภิกขุ แปลว่า ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร สมณะ แปลว่า ผู้สงบกาย วาจา ใจ คือ พอเห็นภัยแล้วจะมีความสงบ สงบทั้งความคิด คำพูดและการกระทำ ไม่อยากให้เคลื่อนไหวเลย กายอยากจะนิ่ง ๆ ใจอยากจะนิ่ง ๆ ผู้ที่จะพ้นภัยในวัฏสงสาร จะพ้นจากกฎแห่งกรรมได้ จะต้องนิ่ง …

สมณะ…ผู้สงบนิ่งภายใน Read More »

กฎแห่งกรรม…เรื่องที่ทุกคนต้องรู้

๑๓. กฎแห่งกรรม…เรื่องที่ทุกคนต้องรู้ เรื่องกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องที่ใครจะหลีกหนีไม่พ้นเลย ทุกคนในโลก ทุกระดับชั้น ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต พุทธบริษัท ๔ ก็หนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น การกระทำทุกการกระทำอะไรก็ตามทั้งที่ลับที่แจ้ง จะมีใครเห็นหรือไม่เห็นก็ตาม แต่กฎแห่งกรรมเขาเห็นและบันทึกติดเอาไว้ พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองและมั่นคง พุทธบริษัท ๔ ทั้งภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา จะต้องศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรมให้ดี แล้วก็ต้องเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เพราะกฎแห่งกรรมมีมายาวนาน เริ่มต้นเมื่อไรไม่มีใครรู้ แม้แต่พุทธญาณ หรือญาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์มาต่อ ๆ กัน นับพระองค์ไม่ถ้วน ยังหาเบื้องต้นว่าจะสิ้นสุดตรงไหนก็ยังไม่มีใครทราบ เพราะฉะนั้นก็เป็นเครื่องยืนยันว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ไม่ได้เป็นผู้บัญญัติกฎแห่งกรรม ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ไม่มีเว้นกฎแห่งกรรมเลยสักราย เป็นเรื่องที่น่าศึกษาทีเดียว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงไปเห็นด้วยพุทธญาณอันบริสุทธิ์ ด้วยบุพเพนิวาสานุสสติญาณ กับจุตูปปาตญาณ เวลาท่านนำชาดกหรือเรื่องราวต่าง ๆ มาสอนพระภิกษุ สามเณร หรือภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ท่านก็ต้องระลึกชาติไปดู แล้วนำมาสอน พระองค์ไปเห็นมาแล้วก็สงสารสัตว์โลก จึงนำมาสั่งสอนสัตว์โลกให้รู้เห็นเรื่องราวเหล่านี้ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ …

กฎแห่งกรรม…เรื่องที่ทุกคนต้องรู้ Read More »

พระ… คือ… ผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสาร

๑๔. พระ… คือ… ผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสาร พระพุทธศาสนามีความสำคัญสำหรับทุก ๆ ชีวิตในโลก มีความสำคัญมาก คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เป้าหมายอันสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือ ความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสร้างบารมีกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วน มีเป้าหมายจะพ้นทุกข์ ให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ เพราะเห็นภัยในวัฏสงสาร ภัยในวัฏสงสารนี่เห็นยากนะ ไม่ใช่ว่าจะเห็นกันได้ง่าย ๆ เพราะคำว่า วัฏสงสาร ต้องรวมกันในกามภพ รูปภพ อรูปภพ และในโลกันตร์ จะต้องเห็นภัยตลอดหมดเลยว่า เกิดมาเป็นมนุษย์ ถ้าไม่รู้วิธีการดำเนินชีวิตและก็ไม่เห็นภัยในวัฏสงสาร นี่อันตราย และยิ่งเราไม่รู้ตัวว่า ตกอยู่ในกฎแห่งกรรมหรือกฎของไตรลักษณ์ ยิ่งอันตรายมากทีเดียว เพราะว่าอะไรนิดอะไรหน่อยก็ปรับคดี ทั้งความคิด คำพูด การกระทำ เผลอทำบาปอกุศลกรรมแม้เพียงนิดหน่อยล้วนมีผลทั้งสิ้น แม้ทำนิดหนึ่งก็ต้องไปใช้กรรมในอบายยาวนาน ผู้ที่อยู่ในโลกนี้ที่ยังสนุกสนานเพลิดเพลิน เพราะไม่เห็นภัยในวัฏสงสาร ทั้ง ๆ ที่ตัวผ่านมาแล้วในอบายภูมิ แต่พอมาเกิดใหม่ก็ลืม แล้วภาพข้างหน้า ภาพของอบายก็มองไม่เห็น เห็นแต่สัตว์เดรัจฉานก็ไม่รู้ว่า นั่นคือหนึ่งในอบายภูมิ นึกว่าเกิดมาเพื่อให้มนุษย์ได้กินได้ใช้งาน คิดอยู่แค่นี้เพราะเห็นแค่นี้ แต่ความจริงแล้วสัตว์เดรัจฉานเป็นหนึ่งในอบายภูมิ ซึ่งตัวก็เคยไปเกิด แต่ตัวไม่รู้ กระทั่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงไปรู้ไปเห็น จึงนำมาบอก …

