หนังสือ ชีวิตสมณะ ๑

สมณะ…ผู้สงบนิ่งภายใน

๑๒. สมณะ…ผู้สงบนิ่งภายใน เรื่องของกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องที่เราจะต้องศึกษา เมื่อศึกษาแล้วเราจะพบว่า ทุกการกระทำไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนา ล้วนตกอยู่ในกฎแห่งกรรมทั้งสิ้น เหมือนไฟ ใครจับก็ร้อน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ จะเจตนาจับหรือเผลอไปจับก็ร้อน หรือเอาเสี้ยนมาทิ่มเท้า เจตนาทิ่มก็เจ็บ หรือแกว่งเท้าไปหาเสี้ยน ทั้งที่ไม่มีเจตนาก็เจ็บ โดนประตูหนีบมือ จะเด็กหรือผู้ใหญ่ จะชาติไหนก็แล้วแต่เจ็บทั้งนั้น เช่นเดียวกันกฎแห่งกรรมไม่มีละเว้น ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ จะมีเจตนาหรือไม่มีเจตนา จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ทุกการกระทำล้วนมีผลทั้งสิ้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมัยที่เป็นพระบรมโพธิสัตว์ พระองค์ทรงระลึกชาติได้ มองเห็นภัยในวัฏสงสาร เห็นว่าวัฏสงสารไม่มีจุดไหนที่ไม่เสี่ยงต่ออบายเลย ไม่ว่าจะเกิดเป็นคนชั้นสูง ชั้นกลาง ชั้นล่าง ถ้าไม่รู้เรื่องกฎแห่งกรรม อันตรายมาก ๆ ทุกคนเสี่ยงและมีสิทธิ์ไปอบายด้วยกันทั้งนั้น และพระองค์ก็เคยไปอบายมาแล้ว และก็ทรงพ้นจากภัยในสังสารวัฏนั้น ภิกขุ แปลว่า ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร สมณะ แปลว่า ผู้สงบกาย วาจา ใจ คือ พอเห็นภัยแล้วจะมีความสงบ สงบทั้งความคิด คำพูดและการกระทำ ไม่อยากให้เคลื่อนไหวเลย กายอยากจะนิ่ง ๆ ใจอยากจะนิ่ง ๆ ผู้ที่จะพ้นภัยในวัฏสงสาร จะพ้นจากกฎแห่งกรรมได้ จะต้องนิ่ง …

สมณะ…ผู้สงบนิ่งภายใน Read More »

กฎแห่งกรรม…เรื่องที่ทุกคนต้องรู้

๑๓. กฎแห่งกรรม…เรื่องที่ทุกคนต้องรู้ เรื่องกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องที่ใครจะหลีกหนีไม่พ้นเลย ทุกคนในโลก ทุกระดับชั้น ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต พุทธบริษัท ๔ ก็หนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น การกระทำทุกการกระทำอะไรก็ตามทั้งที่ลับที่แจ้ง จะมีใครเห็นหรือไม่เห็นก็ตาม แต่กฎแห่งกรรมเขาเห็นและบันทึกติดเอาไว้ พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองและมั่นคง พุทธบริษัท ๔ ทั้งภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา จะต้องศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรมให้ดี แล้วก็ต้องเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เพราะกฎแห่งกรรมมีมายาวนาน เริ่มต้นเมื่อไรไม่มีใครรู้ แม้แต่พุทธญาณ หรือญาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์มาต่อ ๆ กัน นับพระองค์ไม่ถ้วน ยังหาเบื้องต้นว่าจะสิ้นสุดตรงไหนก็ยังไม่มีใครทราบ เพราะฉะนั้นก็เป็นเครื่องยืนยันว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ไม่ได้เป็นผู้บัญญัติกฎแห่งกรรม ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ไม่มีเว้นกฎแห่งกรรมเลยสักราย เป็นเรื่องที่น่าศึกษาทีเดียว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงไปเห็นด้วยพุทธญาณอันบริสุทธิ์ ด้วยบุพเพนิวาสานุสสติญาณ กับจุตูปปาตญาณ เวลาท่านนำชาดกหรือเรื่องราวต่าง ๆ มาสอนพระภิกษุ สามเณร หรือภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ท่านก็ต้องระลึกชาติไปดู แล้วนำมาสอน พระองค์ไปเห็นมาแล้วก็สงสารสัตว์โลก จึงนำมาสั่งสอนสัตว์โลกให้รู้เห็นเรื่องราวเหล่านี้ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ …

กฎแห่งกรรม…เรื่องที่ทุกคนต้องรู้ Read More »