พระ… คือ… ผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสาร Read More »

เป็นพระต้องเห็นพระ

๑๕. เป็นพระต้องเห็นพระ กว่าจะมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องสละทั้งทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต เพื่อประพฤติธรรม กว่าจะบำเพ็ญบารมี ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขาบารมีให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ตั้งแต่บารมีขั้นธรรมดา บารมีขั้นกลาง กระทั่งบารมีขั้นสูงอย่างน้อย ๒๐ อสงไขย แสนมหากัป อย่างกลางก็ ๔๐ อสงไขย แสนมหากัป อย่างสูงก็ ๘๐ อสงไขย แสนมหากัป กว่าจะมาได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ง่ายเลย เพราะฉะนั้นใครได้มาบวช ให้ปลื้มใจเถิด เรามาอยู่ ณ จุดที่ดีที่สุดแล้ว ให้ใช้วันเวลาให้ดีที่สุด เป็นพระต้องปลอดกังวล ต้องไม่มีเรื่องรุงรังในใจ และก็อย่าไปชักศึกเข้าบ้าน บ้าน คือ เรือนกายเรือนใจของเรา อย่าไปดึงเอาเรื่องราว เอาความคิดอะไรต่าง ๆ ที่ทำให้เดือดเนื้อร้อนใจ หรือทำให้หยุดนิ่งได้ยากเข้ามา เมื่อหยุดนิ่งยาก มันก็ไม่เข้าถึงธรรม ตอนช่วงนี้ต้องปลดปล่อยเครื่องกังวลทั้งหมด รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง …

เป็นพระต้องเห็นพระ Read More »

เสียงสะท้อน

๑๖. เสียงสะท้อน หลวงพ่อดีใจที่เกิดการตื่นตัวเรื่องการปรับปรุงการคณะสงฆ์ให้เคร่งครัดในธรรมวินัย มีนโยบายจะคัดอลัชชีออก เหลือแต่ลัชชี คือ พระดี ๆ เอาไว้ แต่วิธีการตรงนี้ต่างหากที่จะต้องพิจารณา ถ้าทำแบบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ มีแต่ทาน ศีล ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา อย่างนี้ดีมากเลย แต่จะได้หรือเปล่า ตรงนี้เป็นสิ่งที่ควรนำไปพินิจพิจารณา พระเณรทั่วประเทศ จริง ๆ ท่านมีเชื้อแห่งความดีอยู่ มีบารมีที่มาเป็นนักบวช แต่ว่าขาดการศึกษา แล้วก็รอโอกาสที่จะได้ศึกษาคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะศึกษาเองบางทีแม้มีตำรา แต่ขาดผู้รู้ไปสอน ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเรียนรู้นั้นถูกหรือผิด เพราะฉะนั้นระหว่างรอคอยผู้ที่จะมาสอน ท่านก็ทำอย่างอื่นไปก่อน ก่อสร้างบ้าง สงเคราะห์โลกบ้าง ดูหมอบ้าง เป็นหมอดู หมอยา ทำน้ำมนต์ แจกของขลัง ทำโน่นทำนี่ทำอะไรสารพัดเรื่อยไป วัตถุประสงค์ก็เพื่อรักษาศรัทธาญาติโยม เพราะกำลังรอคอยผู้มีบุญที่มีภูมิรู้ภูมิธรรมสูงไปสั่งสอนอบรมอยู่ เพราะฉะนั้นแทนที่จะคัดอลัชชีออกจากลัชชี ซึ่งมันคัดยากนะ ใช้วิธีผลิตครูไปสอนเลย ครูที่จะไปสอนจะต้องทำตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครบถ้วนบริบูรณ์ เป็นต้นบุญต้นแบบ อุดมไปด้วยศีล สมาธิ ปัญญา หรืออย่างน้อยก็แจ่มแจ้งในระดับหนึ่ง …

เสียงสะท้อน Read More »

สมณะ… ต้องศึกษาพระบาลี

๑. สมณะ… ต้องศึกษาพระบาลี ชีวิตนักบวชกับการศึกษาพระปริยัติธรรมมีความสำคัญนะ บวชเป็นพระเป็นเณรแล้วถ้ายังมีร่างกายแข็งแรง ยังสดชื่นและไม่มีภารกิจเครื่องกังวลอันใดแล้วก็ “ต้อง” ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม เพราะเป็นหน้าที่ของพระของเณร ที่จะต้องศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ และฝึกฝนให้เป็นไปตามคำสอนของท่าน แล้วนำธรรมะที่ได้เรียนรู้มาสั่งสอนตนเอง กับสั่งสอนญาติโยม นี่เป็นกิจที่สำคัญ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถูกรวบรวมไว้ในภาษาบาลี ผู้มีบุญเท่านั้นจึงจะได้ศึกษาความรู้อันยิ่งใหญ่นี้ บุญน้อย ๆ เขาก็ไปเรียนวิชาทางโลกกันไป เรียนการทำมาหากินแข่งขันกันเท่านั้น ที่จะสอนว่าเป้าหมายของชีวิตคืออะไร หรือจะดำเนินชีวิตอย่างไรไปสู่เป้าหมาย หรือปรโลกมีกี่คติ ทำอย่างไรเราถึงจะไปสู่ปรโลกอย่างสวยงาม ปลอดภัยและมีชัยชนะ วิธีไปสู่สุคติโลกสวรรค์ทำอย่างไร ความรู้เหล่านี้ไม่มีการสอนในสถาบันต่าง ๆ ยิ่งเรียนสูง ๆ ขึ้นไปยิ่งไม่มี ไม่ว่าจะเป็นปริญญาตรี โท เอก ยกเว้นที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัยพุทธศาสนา หรือคณะที่เกี่ยวกับศาสนศาสตร์เท่านั้น นอกนั้นไม่มีเลย ใครมาศึกษาความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาถือว่างมงาย เพราะพิสูจน์ไม่ได้ คือ คิดเองและพูดเองว่าพิสูจน์ไม่ได้ สิ่งที่จะต้องพิสูจน์ เราต้องพิสูจน์ และผู้ที่พิสูจน์ได้แล้วก็มี แล้วเราก็สามารถพิสูจน์ได้ด้วยพุทธวิธี สามารถที่จะเรียนรู้ได้ น่าเสียดายว่า ยิ่งเรียนทางโลกสูง ๆ ขึ้นไป ยิ่งห่างไกลจากแสงสว่าง จากวิชชาความรู้ที่สำคัญ ที่จะช่วยให้มีสุขทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต ละโลกแล้วไปดี …

สมณะ… ต้องศึกษาพระบาลี Read More »