พระ… คือ… ผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสาร

๑๔. พระ… คือ… ผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสาร พระพุทธศาสนามีความสำคัญสำหรับทุก ๆ ชีวิตในโลก มีความสำคัญมาก คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เป้าหมายอันสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือ ความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสร้างบารมีกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วน มีเป้าหมายจะพ้นทุกข์ ให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ เพราะเห็นภัยในวัฏสงสาร ภัยในวัฏสงสารนี่เห็นยากนะ ไม่ใช่ว่าจะเห็นกันได้ง่าย ๆ เพราะคำว่า วัฏสงสาร ต้องรวมกันในกามภพ รูปภพ อรูปภพ และในโลกันตร์ จะต้องเห็นภัยตลอดหมดเลยว่า เกิดมาเป็นมนุษย์ ถ้าไม่รู้วิธีการดำเนินชีวิตและก็ไม่เห็นภัยในวัฏสงสาร นี่อันตราย และยิ่งเราไม่รู้ตัวว่า ตกอยู่ในกฎแห่งกรรมหรือกฎของไตรลักษณ์ ยิ่งอันตรายมากทีเดียว เพราะว่าอะไรนิดอะไรหน่อยก็ปรับคดี ทั้งความคิด คำพูด การกระทำ เผลอทำบาปอกุศลกรรมแม้เพียงนิดหน่อยล้วนมีผลทั้งสิ้น แม้ทำนิดหนึ่งก็ต้องไปใช้กรรมในอบายยาวนาน ผู้ที่อยู่ในโลกนี้ที่ยังสนุกสนานเพลิดเพลิน เพราะไม่เห็นภัยในวัฏสงสาร ทั้ง ๆ ที่ตัวผ่านมาแล้วในอบายภูมิ แต่พอมาเกิดใหม่ก็ลืม แล้วภาพข้างหน้า ภาพของอบายก็มองไม่เห็น เห็นแต่สัตว์เดรัจฉานก็ไม่รู้ว่า นั่นคือหนึ่งในอบายภูมิ นึกว่าเกิดมาเพื่อให้มนุษย์ได้กินได้ใช้งาน คิดอยู่แค่นี้เพราะเห็นแค่นี้ แต่ความจริงแล้วสัตว์เดรัจฉานเป็นหนึ่งในอบายภูมิ ซึ่งตัวก็เคยไปเกิด แต่ตัวไม่รู้ กระทั่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงไปรู้ไปเห็น จึงนำมาบอก …

พระ… คือ… ผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสาร Read More »

เป็นพระต้องเห็นพระ

๑๕. เป็นพระต้องเห็นพระ กว่าจะมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องสละทั้งทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต เพื่อประพฤติธรรม กว่าจะบำเพ็ญบารมี ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขาบารมีให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ตั้งแต่บารมีขั้นธรรมดา บารมีขั้นกลาง กระทั่งบารมีขั้นสูงอย่างน้อย ๒๐ อสงไขย แสนมหากัป อย่างกลางก็ ๔๐ อสงไขย แสนมหากัป อย่างสูงก็ ๘๐ อสงไขย แสนมหากัป กว่าจะมาได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่ง่ายเลย เพราะฉะนั้นใครได้มาบวช ให้ปลื้มใจเถิด เรามาอยู่ ณ จุดที่ดีที่สุดแล้ว ให้ใช้วันเวลาให้ดีที่สุด เป็นพระต้องปลอดกังวล ต้องไม่มีเรื่องรุงรังในใจ และก็อย่าไปชักศึกเข้าบ้าน บ้าน คือ เรือนกายเรือนใจของเรา อย่าไปดึงเอาเรื่องราว เอาความคิดอะไรต่าง ๆ ที่ทำให้เดือดเนื้อร้อนใจ หรือทำให้หยุดนิ่งได้ยากเข้ามา เมื่อหยุดนิ่งยาก มันก็ไม่เข้าถึงธรรม ตอนช่วงนี้ต้องปลดปล่อยเครื่องกังวลทั้งหมด รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง …

เป็นพระต้องเห็นพระ Read More »

เสียงสะท้อน

๑๖. เสียงสะท้อน หลวงพ่อดีใจที่เกิดการตื่นตัวเรื่องการปรับปรุงการคณะสงฆ์ให้เคร่งครัดในธรรมวินัย มีนโยบายจะคัดอลัชชีออก เหลือแต่ลัชชี คือ พระดี ๆ เอาไว้ แต่วิธีการตรงนี้ต่างหากที่จะต้องพิจารณา ถ้าทำแบบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ มีแต่ทาน ศีล ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา อย่างนี้ดีมากเลย แต่จะได้หรือเปล่า ตรงนี้เป็นสิ่งที่ควรนำไปพินิจพิจารณา พระเณรทั่วประเทศ จริง ๆ ท่านมีเชื้อแห่งความดีอยู่ มีบารมีที่มาเป็นนักบวช แต่ว่าขาดการศึกษา แล้วก็รอโอกาสที่จะได้ศึกษาคำสอนดั้งเดิมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะศึกษาเองบางทีแม้มีตำรา แต่ขาดผู้รู้ไปสอน ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเรียนรู้นั้นถูกหรือผิด เพราะฉะนั้นระหว่างรอคอยผู้ที่จะมาสอน ท่านก็ทำอย่างอื่นไปก่อน ก่อสร้างบ้าง สงเคราะห์โลกบ้าง ดูหมอบ้าง เป็นหมอดู หมอยา ทำน้ำมนต์ แจกของขลัง ทำโน่นทำนี่ทำอะไรสารพัดเรื่อยไป วัตถุประสงค์ก็เพื่อรักษาศรัทธาญาติโยม เพราะกำลังรอคอยผู้มีบุญที่มีภูมิรู้ภูมิธรรมสูงไปสั่งสอนอบรมอยู่ เพราะฉะนั้นแทนที่จะคัดอลัชชีออกจากลัชชี ซึ่งมันคัดยากนะ ใช้วิธีผลิตครูไปสอนเลย ครูที่จะไปสอนจะต้องทำตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครบถ้วนบริบูรณ์ เป็นต้นบุญต้นแบบ อุดมไปด้วยศีล สมาธิ ปัญญา หรืออย่างน้อยก็แจ่มแจ้งในระดับหนึ่ง …

เสียงสะท้อน Read More »