การบวชเป็นการลงทุนข้ามชาติ

๑๗. การบวชเป็นการลงทุนข้ามชาติ การบวชเป็นพระไม่ใช่ง่ายนะ ต้องสั่งสมบุญกันข้ามภพข้ามชาติ กว่าจะมาเป็นผู้ชาย กว่าจะมีกุศลศรัทธาอยากบวชก็ไม่ง่าย และต้องมีคุณสมบัติที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตเอาไว้ครบถ้วนบริบูรณ์ ถึงจะบวชได้ เป็นการลงทุนข้ามชาติทีเดียว คือ ชาติที่ผ่านมาจะต้องสั่งสมบุญให้ได้เกิดเป็นผู้ชาย บุญน้อยก็ด้อยโอกาส บุญมากก็ได้โอกาส ต้องสั่งสมบุญมาก เป็นกะเทยก็บวชไม่ได้ ผู้หญิงก็ไม่ได้ ต้องผู้ชาย ขนาดเห็นว่าเป็นผู้ชาย ยังต้องถามกันในโบสถ์เลย ปุริโสสิ ผู้ชายรึ ไม่น่าเชื่อ เห็นกันจะ จะ ขนาดนี้ ยังต้องถาม เดี๋ยวนี้ต้องถามกันให้หนักยิ่งขึ้นไปอีก สมัยก่อนในโบสถ์เขาถามกันครั้งเดียว ปุริโสสิ ผู้ชายรึ ทีนี้ต้องถาม ๓ ครั้ง ไม่ค่อยจะมั่นใจ ถ้าเกิด ผู้ชายฮ่ะ อะไรอย่างนี้ยุ่งเลย สมัยก่อนมีธรรมเนียมปฏิบัติเกี่ยวกับการบวชซึ่งถือเป็นประเพณี นั่นคือ การทำขวัญนาค แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกเจือจางไปแล้ว หลวงพ่อยังเห็นด้วยกับประเพณีนี้ เพราะการบวชนาคสมัยก่อนเสียขวัญนะ จะต้องเรียกขวัญกันโดยหมอทำขวัญ หมอทำขวัญนี่น่านับถือจริง ๆ เขาจะพูดถึงพระคุณของบิดามารดา ซึ่งปกตินาคตอนก่อนบวชจะไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อแม่สักเท่าไร เพราะความคุ้นเคย เลยมองข้ามไป เห็นท่านใจดีก็เฉย ๆ เตือนอะไรก็ทำเป็นหูทวนลม เพราะว่ายังไม่แจ่มแจ้ง มองไม่เห็นคุณของบิดามารดา …

การบวชเป็นการลงทุนข้ามชาติ Read More »

สมณะ…ชีวิตที่พรากจากกาม

๒. สมณะ…ชีวิตที่พรากจากกาม เมื่อบวชมาแล้วต้องระวังเรื่องกาม เรื่องของกามนั้น มีทั้งคุณและโทษ เมื่อมนุษย์หมดโอกาสจะเกิดแบบโอปปาติกะแล้ว มนุษย์ก็ต้องแสวงหาทางมาเกิดด้วยวิธีการอื่น เพราะอย่างไรมนุษย์ก็ต้องมาเกิด จะมาเกิดในกระบอกไม้ไผ่ก็ไม่ได้ หรือจะเกิดในฟองไข่ในเหงื่อไคล ก็ไม่ใช่วิสัยของมนุษย์ จำเป็นต้องหาทางเกิดให้ได้ ก็มีวิถีทาง คือ เกิดในครรภ์มารดา ซึ่งการเกิดอย่างนี้ก็ต้องอาศัยการบริโภคกามอย่างมีเหตุผล และถือเป็นหน้าที่อันสูงส่งที่จะประกอบธาตุธรรมส่วนหยาบของพ่อแม่ลูกให้ถูกส่วน เพื่อให้กำเนิดกายมนุษย์ขึ้นมาใหม่ นี่ก็เป็นส่วนแห่งคุณของกามในตอนที่มนุษย์หมดสมัยที่จะเกิดแบบโอปปาติกะ การเกิดในครรภ์มารดายุคเริ่มแรกสะอาดเกลี้ยงเกลากว่าในสมัยปัจจุบันมาก คือพ่อกับแม่เมื่อถึงฤดูกาลที่จะมีมนุษย์มาเกิดก็จะเกิดผูกสมัครรักใคร่กัน แล้วก็แบ่งปันชีวิตให้ซึ่งกันและกัน โดยจะก่อกำเนิดชีวิตใหม่ ถ้าหากยังไม่ถึงเวลา ก็อยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อน ไม่มีความคิดกำหนัดยินดีที่จะเข้าหากัน เมื่อพ่อแม่ลูกมาประจวบเหมาะก็บังเกิดขึ้น เวลาคลอดลูกก็ง่าย สบาย ไม่เจ็บปวด ทุกข์ทรมาน เหมือนเข้าห้องน้ำถ่ายหนักถ่ายเบาอย่างนั้น เมื่อลูกคลอดออกมาแล้วก็ช่วยกันเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนลูกอย่างดี ให้รู้เป้าหมายการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ว่าเกิดมามีวัตถุประสงค์อะไร สิ่งอะไรที่ควรทำไม่ควรทำ จนกระทั่งลูกสามารถทรงจำ ศึกษาฝึกฝนและดำรงชีพยืนหยัดอยู่ในโลกนี้ได้ แล้วก็แยกย้ายกันไป พ่อกับแม่ก็ไปถือศีลภาวนาแสวงหาหนทางสวรรค์กัน คุณของกามก็มีเท่านี้ แต่เมื่อมนุษย์มีกิเลสอาสวะมากขึ้นเรื่อย ๆ ความกำหนัดยินดีในกามราคะมีมากกว่าปกติจนทนไม่ไหว มนุษย์จำนวนมากกระทำสิ่งที่ผิดปกติมากจนแก้ไม่ไหว จนกระทั่งสิ่งที่ผิดปกติก็กลายเป็นถูกปกติ ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดากันไป และการหมุนเวียนในวัฏฏะ การใช้วิบากกรรมก็เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นเรื่อยมาเลย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า กามราคะมีคุณน้อยนิดเดียวแต่มีโทษมาก อุปมาเหมือนสุนัขแทะกระดูก คือสุนัข ก็คาบกระดูกมาแทะ ๆ …

สมณะ…ชีวิตที่พรากจากกาม Read More »

อย่าจับสึก…ให้จับสอน

๑๘. อย่าจับสึก…ให้จับสอน พอบวชมาแล้ว หากไม่ได้รับการแนะนำสั่งสอน ก็ทำอะไรไม่ถูก ก็ทำสะเปะสะปะเรื่อยไป ดูเผิน ๆ ก็เหมือนกับพระดื้อ ทำอะไรก็นอกรีตนอกรอย ชาวบ้านเห็นแล้วไม่ชอบใจก็ตำหนิติเตียนกันไป นี่มันเป็นอย่างนี้ แต่ถึงจะติเตียนอย่างไรก็แล้วแต่ ในสมัยพุทธกาลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่เคยจับสึกเลย มีแต่จับศึกษา เปลี่ยนจาก ส เป็น ศ จับศึกษาให้เป็นพระที่สมบูรณ์ขึ้น ท่านจะคอยจนกระทั่งอินทรีย์แก่กล้า เชื้อดื้อจางลงไป ระลึกชาติสอนกันเลย เธอไม่ได้ดื้อชาตินี้ชาติเดียว ชาติก่อนก็ดื้อ อย่างนั้นอย่างนี้ ก็สอนไปอบรมกันไป จากพระดื้อที่สุด กลายเป็นพระดีที่สุด คือ เป็นพระอรหันต์ไปเลย แม้แต่พระเทวทัตทำสงฆ์ให้แตกแยก ลอบปลงพระชนม์ชีพพระองค์ตั้งหลายครั้ง แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่เคยถือสา และก็ไม่เคยจับสึก ให้โอกาสตลอดเวลา และตอนสุดท้าย พระเทวทัตมีจิตเป็นกุศลตอนธรณีสูบนั่นแหละ ยังเจริญพุทธานุสติ ระลึกนึกถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ไปตกในอเวจีมหานรก แต่ช่วงจิตสุดท้ายที่มีความเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระองค์ไม่โกรธเลย ขนาดเราจะฆ่าท่านตั้งหลายครั้ง ทั้งด้วยตัวเองและก็ใช้ให้คนอื่นด้วย ยุคนโน้นคนนี้ ภพต่อไปในอนาคต ด้วยจิตที่เป็นกุศลนี้จะไปดูดบารมีเก่า ทำให้ท่านจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล เพราะฉะนั้น นี่ก็เป็นสิ่งที่น่าจะเป็นอีกข้อมูลหนึ่ง ที่จะนำไปพิจารณาว่า ควรจะเปลี่ยนแปลงจากคำว่า สึก เป็น …

อย่าจับสึก…ให้จับสอน Read More »